Skip to Content

เข้าสู่ระบบ / ลงทะเบียน

วิธีการ นำจำนวนเต็มมาลบเศษส่วน

ดาวน์โหลดบทความ

ร่วมเขียน โดย David Jia

ดาวน์โหลดบทความ

การนำจำนวนเต็มมาลบเศษส่วนไม่ยากอย่างที่คิด วิธีการนำจำนวนเต็มมาลบเศษส่วนมีวิธีหลักสองวิธี วิธีแรกเราต้องแปลงจำนวนเต็มให้เป็นเศษส่วน วิธีที่สองเราต้องนำ 1 มาลบออกจากจำนวนเต็มนั้นและแปลง 1 ให้เป็นเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากับเศษส่วนที่จะนำมาลบออกจากมัน พอเราได้เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันทั้งสองจำนวนแล้ว เราก็จะสามารถเริ่มนำมาลบกันได้ ไม่ว่าใช้วิธีไหนเราสามารถนำจำนวนเต็มมาลบเศษส่วนได้ง่ายและรวดเร็ว

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

แปลงจำนวนเต็มให้เป็นเศษส่วน

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/4\/48\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-1-Version-3.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-1-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/4\/48\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-1-Version-3.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-1-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

1
แปลงจำนวนเต็มให้เป็นเศษส่วน. เมื่อแปลงเสร็จแล้ว ตัวส่วนของจำนวนเต็มตัวนั้นก็คือ 1
- ตัวอย่าง: $8-{\frac {4}{5}}$
- $={\frac {8}{1}}-{\frac {4}{5}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/6\/6a\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-2-Version-3.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-2-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/6\/6a\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-2-Version-3.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-2-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

2
ทำตัวส่วนให้เท่ากัน. ตัวส่วนของเศษส่วนที่เป็นตัวลบยังเป็นตัวส่วนร่วมน้อยของเศษส่วนทั้งที่เป็นตัวตั้งและตัวลบ นำตัวส่วนของเศษส่วนที่เป็นตัวลบมาคูณกับ "จำนวนเต็ม" และตัวส่วนของจำนวนเต็มนั้น ก็จะได้เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน
- ${\frac {8}{1}}-{\frac {4}{5}}$
- $={\frac {8*5}{1*5}}-{\frac {4}{5}}$
- $={\frac {40}{5}}-{\frac {4}{5}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/1\/18\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-3-Version-3.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-3-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/1\/18\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-3-Version-3.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-3-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

3
นำตัวเศษมาลบกัน. คราวนี้เมื่อเศษส่วนทั้งสองมีตัวส่วนเท่ากันแล้ว ก็สามารถนำตัวเศษมาลบกันได้ตามปกติ
- ${\frac {40}{5}}-{\frac {4}{5}}$
- $={\frac {40-4}{5}}$
- = ${\frac {36}{5}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/7\/78\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-4-Version-3.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-4-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/7\/78\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-4-Version-3.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-4-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

4
แปลงเป็นจำนวนคละ (ทำหรือไม่ทำก็ได้). ถ้าลบกันออกมาแล้ว ได้คำตอบเป็นเศษเกิน เราอาจต้องแปลงเศษเกินให้เป็นจำนวนคละ
- ตัวอย่าง: เขียน ${\frac {36}{5}}$ ให้เป็นจำนวนคละ
- ต้องนำ 5 มาบวกกันกี่ครั้งถึงจะเท่ากับ 36 คำตอบคือ 5 x 7 = 35 ฉะนั้นจำนวนเต็มคือ 7
- อย่าลืมเศษที่เหลือด้วย ถ้านำเจ็ดมาแปลงเป็นเศษส่วนก็จะเท่ากับ ${\frac {35}{5}}$ ฉะนั้นเศษที่เหลือคือ ${\frac {36}{5}}$ - ${\frac {35}{5}}$ = ${\frac {1}{5}}$
- นำจำนวนเต็มและเศษส่วนมาเขียนไว้ด้วยกันจะได้ ${\frac {36}{5}}$ = $7{\frac {1}{5}}$
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

นำ 1 มาลบออกจากจำนวนเต็ม

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/3b\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-5-Version-2.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-5-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/3b\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-5-Version-2.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-5-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

เราได้เห็นแล้วว่าวิธีก่อนหน้านี้มีขั้นตอนแปลงจำนวนเต็มเป็นเศษส่วน จากนั้นแปลงผลลัพธ์ที่ได้เป็นจำนวนคละ แต่วิธีนี้จะตัดขั้นตอนบางขั้นตอนออกไป ทำให้เราไม่ต้องคำนวณตัวเลขมากมายนัก
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/4\/4d\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-6-Version-2.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-6-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/4\/4d\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-6-Version-2.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-6-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

2
แปลงเศษเกินให้เป็นจำนวนคละ. ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ถ้าเศษส่วนจำนวนนั้นไม่ใช่เศษเกิน (เศษเกินจะมีตัวเลขด้านบนมากกว่าตัวเลขด้านล่าง)
- ตัวอย่าง: $11-{\frac {4}{3}}$
- $=11-1{\frac {1}{3}}$
- $=10-{\frac {1}{3}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/2\/28\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-7-Version-2.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-7-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/2\/28\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-7-Version-2.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-7-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

3
กระจายให้อยู่ในรูป 1 บวกกับจำนวนเต็มที่น้อยกว่าตัวตั้งอยู่หนึ่ง. ตัวอย่างเช่น 5 เขียนกระจายได้เป็น 4 + 1 หรือ 22 เขียนกระจายได้เป็น 21 + 1
- $10-{\frac {1}{3}}$
- $=9+1-{\frac {1}{3}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/d\/d3\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-8-Version-2.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-8-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/d\/d3\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-8-Version-2.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-8-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

4
แปลง 1 ให้เป็นเศษส่วน. พอมาถึงขั้นตอนนี้ เราจะกลับไปใช้วิธีเดิมเพื่อแก้โจทย์ "1 - (เศษส่วน)" ส่วนจำนวนเต็มอีกจำนวนให้ปล่อยทิ้งไว้ก่อน
- $=9+1-{\frac {1}{3}}$
- $=9+{\frac {1}{1}}-{\frac {1}{3}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/f\/f4\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-9-Version-2.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-9-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/f\/f4\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-9-Version-2.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-9-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

5
ทำตัวส่วนให้เท่ากัน. นำตัวส่วนของเศษส่วนที่เป็นตัวลบมาคูณกับทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วนตัวใหม่ เราจะได้เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน
- $=9+{\frac {1*3}{1*3}}-{\frac {1}{3}}$
- $=9+{\frac {3}{3}}-{\frac {1}{3}}$
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/b\/bb\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-10-Version-2.jpg\/v4-460px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-10-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/b\/bb\/Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-10-Version-2.jpg\/v4-728px-Subtract-Fractions-from-Whole-Numbers-Step-10-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

6
ลบและนำผลลัพธ์มาวางรวมไว้กับจำนวนเต็ม. นำตัวเศษลบกันเพื่อแก้โจทย์ในส่วนของเศษส่วน
- $=9+{\frac {3-1}{3}}$
- $=9+{\frac {2}{3}}$
- $=9{\frac {2}{3}}$
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

ดินสอ
กระดาษ

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

ร่วมเขียน โดย:

ติวเตอร์

บทความนี้ ร่วมเขียน โดย David Jia . เดวิด เจียเป็นติวเตอร์และผู้ก่อตั้ง LA Math Tutoring สถาบันกวดวิชาเอกชนซึ่งตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เดวิดสอนนักเรียนทุกวัยและทุกระดับชั้นในหลายวิชา ให้คำปรึกษาเรื่องการเข้ามหาวิทยาลัย และเตรียมสอบ SAT, ACT, ISEE และอื่นๆ โดยมีประสบการณ์ในการสอนมากกว่า 10 ปี ในการสอบ SAT เขาได้คะแนนคณิตศาสตร์ 800 คะแนนเต็มและภาษาอังกฤษ 690 คะแนน เขาจึงได้รับทุนดิกคินสันจากมหาวิทยาลัยไมอามี เขาเรียนจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ นอกจากนี้เดวิดยังได้ทำงานเป็นผู้สอนผ่านทางวีดีโอออนไลน์ให้แก่บริษัทผลิตตำราเรียนอย่างเช่น Larson Texts, Big Ideas Learning และ Big Ideas Math อีกด้วย บทความนี้ถูกเข้าชม 151,629 ครั้ง

หมวดหมู่: คณิตศาสตร์

ในภาษาอื่น

อังกฤษ

อิตาลี

โปรตุเกส

รัสเซีย

เยอรมัน

ฝรั่งเศส

อินโดนีเซีย

ดัตช์

เวียดนาม

อาหรับ

ญี่ปุ่น

เกาหลี

ฮินดี

ตุรกี

พิมพ์

มีการเข้าถึงหน้านี้ 151,629 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา

-

-

2017

.mwimg a.image{display:none}#header_logo{display:none}#cse-search-box{display:none}#cse-search-box-noscript{display:block !important}#cse-search-box-noscript .cse_q{color:#FFF;background-color:#B3CE9C}.wh_search .cse_q{width:88%}#mw-mf-main-menu-button{display:none;visibility:hidden}.header .search{display:none}#search_footer .cse_sa{background-image:url(/extensions/wikihow/mobile/images/white_mag.png);background-size:22px}.related_box{display:block;background:#EEE;border:5px solid #FFF;vertical-align:bottom;width:127px;background-size:180px;float:left;height:120px;position:relative}.related_box p{line-height:15px !important;font-size:13px;background-color:rgba(67,95,44,.4);color:#FFF;font-weight:bold;padding:8px;margin:0 !important;position:absolute;bottom:0}#noscript_header_logo{display:table-cell;vertical-align:middle;background-position:50% 77%;background-repeat:no-repeat;background-image:url(/extensions/wikihow/mobile/images/wikihow_logo_230.png);background-size:105px;width:auto;height:51px;padding:0 14px}.articleinfo{display:none}#iorg_free_data{z-index:50;width:100%;position:fixed}#ara_recommendations{display:none}

Design a Mobile Website

View Site in Mobile | Classic

Share by: