ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บลัชออนเป็นเครื่องสำอางชิ้นจำเป็นที่ทำให้ใบหน้าของคุณแลดูน่ารักและสว่างสดใสเหมือนเด็กสาว แต่การจะรู้ว่าต้องปัดแก้มแบบไหนถึงจะเข้ากับใบหน้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณก็เป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย คุณควรเลือกวิธีปัดแก้มที่ถูกต้อง ปัดแก้มในบริเวณที่ช่วยขับใบหน้าของคุณมากที่สุด เลือกสีและเนื้อบลัชออนที่เข้ากับผิวของคุณเพื่อให้บลัชออนของคุณดูปังสุดๆ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ปรับพื้นฐานให้แน่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก่อนอื่นคุณควรลงรองพื้นก่อน ตามด้วยคอนซีลเลอร์ บรอนเซอร์ และสุดท้ายก็คือปัดแก้ม พอปัดแก้มแล้วคุณก็จะแต่งตา ทาอายแชโดว์ อายไลเนอร์ และสุดท้ายคือมาสคาร่า [1] คุณต้องแต่งหน้าเรียงลำดับตามนี้เพื่อให้แน่ใจว่า คุณแต่งหน้าได้อย่างสมดุลและเครื่องสำอางติดหน้าในตำแหน่งที่คุณลงไว้
  2. Watermark wikiHow to ปัดแก้ม
    ถ้าคุณใช้บลัชออนแบบฝุ่น ให้ใช้แปรงฟูๆ ขนาดกลางปัดลงบนบลัชออนเบาๆ และเคาะเพื่อเอาส่วนเกินออก จากนั้นปัดแปรงลงบนแก้มแล้วใช้แปรงที่สะอาดอีกอันหนึ่งเกลี่ยให้ทั่ว [2]
    • ปัดแปรงลงหลังเกลี่ยเพื่อให้ขนบนใบหน้าลู่เนียนไปกับพื้นผิวบนใบหน้า [3]
  3. ใช้นิ้วแต้มบลัชออนชนิดเหลวเป็นจุดๆ บนใบหน้าแล้วเกลี่ย. ถ้าคุณใช้บลัชออนแบบครีมหรือเจล ให้ใช้นิ้วนางแตะบลัชออนขึ้นมา จากนั้นแต้มเป็นจุดๆ ก่อนแล้วค่อยใช้นิ้วมือหรือฟองน้ำแต่งหน้าเกลี่ยให้ทั่ว เพื่อให้ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติที่สุด เมื่อเกลี่ยเสร็จแล้วให้ใช้แปรงปัดแก้มเกลี่ยอีกทีหนึ่ง
    • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าคุณใช้บลัชออนเนื้อครีมก็ให้ใช้รองพื้นเนื้อครีมด้วย [4]
  4. อย่าทำให้สีบลัชออนอ่อนลงด้วยการทาแป้งโปร่งแสงทับลงไปเพราะอาจทำให้สีของใบหน้าดูหมองลงได้ แต่ให้แนบทิชชู่เรียบไปบนใบหน้าแล้วค่อยๆ ใช้ฟองน้ำแต่งหน้ากดซับลงบนกระดาษทิชชู่ที่อยู่บนแก้มเรื่อยๆ เพื่อซับฝุ่นบลัชออนออกเล็กน้อย ถ้าคุณใช้บลัชออนแบบครีม คุณสามารถใช้ทิชชู่ซับลงบนแก้มเบาๆ ได้เลย [5]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ใช้บลัชออนขับใบหน้าของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ปัดแก้ม
    ถ้าคุณมีใบหน้ารูปหัวใจ ให้ปัดบลัชออนเป็นรูปตัว “C”. ถ้ารูปหน้าของคุณไปทางรูปหัวใจมากกว่า ให้ปัดบลัชอนเป็นเส้นโค้งจากยอดขมับไปจนถึงโหนกแก้ม ปัดบลัชออนเบามือตรงขมับแล้วค่อยๆ ไล่ปัดให้หนักขึ้นไปจนถึงโหนกแก้ม [6]
  2. Watermark wikiHow to ปัดแก้ม
    อย่าปัดบลัชออนบริเวณด้านบนสุดของโหนกแก้มหากคุณหน้ากลม. คุณสามารถเพิ่มความคมชัดให้กับใบหน้าได้ด้วยการดูดแก้มและใช้แปรงปัดบลัชออนปัดเบาๆ บริเวณเส้นใต้โหนกแก้ม อย่าปัดแก้มบริเวณด้านบนสุดของโหนกแก้มเพราะจะทำให้ใบหน้าของคุณยิ่งดูกลมมากขึ้นไปอีก [7]
  3. Watermark wikiHow to ปัดแก้ม
    ปัดไล่จากโหนกแก้มไปที่ขมับถ้าหน้าคุณออกไปทางรูปไข่. ปัดเบาๆ ไล่จากจุดที่เด่นที่สุดของโหนกแก้มลงไปที่ติ่งหู แล้วปัดตรงเหนือขมับเพิ่มเล็กน้อยด้วย [8]
  4. Watermark wikiHow to ปัดแก้ม
    ถ้าใบหน้าของคุณเหลี่ยม ให้ปัดแก้มเป็นแนววงกลม. ปัดบลัชออนลงที่ด้านบนสุดของโหนกแก้มโดยตรงเป็นแนววงกลมเพื่อลดความเป็นเหลี่ยมของใบหน้า และดึงความสนใจไปที่ส่วนที่กลมที่สุดของใบหน้า [9]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เลือกบลัชออน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณมีผิวขาว ให้เลือกซื้อสีชมพูเบบี้พิงค์ พีช หรือเชียร์พลัม. สีชมพูอ่อนและสีพีชมักจะเป็นสีที่เหมาะกับผิวขาวมากที่สุดเพราะเป็นสีบลัชออนที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด สีที่เป็นสีโปร่งแสงโดยเฉพาะสีเชียร์พลัมก็เหมาะกับผิวขาวเช่นกันเพราะเป็นสีแนวโปร่งแสงและไม่ได้ดูตัดกันมากนัก [10]
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Yuka Arora

    ช่างแต่งหน้า
    ยูกะ อาโรระเป็นช่างแต่งหน้าที่เชี่ยวชาญในศิลปะการแต่งตาแนวนามธรรม เธอฝึกทดลองศิลปะการแต่งหน้ามากว่า 5 ปี และมีผู้ติดตามในอินสตราแกรมเกิน 5,600 คนภายในเวลาเพียง 5 เดือน การแต่งหน้าที่มากสีสันและออกเชิงนามธรรมของเธอนั้นได้รับการจับตาจาก Jeffree Star Cosmetics, Kat Von D Beauty, Sephora Collection เป็นต้น
    Yuka Arora
    ช่างแต่งหน้า

    เรื่องราวจากผู้เชี่ยวชาญของเรา: "ฉันจะพูดว่ากล้าลองอะไรใหม่ๆ เสมอ! จนฉันได้พบว่าเวลาอาบแดดเสร็จ ฉันควรใช้ปัดตรงไหน ฉันจะตัวออกแดงนิดหน่อย แต่เวลามองกระจก ฉันถึงได้พบว่าควรปัดยังไงดี ตอนนี้ฉันจึงปัดเป็นแนวยาวบนใบหน้า ฉันจะเริ่มจากตรงใต้ตาและปัดขึ้นไปจนถึงหน้าผาก แล้วค่อยลงมาที่จมูก"

  2. ถ้าคุณมีผิวสองสี ให้ใช้สีแอปพริคอตหรือสีม่วง. สีแอปพริคอตเป็นสีที่เหมาะแก่การสร้างผลลัพธ์ให้ดูอบอุ่นอย่างแนบเนียนสำหรับคนผิวสองสี ในขณะที่สีม่วงแสดงถึงความลึกซึ้งอย่างชัดเจนมากกว่า [11]
  3. ถ้าคุณมีผิวสีน้ำผึ้ง ให้ทาสีกุหลาบหรือสีบรอนซ์. บลัชออนสีกุหลาบเมื่ออยู่บนผิวสีน้ำผึ้งจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแก้มที่แดงเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนสีบรอนซ์จะเพิ่มความอบอุ่นเล็กน้อยแต่ยังคงสดใสอยู่ด้วย [12]
  4. ถ้าคุณมีผิวสีเข้ม ให้เลือกสีบลัชออนสีน้ำตาล อิฐ หรือส้มแจ๊ด. สีเข้มๆ อย่างสีน้ำตาลหรือสีอิฐช่วยขับโทนสีผิวเข้มมากที่สุดแต่ไม่ดูเว่อวังจนเกินไป แต่ถ้าอยากได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ให้ใช้บลัชออนสีส้มแจ๊ด [13]
  5. ใช้บลัชออนแบบฝุ่นถ้าคุณมีผิวธรรมดาถึงผิวมัน. บลัชออนแบบฝุ่นเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะบลัชออนแบบนี้เข้ากับผิวเกือบทุกประเภท เพราะเวลาปัดก็เกลี่ยได้เรียบและให้ผลลัพธ์แบบเนื้อแมต นอกจากนี้บลัชออนแบบฝุ่นยังมักจะติดทนนานและไม่ต้องเติมซ้ำหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน [14]
  6. เลือกบลัชออนแบบครีมถ้าคุณมีผิวแห้งหรือผิวสูงวัย. บลัชออนแบบครีมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเพื่อไม่ให้ผิวดูแห้งเกินไป และมักจะให้ลุคดิวอี้เล็กน้อยเมื่อแต้มลงบนใบหน้าและรู้สึกเบาสบายมากๆ ซึ่งทำให้แก้มดูเปล่งปลั่งแบบเป็นธรรมชาติมากขึ้น [15]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สีบลัชออนกับลิปสติกจะต้องไปในทางเดียวกัน ก็คือไม่ว่าคุณจะทาปากสีอ่อนแล้วทาแก้มเข้ม หรือทาปากเข้มแต่สีแก้มอ่อน สีโครอลก็ต้องทาคู่กับสีโครอล เป็นต้น
  • บลัชออนจะไปเน้นรอยแดงของรอยแห้งแตกของผิวและสิว แม้ว่าจะทาบนรองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่ยิ่งทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากกว่าเดิมก็ตาม ถ้าผิวของคุณแห้งแตก อย่าทาบลัชออน แป้งอื่นๆ ทุกชนิด และครีมจนกว่าผิวของคุณจะดีขึ้น ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและทามอยซ์เจอไรเซอร์ทุกเช้าและทุกคืนขณะฟื้นฟูผิว
  • ใช้แปรงใหญ่ที่สะอาดและมีคุณภาพ
  • เริ่มทาบางๆ ก่อน เพราะการทาบลัชออนเพิ่มนั้นง่ายกว่าการลบออกเยอะๆ
  • การใช้แปรงตัดปลายแบบเฉียงจะช่วยให้คุณปัดบลัชออนได้ดีขึ้น
  • อย่าลงบลัชออนเยอะเกินไป เช่นเดียวกับเรื่องส่วนใหญ่ในชีวิต ทาบลัชออนให้พอเหมาะนั้นดีที่สุด
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าพึ่งพาเครื่องสำอางเพื่อให้คุณดูสวย จำไว้ว่าความสวยงามที่แท้จริงมาจากหัวใจและคุณก็สวยทั้งภายในและภายนอกไม่ว่าจะเป็นอย่างไร
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • บลัชออน แบบฝุ่น ครีม หรือเจล
  • แปรงแต่งหน้าคุณภาพดี 1 อันสำหรับลงบลัชออน อีก 1 อันสำหรับเกลี่ย
  • กระจก
  • ฟองน้ำแต่งหน้า
  • ทิชชู่

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,238 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา