ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ข้อมือเป็นส่วนบอบบางที่บาดเจ็บได้ง่าย เช่น เคล็ดหรือแพลง หรือเป็นผลมาจากโรคอื่นๆ อย่างข้ออักเสบ (arthritis) หรือโรคกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ (carpal tunnel syndrome) อีกสาเหตุคือใช้ข้อมือหนักเกินไป เช่น เล่นกีฬาอย่างโบว์ลิ่งหรือเทนนิส นอกจากนี้โรคเอ็นอักเสบ (tendonitis) หรือกระดูกหัก (fracture) ก็เป็นสาเหตุทำคุณปวดข้อมือได้เช่นกัน การพันข้อมือควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองเบื้องต้นจะช่วยบรรเทาอาการปวด ทำให้หายเร็วขึ้น แต่ถ้าอาการหนักหรือบาดเจ็บรุนแรง เช่น กระดูกหัก ก็ต้องดามหรือถึงขั้นเข้าเฝือก เพราะการพันข้อมือเป็นแค่การป้องกันอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะที่เกิดจากการเล่นกีฬา

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

พันข้อมือที่บาดเจ็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แล้วจะเหมือนการประคบ ช่วยลดปวดบวม และลดการขยับเขยื้อนไม่ให้บาดเจ็บไปกว่าเดิม ทำให้ฟื้นตัวรวดเร็ว [1]
    • ให้ใช้ผ้ายืดพันแผลรัดพยุงข้อมือไว้ โดยเริ่มพันจากจุดที่ห่างหัวใจก่อน [2]
    • นี่เป็นการป้องกันไม่ให้มือกับแขนท่อนล่างบวมจากการรัดพยุง [3] แถมยังช่วยให้ท่อน้ำเหลืองกับหลอดเลือดดำไม่อุดตันด้วย
  2. โดยพันรอบนิ้วล่างข้อนิ้ว และพันฝ่ามือทั้งหมด [4]
    • ผ่านมาที่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ พัน 2 - 3 รอบที่ข้อมือ แล้วพันขึ้นไปถึงข้อศอก [5]
    • ที่ต้องพันจากมือยาวไปถึงข้อศอกก็เพื่อพยุงให้มั่นคง ให้ข้อมือได้ฟื้นตัว ไม่บาดเจ็บเพิ่มเติม [6]
    • เวลาพันย้อนขึ้น ต้องปกปิดขึ้นมา 50% ของส่วนเก่าที่พันไว้ [7]
  3. พอพันมาถึงข้อศอกแล้ว ให้พันย้อนกลับไปถึงมือ เพราะฉะนั้นต้องใช้ผ้ายืดมากกว่า 1 ผืน
    • พันไขว้รอบมือ ระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เป็นเลข 8 อย่างน้อย 1 รอบ
  4. ด้วยคลิปที่มากับผ้าพันแผล หรือบางทีก็ติดอยู่ปลายผ้า ให้ยึดคลิปนี้กับส่วนที่พันไว้แน่นหนาดีบริเวณปลายแขน
    • จับนิ้วดูว่าร้อนไหม เพราะแปลว่ารัดแน่นไป ขอให้ยังขยับนิ้วสะดวกอยู่ ไม่ชาหรือตึง เวลาพันแผลควรพันให้กระชับแต่ไม่รัดแน่นจนเลือดไม่เดิน
  5. เช่น ตอนที่ต้องประคบเย็น [8]
    • ห้ามเข้านอนโดยที่ยังพันแผลไว้ บางอาการบาดเจ็บคุณหมอจะแนะนำเอง ว่าต้องพยุงข้อมือแบบไหนตอนนอน ให้คุณทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด [9]
  6. บางทีกว่าอาการบาดเจ็บจะหาย ก็นาน 4 - 6 อาทิตย์
    • ช่วงที่พันข้อมือไว้นี้ คุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมอื่นๆ ตามปกติได้ แต่แบบค่อยเป็นค่อยไป ผ้าพันแผลจะช่วยรัดพยุงข้อมือไว้ ป้องกันไม่ให้บาดเจ็บเพิ่มเติม [10]
    • ตามปกติพอบาดเจ็บแล้วถ้าพันแผลไว้ 72 ชั่วโมง จะช่วยลดบวมได้ [11]
  7. พอเริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ให้เปลี่ยนวิธีพันแผล. ถ้าเปลี่ยนวิธีพันข้อมือ อาจช่วยรัดพยุงบริเวณที่บาดเจ็บได้แน่นหนากว่าเดิม ทำให้คุณกลับไปทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ได้เมื่อเริ่มหายดี
    • เริ่มพันให้แน่นหนาจากจุดที่เหนือบริเวณที่บาดเจ็บ หรือก็คือจากทางข้อศอกของมือข้างที่เจ็บลงมาทางปลายแขน โดยพัน 2 - 3 รอบ [12]
    • ผ่านส่วนที่บาดเจ็บ ลงมาพันรอบปลายแขนใต้จุดที่บาดเจ็บหลายๆ รอบ ใกล้กับมือ เพื่อรัดพยุงข้อมือ (ที่ตอนนี้อยู่ตรงกลาง) ให้แน่นหนา [13]
    • พันรอบนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เป็นเลข 8 อย่างน้อย 2 รอบ โดยแต่ละครั้งให้พันรอบข้อมือ 1 รอบให้ยิ่งแน่นหนา [14]
    • พันย้อนจากข้อมือกลับไปที่ข้อศอก โดยปกปิด 50% ของส่วนเก่าที่พันไว้ปลายแขน [15]
    • พันกลับมาทางมืออีกครั้ง
    • ยึดปลายด้วยคลิปที่มาพร้อมผ้าพันแผล หรือเวลโครเทปที่ปลายผ้า
    • การพันรัดพยุงข้อมือจะเห็นผลที่สุดถ้าพันจากนิ้วหรือฝ่ามือไปจนถึงข้อศอก ซึ่งอาจต้องใช้ผ้าพันแผลมากกว่า 1 ผืน ถึงจะเพียงพอและแน่นหนา [16]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

บรรเทารักษาอาการบาดเจ็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น ข้อมือเคล็ดหรือแพลง ก็รักษาตัวที่บ้านเองได้เลย [17]
    • กล้ามเนื้อฉีก (strain) คือกล้ามเนื้อหรือเอ็น (tendon) ที่ยึดกล้ามเนื้อไว้กับกระดูกยืดเหยียดมากเกินไปหรือกระตุก [18]
    • ข้อแพลง (sprain) คือ ligament หรือเอ็นที่ยึดกระดูกกับกระดูกนั้นยืดเหยียดมากเกินไปหรือฉีกขาด [19]
    • อาการของ 2 อย่างนี้จะคล้ายกันมาก คือปวด บวม และขยับข้อหรือกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บไม่ค่อยได้ [20]
    • เวลาข้อแพลง มักมีรอยช้ำ รวมถึงมี “เสียงลั่น” ตอนเกิดเหตุ ส่วน strain นั้นเป็นเรื่องของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นกล้ามเนื้อมักกระตุกเวลาบาดเจ็บ [21]
  2. ใช้ได้ผลดีทั้ง strain และ sprain [22]
    • R I C E ก็คือ Rest (พักส่วนที่บาดเจ็บ), Ice (ประคบเย็น), Compression(รัดพยุง) และ Elevation (ยกบริเวณที่บาดเจ็บให้สูง) [23]
  3. อย่าใช้ข้อมือ ให้พักหลายๆ วันหน่อยจนกว่าจะหาย ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุดใน RICE [24]
    • พักข้อมือก็คือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้มือ ไม่ต้องขยับหรือหยิบจับอะไรด้วยมือข้างนั้นจะดีที่สุด [25]
    • ห้ามหยิบหรือยกของ อย่าบิดมือหรือข้อมือ และอย่างอข้อมือ เพราะฉะนั้นให้งดเขียนหรือพิมพ์คอม แต่ก็แล้วแต่ระดับการบาดเจ็บด้วย [26]
    • ถ้าอยากให้ข้อมืออยู่นิ่งที่สุด ก็ต้องซื้อ wrist splint หรือเหล็กดาม เหมาะสำหรับคนที่บาดเจ็บที่เอ็นกล้ามเนื้อ เพราะช่วยยึดพยุงข้อมือให้อยู่กับที่ เป็นโอกาสให้ได้รักษาตัวและไม่บาดเจ็บมากไปกว่าเดิม ที่ดามข้อมือหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป [27]
  4. ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่บาดเจ็บ ความเย็นจะผ่านผิวหนังชั้นนอกลงไปถึงเนื้อเยื่ออ่อน [28]
    • แถมความเย็นยังช่วยลดการไหลเวียนของเลือดไม่ให้ไปยังบริเวณที่บาดเจ็บ ทำให้ลดปวดบวม ลดอักเสบได้ [29]
    • ใช้น้ำแข็งประคบ หรือใช้ถุงผักแช่แข็ง ไม่ก็เจลแพ็คแทน แต่ไม่ว่าจะใช้น้ำแข็ง ถุงผัก หรือเจลแพ็ค ก็ต้องห่อด้วยผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวก่อน ห้ามเอาอะไรเย็นจัดมาประคบผิวโดยตรงเด็ดขาด [30]
    • ประคบเย็นครั้งละ 20 นาที แล้วปล่อยให้บริเวณนั้นกลับมาอุ่นเท่าอุณหภูมิห้องอีก 90 นาที ประคบซ้ำได้บ่อยตามต้องการ วันละ 2 - 3 ครั้งขึ้นไป โดยเฉพาะ 72 ชั่วโมงหลังบาดเจ็บ [31]
  5. ช่วยลดบวม ยึดไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อน ทำให้ไม่ปวดหรือบาดเจ็บไปกว่าเดิม [32]
    • ให้ใช้ผ้ายืดพันแผล เริ่มพันจากนิ้วมือหรือฝ่ามือไปจนถึงข้อมือ และไล่ขึ้นไปจนถึงข้อศอก ถ้าอยากให้ยิ่งแน่นหนาและฟื้นตัวเร็ว ถือว่าสำคัญมากที่ต้องพันยาวจากมือและนิ้วไปจนถึงข้อศอก [33]
    • วิธีนี้ใช้ลดมือและนิ้วบวมตอนรัดพยุง [34]
    • เวลาพันย้อนแต่ละครั้งให้ปกปิด 50% ของที่พันไว้ [35]
    • เช็คให้แน่ใจว่าไม่ได้รัดแน่นเกินไป และนิ้วมือไม่ชาหรือตึง [36]
    • แกะผ้าพันแผลออกเวลาจะประคบเย็น [37]
    • ห้ามเข้านอนทั้งๆ ที่พันแผลไว้ บางอาการบาดเจ็บคุณหมอจะแนะนำเอง ว่าต้องพยุงข้อมือแบบไหนตอนนอน ให้คุณทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด [38]
  6. ก็ช่วยลดปวดบวมช้ำได้ [39]
    • ให้ยกข้อมือสูงกว่าระดับหัวใจ ตอนจะประคบเย็น ก่อนรัดพยุง และตอนพักข้อมือ [40]
  7. บางทีกว่าอาการบาดเจ็บจะหาย ก็นาน 4 - 6 อาทิตย์ ถ้าระหว่างนี้พันข้อมือไว้ จะทำให้ค่อยๆ กลับไปทำกิจกรรมอื่นๆ ตามเดิมได้ และไม่บาดเจ็บเพิ่มเติม [41]
  8. กลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำแบบค่อยเป็นค่อยไป [42]
    • ระหว่างบริหารข้อมือหรือเริ่มกลับไปขยับเขยื้อนทำกิจกรรมต่างๆ อาจยังไม่คล่องตัวบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ [43]
    • กินยา NSAIDS เช่น ไทลีนอล ไอบูโพรเฟน หรือแอสไพรินเพื่อแก้ปวด
    • ถ้าทำอะไรแล้วปวด ให้หลีกเลี่ยงไปก่อน ย้ำอีกทีว่าค่อยเป็นค่อยไป [44]
    • อาการบาดเจ็บจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน แต่ปกติมักหายใน 4 - 6 อาทิตย์ [45]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

พันข้อมือก่อนเล่นกีฬา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ที่ต้องรัดพยุงข้อก็เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา 2 ประเภทด้วยกัน ก็คือ hyperextension (เหยียดเกินองศา) กับ hyperflexion (งอเกินองศา) [46]
    • Hyperextension นี่แหละอาการข้อมือบาดเจ็บที่พบบ่อยที่สุด เกิดเวลาล้มหรือกระแทกแล้วแบมือยันไว้ [47]
    • การล้มกระแทกแบบนี้ทำให้ข้อมืองอไปด้านหลังเพื่อรองรับน้ำหนักและแรงกระแทก จนข้อมือเหยียดเกินองศา [48]
    • ส่วน Hyperflexion จะเป็นการล้มกระแทกโดยใช้ข้อมือด้านนอกยันรับน้ำหนักแทน จนข้อมือบิดเข้ามาที่แขนมากเกินไป [49]
  2. บางชนิดกีฬามักทำให้เกิดอาการบาดเจ็บชนิดนี้บ่อยกว่ากีฬาอื่นๆ นักกีฬาประเภทนั้นเลยมักพันข้อมือป้องกันไม่ให้เกิด hyperextension หรือไม่ให้บาดเจ็บซ้ำสอง [50]
    • ขั้นแรกในการพันข้อมือป้องกัน hyperextension ก็คือเริ่มจาก pre-wrap [51]
    • pre-wrap คือเทปที่นักกีฬาใช้พันป้องกันการเสียดสี มักใช้พันก่อนพันผ้าพันแผลหรือเทปอื่นๆ ที่เหนียวกว่า [52]
    • pre-wrap บางทีก็เรียก underwrap ปกติจะกว้าง 2.75 นิ้ว (7 ซม.) มีหลายสีหลายพื้นผิวให้เลือกใช้ บางแบบก็หนาหน่อย หรือรู้สึกเหมือนโฟมนุ่มๆ [53]
    • ให้พันข้อมือด้วย pre-wrap ก่อน 1/3 หรือครึ่งทางระหว่างข้อมือกับข้อศอก [54]
    • พัน pre-wrap ให้กระชับแต่อย่าคับแน่น พันรอบข้อมือหลายๆ รอบหน่อย แล้วขึ้นมาที่มือ พันระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งอย่างน้อย 1 รอบ เสร็จแล้วพันย้อนกลับไปทางข้อมือและปลายแขน โดยพันทบหลายๆ รอบ [55]
  3. โดยใช้เทปพันแผลหรือเทปที่นักกีฬาใช้แบบมาตรฐาน 1 ½ นิ้ว (ประมาณ 4 ซม.) โดยแปะทับ pre-wrap หลายๆ จุดจะได้ไม่เลื่อนหลุด [56]
    • Anchors ก็คือชิ้นเทปที่พันรอบข้อมือได้แล้วเหลือปลายอีก 2 - 3 นิ้ว (ประมาณ 5 - 7 ซม.) ไว้ยึดให้แน่นหนา [57]
    • เริ่มพัน anchors โดยพันรอบ pre-wrap เริ่มจากใกล้ข้อศอก พันทับ pre-wrap ต่อไปตามข้อมือและปลายแขน [58]
    • pre-wrap บริเวณมือก็ต้องยึดให้แน่นหนาด้วยเทปแถบยาวหน่อย โดยพันตามแนว pre-wrap [59]
  4. ใช้เทปพันแผลหรือเทปที่นักกีฬาใช้แบบมาตรฐาน 1 ½ นิ้ว (ประมาณ 4 ซม.) โดยใช้เทปแถบเดียวเริ่มพันจากทางข้อศอกยาวมาจนถึงข้อมือ ค่อยดึงเทปเพิ่มจากม้วนเทปอย่าให้ขาด [60]
    • พันตามแนวเดิมของ pre-wrap รวมถึงระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้หลายๆ รอบ [61]
    • พันรอบข้อมือไปเรื่อยๆ จนปกคลุมบริเวณที่มี pre-wrap รวมถึงขอบ anchors [62]
  5. เป็นส่วนสำคัญในการพันข้อมือ นอกจากจะยึดให้ไม่เลื่อนหลุดง่ายๆ แล้วยังทำให้ข้อมือไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนที่เกินองศาจนบาดเจ็บหรือกลับมาบาดเจ็บอีกรอบ [63]
    • ถึงจะเรียก fan (พัด) แต่จริงๆ แล้วส่วนนี้จะหน้าตาเหมือนกากบาทหรือหูกระต่าย (bow tie) มากกว่า เริ่มจากวัดเทปให้ยาวจากฝ่ามือไปจนถึงข้อมือ แล้วต่อขึ้นไปที่ปลายแขนอีก 1/3 [64]
    • แปะเทปบนโต๊ะสะอาด แล้วแปะเทปอีกแถบที่ยาวเท่ากันไขว้เฉียงตรงกลาง [65]
    • แปะอีกแถบเฉียงไปคนละข้าง แต่องศาเท่ากัน จนได้ออกมาเหมือนหูกระต่ายติดคอเสื้อ [66]
    • แปะอีกแถบทับแนวนอนเหมือนเทปแถบแรก เพื่อให้ยิ่งแข็งแรง [67]
  6. แปะปลายข้างหนึ่งที่ฝ่ามือ จากนั้นงอมือนิดหน่อย แล้วแปะปลาย fan อีกข้างที่ข้อมือด้านใน [68]
    • อย่างอข้อมือมากเกินไป เดี๋ยวแปะแล้วตอนเล่นกีฬาจะไม่สะดวก ที่ให้งอมือแล้วค่อยแปะเทป เพราะจะทำให้ยังใช้มือได้ แต่พันไว้แน่นหนาพอจะไม่เกิด hyperextension [69]
    • แปะ fan แล้วพันรัดพยุงทั้งข้อมือและปลายแขนซ้ำอีกรอบเพื่อยึด fan ให้อยู่กับที่ [70]
  7. วิธีการพันป้องกัน hyperflexion ก็เหมือนกับของ hyperextension เว้นแต่การแปะ fan [71]
    • ตอนทำ fan ก่อนแปะก็เหมือนเดิม คือแปะเทปให้กลายเป็นรูปหูกระต่าย [72]
    • แต่ให้แปะ fan ที่ข้อมือด้านนอกแทน โดยตอนแปะให้งอข้อมือออกเล็กน้อย แล้วแปะปลาย fan ข้างที่เหลือยาวมาถึงข้อมือ และเทปเก่าที่พันปลายแขนอยู่ [73]
    • พันเทปรอบข้อมือและแขนทับ fan เหมือนตอนป้องกัน hyperextension โดยใช้เทปแถบเดียวยาวๆ อย่าลืมปกปิด fan ให้มิดชิดแล้วยึดเทปไว้ให้แน่นหนา [74]
  8. บางทีแค่พันบางๆ ก็พอแล้ว [75]
    • พัน pre-wrap แถบแรกรอบมือตามข้อนิ้วและระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ [76]
    • พัน pre-wrap แถบที่ 2 ใต้ข้อมือด้านนอก [77]
    • แปะเทป 2 แถบไขว้กัน จากหลังมือตรงระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้มาถึงที่ใต้ข้อมือ [78]
    • แปะเทป 2 แถบไขว้กันแบบเดิม คราวนี้ที่ฝ่ามือลงมาถึงข้อมือและปลายแขน [79]
    • ใช้เทป pre-wrap พันรอบข้อมือโดยเริ่มจากปลายแขน และพันทับหลายรอบหน่อยที่ข้อมือ ตามด้วยแปะไขว้กากบาท จากนั้นพัน pre-wrap ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ รอบมือและข้อนิ้ว จากนั้นย้อนมาที่ข้อมือ [80]
    • พันแบบไขว้ทั้งฝ่ามือและหลังมือ โดยพันยึดรอบข้อมือและปลายแขนในแต่ละครั้ง [81]
    • ตามด้วยยึด anchors โดยใช้เทปพันแผลหรือเทปที่นักกีฬาใช้แบบมาตรฐาน 1 ½ นิ้ว (ประมาณ 4 ซม.) เริ่มจากปลายแขนไล่มาจนถึงมือ โดยพันตามแนวของ pre-wrap [82]
    • พอยึด anchors แล้ว ให้พันเทปยาวๆ ตามแนว pre-wrap [83]
    • ปกปิด pre-wrap ให้หมด รวมถึงปลายของ anchors ที่ห้อยอยู่ [84]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

ไปหาหมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพราะข้อมือหักหรือร้าวต้องได้รับการตรวจรักษาจากคุณหมอด่วน โดยจะมีอาการดังต่อไปนี้ [85]
  2. ถ้ารอช้า อาจหายช้าหรือเป็นหนักถึงขั้นพิการถาวร [92]
  3. อาการที่บอกว่ากระดูกสแคฟฟอยด์ (scaphoid bone) อาจจะหัก. กระดูกนี้จะรูปร่างคล้ายเรือ อยู่นอกกระดูกอื่นๆ ของข้อมือ ใกล้กับนิ้วโป้ง ถ้าหักจะไม่ค่อยแสดงอาการชัดเจน ข้อมือจะไม่ผิดรูปแถมไม่ค่อยบวม อาการที่พบก็เช่น [94]
  4. ถ้าข้อมือเลือดไหล บวมจนน่ากลัว หรือเจ็บปวดรุนแรง ให้ไปโรงพยาบาลทันที [100]
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

ป้องกันอาการบาดเจ็บที่ข้อมือ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง [104]
  2. หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ข้อมือบาดเจ็บ ก็คือล้มถลาไปข้างหน้า แล้วเอามือยันไว้ [106]
  3. เช่น ถ้ารู้ตัวว่าต้องนั่งพิมพ์คอมทั้งวัน ก็ต้องเลือกใช้คีย์บอร์ดแบบ ergonomic หรือมีแผ่นโฟมรองข้อมือเวลาใช้เมาส์ จะได้ไม่ฝืนข้อมือเวลาใช้งานนานๆ [110]
  4. ถ้าเล่นกีฬาที่ใช้ข้อมือเยอะๆ ก็ต้องสวมอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ [112]
    • กีฬาหลายชนิดเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อมือมากกว่าชนิดอื่น ให้สวมอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น สนับข้อมือ (wrist guards) หรือที่รัดพยุงข้อมือ (wrist supports) เพื่อป้องกันหรือลดอาการบาดเจ็บ [113]
    • ชนิดกีฬาที่มักเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อมือก็เช่น อินไลน์สเก็ต (in-line skating) สเก็ต สโนว์บอร์ด สกี ยิมนาสติก เทนนิส รักบี้ โบว์ลิ่ง และกอล์ฟ เป็นต้น
  5. ถ้ารู้จักบริหาร ยืดเหยียด และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ก็จะช่วยป้องกันหรือลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ [114]
    โฆษณา
  1. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  2. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  3. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  4. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  5. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  6. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  7. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  8. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  9. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  10. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  11. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958
  12. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958
  13. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  14. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  15. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  16. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  17. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  18. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  19. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  20. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  21. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  22. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  23. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  24. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  25. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  26. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  27. http://share.upmc.com/2015/01/wrap-ankle-wrist-sprain/
  28. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  29. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  30. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  31. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  32. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  33. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  34. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  35. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  36. http://www.mckinley.illinois.edu/handouts/strains_sprains.html
  37. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  38. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  39. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  40. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  41. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  42. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  43. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  44. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  45. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  46. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  47. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  48. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  49. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  50. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  51. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  52. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  53. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  54. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  55. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  56. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  57. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  58. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  59. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  60. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  61. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  62. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  63. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  64. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  65. http://hlknweb.tamu.edu/content/wrist-taping-101
  66. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  67. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  68. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  69. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  70. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  71. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  72. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  73. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  74. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  75. http://www.physioadvisor.com.au/11376450/wrist-taping-wrist-strapping-strap-wrist-phy.htm
  76. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  77. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  78. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  79. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  80. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  81. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  82. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  83. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  84. http://www.mayoclinic.org/search/search-results?q=broken wrist
  85. http://www.ucsfhealth.org/conditions/hand_and_wrist_fractures/
  86. http://www.ucsfhealth.org/conditions/hand_and_wrist_fractures/
  87. http://www.ucsfhealth.org/conditions/hand_and_wrist_fractures/
  88. http://www.ucsfhealth.org/conditions/hand_and_wrist_fractures/
  89. http://www.ucsfhealth.org/conditions/hand_and_wrist_fractures/
  90. http://www.ucsfhealth.org/conditions/hand_and_wrist_fractures/
  91. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  92. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958
  93. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958
  94. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  95. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  96. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  97. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  98. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  99. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  100. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  101. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  102. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  103. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/wrist-pain/basics/definition/con-20031860
  104. http://kidshealth.org/PageManager.jsp?dn=KidsHealth&lic=1&ps=207&cat_id=20019&article_set=20379
  105. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958
  106. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958
  107. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sprains-and-strains/basics/definition/con-20020958

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 77,882 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา