ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บาดแผลลึกนั้นเกิดจากสิ่งของมีคมที่บาดผิวหนัง ซึ่งนี่รวมถึงบางอย่างเช่นมุมผนังหรือของที่ออกแบบมาสำหรับตัดหรือหั่นโดยเฉพาะ เช่น มีด ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไร บาดแผลลึกนั้นสร้างความเจ็บปวดและทำให้มีเลือดออกเยอะ และบางทีคุณอาจจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากแพทย์ ถ้าคุณหรือคนอื่นมีบาดแผลลึก คุณจำเป็นจะต้องประเมินความรุนแรงของบาดแผลและรักษาบาดแผลนั้นอย่างถูกต้อง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ประเมินบาดแผล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณเห็นไขมัน กล้ามเนื้อ หรือกระดูกผ่านบาดแผล หรือแผลนั้นกว้างและมีขอบไม่เรียบ คุณอาจจะต้องเย็บแผล ถ้าคุณไม่แน่ใจ คุณควรไปตรวจกับแพทย์และพยาบาล [1]
    • อาการที่บ่งบอกว่าจะต้องไปรับการรักษานั้นได้แก่ อาการเจ็บปวดอย่างมาก มีเลือดออกเยอะ มีอาการช็อค (เช่น ผิวหนังเย็นมีเหงื่อออก รู้สึกหนาว ผิวหนังซีด)
    • คุณจะรู้ว่าบาดแผลนั้นบาดลึกที่ผิวหนังหากคุณเห็นไขมัน (เนื้อเยื่อสีเหลืองอมน้ำตาลๆ เป็นก้อน) กล้ามเนื้อ (เนื้อสีแดงเข้มเป็นริ้วๆ) หรือกระดูก (พื้นแข็งๆ สีขาวอมน้ำตาล) [2]
    • ถ้าแผลบาดไม่ได้ลึกทะลุผิวหนังเข้าไป มันก็ไม่จำเป็นต้องเย็บแผลและสามารถรักษาเองได้ที่บ้าน
  2. ถ้าคุณรู้สึกว่าแผลของคุณต้องได้รับการรักษาอย่างฉุกเฉิน มี 2-3 อย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อดูแลบาดแผลก่อนที่จะไปห้องฉุกเฉิน ให้ล้างแผลเร็วๆ เพื่อล้างเศษเนื้อหรือสิ่งสกปรก จากนั้น ให้ใช้ผ้าสะอาดหรือพันผ้าพันแผลประคบ ให้ประคบไว้อย่างนั้นขณะที่คุณไปห้องฉุกเฉิน
    • จะมีการทำความสะอาดแผลอีกครั้งเมื่อคุณไปหาแพทย์แล้วเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ติดเชื้อ
    • ถ้าแผลมีขนาดใหญ่และมีเลือดออกเยอะ ลองห่อบริเวณนั้นด้วยผ้าขนหนูหรือผ้าพันแผล จากนั้นให้ประคบไปเรื่อยๆ [3] [4]
  3. อย่าพยายามทำความสะอาดแผลให้สะอาดหมดจดหรือปิดแผลด้วยสิ่งที่หาได้ในบ้าน. อย่าดึงอะไรที่หลุดออกได้ยากออกจากแผล ถ้ามีกระจกหรือมีเศษอะไรบางอย่างติดอยู่กับแผล มันอาจจะเป็นอันตรายมากขึ้นหากคุณพยายามที่จะดึงมันออก นอกจากนี้ อย่าพยายามเย็บหรือติดกาวยึดแผลให้ปิด เพราะว่าสิ่งของที่หาได้ในบ้านอาจจะทำให้ติดเชื้อหรือทำให้แผลไม่สมาน อย่าใช้แอลกอฮอล์ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือไอโอดีน มาเช็ดทำความสะอาดแผลเพราะมันจะทำให้แผลสมานช้าลง [5] [6]
  4. ถ้าเป็นไปได้ อย่าขับรถเองเพราะมันอาจจะอันตรายได้ ถ้าคุณอยู่คนเดียวและมีเลือดออกเยอะ มันอาจจะเป็นไอเดียที่ดีหากคุณจะโทรเรียกรถพยาบาล
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

รักษาบาดแผลไม่รุนแรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่เป็นเวลาอย่างน้อย 5-10 นาที ใช้น้ำสะอาดและสบู่ประเภทใดก็ได้ งานวิจัยได้แสดงผลว่าไม่มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างการใช้สบู่ฆ่าเชื้ออย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือสบู่ฆ่าเชื้อสำหรับการทำความสะอาดบาดแผล
    • สิ่งที่สำคัญคือจะต้องใช้น้ำล้างเยอะๆ ถ้ามันมีสิ่งสกปรก กระจก หรือวัตถุอื่นๆ ที่บาดแผลและไม่สามารถล้างออกได้หรือบาดแผลนั้นเกิดจากวัตถุที่สกปรก มีสนิม หรือเป็นรอยกัดของสัตว์ คุณควรไปพบแพทย์ [7] [8]
  2. หลังจากที่แผลสะอาดดีแล้ว ให้ใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าพันแผลประคบที่บริเวณนั้นเป็นเวลา 15 นาที คุณอาจจะทำให้เลือดไหลช้าลงได้ด้วยการยกบาดแผลขึ้นเหนือบริเวณหัวใจ
    • ในการป้องกันไม่ให้เลือดที่จับตัวแล้วหลุดออกมาด้วยขณะที่เปิดผ้าพันแผล คุณอาจจะใช้ผ้าก๊อซที่ไม่เหนียวเช่นผ้าก๊อซ Telfa gauze.
    • ถ้าบาดแผลยังมีเลือดไหลอยู่แม้ว่าจะทำเช่นนี้แล้ว ให้ไปพบแพทย์ [9]
  3. ทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อและใช้ผ้าพันแผลหรือผ้ากอซปิดไว้ ดูแลให้แผลสะอาดและแห้งโดยการเปลี่ยนผ้าพันแผล 1-2 ครั้งต่อวันจนแผลสมานกันดี พยายามให้แผลโดนอากาศสัก 2-3 ชั่วโมงเมื่อผ่านไปแล้ว 2-3 วัน นี่จะช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
  4. ถ้าคุณเริ่มมีอาการติดเชื้อ ให้ไปพบแพทย์ ซึ่งอาการเหล่านี้ได้แก่บริเวณแผลนั้นมีอุณหภูมิอุ่นๆ หรือแดง มีน้ำหนองออกมาจากแผล รู้สึกเจ็บขึ้น หรือเป็นไข้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ดูแลแผลที่บาดลึก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้บุคลากรทางการแพทย์มาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าคุณหรือผู้ที่บาดเจ็บอยู่คนเดียว คุณจะต้องพยายามหยุดเลือดไว้ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ
  2. เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไม่สัมผัสกับเลือดของผู้อื่นโดยตรง ถุงมือยางนั้นจะช่วยป้องกันจากการติดโรคที่จะส่งผ่านทางเลือดของบุคคลอื่น
  3. ตรวจสอบความรุนแรงของแผลและการตอบสนองของผู้ที่บาดเจ็บที่มีต่อแผลนั้น. ให้ตรวจดูการหายใจและการไหลเวียนของเลือดด้วย ให้ผู้บาดเจ็บนอนหรือนั่งลงถ้าเป็นไปได้เพื่อจะได้พักผ่อนและรู้สึกสบายขึ้น.
    • ตรวจดูว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน ตัดเสื้อผ้าบริเวณนั้นออกถ้าจำเป็นเพื่อที่คุณจะได้เห็นแผลได้ชัดขึ้น
  4. ถ้าแผลทำให้มีเลือดออกมาตรงบริเวณแขนและขา ให้ผู้ป่วยยกบริเวณที่บาดเจ็บขึ้น ให้ค้างอยู่ในท่านั้นจนกว่าเลือดจะหยุดไหล
    • อาการช็อคนั้นสามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าผู้ป่วยมีอาการช็อค ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่นและให้รู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด
    • อย่าพยายามที่จะดึงวัตถุใดๆ เช่น เศษแก้ว ออกหากคุณไม่ได้รับการฝึกฝนที่จะทำในวิธีที่ถูกต้อง การดึงมันออกอาจจะทำให้สูญเสียเลือดมากถ้าวัตถุนั้นมันเป็นสิ่งเดียวที่หยุดเลือดไว้
  5. ใช้ผ้าพันแผลแบบแผ่นและไม่มีขนฟูแปะที่บริเวณบาดแผล ให้กดประคบที่แผลโดยตรง
    • ผ้าพันแผลที่ใช้ประคบนั้นสามารถเป็นเสื้อผ้า ผ้าธรรมดา หรือเศษผ้า หากคุณไม่มีผ้าพันแผลที่ใช้ในการปฐมพยาบาลจริงๆ แต่หากคุณมี ให้พันผ้าพันแผลรอบแผล อย่าพันแน่เกินไป ขอให้แน่ใจว่าพันแผลให้มีนิ้ว 2 นิ้วโผล่ออกมาได้
  6. ใช้ผ้าพันแผลอีกผืนหนึ่งพันที่แผลถ้ามีเลือดซึมออกมา. อย่าพยายามแกะผ้าพันแผลผืนเดิมออกเพราะมันจะทำให้แผลระคายเคืองได้
    • พันผ้าพันแผลไว้อย่างนั้น นี่จะช่วยให้เลือดแข็งตัวและหยุดเลือดได้ และไม่ให้มีเลือดออกมาจากแผลอีก
  7. เช็ดการหายใจและการไหลเวียนของเลือดของผู้ป่วย. ตรวจสอบผู้ที่บาดเจ็บอยู่เสมอจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง (หากแผลมีอาการรุนแรง) หรือรอจนกว่าเลือดจะหยุดไหล (แผลที่รุนแรงน้อยกว่า) จะต้องเรียกรถพยาบาลหากแผลมีความรุนแรงหรือเลือดไม่หยุดไหล
    • ขอให้แน่ใจว่าคุณได้อธิบายอาการและบาดแผลของผู้ป่วยเมื่อคุณโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน นี่จะทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมการช่วยเหลือมาก่อนถึงที่เกิดเหตุ
  8. ตัวอย่างเช่น หากบาดแผลนั้นลึกหรือสกปรก คุณจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก บาดทะยักนั้นเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงมากซึ่งจะทำให้เป็นอัมพาตและเนื้อตายถ้าไม่ได้รับการรักษา คนส่วนใหญ่จะเคยฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุกๆ 2-3 ปี
    • ถ้าคุณติดเชื้อแบคทีเรียจากการสัมผัสสิ่งสกปรกหรือมีสนิม เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อในอนาคต ไปพบแพทย์เพื่อดูว่าคุณจะต้องฉีดหรือไม่ ! [10]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การดูแลแผลที่ถูกเย็บหรือใช้แม็กเย็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าแผลของคุณลึก กว้าง และขอบไม่เรียบ แพทย์ก็อาจจะตัดสินใจเย็บแผลให้ หรือใช้แม็กเย็บเพื่อให้แผลสมานกัน เมื่อแพทย์เย็บแผลให้ แพทย์จะทำความสะอาดให้ก่อนเพื่อฉีดยาชาที่รอบแผล เมื่อแพทย์เย็บเสร็จแล้ว แพทย์ก็จะใช้ผ้าพันแผลหรือผ้าก๊อซพันให้ [11]
    • การเย็บแผลนั้นจะใช้เข็มและด้ายที่ฆ่าเชื้อแล้วเพื่อเย็บขอบของแผลให้ยึดติดกัน ซึ่งด้ายนั้นจะละลายและสลายตัวไปเองเมื่อเวลาผ่านไป หากเป็นด้ายที่ไม่ละลายก็จะดึงออกไปทีหลังเมื่อแผลสมานดีแล้ว
    • แม็กที่ใช้เย็บนั้นเป็นแม็กพิเศษที่ใช้ในทางการแพทย์ซึ่งมันก็ใช้เย็บแผลได้เหมือนกันและเอาลูกแม็กที่เย็บออกทีหลังเมื่อแผลสมานกันแล้ว [12]
  2. เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดูแลแผลที่เย็บไว้เพื่อให้แน่ใจว่าแผลจะสมานกันเร็วและจะไม่ติดเชื้อ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ [13]
    • ปล่อยให้ด้ายหรือแม็กแห้งกับผ้าพันแผลเป็นเวลาหลายวันก่อน แพทย์จะบอกคุณว่ามันจะเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นเวลา 1-3 วันขึ้นอยู่กับประเภทของด้ายและขนาดของแผล
    • เมื่อคุณสามารถให้แผลโดนน้ำได้แล้ว ให้ค่อยๆ ล้างแผลที่เย็บไว้ด้วยสบู่และน้ำสะอาดขณะที่คุณอาบน้ำ อย่าจุ่มแผลไปในน้ำ เช่น เวลาคุณแช่อ่างน้ำหรือว่ายน้ำ หากเปียกน้ำมากเกินไปจะทำให้ชะลอเวลาที่แผลสมานและส่งผลให้ติดเชื้อได้
    • หลังจากที่ล้างบริเวณนั้นแล้ว ให้ซับจนแห้งและทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ ปิดแผลด้วยผ้ากอซหรือผ้าพันแผลหากแพทย์ไม่ได้ทำให้
  3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือกีฬาที่จะทำให้บริเวณนั้นบาดเจ็บเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์. แพทย์จะบอกคุณว่าควรงดเป็นเวลาเท่าไหร่ แผลที่เย็บไว้สามารถปริออกมาได้ทำให้แผลเปิดออกมา ให้ไปพบแพทย์หากเป็นเช่นนี้
    • ไปพบแพทย์หากคุณเริ่มมีอาการติดเชื้อ (เช่น เป็นไข้ แดง บวม มีน้ำหนองซึมออกมา)
  4. ด้ายที่ไม่ละลายและแม็กปกติแล้วจะต้องเอาออกหลังจากผ่านไป 5-14 วัน เมื่อเอาออกไปแล้ว ขอให้แน่ใจว่าได้ดูแลแผลไม่ให้แผลโดนแสงแดดโดยใช้ครีมกันแดดและใส่เสื้อผ้าปิดไว้ ถามแพทย์ว่ามีโลชั่นหรือครีมที่จะช่วยให้แผลสมานกันหรือไม่ [14]
    • ครีมที่มีวิตามินอีหรือซิลิกาจะบรรเทาแผลคีลอยด์ได้ (แผลที่นูนขึ้นและมีรอยแดง) ซึ่งเกิดจากการสมานของแผล
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 44,298 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา