คุณเคยประสบอุบัติเหตุในระหว่างการขี่รถจักรยานยนต์ ขี่จักรยาน เล่นสเก็ตบอร์ด หรือเล่นสเก็ต จนผิวหนังครูดไปกับพื้นถนนหรือไม่ ถ้าใช่ คุณคงได้รับแผลถลอกที่เรียกว่า road rash ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดได้ แต่มีวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและทำให้บาดแผลเริ่มทำการฟื้นฟู
ขั้นตอน
-
เคลื่อนย้ายไปยังบริเวณที่ปลอดภัย. หากอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนบริเวณที่อันตราย เช่น กลางถนน คุณควรย้ายไปยังบริเวณที่ปลอดภัยกว่า (ออกมาจากถนน) ถ้าสามารถทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
-
ยึดตรึงบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต. ตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณ (หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ) สามารถเคลื่อนไหวได้อิสระ และไม่มีบริเวณใดที่มีกระดูกหัก หากพบว่ามีกรณีใดกรณีหนึ่ง ให้หยุดเคลื่อนไหวทันทีและโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหรือขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นให้โทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินให้คุณ [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ให้ตรวจดูว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนหรือไม่ และไปพบแพทย์โดยทันที
-
ประเมินความรุนแรงของบาดแผล. ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหากคุณตรวจดูบาดแผลได้ไม่ถนัด และโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหากมีอาการบาดเจ็บต่อไปนี้ [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล
- บาดแผลลึกจนมองเห็นชั้นไขมัน กล้ามเนื้อ หรือกระดูก
- บาดแผลมีเลือดพุ่งทะลัก หากพบอาการนี้ ให้ใช้มือ ผ้า หรือวัสดุอื่นๆ กดลงไปบนบาดแผลในขณะที่รอการช่วยเหลือ เพื่อช่วยให้เลือดไหลช้าลง
- ขอบแผลขรุขระและเปิดออกกว้าง
-
ตรวจดูว่ามีอาการบาดเจ็บอื่นๆ หรือไม่. ในบางครั้งอาการบาดเจ็บอาจเกิดขึ้นใต้ผิวหนังในบริเวณที่คุณไม่สามารถสังเกตเห็นได้ หากคุณหมดสติ รู้สึกสับสน เคลื่อนไหวได้จำกัด หรือรูสึกเจ็บอย่างรุนแรง ให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการช่วยเหลือทางการแพทย์โฆษณา
-
ล้างมือให้สะอาดก่อนเริ่มทำแผล. [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล คุณคงไม่ต้องการให้เกิดการติดเชื้อในระหว่างการดูแลแผลแน่ๆ ดังนั้น จึงควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่นก่อนเริ่มทำแผล หากต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ คุณสามารถสวมถุงมือก่อนเริ่มทำความสะอาดแผลได้เช่นกัน
-
ห้ามเลือด. หากมีเลือดไหลออกจากบาดแผล ให้ห้ามเลือดโดยการกดลงไปบนแผล
- ใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซวางลงไปบนบาดแผล และกดไว้สักครู่
- เปลี่ยนผ้าหรือผ้าก๊อซเมื่อเริ่มชุ่มเลือด
- หากเลือดยังคงไม่หยุดไหลหลังผ่านไปแล้วกว่า 10 นาที ให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากคุณอาจจำเป็นต้องเย็บแผลหรือรักษาด้วยวิธีอื่น [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ชำระล้างบาดแผล. เปิดน้ำเย็นให้ไหลผ่านแผลหรือราดน้ำลงบนแผล และขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหากแผลอยู่ในบริเวณที่คุณมองไม่เห็นหรือเอื้อมไม่ถึง ควรชำระล้างแผลให้นานพอ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำไหลผ่านทั่วบาดแผล และสิ่งสกปรกและ/หรือสิ่งแปลกปลอมถูกล้างออกจนหมด [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทำความสะอาดบาดแผล. ทำความสะอาดรอบๆ บาดแผลด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียและน้ำเปล่า แค่ควรระวังอย่าให้สบู่ถูกบาดแผลโดยตรง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล การทำเช่นนี้จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย และป้องกันการติดเชื้อได้
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และไอโอดีนมักใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคในบาดแผล [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และไอโอดีนสามารถทำลายเซลล์ที่มีชีวิตได้ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จึงแนะนำไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กับบาดแผล [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
นำสิ่งแปลกปลอมออก. หากมีสิ่งใดๆ ติดอยู่ในบาดแผล เช่น สิ่งสกปรก ทราย เศษต่างๆ เป็นต้น ให้ใช้แหนบหนีบออกมาอย่างระมัดระวัง ก่อนอื่นให้นำแหนบไปทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคก่อน โดยเช็ดด้วยสำลีก้อนหรือผ้าก๊อซที่จุ่มลงในไอโซโพพิลแอลกอฮอล์ [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล หลังจากนำสิ่งแปลกปลอมออกมาจนหมดแล้ว ให้ชำระล้างแผลด้วยน้ำเย็น
- ไปพบแพทย์หากเศษฝุ่นหรือสิ่งอื่นๆ ติดอยู่ลึกเกินไปจนไม่สามารถนำออกได้ [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ซับเบาๆ ให้แห้ง. หลังจากชำระล้างและทำความสะอาดบาดแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าหรือผ้าขนหนูสะอาดซับเบาๆ ให้แห้ง ใช้วิธีการซับแทนการถูอย่างรุนแรงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
-
ทายาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบาดแผลสกปรก. การทายาปฏิชีวนะจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้บาดแผลหายดีขึ้น [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยาทาปฏิชีวนะมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีสารออกฤทธิ์หรือส่วนประกอบที่แตกต่างกัน (เช่น แบซิทราซิน นีโอมัยซิน และโพลีไมซิน) [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ควรทำตามคำแนะนำบนฉลากอยู่เสมอทั้งปริมาณที่เหมาะสมและวิธีการใช้ที่ถูกต้อง
- ยาทาที่ประกอบด้วยยาปฏิชีวนะ 3 ชนิด เช่น นีโอสปอริน จะมีส่วนประกอบของนีโอมัยซินที่สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้บนผิวหนังได้ หากคุณสังเกตเห็นรอยแดง อาการคัน การบวม หรืออาการอื่นๆ หลังจากใช้ยา ให้หยุดใช้และเปลี่ยนไปใช้ยาทาที่มีส่วนประกอบของโพลีไมซินหรือแบซิทราซินแทน
- หากคุณไม่สามารถใช้ยาทาปฏิชีวนะไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ให้ทาปิโตรเลียมเจลลี่หรือ Aquaphor แทน ซึ่งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้บาดแผลได้
-
ปิดแผล. ปิดแผลด้วยผ้าพันแผล เพื่อป้องกันบาดแผลจากสิ่งสกปรก การติดเชื้อ และการระคายเคืองจากเสื้อผ้าในช่วงที่บาดแผลกำลังฟื้นฟู ควรใช้ผ้าพันแผลชนิดที่ไม่ติดผิว หรือใช้ผ้าก๊อซแล้วปิดทับด้วยเทปหรือรัดด้วยหนังยาง [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ยกส่วนที่ได้รับบาดเจ็บให้สูง. การยกส่วนที่ได้รับบาดเจ็บให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจหรือสูงกว่าให้มากที่สุดจะช่วยลดการบวมและความเจ็บปวดได้ วิธีนี้จะได้ผลเป็นอย่างดีใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการเกิดอุบัติเหตุ และสำคัญเป็นอย่างยิ่งหากบาดแผลมีอาการรุนแรงหรือเกิดการติดเชื้อ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่เมื่อจำเป็น. เปลี่ยนผ้าพันแผลทุกวัน หรือบ่อยมากขึ้นหากผ้าพันแผลเริ่มแฉะหรือสกปรก [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [25] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ก่อนเปลี่ยนผ้าพันแผล ให้ล้างสิ่งสกปรกออกโดยใช้น้ำเปล่าและสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย
-
ทายาปฏิชีวนะซ้ำทุกวัน. [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทายาทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนผ้าพันแผล แม้ว่าการทายาเพียงอย่างเดียวจะไม่ได้ช่วยให้บาดแผลฟื้นฟูเร็วขึ้น แต่ก็สามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ ทั้งยังป้องกันไม่ให้แผลขาดความชุ่มชื้นอีกด้วย เนื่องจากความแห้งสามารถก่อให้เกิดสะเก็ดแผล ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ยกส่วนที่ได้รับบาดเจ็บให้อยู่สูง. การยกส่วนที่ได้รับบาดเจ็บให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจหรือสูงกว่าให้มากที่สุดจะช่วยลดการบวมและความเจ็บปวดได้ วิธีนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่งหากบาดแผลมีอาการรุนแรงหรือเกิดการติดเชื้อ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จัดการกับอาการเจ็บปวดที่มี. ทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น ไอบูโพรเฟนหรืออาซีตะมิโนเฟน เมื่อคุณมีอาการเจ็บปวดจากบาดแผล หากแพทย์ไม่ได้สั่งจ่ายยาชนิดอื่นให้คุณ [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Wisconsin Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- ไอบูโพรเฟนยังมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถช่วยลดการบวมได้
- หากผิวหนังบริเวณบาดแผลเริ่มแห้งหรือมีอาการคัน ให้ทามอยส์เจอร์ไรซิ่งโลชั่นเพื่อบรรเทาอาการ
- สวมเสื้อผ้าที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณบาดแผล. หากเป็นไปได้ ควรสวมเสื้อผ้าที่ไม่เสียดสีกับแผลถลอกในระหว่างการฟื้นฟู ตัวอย่างเช่น สวมเสื้อแขนสั้นหากบาดแผลอยู่บนแขน หรือหากบาดแผลอยู่บนขา ให้สวมกางเกงขาสั้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวมากขึ้น
-
ทานอาหารและดื่มน้ำอย่างเหมาะสม. ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ (ประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน โดยเฉพาะน้ำเปล่า) และทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในระหว่างการฟื้นฟู การดื่มน้ำอย่างเพียงพอและทานอาหารที่บำรุงร่างกายจะช่วยให้บาดแผลฟื้นฟูได้รวดเร็วขึ้น [30] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
พักผ่อน. หยุดการเคลื่อนไหวส่วนที่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการฟื้นฟู ตัวอย่างเช่น หากคุณได้รับบาดเจ็บที่ขา ให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก เช่น การวิ่งและการปีนเขา การหลีกเลี่ยงการออกแรงมากในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บจะช่วยให้บาดแผลฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
-
ดูแลเอาใจใส่ในระหว่างการฟื้นฟูบาดแผล. โดยทั่วไปบาดแผลจะหายดีภายใน 2 สัปดาห์หากคุณคอยดูแลรักษาอย่างดี [31] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Wisconsin Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- ความเร็วในการฟื้นฟูของบาดแผลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ โภชนาการ การสูบบุหรี่ ระดับความเครียด อาการเจ็บป่วยอื่นๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยาทาปฏิชีวนะจะช่วยเพียงแค่การลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยให้บาดแผลหายดีเร็วขึ้น หากบาดแผลของคุณดูเหมือนจะหายช้าจนผิดปกติ ให้เข้ารับการตรวจจากแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการที่รุนแรง เช่น อาการป่วยต่างๆ [32] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Go Ask Alice ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ปรึกษาแพทย์หากอาการแย่ลง หรือบาดแผลเริ่มติดเชื้อ. คุณจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจจากแพทย์หากมีอาการต่อไปนี้ [33] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล [34] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [35] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล [36] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Wisconsin Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในแผลที่ไม่สามารถนำออกได้
- หากรอบๆ บาดแผลเริ่มแดง บวม ร้อน หรือเจ็บปวด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อได้
- หากมีรอยแดงเป็นริ้วๆ รอบบาดแผล
- หากแผลมีน้ำหนองไหลออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีกลิ่นเหม็น
- หากมีอาการป่วยเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ (มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น)
โฆษณา
-
สวมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกัน. สวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยป้องกันร่างกาย เช่น เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เพื่อช่วยป้องกันผิวหนังไม่ให้เกิดแผลถลอก หากคุณทำกิจกรรมใดๆ ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บ ให้สวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม โดยการใช้อุปกรณ์ป้องกันจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตัวอย่างเช่น สวมสนับศอก สนับข้อมือ และสนับเข่า เมื่อเล่นกีฬาอย่างสเก็ตบอร์ดหรือสเก็ต
- การสวมหมวกกันน็อกจะช่วยป้องกันศีรษะไม่ให้เกิดการบาดเจ็บจากกีฬาเหล่านี้และกิจกรรมประเภทอื่นๆ เช่น การขี่จักรยานหรือรถจักรยานยนต์
-
ระมัดระวัง. เรียนรู้วิธีการใช้อุปกรณ์อย่างเหมาะสมในกิจกรรมที่คุณทำ เช่น รถจักรยานยนต์ จักรยาน เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการเล่นโลดโผนที่อันตรายและการกระทำโดยประมาทอื่นๆ การระมัดระวังตัวเมื่ออยู่บนถนนเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลถลอกได้
-
มั่นใจว่าได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักอย่างต่อเนื่อง. บาดแผลถลอกโดยส่วนมากมักมีสิ่งสกปรกเข้าไปข้างใน และในบางทีก็อาจมีโลหะหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ เข้าไปได้เช่นกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคบาดทะยักได้ ผู้ใหญ่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักหลังการฉีดวัคซีนครั้งล่าสุดผ่านมาแล้วเกิน 5 ปีและเมื่อบาดแผลสกปรก หากคุณได้รับแผลถลอก ให้ไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อฉีดวัคซีน [39] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูลโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-fractures/basics/art-20056641
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://health.williams.edu/files/StudentOnline/SkinInjuries_SO.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.med.wisc.edu/news-events/hydrogen-peroxide-provides-clues-to-immunity-wound-healing-tumor-biology/32917
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ https://www.amherst.edu/alumni/learn/bookclub/pastfeatures/dontcrossyoureyes/excerpt
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://umm.edu/health/medical/drug-notes/notes/antibacterial-combination-on-the-skin
- ↑ http://www.rice.edu/~jenky/sports/bikesafety.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.healthcenter.vt.edu/assets/docs/WoundCare.pdf
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://studentaffairs.centralstate.edu/documents/Student_Self-Care_Guide_001.pdf
- ↑ http://www.healthcenter.vt.edu/assets/docs/WoundCare.pdf
- ↑ http://www.healthcenter.vt.edu/assets/docs/WoundCare.pdf
- ↑ http://www.uwhealth.org/healthfacts/trauma/6820.pdf
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/water/art-20044256
- ↑ http://www.uwhealth.org/healthfacts/trauma/6820.pdf
- ↑ http://goaskalice.columbia.edu/how-do-wounds-cuts-scrapes-lacerations-heal
- ↑ http://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=2978
- ↑ http://health.williams.edu/files/StudentOnline/SkinInjuries_SO.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
- ↑ http://www.uwhealth.org/healthfacts/trauma/6820.pdf
- ↑ http://www.rice.edu/~jenky/sports/bikesafety.html
- ↑ http://www.wakehealth.edu/Health-Central/NMR/Motorcycle-Safety/
- ↑ http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-cuts/basics/art-20056711
โฆษณา