PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

เวลาที่คุณโสด มันก็ยากจะทำใจเวลาเห็นคู่รักที่มีความสุขเขากระหนุงกระหนิงกัน แต่การเป็นโสดก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะได้กระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ และครอบครัวให้แน่นแฟ้น ทำงานอดิเรก ทำตามเป้าหมายด้านอาชีพการงาน และรู้จักตัวเองมากขึ้น! ถ้าคุณกำลังต่อสู้กับความเหงา คุณก็ต้องพยายามสร้างความมั่นใจในสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ มันอาจจะดูเป็นสิ่งที่ยากลำบากในตอนแรก แต่คุณควรพยายามออกไปข้างนอก พบปะผู้คนใหม่ๆ และปล่อยให้ความสัมพันธ์เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

สร้างกรอบความคิดเชิงบวก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การมีแฟนไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนที่ดีกว่าหรือประสบความสำเร็จมากกว่าแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นอย่ามองว่าตัวเองต่ำต้อยเพียงเพราะว่าคุณโสด แต่ให้คิดถึงด้านดีๆ ของชีวิตโสดแทน คุณมีอิสระที่จะเลือกที่อยู่อาศัยและทำในสิ่งที่อยากทำ และไม่ต้องมารับมือกับความเครียดหรือความน่ารำคาญที่มากับความสัมพันธ์ [1]
    • นอกจากนี้การเป็นโสดยังทำให้คุณสามารถให้ความสำคัญกับเป้าหมายในหน้าที่การงานและเป้าหมายส่วนตัวก่อนได้ หลายคนที่มีความสัมพันธ์แบบผูกมัดอยากจะไล่ตามเป้าหมายของตัวเองโดยไม่ต้องประนีประนอมกับใคร
  2. โทรหาเพื่อนเก่าแล้วถามสารทุกข์สุกดิบ ชวนคนที่คุณรักไปดื่มกาแฟหรือทานข้าวกลางวันด้วยกัน หรือชวนพรรคพวกมาค้างคืนเล่มเกมกันที่บ้าน ความสัมพันธ์แบบคนรักไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเดียวที่ช่วยสร้างความพึงพอใจได้ อันที่จริงการเป็นโสดถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะสร้างความสัมพันธ์รูปแบบอื่นที่อาจอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต [2]
    • ถ้าคุณอยากระบายความรู้สึกออกมา ก็ให้พูดกับคนที่คุณรักและไว้ใจออกไปตรงๆ ช่วงแรกการเล่าให้เขาฟังว่าคุณเหงาอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การได้พูดคุยกับเพื่อนหรือญาติอาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้
    • ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการติดต่อหาคนที่คุณรักอยู่เรื่อยๆ ถ้าไปเจอหน้ากันจริงๆ ไม่ได้ ก็ให้คุยโทรศัพท์ ส่งอีเมลหากัน ติดต่อกันในโซเชียลมีเดีย หรือนัดวิดีโอคอลกัน [3]
  3. ถ้าสภาพแวดล้อมมันอึมครึม ให้พยายามสร้างพื้นที่ที่มีความสุขและมีชีวิตชีวามาช่วยต่อสู้กับความเหงา ลองทาสีห้องใหม่เป็นสีสว่างๆ อย่างสีเขียวที่ดูกะปรี้กะเปร่าหรือสีฟ้าที่ดูสดชื่น [4]
    • หาดอกไม้หรือต้นไม้มาประดับเพื่อให้บ้านแลดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
    • เปิดม่านตรงหน้าต่างและเปลี่ยนจากผ้าม่านหนักๆ สีทึมๆ มาเป็นผ้าม่านโปร่ง การปล่อยให้แสงเข้ามาในบ้านมากๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกภายนอกมากขึ้น
    • พยายามไม่ให้มีของระเกะระกะในบ้านด้วย เพราะบ้านที่เป็นระเบียบช่วยสร้างเสริมกรอบความคิดเชิงบวกได้ [5]
  4. การออกกำลังกายเป็นประจำทำให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของคุณดีขึ้น เลือกทำกิจกรรมที่บังคับให้คุณต้องออกจากบ้าน ลองไปเดินเล่นแถวบ้าน ไปเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติ ว่ายน้ำ ไปเข้ากลุ่มโยคะ เข้าคลาสปั่นจักรยานอยู่กับที่แบบ Spinning หรือไปเรียนศิลปะการต่อสู้ [6]
  5. การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นประสบการณ์ที่สร้างความสุขใจและช่วยให้คุณได้เสริมสร้างทักษะใหม่ๆ นอกจากนี้การเข้าร่วมกลุ่มหรือการเข้าคลาสเรียนทักษะต่างๆ ยังช่วยให้คุณได้พบปะกับคนที่มีความสนใจเหมือนๆ กันด้วย [8]
    • เช่น ทำในสิ่งที่คุณสนใจอย่างการทำอาหาร ทำสวน หรือทำงานประดิษฐ์ เปลี่ยนงานอดิเรกที่ทำคนเดียวให้กลายเป็นกิจกรรมทางสังคมด้วยการเข้าร่วมกลุ่มหรือเข้าคลาสเรียนทักษะเหล่านี้
    • หาคลาสหรือกลุ่มต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต หรือค้นหาธุรกิจหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อหาโอกาสในการเข้าสังคม เช่น ถ้าคุณชอบทำสวน ก็ให้ดูว่าที่ศูนย์เพาะพันธุ์พืชท้องถิ่นเข้าเปิดสอนทำสวนไหม
  6. ให้รางวัลตัวเองเป็นกิจกรรมที่ต้องออกจากบ้าน. การออกไปชอปปิ้งเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่ การไปตัดผมทรงใหม่ หรือการไปนวดก็เป็นวิธีแสดงความรักต่อตนเองที่ดี นอกจากนี้การเสาะหาร้านรวง ร้านอาหาร และสถานที่สาธารณะใหม่ๆ ยังเปิดโอกาสให้คุณได้พูดคุยกับคนอื่นด้วย [9]
    • เอาตัวเองออกไปข้างนอกและให้รางวัลตัวเองด้วยการไปดูหนัง ละครเวที หรือคอนเสิร์ต กิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่กิจกรรมสำหรับ “การเดต” เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่คุณสามารถสนุกคนเดียวได้ด้วย
    • ไปเที่ยวในที่ที่คุณอยากไปมาตลอด ข้อดีคือคุณไม่ต้องคอยประนีประนอมกับอีกฝ่ายหรืออดทนกับนิสัยแปลกๆ ของเขา เช่น การที่เขาอยากแวะไปสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่อยากไปหรือไม่อยากนั่งเครื่องบิน
  7. ถ้าคุณเบื่อที่ต้องกลับมาเจอบ้านโล่งๆ เพื่อนขนยาวสามารถมอบความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและช่วยบรรเทาความเหงาได้ นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้นด้วยโดยการช่วยลดความดันโลหิตและกระตุ้นให้คุณออกกำลังกาย [10]
    • สัตว์เลี้ยงยังเปิดโอกาสให้คุณได้พบปะพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้นด้วย เช่น การเลี้ยงหมาถือเป็นการเปิดหัวข้อสนทนาที่ดี และคุณก็ยังต้องออกจากบ้านบ่อยขึ้นเพื่อพาหมาไปเดินเล่นด้วย
  8. พยายามอย่ามองว่าความสัมพันธ์นั้นสมบูรณ์แบบ หรือคิดว่าการมีแฟนและการแต่งงานจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง การคบใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้แต่คนมีคู่เองก็รู้สึกเหงาได้เหมือนกัน [11]
    • ความรู้สึกเหงาคือส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ และในแง่หนึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน ความเหงาทำให้เราเสาะหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นส่วนหนึ่งของพื้นฐานของความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เพิ่มความมั่นใจในการเข้าสังคม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณเริ่มมีความคิดที่ว่า “ฉันไม่ดีพอ” หรือ “มีอะไรบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับตัวฉัน” ให้บอกตัวเองเลยว่า “หยุด! ความคิดพวกนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย และฉันก็มีพลังที่จะเปลี่ยนกรอบความคิดของตัวเองได้” ขั้นตอนแรกของการสร้างความมั่นใจในการเข้าสังคมคือการเปลี่ยนรูปแบบความคิดที่นำไปสู่ความรู้สึกไม่มั่นคง [12]
    • การวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองอย่างรุนแรงมักมีพื้นฐานมาจากความคิดที่บิดเบี้ยว เลิกโทษตัวเองได้แล้ว มองทุกอย่างตามความเป็นจริง และท้าทายความคิดที่บิดเบี้ยวพวกนั้น
    • อย่ามัวจมจ่อมกับความสัมพันธ์ในอดีตหรือมองว่ามันคือ "ความล้มเหลว" ยอมรับความจริงว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ เพราะฉะนั้นก้าวต่อไปและคว้าโอกาสที่จะทำให้คุณเป็นคนที่มีความสุขในสิ่งที่ทำและลงมือทำสิ่งต่างๆ จะดีกว่า
  2. คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบถึงจะสร้างความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนหรือฉันท์คนรักขึ้นมาใหม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วการเปิดเผยและซื่อสัตย์กับด้านที่เปราะบางของตัวเองคือสิ่งที่ทำให้คนเราผูกพันกัน ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง พยายามเปลี่ยนในสิ่งที่เปลี่ยนได้ และมีเมตตาต่อตนเอง [13]
    • พยายามอย่ากลัวที่จะถูกปฏิเสธ ถ้าคุณกับว่าที่เพื่อนหรือคนรักไปกันไม่ได้ ก็อย่าไปทึกทักเอาเองว่ามันเป็นความผิดของคุณหรือว่าคุณผิดปกติ เพราะบางครั้งคนเราก็เข้ากันไม่ได้ เกิดการเข้าใจผิด หรือแค่อารมณ์ไม่ดีเฉยๆ [14]
  3. คุณอาจจะรู้สึกเครียดและคิดว่ามันเสี่ยง แต่ในการที่จะบรรเทาความเหงานั้น คุณต้องออกไปพบปะพูดคุยกับคนอื่นบ้าง เอาตัวเองออกไปอยู่ในสังคมและสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนใหม่ๆ ค่อยๆ ไต่ไปทีละขั้น แล้วคุณจะเป็นตัวเองได้อย่างสบายใจขึ้นทีละน้อย [15]
    • ท้าทายตัวเองให้ลองทำสิ่งใหม่ๆ พูดคุยกับคนหน้าใหม่ และเข้าร่วมสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ถ้าเพื่อนร่วมงานชวนคุณไปเที่ยวหลังเลิกงาน ก็ให้ตอบรับคำชวน ถ้าคุณกำลังต่อแถวที่ร้าน ให้ชวนคนที่อยู่ถัดจากคุณหรือแคชเชียร์คุย
  4. ถ้าคุณกังวลว่าจะมีจังหวะเงียบที่ชวนกระอักกระอ่วนหรือไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ให้ถามคำถาม คนส่วนใหญ่ชอบพูดเรื่องตัวเอง เพราะฉะนั้นการถามคำถามก็เป็นวิธีการที่ดีที่ช่วยให้บทสนทนาลื่นไหล [16]
    • คุณอาจจะถามอีกฝ่ายว่า “คุณทำงานอะไร” หรือ “ช่วงนี้ได้ดูหนังดีๆ บ้างหรือเปล่า”
    • ถ้าคุณอยู่ที่งานปาร์ตี้ คุณอาจจะถามว่า “แล้วคุณรู้จักเจ้าภาพได้ยังไง”
    • ขณะที่รอเข้าเรียน คุณก็อาจจะถามคนที่นั่งข้างๆ ว่า “ป๊อปควิซเมื่อวานเป็นไงบ้าง ฉันนี่ไม่ทันตั้งตัวเลย!”
  5. ตั้งความคาดหวังที่ทำได้จริง และค่อยๆ พยายามเพิ่มความมั่นใจในการเข้าสังคมไปทีละนิด เช่น คุณอาจจะเริ่มจากการยิ้มและโบกมือให้เพื่อนบ้านขณะเดินอยู่ริมถนน [17]
    • เมื่อเจอเพื่อนบ้านในครั้งถัดไป คุณก็อาจจะแนะนำตัวเองและหยุดคุยด้วยสัก 1 นาที คุณอาจจะชวนคุยเรื่องละแวกบ้าน บอกว่าหมาของเขาน่ารัก หรือชมสวนของเขา
    • พอคุณเริ่มเป็นมิตรมากขึ้นแล้ว คุณอาจจะเชิญเขามาดื่มกาแฟหรือชาที่บ้าน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

พบปะผู้คนใหม่ๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะหาว่ามีกลุ่มอ่านหนังสือไหมผ่านทางห้องสมุดท้องถิ่นหรือในร้านกาแฟ ถ้าคุณมีความสนใจในกลุ่มประเด็นใดประเด็นหนึ่งหรือปัญหาสังคมในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นอย่างมาก ให้ค้นในอินเทอร์เน็ตว่ามีกลุ่มหรือองค์กรแถวบ้านที่ให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านั้นไหม [18]
    • ถ้าคุณนับถือศาสนา คุณก็อาจจะไปสถานที่ที่มีการปฏิบัติศาสนกิจหรือเข้าร่วมกลุ่มฝึกสมาธิและสวดภาวนา
  2. การเป็นอาสาสมัครจะทำให้คุณไม่ว่างและทำให้คุณภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้การเป็นอาสาสมัครในเรื่องที่คุณให้ความสำคัญยังทำให้คุณได้พบปะกับคนที่มีความสนใจเหมือนๆ กันด้วย [19]
    • เช่น ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ คุณก็อาจจะไปเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงสัตว์ กระตุ้นจิตสำนึกเกี่ยวกับโรคที่ส่งผลกระทบต่อคนที่คุณรัก หรือเชิญชวนให้คนมาเข้าร่วมงานด้านการเมืองที่คุณสนใจมากๆ
  3. นอกจากการเดตออนไลน์แล้ว ยังมีวิธีการอีกมากมายที่คุณจะได้สานสัมพันธ์กับผู้คนผ่านทางอินเทอร์เน็ต เล่นเกมออนไลน์ที่สามารถแชตไปได้ด้วย พูดคุยในกระทู้ที่เกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนใจ และพบปะผู้คนในโซเชียลมีเดีย [20]
    • การพบปะกับผู้คนในโลกออนไลน์ช่วยเพิ่มพูนทักษะทางสังคมถ้าคุณประหม่าที่จะต้องไปพบปะผู้คนแบบต่อหน้า แค่อย่าลืม ระวังภัยในการเล่นอินเทอร์เน็ต และอย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้ใครรู้
  4. พยายามปล่อยให้ความสัมพันธ์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ. พยายามอย่าไปเร่งความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนหรือฉันท์คนรักให้เกิดขึ้นเร็วๆ ปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับอีกฝ่ายค่อยๆ ก่อตัวขึ้น และอย่ารู้สึกว่าคุณต้องบังคับให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อดทนไว้และให้เวลาความสัมพันธ์ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงของมันเอง [21]
    • การอยู่เป็นโสดนั้นดีกว่าการรีบสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ไม่ได้นึกถึงคุณเป็นหลัก ช่วงเวลาที่มักจะมีคนเข้าหาคุณมากที่สุดก็คือตอนที่คุณแทบไม่ได้คาดหวังเลย เพราะฉะนั้นให้อดทนและคิดบวกเข้าไว้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ไปเดต

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. พยายามเป็นตัวของตัวเองเวลากรอกข้อมูล พูดถึงเรื่องดีๆ เช่น งานอดิเรกหรือสิ่งที่คุณชอบ แทนที่จะเขียนรายการสิ่งที่ทำให้คุณรำคาญหรือโอ้อวดสุดๆ ในเรื่องอะไรก็ตาม อ่านทุกสิ่งที่คุณเขียนลงไปออกมาดังๆ และต้องแน่ใจว่ามันฟังดูเหมือนเป็นการคุยเล่นมากกว่าจะฟังดูเวิ่นเว้อหรือโอ้อวด [22]
    • ตั้งความคาดหวังที่เป็นไปได้จริง ค่อยๆ เริ่มความสัมพันธ์ และฟังสัญชาตญาณของตัวเอง ถ้าคุณถูกใจใครผ่านทางอีเมลหรือข้อความ ก็ให้ขยับไปเป็นการคุยโทรศัพท์และนัดวันไปเดต ถึงคุณจะไม่อยากเร่งรัด แต่คุณก็ต้องพยายามสร้างความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายให้มากกว่าการส่งข้อความหากันเฉยๆ อยู่หลายสัปดาห์
    • พยายามอย่าไปคิดว่าเขาคือ “คนที่ใช่” หรือว่าคุณรู้สึกผูกพันกับเขาทันทีที่ได้คุยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนจะได้ไปเดตกันครั้งแรก เพราะคุณอาจจะเผลอคิดไปว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับคุณก่อนที่คุณจะได้พบเขาจริงๆ เสียอีก และคุณก็ควรปล่อยให้ความสัมพันธ์มันพัฒนาไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีกรอบความคิดวางไว้ล่วงหน้า [23]
  2. สร้างความมั่นใจเพื่อที่จะได้กล้าชวนใครไปเดตต่อหน้า. นอกจากเว็บไซต์หาคู่แล้ว คุณก็อาจจะได้เจอว่าที่คู่เดตที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ชมรมหรือชั้นเรียน ที่งานปาร์ตี้ หรือที่ฟิตเนส การชวนใครไปเดตอาจฟังดูน่ากลัว แต่การที่คุณรู้สึกสบายใจกับการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นในสถานการณ์ทางสังคมขั้นพื้นฐานจะช่วยให้คุณเอาชนะความเขินอายได้ [24]
    • พยายามเริ่มบทสนทนาเวลาที่คุณออกไปนอกบ้าน และพยายามชวนทั้งคนที่คุณสนใจและไม่สนใจคุย ในการเริ่มต้นบทสนทนานั้น คุณอาจจะพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ ขอคำแนะนำ หรือชมเขาก็ได้
    • พยายามสร้างกรอบความคิดที่มั่นใจมากขึ้นด้วยการพูดเชิงบวกกับตัวเอง แทนที่จะคิดว่า "ฉันเป็นคนขี้อาย ฉันชวนใครไปเดตไม่ได้หรอก" ให้บอกตัวเองว่า “บางทีฉันก็ขี้อายนะ แต่เดี๋ยวฉันก็เอาชนะมันได้”
  3. พอคุณเริ่มจะคุ้นเคยกับคนอื่นมากขึ้นแล้ว ก็ท้าตัวเองให้ชวนใครสักคนไปเดต เข้าไปพูดคุยกับเขาก่อนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ จากนั้นถ้าคุณคุยกันถูกคอ คุณก็อาจจะถามเขาว่าเขาอยากไปดื่มหรือดื่มกาแฟด้วยกันบ้างหรือเปล่า [25]
    • เช่น คุณอาจจะเห็นใครสักคนที่ร้านกาแฟถือหนังสือของนักเขียนคนโปรดของคุณ คุณอาจจะพูดทำนองว่า “ผมชอบงานของนาโบคอฟมานานมากแล้วครับ” หรือ “ผมไม่ยักรู้นะครับเนี่ยว่ายังมีคนอ่านหนังสือเป็นเล่มอยู่!”
    • ขณะที่คุยกัน คุณอาจจะถามคำถามเช่น “คุณอ่านหนังสือของเขาหลายเล่มไหมครับ คุณชอบเล่มไหน นักเขียนคนโปรดของคุณคือใคร”
    • ถ้าคุณถูกใจเขา ก็ให้ลองถามว่าเขาอยากคุยกันต่อไหม ถามแบบสบายๆ คิดเสียว่าคุณกำลังชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน บอกเขาไปว่า “ผมต้องไปทำงานแล้วครับ แต่คุยกับคุณแล้วสนุกจัง อาทิตย์นี้คุณอยากมาดื่มกาแฟและคุยกันต่อไหมครับ”
  4. เริ่มจากการเจอกันแบบสั้นๆ เช่น ไปดื่มหรือไปดื่มกาแฟด้วยกันก่อน. การเดตครั้งแรกที่ดีต้องไม่กดดัน สั้น และให้คุณกับคู่เดตได้สร้างความรู้สึกดีๆ ต่อกัน การคุยกันขณะดื่มกาแฟหรือคอกเทลช่วยให้คุณสองคนได้เริ่มสานสัมพันธ์ ซึ่งจะไม่เหมือนกับการไปเดตแบบรับประทานอาหารค่ำด้วยกันที่จะต้องเจอกับความเป็นทางการหรือความกดดัน [26]
    • ตั้งความคาดหวังที่เป็นไปได้ และพยายามอย่าตัดสินว่าเขาไม่เหมาะกับคุณแค่เพราะว่าเขาไม่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าคุณมั่นใจในทันทีว่าเขาไม่เหมาะกับคุณแน่ๆ อย่างน้อยการไปดื่มหรือดื่มกาแฟด้วยกันก็ไม่ใช่การลงทุนเวลาหรือเงินที่มากมายอะไร
  5. เดตครั้งที่ 2 และ 3 ควรเป็นเดตที่คุณได้พูดคุยกัน. ถ้าเดตครั้งแรกเป็นไปด้วยดี ก็ให้ชวนเขาไปรับประทานมื้อค่ำ ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ไปปิกนิก หรือไปสวนสัตว์ด้วยกัน การได้ทำความรู้จักกันและกันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในขั้นนี้ เพราะฉะนั้นให้เลือกกิจกรรมที่ไม่ขัดจังหวะการพูดคุย [27]
    • การเดตที่ควรเลี่ยงได้แก่การไปดูหนังและบาร์ที่เสียงดัง และถ้าจะให้ดีในจุดนี้คุณควรเลือกที่ที่คุณจะได้ใช้เวลาร่วมกันตามลำพัง เพราะฉะนั้นอย่าเลือกกิจกรรมที่ต้องไปกับเพื่อนหลายๆ คน และพยายามให้การเดตมีทั้งกิจกรรมที่คุณและเขาชอบพอๆ กัน
  6. เปิดกว้างและมองโลกในแง่ดีแทนที่จะตั้งความหวังไว้สูง. เวลาที่คุณถูกใจใครสักคน คุณอาจจะอยากฝันหวานว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน แต่แทนที่จะเขียนบทให้กับความสัมพันธ์ไว้ตั้งแต่ก่อนที่มันจะก่อตัว ให้พยายามมีความสุขกับแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะดีกว่า [28]
    • ไม่ใช่ว่าทุกความสัมพันธ์จะต้องพัฒนาไปสู่การแต่งงานหรือการอยู่เป็นคู่ชีวิตในระยะยาวเสมอไป การเดตแบบขำๆ เป็นเรื่องสนุก และมันอาจจะช่วยให้คุณรู้แน่ชัดขึ้นว่าคุณต้องการอะไรในตัวคนรัก
    • สนุกไปกับมัน และพยายามอย่ากดดันตัวเองด้วยความคาดหวังที่ตายตัว เตือนตัวเองเอาไว้ว่า ความรักมักจะเกิดขึ้นในตอนที่คุณไม่ได้คาดคิดมากที่สุด และมีแง่มุมของชีวิตอีกมากมายที่คุณไม่สามารถควบคุมได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หยุดใช้โซเชียลมีเดียที่ประณามการอยู่เป็นโสดสักพัก ถ้าคุณเจอรูปคู่รักในโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา ก็ให้ลดเวลาหน้าจอ อย่าไปเชื่อรายการทีวี หนัง หรือสื่ออื่นๆ ที่ทำให้การเป็นโสดดูเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย [29]
  • คบหากับเพื่อนที่เห็นคุณค่าของคุณและสร้างความภาคภูมิใจในตนเองขึ้นมา เลี่ยงคนที่เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์คุณอย่างไม่ไว้หน้า
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณรู้สึกหดหู่ ไม่มีกะใจจะทำกิจกรรมทั่วไป หรือรู้สึกว่าตัวเองเข้าร่วมสถานการณ์ทางสังคมไม่ได้จริงๆ การพูดคุยกับนักบำบัดอาจช่วยได้ ขอให้แพทย์อายุรกรรมแนะนำนักบำบัดให้หรือค้นหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตใกล้บ้านในอินเทอร์เน็ต [30]
โฆษณา
  1. https://www.cdc.gov/healthypets/health-benefits/index.html
  2. https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-clarity/201708/dealing-loneliness
  3. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3874845/
  4. https://www.helpguide.org/articles/relationships-communication/dealing-with-loneliness-and-shyness.htm
  5. https://www.psychologytoday.com/us/articles/200307/build-your-confidence
  6. https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-clarity/201708/dealing-loneliness
  7. https://www.psychologytoday.com/us/blog/how-be-yourself/201605/6-ways-ease-shyness-and-get-yourself-out-there
  8. https://www.helpguide.org/articles/relationships-communication/dealing-with-loneliness-and-shyness.htm
  9. https://www.healthdirect.gov.au/loneliness-isolation-mental-health
  10. https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/healthyliving/making-friends
  11. https://www.healthdirect.gov.au/loneliness-isolation-mental-health
  12. https://www.psychologytoday.com/us/blog/meet-catch-and-keep/201401/learning-love-not-fear-being-single
  13. https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-introverts-corner/201603/writing-online-dating-profile-works
  14. https://psychcentral.com/online_dating/safety.html
  15. https://psychcentral.com/lib/how-can-a-shy-adult-get-dates-without-using-online-dating/
  16. https://psychcentral.com/lib/how-can-a-shy-adult-get-dates-without-using-online-dating/
  17. https://www.psychologytoday.com/us/blog/fighting-fear/201709/strategy-dating
  18. https://www.psychologytoday.com/us/blog/fighting-fear/201309/what-do-second-or-third-date
  19. https://psychcentral.com/lib/adult-dating-from-attraction-to-commitment-part-1/2/
  20. https://www.researchgate.net/publication/228342191_Singles_in_society_and_science
  21. https://www.nimh.nih.gov/health/publications/social-anxiety-disorder-more-than-just-shyness/index.shtml

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,694 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา