ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณอยากวางขายสินค้าเพื่อที่ทุกคนจะได้รู้ว่าสินค้าของคุณยอดเยี่ยมแค่ไหนแต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะนำสินค้าออกสู่ตลาดได้อย่างไรกันนะ? ลองอ่านคำแนะนำ กลยุทธ์ และข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการวางแผนการตลาดสินค้าด้านล่างดูสิ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ออกแบบตราสินค้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าลืมออกแบบตราสินค้าให้ทันสมัยล่ะ ใครจะไปอยากเข้าร้านเสริมสวยที่ป้ายหน้าร้านเชยระเบิดหรือซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่ออกแบบได้เชยอย่างกับสมัยเพิ่งมีเว็บไซต์ใช้แรกๆ กันล่ะ
  2. อย่าออกแบบบรรจุภัณฑ์หรือตราเครื่องหมายเองเว้นเสียแต่ว่าคุณมีประสบการณ์ด้านการออกแบบและศิลปะมากพอ การสร้างตราผลิตภัณฑ์และออกแบบกราฟฟิกให้ดึงดูดใจน่ะสำคัญสุด ๆ เลยนะ ให้มืออาชีพเค้าทำน่ะดีที่สุดแล้ว จ้างกราฟฟิกดีไซเนอร์มาช่วยออกแบบซะ (โดยคุณอาจหาแบบราคาย่อมเยาได้ตามโรงเรียนสอนศิลปะในท้องถิ่น)
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Emily Hickey, MS

    ผู้ก่อตั้ง Chief Detective
    เอมิลี่ ฮิคกี้เป็นผู้ก่อตั้ง Chief Detective เอเจนซี่สื่อออนไลน์ที่ช่วยผู้ค้าปลีกหรือสตาร์ทอัปในการลงโฆษณาทางเฟสบุ๊คและอินสตราแกรม เธอทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์การเจริญเติบโตมากว่า 20 ปี และได้รับปริญญาโททางบริหารธุรกิจจากสแตนฟอร์ดในปี 2006
    Emily Hickey, MS
    ผู้ก่อตั้ง Chief Detective

    อย่าละเลยความคิดสร้างสรรค์ เอมิลี่ ฮิคกีย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเอเยนซี่วัดความเติบโตทางสื่อสังคมกล่าวว่า: "ส่วนของความคิดสร้างสรรค์ของโฆษณาของคุณนั้นเป็นส่วนที่มีความสำคัญที่สุดของกระบวนการโฆษณาทั้งหมดเลยทีเดียว นั่นหมายถึงทุกอย่างตั้งแต่ข้อความโฆษณาไปจนถึงภาพ วิดีโอ การวางตัวอักษรบนภาพ และตำแหน่งการวาง ทำทุกอย่างออกมา แล้วเรียนรู้ว่าตรงไหนที่ใช้ได้และตรงไหนที่ใช้ไม่ได้ผล"

  3. คุณต้องมีตราประจำบริษัทและตราเครื่องหมายหากตอนนี้ยังไม่มี พึงระลึกไว้ว่าตราเครื่องหมายนี้ต้องอ่านง่าย พิมพ์ง่าย จดจำได้ง่ายและใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ กราฟฟิกดีไซเนอร์ที่คุณจ้างมาน่าจะช่วยออกความคิดอะไรดีๆ ได้นะ
    • ตราเครื่องหมายที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือแบบที่ประกอบด้วยลายเส้นหนาและรูปทรงที่มีชีวิตชีวา ลองนึกถึงตราสินค้าของเป็บซี่ ไนกี้ หรือสัญลักษณ์ของเจ้ามนุษย์ค้างคาวแบทแมนดูสิ
  4. ฉลากและองค์ประกอบอื่นๆ ที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ก็ต้องออกแบบได้ดีไม่แพ้ตราเครื่องหมายเช่นกัน บรรจุภัณฑ์ต้องดึงดูดความสนใจและเหมาะสมกับสินค้าและภาพลักษณ์ของบริษัทและต้องจดจำได้ง่ายด้วย
    • สิ่งที่ควรระลึกไว้: หากคนจำชื่อผลิตภัณฑ์ไม่ได้เวลาที่ต้องการอธิบายให้คนอื่นฟัง เขาก็จะพูดอะไรเช่น “ไปที่ช่องสินค้าที่ว่างๆ ตรงนั้นแล้วก็จะเห็นวางอยู่บนชั้นเองแหละ ที่มันใส่กล่องสีม่วงๆ มีลายวนๆ สีขาวสวยๆ อ่ะ”
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เข้าถึงกลุ่มตลาดเป้าหมาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การมีเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของโลกยุคปัจจุบันเมื่อต้องการทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในตลาด เว็บไซต์จะช่วยให้คนรู้จักสินค้ามากขึ้นมากกว่าการทำการตลาดในรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งยังราคาค่อนข้างย่อมเยาและช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำการตลาดรูปแบบอื่น ๆ ที่ได้ผลดีกว่า หากคุณอยากให้เว็บไซต์ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คุณก็ต้องขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ด้วย
    • วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ได้คือการประกาศขายสินค้าใน Amazon Store และใช้ storefront widget หรือเชื่อมลิงค์มาหาเว็บไซต์ของคุณ
    • sales funnel ก็เป็นวิธีการแปลงจำนวนการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ให้กลายเป็นการซื้อขายจริงที่ได้ผล มันเหมือนกระบวนการที่จะแนะนำลูกค้าไปดูผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาน่าจะซื้อจากสินค้าที่คุณมีทั้งหมดทีละขั้น ถ้าคุณไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้แบบไหน ลองว่าจ้างคนทำการตลาดแบบดิจิตัลมืออาชีพมาช่วยคุณได้
  2. การเขียนข่าวแจกให้สื่อมวลชนอาจจะเป็นความคิดที่ดีสำหรับสินค้าบางประเภท หาสื่อที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่คุณจะขาย (เช่น เป็นสื่อที่ผู้ชมน่าจะสนใจสินค้าของคุณ) และส่งข่าวแจกไปให้เพื่อบอกว่าตอนนี้สินค้าของคุณกำลังวางขายอยู่ การทำการตลาดรูปแบบนี้ดีที่สุดสำหรับสินค้าใหม่แกะกล่องโดยเฉพาะสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่
  3. โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก คุณอาจใช้บัญชีของตัวเองเพื่อกระจายข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ (ผ่าน Twitter Facebook หรือกระทั่งเว็บไซต์ เช่น Pinterest) หรือคุณอาจโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย (เช่น ซื้อ Facebook ads หรือจ่ายเงินเพื่อให้โซเชียลมีเดียนั้น ๆ แนะนำผลิตภัณฑ์ของคุณให้แก่ผู้ใช้)
    • สินค้าส่วนใหญ่จะได้รับผลตอบรับที่ดีจาก Facebook page หรือ Facebook ads เครื่องมือทางการตลาดรูปแบบนี้อเนกประสงค์สุดๆ เลยล่ะ สร้าง Business page หรือ fanpage ให้สินค้าของคุณ หลังจากนั้นคุณอาจโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางนี้หรือลงโฆษณาผ่านระบบภายในของ Facebook ก็ได้
    • Twitter ก็เป็นเครื่องมือโฆษณาอเนกประสงค์เช่นกัน. ใช้ Twitter เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นตัวกับการขายและการพัฒนาธุรกิจของคุณ (เช่น ทวิตข้อความทำนองว่า “คุณสามารถหาซื้อสินค้าสุดเจ๋งนี้ได้ตามร้านค้าใกล้บ้านแล้ว!”) พยายามทวิตข้อความเพื่อโฆษณาสินค้าสลับกับเรื่องทั่วๆ ไปที่เกี่ยวข้องเล็กๆ น้อยๆ กับธุรกิจของคุณเพื่อที่หน้าฟีดจะได้ดูน่าสนใจสำหรับคนทั่วไป
    • สินค้าบางประเภทอาจใช้ประโยชน์จาก Pinterest เพื่อเผยแพร่สินค้าให้กลุ่มตลาดเป้าหมายรู้จักได้ เช่น หากคุณขายเสื้อผ้า คุณก็สามารถแสดงให้คนอื่นๆ เห็นได้ว่าจะแต่งตัวได้ดูดีด้วยเสื้อผ้าของคุณได้อย่างไรหรือจะนำมาปรับแต่งและแต่งออกมาอย่างไรให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือถ้าคุณขายสินค้าประเภทอาหาร คุณก็อาจจะแสดงวิธีการทำโดยพยายามโยงสินค้าของตัวเองเข้ามาเกี่ยวด้วยก็ยังได้
  4. เครื่องมือทางการตลาดที่ยอดเยี่ยมอีกประเภทคือการลงแบนเนอร์โฆษณาในอินเตอร์เน็ต โฆษณาเหล่านี้จะปรากฏขึ้นในเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานมีคุณสมบัติและงบประมาณเข้าเกณฑ์สินค้าของคุณและจะช่วยให้มีคนเข้าไปชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นด้วยซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณรับรู้ได้ว่าสินค้าที่คุณขายนั้นน่าตื่นใจอย่างไรนั่นเอง
    • ใช้บริการที่น่าเชื่อถือได้เพื่อลงโฆษณาในอินเตอร์เน็ต เช่น Project Wonderful หรือพูดคุยกับเจ้าของเว็บไซต์ในท้องถิ่นหากกลุ่มเป้าหมายของสินค้าเป็นคนในท้องถิ่น
  5. ถ้าคุณมีเว็บไซต์แล้ว ลองทำการตลาดผ่านทางอีเมล์ดูสิ เขียนอีเมล์ดีๆ ส่งไปหาผู้คนว่าทำไมถึงควรมีสินค้าของคุณในครอบครอง จะหาซื้อได้ที่ไหน และอย่าลืมมีทีเด็ด(เช่น การลดราคา)ไว้ดึงดูดลูกค้าด้วยล่ะ สิ่งที่ต้องจำไว้คืออย่าทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอีเมล์ที่ส่งมาเหมือนอีเมล์ขยะเด็ดขาด!
    • เก็บรวบรวมอีเมล์ของลูกค้าในช่วงลดราคาสินค้าทั้งเก่าและใหม่ ซื้ออีเมล์จากผู้ให้บริการที่ไว้ใจได้หรือติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่อาจสนใจในสินค้าและสามารถช่วยโฆษณาสินค้าให้ได้หากเกิดความพึงพอใจ
  6. ผู้คนชอบความรู้สึกเวลาได้จับจ่ายสินค้าในราคาประหยัด ดังนั้น ลองใช้คูปองดิจิตัลเพื่อดึงดูดลูกค้าดู โดยคุณอาจใช้โค้ด หรือให้ลูกค้าพิมพ์คูปองลดราคาเพื่อนำมาใช้ที่ร้าน หรือใช้ดิจิตัลคิวอาร์โค้ดซึ่งสามารถแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือและใช้โทรศัพท์มือถือสแกนได้
  7. คุณอาจใช้วิธีแบบดั้งเดิมเพื่อทำให้คนรู้จักสินค้าด้วยก็ได้ วิธีเหล่านี้จะช่วยโฆษณาและทำให้คนในท้องถิ่นรู้จักสินค้าของคุณได้ดีที่สุดเชียวล่ะ โดยโฆษณาของคุณต้องเข้าใจง่าย ดึงดูดความสนใจ และมีทีเด็ดที่ดึงลูกค้าให้มาซื้อสินค้าได้ คุณอาจแจกใบปลิวและแผ่นพับหรือแปะไว้ตามจุดประกาศต่าง ๆ ที่จัดสรรไว้ (เช่น หน้าต่างร้านค้า) ทั้งนี้ คุณอาจส่งแผ่นพับและโปสการ์ดไปตามบ้านต่างๆ ที่อยู่ในท้องถิ่นของคุณก็ได้
  8. คุณอาจโฆษณาสินค้าลงสื่อสิ่งพิมพ์ท้องถิ่นด้วยก็ได้ เช่น คุณอาจซื้อพื้นที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ อาทิ สมุดโทรศัพท์หรือคู่มือแนะนำการซื้อบ้านและที่ดิน การโฆษณารูปแบบนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย คุณแค่ต้องติดต่อฝ่ายโฆษณาของบริษัทที่ตีพิมพ์สื่อที่คุณสนใจเท่านั้นเอง
  9. ถ้าคุณมีเงินมากพอที่จะผลิตโฆษณาโทรทัศน์และนำโฆษณาออกฉายที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นได้ สินค้าของคุณอาจจะเป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างมากขึ้น แต่หากคุณไม่มีเงินลงทุนมากพอ โฆษณาของคุณอาจได้ออกฉายแค่ตามช่องท้องถิ่นหรือออกอากาศในช่วงกลางวัน ดังนั้น ใช้วิธีการโฆษณารูปแบบนี้ก็ต่อเมื่อคุณแน่ใจว่าโฆษณาจะเข้าถึงกลุ่มคนที่จะสนใจซื้อสินค้าของคุณเท่านั้น
    โฆษณา


วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ขยายธุรกิจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับกลุ่มตลาดเป้าหมาย โดยคุณอาจหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหรือที่ห้องสมุดหรืออาจจะทำการทดลองด้วยการทำโพลสำรวจกลุ่มตลาดเป้าหมายของคุณหรือแจกตัวอย่างสินค้าเพื่อให้คนลองใช้และให้ความเห็นดูก็ได้
    • อย่าลืมคิดว่าใครคือกลุ่มตลาดเป้าหมายของคุณ โดยข้อมูลสถิติเกี่ยวกับประชากรที่คุณต้องพิจารณาได้แก่ อายุ เพศ ระดับการศึกษา ที่อยู่ ความสนใจ กลุ่มชาติพันธุ์ และความหลากหลายทางเพศ
  2. เมื่อคุณได้รับความเห็นจากผู้ทดลองใช้สินค้าและมีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มตลาดเป้าหมายมากขึ้นแล้ว คุณอาจปรับปรุงส่วนที่จำเป็นของสินค้าเพื่อให้สินค้าสมบูรณ์แบบพร้อมรองรับตลาด
    • จำไว้เสมอว่าถึงความเห็นได้ที่รับจากผู้ทดลองใช้จะแตกต่างกันไป แต่ถ้าหลายคนให้คำวิจารณ์บางอย่างตรงกันเกี่ยวกับตัวสินค้า สินค้านั้นอาจมีข้อผิดพลาดจริงๆ และคุณควรใส่ใจแก้ไขนะ
  3. ลองคิดดูว่าคุณต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่เพื่อทำการตลาดสินค้าในช่วงแรก งบประมาณนี้จะเป็นตัวบอกว่าคุณควรใช้เครื่องมือทางการตลาดประเภทใดและอาจบอกได้ว่ากลยุทธ์ใดเหมาะสมกับการทำการตลาดสินค้า
  4. คุณต้องกำหนดว่าจะขายสินค้าจำนวนเท่าไหร่และราคาเท่าไหร่เพื่อที่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่น เรื่องนี้สำคัญสุดๆ เลยนะ การรักษาสมดุลเรื่องนี้ให้ได้เป็นเรื่องยากและอาจต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อยเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสม
  5. คุณต้องเขียนแผนการขายออกมาและระบุลำดับเวลาการขาย ความต้องการของกลุ่มตลาดเป้าหมาย ระดับความสำคัญ จุดมุ่งหมาย ความท้าทาย หนทางขยายธุรกิจใหม่ และวิธีการขยายธุรกิจที่มีอยู่แล้ว แผนการขายเป็นเรื่องสำคัญมากหากคุณต้องการให้นักลงทุนสนใจในสินค้าของคุณ
  6. มีวิธีมากมายที่คุณสามารถเลือกสรรเพื่อทำการตลาดสินค้าหรือเข้าถึงกลุ่มตลาดเป้าหมายและเรียนรู้แง่มุมที่น่าสนใจของกลุ่มคนเหล่านั้นที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการตลาด กลวิธีเหล่านี้อาจนำคุณไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายหรืออาจช่วยนำคุณไปสู่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ [1]
    • พิจารณากลวิธีการตลาดเพื่อจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม การวางแผนการตลาดแบบนี้จะให้ความสนใจและมุ่งเข้าหาเฉพาะกลุ่มตลาดเป้าหมายเท่านั้น โดยสินค้าที่มักทำการตลาดรูปแบบนี้ได้แก่สินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งต้องทำการตลาดกับประชากรเฉพาะกลุ่ม แต่การทำการตลาดแบบนี้ก็สามารถนำไปใช้กับสินค้าประเภทอื่นได้เช่นกัน
    • พิจารณากลวิธีการตลาดแบบไม่แบ่งแยกเป้าหมาย การวางแผนการตลาดแบบนี้จะให้ความสนใจและมุ่งเข้าหากลุ่มเป้าหมายเกือบทุกเพศทุกวัย การทำการตลาดรูปแบบนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อสินค้าของคุณเป็นประโยชน์หรือดึงดูดความสนใจของคนหมู่มาก โดยปกติแล้ว การทำการตลาดรูปแบบนี้มักใช้สื่อทางการตลาดแบบดั้งเดิม อาทิ โฆษณาโทรทัศน์ โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา เป็นต้น
    • พิจารณากลวิธีการตลาดแบบแบ่งแยกกลุ่มลูกค้า การวางแผนการตลาดแบบนี้เหมาะสมหากคุณมีสินค้าหลายระดับและต้องการให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น คุณอาจตั้งราคาสินค้าโดยมุ่งดึงดูดลูกค้าที่มีงบประมาณจำกัดซึ่งอาจมองหาสินค้าที่ราคาถูกกว่าสินค้าที่คู่แข่งของคุณขาย โดยคุณอาจวางขายสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดในท้องถิ่น
  7. แจกตัวอย่างสินค้า สินค้าสำหรับทดลองใช้ หรือลดราคาสินค้าที่เพิ่งวางขายเพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้สึกอยากซื้อสินค้า โดยคุณอาจแจกตัวอย่างสินค้าที่หน้าร้านหรือติดต่อเจ้าของธุรกิจรายอื่นเพื่อขอฝากสินค้าไว้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ และยังมีวิธีการอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถทำได้ ขั้นตอนนี้จะช่วยสร้างรากฐานให้กับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นของคุณซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากเชียวล่ะ
    • ตรวจสอบประสิทธิภาพของกลวิธีทางการตลาดของคุณอย่างต่อเนื่องขณะเริ่มดำเนินธุรกิจในขั้นแรกเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกวิธีการเข้าถึงกลุ่มตลาดเป้าหมายได้อย่างถูกต้องแล้ว
  8. เมื่อคุณวัดความสำเร็จได้ประมาณหนึ่งแล้วและรู้สึกว่าสินค้ามีความพร้อมมากพอ คุณอาจขยายตลาดด้วยการวางขายสินค้าในร้านค้าปลีกใหญ่ๆ โดยคุณต้องคิดว่าคุณจะนำสินค้าไปวางที่ไหน (เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ) การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะร้านค้าอาจไม่อยากรับวางสินค้าของคุณหากรู้สึกว่าคุณไม่สามารถผลิตสินค้าในปริมาณมากได้ [2]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การเข้าถึงอารมณ์ลูกค้าเป็นการทำการตลาดที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่งเลย ค้นหาอารมณ์ที่เหมาะสมกับการทำการตลาด เช่น ความรู้สึกดีๆ ยามได้ใช้เวลาอยู่กับครอบคัว และออกแบบแผนการตลาดที่สอดคล้องกับความรู้สึกนี้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ายึดติดกับความคิดของตัวเองมากเกินไป ลูกค้าอาจมีความคิดที่ดีกว่าคุณก็ได้และถ้าคุณไม่ปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า ธุรกิจของคุณก็อาจล้มเหลวได้ ดู Xbox One จาก Microsoft ไว้เป็นบทเรียนซะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,160 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา