PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองแก่ผู้เริ่มต้นนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานชีวิต ระดับประสบการณ์แบบไหนมาก็ตาม คุณจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ท้าทายเมื่อสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สอง เช่นเดียวกับการสอนวิชาอื่นๆ คุณจะพบว่านักเรียนมีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกัน ขึ้นอยู่กับภาษาแม่ของนักเรียนแต่ละคน คุณจะได้พบกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นกับภาษาเหล่านั้นเสมอ อย่างไรก็ตาม ด้วยการฝึกฝนและความรู้ คุณจะสามารถเพิ่มทักษะที่คุณต้องใช้เพื่อสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองแก่ผู้เริ่มต้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

สอนพื้นฐาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งแรกที่คุณต้องเริ่มสอนคือตัวอักษรและตัวเลข คุณจะต้องสร้างพื้นฐานให้กับทุกสิ่งที่นักเรียนจะต้องเรียนให้แน่นก่อน
    • สอนตัวอักษรและตัวเลขจนถึงจุดๆ หนึ่ง เช่น คุณสามารถเริ่มที่ตัว "a" และไปจบถึงตัว "m" ก่อนก็ได้ ให้สอนตัวอักษรในจุดที่ทั้งคู่สบายใจ จุดมุ่งหมายคือเพื่อผลักดันนักเรียนแต่ไม่กดดันจนมากเกินไป
    • ถามนักเรียนเพื่อเรียนตัวเลข เช่นเดียวกับตัวอักษร ให้เริ่มสอนและหยุดโดยขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเรียน พิจารณทำเอกสารที่ช่วยให้นักเรียนฝึกเขียนตัวอักษรและตัวเลข
    • ใช้บัตรคำที่มีคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรแต่ละตัวเพื่อเสริมสร้างการเรียนการสอนของคุณ
    • การเรียนรู้ตัวอักษรนั้นอาจจะง่ายสำหรับผู้พูดที่ภาษาแม่ใช้ตัวอักษรละตินหรือภาษาอังกฤษ
  2. การสอนการออกเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สอง พิจารณามุ่งเน้นไปที่เสียงที่ออกได้ยากการออกเสียงภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สอง เช่น :
    • เสียง "TH" (เช่นคำว่า "theater" หรือ "thing") ไม่มีในระบบการออกเสียงของหลายๆ ภาษา ดังนั้นจึงเป็นเสียงที่ออกได้ยากสำหรับนักเรียนกลุ่ม ESL (เช่นคนที่มีพื้นฐานมาจากภาษา Romance หรือ Slavic)
    • เสียง The "R" เป็นเสียงที่ออกได้ยากสำหรับนักเรียนกลุ่ม ESL ด้วยหลายเหตุผลด้วยกัน รวมไปถึงความแตกต่างของการออกเสียงตามแต่ละภูมิภาคอีกด้วย
    • เสียง "L" เป็นเสียงที่นักเรียนกลุ่ม ESL ออกเสียงได้ยาก โดยเฉพาะคนที่มาจากแถบเอเชียตะวันออก ดังนั้น ใช้เวลาสอนการออกเสียงนี้ให้มาก [1]
  3. หลังจากที่สอนตัวอักษรและตัวเลข ให้เริ่มสอนคำนาม การสอนคำนามจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่นักเรียนจะเรียนรู้ เพราะว่านักเรียนจะสามารถหยิบสิ่งรอบตัวมาเป็นโอกาสในการเรียนรู้ได้
    • เริ่มต้นด้วยคำทั่วไปในชั้นเรียน
    • เปลี่ยนไปเป็นสิ่งของที่อยู่ในเมือง ตัวอย่างที่ดีก็คือ car house tree road และอื่นๆ อีกมากมาย
    • เปลี่ยนไปเป็นสิ่งของที่นักเรียนจะต้องเจอในชีวิตประจำวัน เช่น food electronics และอื่นๆ [2]
  4. ขั้นตอนถัดไปหลังจากสอนคำนามก็คือคำกริยาและคำวิเศษณ์ การสอนคำกริยาและคำวิเศษณ์จะเป็นก้าวใหญ่ในการสอนให้นักเรียนรวมคำเข้าด้วยกันให้เป็นประโยค (ภาษาพูดหรือภาษาเขียน)
    • คำวิเศษณ์เปลี่ยนหรืออธิบายคำอื่น ตัวอย่างของคำวิเศษณ์ที่คุณจะสอนก็คือ wild silly troubled และ agreeable.
    • คำกริยาอธิบายการกระทำ ตัวอย่างของคำกริยาที่คุณจะสอนมีคำว่า to speak to talk และ to pronounce.
    • คุณจะต้องดูให้ดีว่านักเรียนของคุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างคำกริยาและคำวิเศษณ์ หากไม่รู้วิธีใช้คำเหล่านี้ นักเรียนของคุณจะไม่สามารถพูดหรือสร้างประโยคได้
    • ใช้เวลาเพิ่มเติมในการสอนคำกริยาผัน. คำว่า "go" เป็นตัวอย่างที่ดีของกริยาผันรูป โดยรูปอดีตของคำว่า "go" คือ "went" และรูปอดีตสัมพันธ์ของคำว่า "go" คือ "gone" [3]
  5. หลังจากที่คุณได้สอนคำนาม คำกริยา และคำวิเศษณ์แล้ว คุณต้องเริ่มสอนเรื่องกาลและคำนำหน้านามให้กับนักเรียน หากนักเรียนไม่เข้าใจวิธีใช้กาลที่เหมาะสมและตำแหน่งที่ใช้คำนำหน้านาม นักเรียนก็จะไม่สามารถสร้างประโยคขึ้นมาได้
    • กาล (Tense) ใช้อธิบายช่วงเวลาที่เหตุการณ์นั้นเกิดหรืออุบัติขึ้น อย่าลืมอธิบายเหตุการณ์ในอดีต (Past Tense) ปัจจุบัน (Present Tense) และอนาคต (Future Tense)
    • คำนำหน้านามเป็นคำวิเศษณ์ที่ให้ข้อมูลคำนามเพิ่มเติม โดยมีคำว่า a an และ the
    • ดูให้ดีว่านักเรียนได้เชี่ยวชาญด้านกาลและคำนำหน้านามแล้ว เพราะพวกเขาจะได้ใช้ความสามารถสูงสุดในการสร้างประโยคเพื่อพูดอย่างเหมาะสมได้ [4]
  6. วิธีที่ดีมากๆ ในการสอนภาษาอังกฤษคือการกระตุ้นให้นักเรียนฝึกฝนและใช้ประโยคทั่วไป วิธีนี้สำคัญมาก เพราะนักเรียนจะไม่เข้าใจความหมายของประโยคทั่วไปหลายๆ ประโยคที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้
    • คุณควรจะบอกให้นักเรียนใช้ประโยคเหล่านั้นซ้ำ (หรือใช้จริง) จนกว่าจะรู้สึกเคยชินกับการใช้ในการสนทนา
    • เริ่มต้นด้วยประโยคทั่วๆ ไป เช่น “never mind” “no doubt” หรือ “make believe.”
    • ทำรายการประโยคทั่วไปให้นักเรียนใช้และคิด [5]
  7. หลังจากที่คุณสอนตัวอักษร คำกริยา และอื่นๆ ข้างต้นไปแล้ว คุณควรจะเริ่มสอนนักเรียนเกี่ยวกับพื้นฐานการสร้างประโยค ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยสร้างพื้นฐานให้กับความสามารถในการเขียนของนักเรียน นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการอ่านอีกด้วย ให้สอนรูปแบบหลักของการสร้างประโยคทั้ง 5 แบบ:
    • ประโยคประธานและกริยา ประโยคเหล่านี้ต้องมีประธานที่ตามด้วยคำกริยา ตัวอย่างเช่น “The Dog runs."
    • ประธาน กริยา กรรม. ประโยคเหล่านี้ต้องมีประธานเป็นอันดับแรก ตามด้วยคำกริยา ซึ่งจะต้องตามด้วยกรรม ยกตัวอย่างเช่น "John eats pizza."
    • ประธาน กริยา คำวิเศษณ์ ประโยคเหล่านี้ต้องมีประธานเป็นอันดับแรก ตามด้วยกริยา และตามด้วยคำวิเศษณ์ ยกตัวอย่างเช่น "The puppy is cute."
    • ประธาน กริยา กริยาวิเศษณ์ ประโยคนี้ต้องมีประธาน คำกริยา และตามด้วยคำวิเศษณ์ ยกตัวอย่างเช่น "The lion is there."
    • ประธาน กริยา นาม ประโยคนี้ต้องมีประธาน กริยา และจบด้วยคำนาม ยกตัวอย่างเช่น "Emmanuel is a philosopher." [6]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ซึมซับการฝึกฝนที่ดีที่สุด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. กระตุ้นนักเรียนให้พูดแต่ภาษาอังกฤษในห้องเรียน. วิธีที่ดีในการส่งเสริมการสอนคือการส่งเสริมนักเรียนให้เลี่ยงการพูดภาษาอื่นในชั้นเรียน วิธีที่จะบังคับให้นักเรียนใช้ความรู้ภาษาอังกฤษของตนเองและพัฒนาความสามารถในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเวลาสอนให้กับครูและเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กับนักเรียน
    • วิธีนี้ใช้ดีที่สุดเมื่อนักเรียนได้เรียนพื้นฐานแล้ว (คำถามทั่วไป การทักทาย ตัวอักษร และตัวเลข)
    • เมื่อนักเรียนใช้ภาษาอังกฤษผิด ให้แก้ให้ถูกด้วยวิธีที่เหมาะสม
    • คอยกระตุ้นอยู่เสมอ
    • วิธีที่ใช้ดีกับวิธีการสอนแบบ “พูดตาม” และ/หรือ “ถามตอบ” ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างประโยคหรือถามคำถามกับนักเรียน การทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตอบเป็นภาษาอังกฤษได้
    • หลีกเลี่ยงการเป็น “ผู้เข้มงวดภาษา” ถ้านักเรียนมีปัญหาและต้องการพูดด้วยภาษาแม่ อย่าไปว่าพวกเขา ฟังพวกเขา [7]
  2. เมื่อกำลังอธิบายกิจกรรมหรือสอนเกี่ยวกับการทำการบ้าน งานในชั้น หรือโครงงาน คุณควรจะแนะนำผ่านภาษพูดและภาษาเขียน การแนะนำทั้งสองแบบจะช่วยให้นักเรียนได้ยินคำและเห็นในกระดาษในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ของคำและการออกเสียง
    • พิมพ์แนวทางในการทำกิจกรรมและแจกจ่ายให้กับนักเรียนก่อนที่คุณจะอธิบายกิจกรรม ถ้าคุณกำลังสอนผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งอีเมล์แนวทางให้กับนักเรียนก่อนที่คุณจะอธิบายผ่านวีดิโอ [8]
  3. ไม่ว่ารูปแบบการเรียนจะเป็นอย่างไรหรือกิจกรรมที่นักเรียนต้องทำคือแบบไหน การติดตามนักเรียนจะช่วยให้คุณเห็นพัฒนาและค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อนักเรียนติดขัด
    • ถ้าคุณกำลังสอนในชั้นเรียน ให้เดินรอบๆ และพูดคุยกับนักเรียนเพื่อดูว่าพวกเขามีปัญหาหรือเปล่า
    • ถ้าคุณกำลังสอนผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งข้อความหรืออีเมล์ไปยังนักเรียนและลองถามว่ามีปัญหาหรือไม่
    • พยายามมีเวลาว่างให้มากที่สุดในระหว่างสอน เมื่อนักเรียนกำลังทำกิจกรรมในชั้นเรียนหรือกิจกรรมอื่นๆ [9]
  4. การสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองสำหรับผู้เริ่มต้นนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความหลากหลายในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะนักเรียกแต่ละคนก็แตกต่างกันไป และเรียนรู้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป
  5. เมื่อคุณต้องสอนผู้เริ่มต้นหรือนักเรียกที่เด็กมากๆ ให้แบ่งการเรียนการสอนออกเป็นส่วนเล็กๆ ครั้งละ 10 นาที การแบ่งการเรียนการสอนออกเป็นส่วนๆ จะช่วยให้แน่ใจได้ว่านักเรียนของคุณยังไม่เสียสมาธิการคุณ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยให้คุณไม่กดดันนักเรียกมากเกินไป
    • คุณไม่จำเป็นต้องรักษาเวลาที่ 10 นาทีพอดี อย่ากังวลที่จะเพิ่มเวลานิดหน่อยถ้าช่วยได้
    • หลังจากการสอนส่วนเล็กในแต่ละครั้ง ให้เปลี่ยนการเรียนการสอนเป็นรูปแบบอื่น การทำแบบนี้จะช่วยพักสมองและให้เด็กกลับมามีสมาธิใหม่ได้
    • เปลี่ยนการเรียนการสอนทุกวัน พยายามใช้วิธีการสอนให้หลากหลายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อรักษาสมาธิของเด็กและท้าทายเด็กเหล่านั้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เกมจะช่วยให้นักเรียนเรียกรู้ภาษาอังกฤษด้วยการทำให้เป็นเรื่องสนุก และด้วยการบังคับให้พวกเขาคิดวิธีเรียนรู้ใหม่ๆ ที่แตกต่าง
    • ลองใช้เกมเสี่ยงภัยที่ใช้ระบบคะแนนเพื่อให้นักเรียนแข่งขันกัน
    • พิจารณาเกมประเภทบาดหมางภายในถ้าคุณต้องการให้นักเรียนทำกิจกรรมร่วมกัน
    • พยายามจดจำหรือเดาเกมที่ต้องใช้บัตรคำ ยกตัวอย่างเช่น แสดงบัตรคำด้วยคำใบ้และดูว่านักเรียนของคุณสามารถดำคำตอบที่ถูกต้องได้ [11] [12]
  2. วิธีที่สำคัญที่สุดในการสอนภาษาคือใช้ภาพเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของคำศัพท์ ด้วยการใช้ภาพเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคำ นักเรียนจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับคำศัพท์ใหม่ที่ได้เรียนรู้มาได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ลองพิจารณา:
  3. เสริมสร้างการใช้แอพพลิเคชั่นเรียนภาษาบนโทรศัพท์มือถือ. วิธีที่ดีอย่างมากในการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองนั้นคือการใช้แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน แอพพลิเคชั่นภาษาเป้าหมายเป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างสิ่งที่คุณได้สอนระหว่างการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี เพราะนักเรียนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในการฝึกฝนทักษะภาษาและเรียนรู้ประโยคและคำใหม่ๆ
    • แอพพลิเคชั่นสอนภาษามีให้ใช้มากมายบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการต่างๆ
    • ยังมีแอพพลิเคชั่นสอนภาษาที่หลากหลาย สามารถใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น Duolingo
    • แอพพลิเคชั่นบางตัวจะเพิ่มโอกาสให้นักเรียนหลายคนเรียนรู้ร่วมกันได้ [14]
  4. สื่อสังคมออนไลน์เป็นวิธีที่ดีอย่างมากในการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองสำหรับมือใหม่ สื่อสังคมออนไลน์จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้สอนประโยคที่ใช้พูดและคำศัพท์ใช้บ่อย นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสให้นักเรียนได้สำรวจการใช้คำและฝึกฝนใช้สิ่งที่ได้เรียนมาได้
    • ลองใช้การสอน “สำนวนประจำวัน” ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถเลือกสำนวนหรือประโยคใช้พูด และอธิบายสำนวนเหล่านั้นในชั้นเรียนของคุณ
    • ให้นักเรียนติดตามบุคคลที่มีชื่อเสียงบนทวิตเตอร์และแปลทวิตเหล่านั้น
    • ตั้งกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์และให้นักเรียนแบ่งปันข่าวและอธิบายหรือแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อสอนพวกเขา [15]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พิจารณาเข้ารับการฝึกสอน แม้ว่าจะเป็นการฝึกเพียงสัปดาห์สั้นๆ หรือเป็นเดือนๆ การฝึกจะช่วยให้คุณมีพื้นฐานที่แน่นขึ้นและช่วยให้มีแนวคิดหรือเทคนิคในด้านนี้มากขึ้น โครงการเหล่านั้นมีให้คุณได้เข้าร่วมได้หลากหลายทั่วโลก
  • เตรียมตัวอยู่เสมอด้วยการหาแหล่งข้อมูลที่เพียงพอเพื่อใช้ในชั้นเรียน
  • หาอุปกรณ์เสริมทั้งหมดสำหรับเตรียมสอนไว้ล่วงหน้าและเพื่อใช้ระหว่างการเรียนการสอน หาอุปกรณ์เพิ่มเติมสำรองไว้เสมอในกรณีที่คุณต้องใช้ ในบางกรณี คุณอาจจะใช้อุปกรณ์นั้นเสร็จเร็วกว่าที่เรากำหนด อุปกรณ์เสริมบางอย่างอาจจะมีไม่ได้ทำให้เด็กสนใจมากนัก และการเสียเวลา 10 นาทีกับสิ่งเหล่านี้ก็นานเกินไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,464 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา