ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ใครใช้คอมเป็นประจำต้องเคยเจอบางวัน ที่อยู่ๆ คอมหรือแล็ปท็อปก็บูทไม่ขึ้นซะงั้น อาการนี้อาจเป็นสัญญาณบอกความเสียหายที่ร้ายแรงกว่า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเล็กๆ ที่แก้ไขได้เอง บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแก้ปัญหาคอมบูทไม่ขึ้นให้คุณเอง ทั้ง Windows และ Mac เลย
ขั้นตอน
-
เช็ค power supply. และเช็คให้แน่ใจว่าคอมเสียบปลั๊กแน่นหนาแล้วเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญช่างซ่อมคอมพิวเตอร์และเจ้าของ Pleasure Point Computersลุยจิ ออปปิโดเป็นเจ้าของและผู้จัดการของ Pleasure Point Computers ในซานตาครูซ แคลิฟอร์เนีย เขามีประสบการณ์ซ่อมคอมพิวเตอร์ กู้คืนข้อมูล กำจัดไวรัส และอัพเกรดคอมพิวเตอร์มากว่า 16 ปี เขาภาคภูมิใจในการให้บริการลูกค้าและการตั้งราคาอย่างโปร่งใสของตน
ผู้เชี่ยวชาญของเราเห็นด้วยว่า: ก่อนอื่น คุณต้องดูว่าเสียบปลั๊กคอมพิวเตอร์ไว้หรือเปล่า ดูแสงไฟที่เครื่องหรือถอดสายปลั๊กออก แล้วตรวจสอบกับอย่างอื่นที่มีแสงให้แน่ใจว่ากระแสไฟยังแล่นอยู่ คอมพิวเตอร์ก็เหมือนรถยนต์ที่พอไม่มีน้ำมันก็แล่นไม่ได้
-
ปิดคอม. เช็คว่าสายไฟและปลั๊กต่างๆ เสียบถูกที่และแน่นหนาดี
-
รอ 10 วินาทีขึ้นไป. เพื่อให้เวลา capacitors หรือตัวเก็บประจุของคอมคายประจุจนหมด ที่ต้องรอหลายวินาทีหน่อยก็เพื่อให้แน่ใจว่าคอมดับสนิทดี
-
เปิดคอมกลับมา. หลังให้เวลาคอมได้ดับสนิท ไม่เหลือไฟจริงๆโฆษณา
-
ปิดคอมอีกรอบ.
-
ผ่านไป 2 นาทีค่อยรีสตาร์ท.
-
เลือกตัวเลือกการบูทเครื่อง.
- ถ้ามีโลโก้ “Windows” โผล่ขึ้นมาที่หน้าจอ แล้วถามว่าจะเลือกบูทเครื่องจากอุปกรณ์ไหน ก็ต้องอ่านให้ละเอียดแล้วเลือกให้ถูกต้อง
-
รีสตาร์ทเข้า Safe Mode. กด F8 ตอนเครื่องกำลังรีสตาร์ท เพื่อเข้า Safe Mode
-
ถอนการติดตั้งโปรแกรมใหม่. ให้ถอนการติดตั้งโปรแกรมหรือไดรฟ์เวอร์ใหม่ที่เพิ่งลงหรืออัพเดทไปไม่นาน เพราะอาจเป็นต้นเหตุทำคอมค้าง
-
เปิดคอมอีกรอบ คราวนี้เข้า BIOS. ต้องหาสาเหตุของความผิดปกติให้ได้ อย่างถ้าเพิ่ง overclock คอมไป ก็ต้องปรับ FSB และ vCore ลงเป็น stock levels
- เสร็จแล้วให้คลิก “Exit and save changes”
-
เปิดเคสคอม. ไขเฉพาะน็อตหลังเคส ปกติจะอยู่ตามขอบนอก
- จับส่วนที่เป็นโลหะของเคสคอมไว้ ก่อนลงมือแตะต้องชิ้นส่วนไหนในเคสคอม จะได้ป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิต ที่ทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เสียหายได้เลย
-
ถอดและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ.
- ถอด memory card, การ์ดจอ (graphics card) และสายไฟต่างๆ ที่เสียบอยู่กับ pin ของ CPU (Central Processing Unit)
- ถอดแบตแถวด้านล่างของเมนบอร์ด ปกติจะอยู่ในช่องเล็กๆ ของตัวเอง และมีสลักให้ปลดล็อค
- รอ 1 - 2 นาที
- ประกอบแต่ละชิ้นส่วนคืน
-
เสียบปลั๊กคอม. เปิดคอมอีกรอบ
- ก่อนจะทำขั้นตอน 7 และ 8 ต้องแน่ใจก่อนว่าคุณเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์พอ ไม่งั้นอาจเสียหายหนักกว่าเดิม
-
ให้ช่างซ่อม. ถ้ากลัวทำคอมพังหนักกว่าเดิม หรือทำตามขั้นตอนแล้วไม่ได้ผล ก็ยกไปให้ร้านซ่อมคอมจะดีกว่า พยายามอธิบายให้ละเอียด ว่าคอมมีปัญหายังไง แล้วปล่อยเป็นหน้าที่ของช่างเขาไปโฆษณา
-
เช็ค power supply.
-
เช็คที่ชาร์จแล็ปท็อป. เช็คว่าใช้ที่ชาร์จถูกอัน หรือเป็นที่ชาร์จสำหรับแล็ปท็อปรุ่นนั้น
- ปกติแล็ปท็อปต้องใช้ที่ชาร์จแบบ 16 - 20V ถ้ากำลังไฟต่างไปอาจแรงไม่พอชาร์จแล็ปท็อป
-
ทดสอบชาร์จด้วยสายอื่น. จะได้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดปัญหาเพราะที่ชาร์จปัจจุบันเสีย
-
เช็คว่าแบตเหลือไหม. แบตของแล็ปท็อปต้องมีไฟค้างอยู่บ้าง
- ถ้าแบตใกล้หมด ให้รีบเสียบชาร์จทันที
-
ปิดเครื่อง.
-
รอ 1 - 2 นาที. แล้วรีสตาร์ท
-
ปลดอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปออกให้หมด. พวกอุปกรณ์ external ที่ต้องเอามาเสียบต่อ ต้องถอดให้หมด เช่น หน้าจอ กล้อง และอื่นๆ เพื่อเช็คให้ชัวร์ว่าไม่มีอุปกรณ์ไหนเป็นสาเหตุทำแล็ปท็อปบูทไม่ขึ้น
-
เช็คว่าหน้าจอใช้การได้ดี. เช็คว่าหน้าจอของแล็ปท็อปใช้ได้ตามปกติ ถ้าไฟ power ที่เป็น LED ของแล็ปท็อปยังติดอยู่ และได้ยินเสียงฮาร์ดดิสก์หรือพัดลมหมุนอยู่ แต่ภาพไม่ขึ้นในหน้าจอ เพราะบางทีปัญหาอาจเกิดที่หน้าจอ
- บางที inverter ของหน้าจอก็เสีย เลยทำให้จอมีปัญหา แบบนี้ให้เปลี่ยน inverter ใหม่
- หาจออื่นมาเสียบทดสอบกับแล็ปท็อป โดยเสียบจอ เปิดแล็ปท็อป แล้วปิดฝาทันที ถ้า external monitor หรือจอแยกนี้เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปไม่ได้ แสดงว่าไม่ได้เป็นที่หน้าจอแล้ว
-
ให้ช่างซ่อม. ถ้ากลัวทำแล็ปท็อปพังหนักกว่าเดิม หรือทำตามขั้นตอนแล้วไม่ได้ผล ก็ยกไปให้ร้านซ่อมคอมจะดีกว่า พยายามอธิบายให้ละเอียด ว่าแล็ปท็อปมีปัญหายังไง แล้วปล่อยเป็นหน้าที่ของช่างเขาไปโฆษณา
-
เช็ค power supply. เช็คว่าใช้สายไฟและ adaptor ถูกต้องแล้ว
-
ปลดอุปกรณ์เสริมที่เสียบไว้ออกให้หมด.
-
เช็คโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่เพิ่งติดตั้งไป. เช็คให้ชัวร์ว่าติดตั้งหรืออัพเดทโปรแกรมและ/หรือไดรฟ์เวอร์ใหม่ถูกต้องแล้ว
-
เช็คว่าหน้าจอใช้การได้ดี. ถ้า Mac เปิดเครื่องได้แต่ภาพไม่ขึ้นในหน้าจอ ปัญหามักเกิดจากหน้าจอหรือไดรฟ์เวอร์ของหน้าจอ
-
เปิด Disk Utility. ถ้าใช้ Mac เวอร์ชั่น OS X 10.8 Mountain Lion หรือใหม่กว่า ต้องบูทเข้า OS X Recovery Mode
- ปิดเครื่อง
- ถ้าระบบไม่ตอบสนอง ให้กดปุ่ม power ค้างไว้ 2 - 3 วินาที Mac จะปิดเครื่องอัตโนมัติ
- กดปุ่ม Command กับ R ค้างไว้ เพื่อเปิดเครื่อง
- คลิกฮาร์ดไดรฟ์หลักของ Mac ใน Disk Utility
- คลิก “Verify Disk” แล้วรอจนระบบตรวจสอบเสร็จ
-
Safe Boot เครื่อง Mac. ปิดแล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ โดยที่กดปุ่ม Shift ค้างไว้
- ถ้ากด Shift, Command และ V ค้างไว้ จะเปิดทั้ง Safe Boot และ Verbose Mode ซึ่งจะแสดงแต่ละขั้นตอนการทำงานของ Safe Boot
-
รีเซ็ต SMC. ถ้าไม่ได้ผลสักอย่าง ก็คงต้องรีเซ็ต SMC (System Management Controller) ของ Mac ใน หน้านี้ ของ Apple จะมีขั้นตอนโดยละเอียดให้ดู
-
ติดตั้ง Mac OS X ใหม่.
- บูทเข้า Recovery Mode แล้วคลิกติดตั้ง Mavericks
- จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฏจนเสร็จสิ้น
-
ให้ช่างซ่อม. ถ้ากลัวทำคอมพังหนักกว่าเดิม หรือทำตามขั้นตอนแล้วไม่ได้ผล ก็ยกไปให้ร้านซ่อมคอมจะดีกว่า พยายามอธิบายให้ละเอียด ว่าคอมมีปัญหายังไง แล้วปล่อยเป็นหน้าที่ของช่างเขาไปโฆษณา
เคล็ดลับ
- ก่อนจะแตะต้องชิ้นส่วนต่างๆ ในเคสคอม ต้อง ground หรือต่อสายดิน (ป้องกันไฟฟ้าสถิต) ให้ตัวเองก่อน เพราะไฟฟ้าสถิตแค่นิดเดียวทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เสียได้เลย
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ไขควงปากแฉก (ถ้าต้องถอดเคสคอมซ่อมชิ้นส่วนข้างใน)
- สายรัดข้อมือป้องกันไฟฟ้าสถิต (ไม่จำเป็น)
ข้อมูลอ้างอิง
- http://www.newegg.com (เว็บเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่ครบเครื่องที่สุด)
- http://www.xoxideforums.com (สอบถามในเว็บบอร์ดได้เลย)
- http://www.quickconnect.com/troubleshooter/
โฆษณา
