ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถึงจะเป็นเด็กเรียนแค่ไหน แต่ยอมรับมาเถอะว่าบางวิชาก็น่าเบื่อชวนหลับเหลือเกิน ไม่ว่าคุณหรือครูอาจารย์จะพยายามกันแค่ไหนก็ตาม อาจเพราะเป็นวิชาไม่ถูกจริต หรือเป็นวิชาที่รู้สึกว่าไม่ค่อยสำคัญ ถ้าคาบหนึ่งมันผ่านไปช้าเหลือเกิน เรามีวิธีแก้เบื่อมาฝากกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำเรื่องมีประโยชน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียกว่า "อู้อย่างสร้างสรรค์" แถมพอเลิกเรียนก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้เลย
    • ครูส่วนใหญ่คงไม่ดีใจเท่าไหร่ที่คุณจดจ่อกับวิชาอื่นแทน เพราะงั้นให้สงวนไว้ใช้เฉพาะตอนเบื่อจนแทบหลับจริงๆ
    • นั่งกลางๆ หรือหลังห้องไปเลย อย่าเสี่ยงตายด้วยการนั่งหน้าห้อง
    • ครูเดินผ่านมาเมื่อไหร่รีบเก็บการบ้านวิชาอื่นให้ไว
  2. มีตารางเวลาที่ชัดเจนช่วยให้จัดลำดับความสำคัญสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ แถมแก้เบื่อได้ดี ครูมองมาก็นึกว่า โห ตั้งใจจดใหญ่เลย [1]
    • เขียนมันหลายๆ ลิสต์ เช่น กลับบ้านไปต้องค้นข้อมูลไหนในเน็ตบ้าง หรือเดือนนี้มีวันเกิดใคร จะให้ของขวัญอะไร ไม่ก็ไล่รายชื่อสิ่งที่คุณชอบ 10 อันดับในหมวดหมู่ต่างๆ (เช่น ดารา ซีรีส์ ของกิน หรือเพลง เป็นต้น) เป็นกิจกรรมที่เพลินจนลืมเวลา แถมได้รู้จักตัวเองดีขึ้นอีกต่างหาก
      • เขียนเนื้อของเพลงที่ชอบออกมาสัก 5 เพลง หรือคำคมกินใจจากหนังสือ กระทั่งชื่อพระเอกซีรีส์โปรด รู้ตัวอีกทีก็หมดคาบซะแล้ว
    • ทำลิสต์เป้าหมายชีวิต ไปจนถึงโปรเจ็คต์และงานหรือการบ้านต่างๆ ที่ต้องทำ จะได้เห็นภาพว่านอกเวลาเรียนควรใช้เวลายังไง [2]
    • เขียนตารางสิ่งที่ต้องทำเวอร์ชั่นหลุดโลก ประมาณว่า วันจันทร์: เดินสายพบปะแฟนๆ, วันอังคาร: บินไปจิบน้ำชายามบ่ายที่อังกฤษ, วันพุธ: ไปสปาทำหน้านวดตัว, วันพฤหัสบดี: กินบุฟเฟ่ต์สามร้านสามมื้อ, วันศุกร์: นอนให้ได้ 12 ชั่วโมงขึ้นไป
      • แค่คิดว่าครูจะทำหน้ายังไงถ้าเห็นลิสต์หลุดโลกของคุณก็สนุกแล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ทำเรื่องสนุกๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นั่งฟังครูสอนไปพลาง (แอบ) อมลูกอมไปพลาง อร่อยเพลินอย่าบอกใคร
    • ถ้าเป็นโรงเรียนประถมหรือมัธยมมักห้ามกินขนมหรืออาหารในห้องเรียน เพราะงั้นคงต้องใช้วิจารณญาณในการกิน
    • ถ้าป๊อดหน่อยก็อมไปเรื่อยๆ แต่ถ้าชอบอะไรท้าทายก็เคี้ยวด้วย แต่เราไม่รับรองความปลอดภัย
    • ครูเผลอเมื่อไหร่ค่อยแกะใส่ปาก
    • อย่าทำหน้าเอ็นจอยนัก อมไปนิ่งๆ แหละดี ไม่งั้นเดี๋ยวถูกจับได้!
  2. ขีดเขียนหรือวาดรูปเล่นในสมุดหรือส่วนสำหรับจดโน้ต. จะใช้สมุดเปล่า สมุดฉีก หรือเศษกระดาษอะไรก็ได้ นอกจากฆ่าเวลาได้ดีแล้ว ยังอาจทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ฝึกการวาดการเขียนอีกต่างหาก [3]
    • จดทุกอย่างในกระดานลงสมุด ทำให้หายง่วงได้ดี แถมมีอะไรไปอ่านเตรียมสอบ
    • ถ้าจะวาดรูปเล่น ให้นั่งค่อนมาทางหลังห้องหน่อย แล้วเอียงสมุดตั้งขึ้น ครูจะได้นึกว่ากำลังจดเลคเชอร์
    • วาดอะไรก็ได้ไปมั่วๆ จะสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม เส้นยึกยือต่างๆ ครูบางคนเขาก็รู้ว่ามีคนใจลอย แต่ขอแค่ไม่รบกวนการสอนเป็นพอ
    • สบตากับครูบ้าง อย่าเอาแต่ก้มหน้าก้มตา จะได้ดูเหมือนตั้งใจเรียน
  3. เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง หรือกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง. นี่ก็เป็นอีกวิธีฆ่าเวลาแบบเงียบๆ ดีไม่ดีอาจปิ๊งใครในห้องไม่รู้ตัว
    • ไหนๆ ก็สำรวจเพื่อนแล้ว นับดูในใจซะเลย ว่ามีสาวผมยาวกี่คน ผมสั้นกี่คน หรือจะนับสาวแว่นด้วยก็ได้
    • เล่นบิงโกกับเพื่อนโต๊ะข้างๆ ใช้ของหรือคนในห้องเรียนแทนเลข ได้ฝึกการสังเกตไปในตัว [4]
    • ใจลอยไปเลย แต่พยายามจับประโยคสุดท้ายที่ครูพูดให้ได้ เผื่อถูกถามขึ้นมา
  4. ปฏิเสธไม่ได้ว่าสนุกกว่าหนังสือเรียนเยอะ จะแอบอ่านใต้โต๊ะ หรืออ่านแบบสอดไส้ก็ตามสะดวก
    • เลือกแมกกาซีนหรือนิยายที่เล่มเล็กหรือพอๆ กับหนังสือเรียน
    • ซ่อนแมกกาซีนหรือนิยาย (สอดไส้) ในหนังสือเรียน แล้วอ่านตามสบาย
    • นานๆ ทีก็เหลือบมองกระดานบ้าง เพราะมัวแต่อิน ปรากฏครูมายืนอ่านด้วยไม่รู้ตัว
    • ชิงซ่อนแมกกาซีนหรือนิยายแบบเนียนๆ ก่อนถูกจับได้
  5. ไม่รบกวนเพื่อนก็จริง แต่ไม่ถูกใจครูแน่นอน วิธีนี้จะรอดคงต้องแล้วแต่เทคนิคเฉพาะตัว
    • ยึดที่มั่นหลังห้อง ถ้าหลังเพื่อนร่างใหญ่ได้ยิ่งดี
    • ตั้งหนังสือเป็นเกราะกำบัง
    • หาเพื่อนคู่ใจไว้คอยดูต้นทาง
    • ถ้าพลาดถูกจับได้ขึ้นมา ก็ทำเนียนไปว่าปวดหัวไมเกรน หรือขอไปห้องพยาบาลซะเลย
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำเรื่องท้าทาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บอกเลยว่าตามสถิติ นักเรียน 9 ใน 10 คนน่ะแอบแชทกับเพื่อนในห้องเรียนทั้งนั้น [5] แต่เดี๋ยวนี้ครูเองก็มีกรุ๊ปไลน์ไว้แชทกับนักเรียนเหมือนกัน (แต่เรื่องเรียนทั้งนั้นนะ)
    • วางมือถือไว้ใกล้ตัว จะในกระเป๋าหรือใต้โต๊ะก็แล้วแต่ แต่อย่าให้ครูจับได้เชียว
    • เปิดโหมด silent ไปเลย เพราะถ้าเปิดสั่นคนก็ยังได้ยินอยู่ดี (มือถือส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้)
    • แชทแบบมองกระดานเป็นระยะ
    • มองไปทางครูบ่อยๆ แต่อย่าจ้องเขม็งจนน่าสงสัย
  2. ก็แชทกันแบบคลาสสิคไง กว่าจะเขียน วาดรูปประกอบ แล้วฝากส่งกันไปมาระหว่างโต๊ะ รู้ตัวอีกทีก็หมดคาบ
    • หาเศษกระดาษมาสักแผ่น จะฉีกจากสมุดหรือใช้สมุดฉีกเลยก็ได้
    • เขียนข้อความ วางกระดาษไว้ในสมุด จะได้ดูเหมือนกำลังจดเลคเชอร์
    • เขียนสั้นๆ พอ อย่าถึงกับเป็นจดหมาย
    • หลบครูให้ดีๆ
    • พับเล็กๆ จ่าหน้าด้วยว่าส่งถึงใคร
    • ส่งต่อไปตามโต๊ะจนถึงเป้าหมาย
    • ทำมองไปทางอื่น แต่ใจนี่รอคำตอบจดจ่อ!
    • หัดใช้รหัสมอร์ส (Morse code) ซะเลย จะได้ยิ่งลึกลับน่าตื่นเต้น
  3. ไม่ต้องพูดสักแอะ สนุกไปอีกแบบ
    • แต่อย่ายกไม้ยกมือสูงนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นดึงดูดความสนใจของครูแทน
  4. ศาสตร์การพับกระดาษแบบญี่ปุ่นนอกจากทำให้มือไม่ว่างแล้ว ยังมีอะไรให้จดจ่อในวิชาแสนน่าเบื่อ กลายเป็นฝึกสมาธิไปในตัว! [6]
    • เรียนรู้พื้นฐานการพับ [7]
    • เริ่มจากแบบง่ายๆ แต่สนุกก่อน เช่น พับหมาหรือแมว [8]
    • อย่าจดๆ จ้องๆ มากเกินไปเวลาพับ พยายามมองกระดานกับครูเป็นระยะ อย่าให้ผิดสังเกต
    • พับได้แต่หูฟังด้วย จะได้ไม่พลาดเวลาอยู่ๆ ครูเรียกถาม ง่ายสุดคือทวนคำหรือประโยคสุดท้ายของครู อย่างน้อยถ้าผิดก็เหมือนฟังอยู่
    • พับเนียนๆ อย่าให้มีเสียงกระดาษดังกรอบแกรบ
    • พับเป็นรูปสัตว์น่ารักๆ ไปให้คนที่แอบปิ๊ง หรือให้ครูเป็นการไถ่โทษซะเลย! (ถ้าถูกจับได้)
    • ถ้าพับเชี่ยวชาญเมื่อไหร่ ลองพับกระดาษทายใจดู (แบบที่เอามือสอดเข้าไปขยับไปมา) แล้วเอามาเล่นกับเพื่อนให้สนุกซะเลย! [9]
  5. เหรียญเล็กๆ ธรรมดาแต่เล่นได้หลายแบบ อย่างน้อยก็ทำให้คุณ (และเพื่อนๆ) เพลินลืมเวลาได้
    • หาเศษตังค์ได้กระเป๋ามา ถ้าใหญ่ก็หมุนง่ายหน่อย เช่น เหรียญ 10 แต่จริงๆ จะเหรียญอะไรก็ได้
    • ตั้งเหรียญด้วยนิ้วชี้ขวา แล้วหมุนด้วยนิ้วชี้ซ้าย
    • ลองหมุนดูหลายๆ แบบ เช่น ใช้นิ้วชี้ขวา นิ้วโป้ง หรือหมุนบนฝ่ามือ [10]
  6. นอกจากสนุก มือไม่ว่าง แล้วยังทำเพื่อนทึ่งได้อีกด้วย
    • เลือกดินสอที่บาลานซ์ง่าย แท่งกลมๆ เนียนๆ [11]
    • ศึกษาจากคลิปก่อนแล้วค่อยไปฝึกควงในห้องเรียน จะได้ไม่เสียเวลานั่งงง [12]
    • เริ่มจากทรงตัวหรือบาลานซ์ดินสอไว้บนนิ้วให้ได้ก่อน แล้วค่อยขยับขยายไปใช้เทคนิคแพรวพราว
    • ควงดินสอตอนครูไม่ทันสังเกต เพราะตอนฝึกใหม่ๆ นี่จะหล่นง่ายมาก
  7. จะเกมมือถือหรือเครื่อง hand held พกพาก็ตามสะดวก [13]
    • ชาร์จมาซะให้เต็ม ถ้าอยู่ๆ แบตหมดกลางเกม (หรือกลางคาบ) นี่เซ็งแย่เลย
    • จะเล่นออนไลน์หลายๆ คนก็ได้ (ชวนเพื่อนมาเล่นด้วย) แต่ถ้าชอบเล่นคนเดียวก็ไม่ถือว่าผิด
    • เลือกเกมที่อยากเล่นแล้วเตรียมมาในคาบให้พร้อม
    • อย่าลืมปิดเสียง
    • ซ่อนเครื่องเกมหรือมือถือในหนังสือเรียน หรือเล่นใต้โต๊ะ แต่ระวังก้มนานจะปวดคอ
  8. เล่นมินิสเก็ตบอร์ด พกสะดวก แถมสนุกได้ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม!.
    • ใส่มินิสเก็ตบอร์ดมาในกระเป๋ากางเกง หรือในแฟ้มก็แล้วแต่
    • เอาปากกากับหนังสือทำทางลาด ถ้ารวมกับเครื่องเขียนอื่นๆ เดี๋ยวก็ได้เป็นลานสเก็ตจิ๋ว
    • เอามาไถเล่นบนสมุดหรือแฟ้ม จะได้ไม่เสียงดังเหมือนกระแทกกับโต๊ะ
    • คอยสังเกตครูให้ดี แล้วรีบหยิบใส่กระเป๋าก่อนถูกจับได้
    • จองที่หลังห้อง เอาแบบติดผนังได้ยิ่งดี
    • ใช้หูฟังแบบ in-ear [14] จะได้ซ่อนเข้าไปในหู ไม่โผล่มาให้เห็น
    • ใส่หูฟังข้างเดียวเพราะเกิดอะไรขึ้นจะซ่อนง่ายกว่า แถมเหลือหูไว้ฟังครูเป็นระยะ
    • ซ่อนสายหูฟังไว้ในเสื้อ หรือเอาผมปิด ไม่ก็ใช้หูฟังไร้สายไปเลย
    • ทำเป็นเท้าคาง จะได้ปิดหูฟัง
    • อย่าเปิดเสียงดัง ไม่งั้นเพลงจะลอดออกมาจนเพื่อนหรือครูได้ยิน
  9. ได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ แถมมีอะไรทำจนหมดคาบ
    • เตรียมกระดาษหรือสมุดเผื่อไว้ ใช้สมุดของโรงเรียนได้ยิ่งดี จะได้ทำเนียนเป็นสมุดจดงานไป
    • เริ่มจากออกแบบตัวละคร แต่งโครงเรื่อง แล้วต่อยอดไปเป็นเรื่องราว
    • เขียนบทพร้อมออกแบบระบบการต่อสู้
    • เขียนอธิบายการเล่น ประมาณว่าเป็นคู่มือให้คนอื่น
  10. แป๊บเดียวก็เบื่อ แต่ก็ได้ฝึกฝีมือด้านศิลปะ แต่ระวังเรื่องสารเคมีด้วยนะ!
    • เลือกสีที่ชอบ ออกแบบตามใจชอบเลย จะวาดลาย หรือตกแต่งเพิ่มไปจากสีพื้นธรรมดาก็ได้
    • ใช้กระดาษรองมือไว้แผ่นหนึ่งก่อน ไม่ให้สมุดหรือหนังสือเรียนเลอะเทอะ
    • ค่อยๆ ทาเล็บไปตามสีที่เลือก
    • ใช้สีเมจิกหรือลิควิดทาจากในออกนอก
    • โบกมือใต้โต๊ะให้เล็บแห้ง อย่าทำผิดสังเกตนัก
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ดึงสติให้จดจ่อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฟังครูพูดปุ๊บจะได้เข้าใจ ทำให้เรียนสนุกขึ้นอีกเยอะ
    • อ่านประมวลรายวิชาหรือชีทที่เป็นสไลด์ power-point ที่ครูแจก เพราะใช้เช็คได้เลยว่าต้องส่งรายงานหรือสอบเมื่อไหร่ จะได้เตรียมตัวถูก
    • อ่านหนังสือแล้วจดโน้ตสรุป
    • สงสัยตรงไหนให้จดแยกออกมาถามครูในห้อง
  2. ดื่มกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนอื่นๆ ก่อนเข้าเรียน. จะได้ตื่นตัว
    • ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยไม่ค่อยมีปัญหา แต่มัธยมส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้เอาน้ำหรือขนมมากินในห้องเรียน แบบนั้นก็ต้องดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้อง
    • ต้องดื่มคาเฟอีนแค่ไหนถึงจะตื่นตัว อันนี้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน ระวังอย่าดื่มเยอะเกินไป เดี๋ยวจะใจสั่นแทน [15]
    • ถ้าจะดื่มกาแฟ ให้ดื่มอย่างน้อย 10 นาทีก่อนเข้าเรียน นั่นคือเร็วที่สุดที่คาเฟอีนจะออกฤทธิ์ และจะตื่นตัวขึ้นเรื่อยๆ หลังดื่มไปได้ 30 - 45 นาที [16]
  3. ถึงจะน่าเบื่อแค่ไหน ถ้าตั้งใจเรียนในห้อง จะประหยัดเวลาทำการบ้านและอ่านหนังสือ แถมไม่ต้องมานั่งเสียใจเพราะสอบตก
    • พยายามจดเลคเชอร์ให้ได้มากที่สุด
    • ใช้ปากกากับกระดาษน่ารักๆ จะได้ดึงดูดใจให้น่าเรียนขึ้น
    • จดเลคเชอร์อย่างมีระบบ ไม่ต้องจดแบบคำต่อคำ (เพราะทำได้ยาก) ถ้าจดเป็นข้อๆ ไปจะง่ายกว่า วาดรูปประกอบเล็กๆ น้อย [17] ก็ช่วยให้จำได้ง่ายขึ้น แถมเพลินจนลืมเวลา
  4. จะหมดคาบเร็วขึ้นถ้าคุณจดจ่ออยู่กับเนื้อหา
    • ถามครูเรื่องเนื้อหาที่ต้องอ่าน รวมถึงเรื่องที่สงสัย ครูจะได้รู้ว่าคุณตั้งใจ และรู้ว่าตัวเองสอนเป็นยังไง ถ้าเด็กไม่เข้าใจเยอะๆ ครูจะได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนต่อไป [18]
    • ไม่ผิดที่จะคิดต่าง แต่ต้องโต้แย้งอย่างสุภาพและใช้เหตุผลไม่ใช่อารมณ์ ถึงสุดท้ายแล้วแนวคิดของคุณจะตกไป แต่อย่างน้อยก็ได้ฝึกการแสดงความคิดเห็น แถมเป็นการฝึกสมาธิ รู้ตัวอีกทีก็หมดคาบแล้ว [19]
    • อาสาช่วยงานกลุ่มหรือติวให้เพื่อน ไม่มีใครเพอร์เฟ็คต์ เพื่อนจะเห็นน้ำใจ แถมเป็นโอกาสให้ตัวเองได้ทบทวน คะแนนอาจดีขึ้นก็ได้ [20]
    • สบตากับครูตอนพูดและฟัง ครูจะได้เห็นความตั้งใจ แถมสังเกตสีหน้าคุณได้ ว่าไม่เข้าใจตรงไหน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าเขียนเรื่องส่วนตัวในสมุดจดงาน เกิดลืมตัวให้เพื่อนยืมไปอ่าน ได้แพร่สะพัดแน่
  • เอาเนื้อหาน่าเบื่อมาใส่ทำนองหรือทำเป็นแร็พซะเลย แต่อย่าเผลอร้องตอนทวนความจำในห้องสอบนะ!
  • ถ้าถูกครูจับได้ โดนยึดมือถือหรือเครื่องเกมแน่ เพราะงั้นถ้าคิดจะเสี่ยงก็ต้องระวังตัวให้ดี
  • เวลาเหรียญ ดินสอ และอื่นๆ ตกกระทบโต๊ะแล้วเสียงจะดังน่ารำคาญ หาอะไรมาปูรองไว้ก่อนก็ดี
  • ครูบางคนก็ใจดี เห็นแหละว่าคุณเหม่อหรือแอบเล่นเกม แต่ก็แค่เตือนบ้างด้วยความเอ็นดู
  • ระวังถูกจับได้คาหนังคาเขาตอนเล่นเกม ให้ซ่อนเครื่องไว้ในหนังสือและอื่นๆ เสมอ
  • ตอนส่งเศษกระดาษที่เขียนข้อความหากัน ระวังเพื่อนข้างๆ เห็น ถ้าไม่สนิทกันอาจถูกฟ้องครูได้
  • วาดรูปเล่นแล้วคอยเหลือบดูครูเป็นระยะด้วย
  • ถ้าถูกจับได้ว่าแอบงีบ ให้บอกว่าปวดหัว (หนุ่ม/สาวแว่นจะพูดแล้วฟังขึ้นอีกเท่าตัว)
  • ถ้าไม่อยากเสี่ยง ก็จดเลคเชอร์ พยายามคิดตาม แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็นั่งฟังครูไปสบายๆ นั่นแหละ
  • อย่าห่ามนัก เพราะลงท้ายเรื่องจะถึงพ่อแม่ผู้ปกครองเอา
  • วิธีสุดท้ายคือนั่งเหม่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยซะเลย แต่อย่าเผลอหลุดปากพูดอะไรแปลกๆ ออกมาล่ะ
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคิดอะไรหรือเล่นอะไรขำๆ จนหลุดหัวเราะ ต้องแก้ตัวให้น่าเชื่อถือ อย่ายืนกรานอย่างเดียวว่าไม่รู้ ไม่ได้ทำ
  • ถ้าส่งข้อความในเศษกระดาษต่อๆ กัน อย่าเขียนอะไรล่อแหลม เป็นส่วนตัว หรือนินทาว่าร้ายใคร เพราะครูหลายคนจับได้เป็นอ่านประจานหน้าห้องลูกเดียว
  • อย่าหลับในห้องเรียนจนติดเป็นนิสัย เพราะครูต้องจับได้สักวัน
  • อย่าดื่มกาแฟเยอะเกินไป ทีนี้ก็ใจสั่นนั่งไม่ติดกันพอดี
  • ถ้าครูจับได้ว่าทำการบ้านวิชาอื่น ระวังถูกยึดทั้งการบ้านและฟ้องครูวิชานั้น
  • จะทำวิธีไหนก็ตามในบทความนี้ ต้องเตรียมใจโดนลงโทษไว้ด้วย
  • ใจลอยหรือหาอะไรทำฆ่าเวลาบ่อยๆ ระวังเรียนไม่รู้เรื่องจนเกรดตก
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,632 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา