ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ปกติเครือข่าย หรือ networks ก็จะแตกแยกย่อยออกเป็น subnetworks อีก เพื่อให้รับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็วและจัดการง่ายยิ่งขึ้น เราเตอร์จะทำแบบที่ว่าโดยกำหนด subnet mask คือเลขที่ใช้บอกว่า subnetwork อยู่ที่ไหนใน IP address [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ส่วนใหญ่คุณหา subnet mask ในคอมได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์อื่นก็จะยากขึ้นอีกหน่อย ถ้ามีเหตุให้ต้องใส่ subnet mask เมื่อไหร่ ก็ใช้ที่เจอในคอมได้เลย
ขั้นตอน
-
คลิกไอคอน "System Preferences" ใน dock. ถ้าไม่เจอไอคอน ให้คลิกโลโก้ Apple ซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเลือก "System Preferences"
-
คลิกไอคอน "Network". ถ้าใช้ Mac OS X เวอร์ชั่นใหม่ๆ ในหน้าต่าง "System Preferences" จะมีไอคอน Network เป็นลูกกลมๆ สีเทา ถ้าไม่มี ให้พิมพ์ Network ในแถบค้นหาทางขวาบนของหน้าต่าง System Preferences
-
เลือก Internet connection ในรายชื่อทางซ้าย. คลิกชื่อที่มีจุดสีเขียวข้างๆ และมีคำว่า "Connected" ข้างใต้
-
คลิก "Advanced" ถ้าใช้ WiFi. ปกติจะอยู่ทางขวาล่าง ใน network connections อื่นๆ จะมี Subnet Mask ขึ้นอยู่ทางขวาของหน้าจอ
-
เลือก tab TCP/IP ในหน้าต่าง "Advanced". TCP/IP ของ Mac จะมีวิธีสื่อสาร (communication method) ไว้เชื่อมต่อเครือข่าย
-
หา subnet mask. จะเขียนว่า "Subnet Mask" ชัดเจน และเริ่มต้นด้วย 255
- ถ้าเลขเดียวที่เห็นอยู่ครึ่งล่างของหน้าจอ ใต้ "Configure IPv6" แสดงว่าใช้ local network เฉพาะ IPv6 แบบนี้ไม่มี subnet mask ถ้าจะต่อเน็ตต้องเลือก "Using DHCP" จากเมนู "Configure IPv4" ที่ขยายลงมา แล้วกด Renew DHCP Lease
โฆษณา
-
เปิด Command Prompt. กดปุ่ม Windows กับ R พร้อมกัน เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Prompt
- ถ้าไม่ได้ผล ให้คลิกปุ่ม Start หรือโลโก้ Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ พิมพ์ "command prompt" ในแถบค้นหา แล้วดับเบิลคลิกไอคอนที่โผล่มา อาจจะต้องกด Search ก่อน ถึงจะเจอแถบค้นหา
- ถ้าไม่มีไอคอนโผล่มาที่มุมซ้ายล่าง ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่มุมขวาล่างก่อน แล้วลากขึ้นบน ถ้าเป็น touch screen ก็ให้ปัดหน้าจอจากทางขวา
-
พิมพ์คำสั่ง ipconfig. พิมพ์คำว่า ipconfig /all แบบเป๊ะๆ อย่าลืมเว้นวรรคด้วย จากนั้นกด ↵ Enter Windows ipconfig เป็นโปรแกรมที่จะติดตามการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งหมด เป็นคำสั่งใช้เรียกรายชื่อที่มีข้อมูลทั้งหมดของเครือข่ายขึ้นมา
-
หา subnet mask. ในหัวข้อ "Ethernet adapter Local Area Connection" ให้มองหาบรรทัดที่ขึ้นต้นด้วย "Subnet Mask" แล้วไล่หา subnet mask [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เลข subnet mask ส่วนใหญ่จะเริ่มด้วย 255 เช่น 255.255.255.0
-
ดูใน Control Panel แทน. วิธีอื่นในการหา subnet mask คือ
- เข้า Control Panel → Network & Internet → Network and Sharing Center
- ใน Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ ให้คลิก "Change adapter settings" ทางซ้าย ถ้าใช้ Windows Vista ให้คลิก "Manage Network Connections" แทน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คลิกขวาที่ "Local Area Connection" แล้วเลือก "Status" คลิก "Details" ในหน้าต่างที่เปิดมา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง สุดท้ายมองหา subnet mask
โฆษณา
-
ใช้ subnet mark เดียวกับคอม. เวลาตั้งค่า smart TV หรืออุปกรณ์อื่นๆ บางทีก็มีให้ใส่ subnet mask หรือก็คือเลขประจำ local network ทางที่ดีให้ทำตามขั้นตอนที่ผ่านมา เพื่อหา subnet mask ของคอม เอามาใช้ด้วยกันได้
- ถ้าอุปกรณ์ยังต่อเน็ตไม่ได้ ก็ให้เปิดข้อมูลในคอมไว้ แล้วเอามาใช้ตอนตั้งค่าอุปกรณ์
- ถ้าไม่เจอข้อมูลนี้ในคอม ให้ลองใส่ว่า 255.255.255.0 เพราะเป็น subnet mask ที่เน็ตบ้านมักใช้กัน
-
เปลี่ยน IP address. ถ้าอุปกรณ์ยังไม่ยอมต่อเน็ตอีก ให้เช็ค IP address ที่อยู่ในหน้าจอเดียวกับที่ตั้งค่า subnet mask ลองเทียบ IP address กับคอมดู จะอยู่ตรงที่เจอ subnet mask ของคอมนั่นแหละ เจอแล้วให้ copy IP address ของคอม ยกเว้นเลขหลังจุดสุดท้าย แล้วใส่เลขที่สูงกว่า ขอแค่ไม่เกิน 254 แต่อย่างน้อยให้ใส่ 10 เพราะเลขใกล้เคียงอาจจะมีอุปกรณ์อื่นใช้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
- เช่น ถ้า IP address ของคอมคือ 192.168.1.3 ก็ให้ตั้ง IP address ของอุปกรณ์เป็น 192.168.1.100
- ถ้าหา IP address ของคอมไม่เจอ ให้เช็คป้ายติดเราเตอร์ หรือเอายี่ห้อเราเตอร์กับ "IP address" ไปค้นในเน็ต แล้วเปลี่ยนเลขชุดสุดท้าย
- ถ้าหาข้อมูลไม่เจอจริงๆ ให้ลองใส่ 192.168.1.100 หรือ 192.168.0.100 หรือ 192.168.10.100 ไม่ก็ 192.168.2.100
-
ตั้ง Gateway. โดนให้เป็นค่า Gateway เดียวกับคอม หรือก็คือ IP address ของเราเตอร์นั่นเอง ปกติก็ (เกือบ) จะเป็นอันเดียวกับ IP address ของเราเตอร์อยู่แล้ว เว้นแต่มี 1 แทนเลขชุดสุดท้าย
- เช่น ถ้าอุปกรณ์ไหนในเครือข่ายใช้ IP address ว่า 192.168.1.3 ก็ให้ตั้ง Gateway เป็น 192.168.1.1
- ในเบราว์เซอร์ ให้พิมพ์ http:// ตามด้วยค่านี้ ถ้าตั้ง gateway ถูกแล้ว จะเจอข้อมูลของเราเตอร์
-
ตั้งค่า DNS. ให้ใช้ DNS setting เดียวกับคอม หรือค่าเดียวกับที่ใส่ใต้ Gateway หรือค้น "public DNS" ในเน็ตเพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติม
-
สอบถามผู้ผลิต. ถ้าอุปกรณ์ยังต่อเน็ตไม่ได้ ทั้งที่ตั้ง settings แล้ว ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิคของค่ายเจ้าของอุปกรณ์โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้า subnet mask เป็นศูนย์หมด (0.0.0.0) แสดงว่าไม่มีสัญญาณเน็ตที่ใช้ได้
- subnet mask จะโผล่มาใน adapter ที่ใช้งานอยู่ เช่น ถ้าใช้การ์ด Wi-Fi (wireless card) เลข subnet mask จะอยู่ใต้การ์ดนั้น แต่ถ้ามีมากกว่าหนึ่ง adapter เช่น wireless card และ network card ก็ต้องเลื่อนขึ้นหรือลงจนเจอช่องนั้น
- เครือข่ายเฉพาะ IPv6 จะไม่มี subnet mask เป็น subnet ID ใน IP address แทน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เลขชุดที่ 4 ที่แบ่งด้วย colon (:) ก็คือ subnet (หรือเลขฐานสอง 49 – 64)
โฆษณา
คำเตือน
- เปลี่ยน subnet mask แล้วอาจกลายเป็นตัดเน็ตได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.cisco.com/c/en/us/support/docs/ip/routing-information-protocol-rip/13788-3.html
- ↑ http://www.labnol.org/internet/find-subnet-mask/25410/
- ↑ https://kb.iu.edu/d/ahsb
- ↑ http://www.sevenforums.com/tutorials/108982-ip-address-locate-find-your-computer.html
- ↑ http://web.mit.edu/rama/www/IP_tools.htm# linux
- ↑ http://www.techrepublic.com/blog/10-things/10-things-you-should-know-about-ipv6-addressing/
โฆษณา