ไฟล์ Dynamic Link Library หรือไฟล์ DLL เป็นโค้ดดั้งเดิมในการเขียนโปรแกรมของ Windows ไฟล์พวกนี้ใช้เพิ่มฟังก์ชั่นและ library ให้โปรแกรมต่างๆ โดยไม่ต้องฝังไปในโปรแกรมนั้นๆ ส่วนใหญ่หลายโปรแกรมจะใช้ไฟล์ DLL ร่วมกัน สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไฟล์ DLL ก็คือไฟล์ที่ทำงานเงียบๆ อยู่ที่เบื้องหลัง เราก็ใช้คอมไปโดยไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับไฟล์นี้ แต่บางกรณีคุณอาจต้องลงทะเบียน DLL ก่อน โปรแกรมที่ติดตั้งไปถึงจะใช้งานได้ตามปกติ ถ้าคุณสนใจเรื่องการเขียนโค้ด ให้ลองศึกษาดูเรื่องส่วนประกอบของไฟล์ DLL จะได้ประโยชน์มากทีเดียว
ขั้นตอน
-
ไฟล์ DLL คืออะไร. ไฟล์ DLL (dynamic link library) เป็นไฟล์ของ Windows ที่โปรแกรมต่างๆ ใช้เรียกฟังก์ชั่นบางอย่างที่มีอยู่ พูดง่ายๆ คือไฟล์นี้ทำให้ Windows กับโปรแกรมต่างๆ ใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นติดมาแต่แรก
- ไฟล์ DLL นั้นเป็นโค้ดที่สำคัญสำหรับ Windows เป็นไฟล์ที่จะทำให้โปรแกรมต่างๆ ทำงานไหลลื่น มีประสิทธิภาพขึ้นอีกเยอะ
-
ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ทั่วไป ก็ไม่ต้องไปเปิดหรือทำอะไรกับไฟล์ DLL. สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไฟล์ DLL จะทำงานเงียบๆ อยู่ที่เบื้องหลัง โปรแกรมต่างๆ จะติดตั้งและเรียกใช้ไฟล์พวกนี้เองอัตโนมัติ ถ้าคุณไปยุ่งหรือเคลื่อนย้ายไฟล์ ระวังระบบจะเกิดปัญหา
- บางทีระหว่างติดตั้งโปรแกรมที่ผู้ใช้ด้วยกันเป็นคนพัฒนา อาจจะมีให้คุณติดตั้งไฟล์ DLL ลงตำแหน่งต่างๆ ในคอม. ต้องแน่ใจก่อนว่าโปรแกรมนั้นเชื่อถือได้ แล้วค่อยทำไปตามขั้นตอน เพราะไฟล์ DLL ที่อันตรายก็มี
- ถ้าสนใจหาความรู้เพิ่มเติมเรื่ององค์ประกอบของไฟล์ DLL ให้เลื่อนลงไปอ่านวิธีการถัดไป
-
ลงทะเบียนไฟล์ DLL ใหม่. ถ้าคุณต้อง copy ไฟล์ DLL ลงโฟลเดอร์ในคอมเอง โปรแกรมถึงจะใช้งานได้ ก็ต้อง register หรือลงทะเบียนไฟล์ใน Windows Registry ก่อน ลองศึกษาคู่มือของโปรแกรมดูถ้าต้องทำขั้นตอนนี้เอง (เพราะปกติโปรแกรมทั่วไปของ Windows คุณไม่ต้องทำเอง) [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิด Command Prompt จากในเมนู Start หรือกดปุ่ม Windows + R แล้วพิมพ์ cmd จากนั้น พิมพ์ตำแหน่ง ที่มีไฟล์ DLL
- ถ้าคุณใช้ Windows 7 หรือใหม่กว่า ให้เปิดโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ DLL แล้วกด Shift ค้างไว้ จากนั้นคลิกขวาในโฟลเดอร์ ต่อมาเลือก "Open command window here" Command Prompt จะเปิดขึ้นมาในโฟลเดอร์นั้นเลย
- พิมพ์ regsvr32 dllname.dll แล้วกด Enter เพื่อใส่ไฟล์ DLL ใน Windows Registry
- พิมพ์ regsvr32 -u dllname.dll เพื่อลบไฟล์ DLL จาก Windows Registry
โฆษณา
-
ดาวน์โหลดและติดตั้ง decompiler. "decompiler" คือโปรแกรมดู source code ที่ใช้สร้างไฟล์หรือโปรแกรม ในที่นี้ก็คือไฟล์ DLL จะดูโค้ดได้ คุณต้องใช้ไฟล์ DLL ได้ซะก่อน โดยใช้ decompiler แปลงไฟล์กลับเป็นโค้ดที่อ่านรู้เรื่อง ถ้าเปิดไฟล์ DLL โดยไม่ใช้ decompiler (เช่น เปิดใน Notepad) ก็จะเห็นเป็นอักขระยึกยือไปหมด
- หนึ่งใน decompiler ฟรียอดนิยมก็คือ dotPeek คุณดาวน์โหลดได้ที่ jetbrains.com/decompiler/ เลย
-
เปิดไฟล์ DLL ใน decompiler. ถ้าคุณใช้ dotPeek ก็แค่คลิก "File" → "Open" แล้ว browse หาไฟล์ DLL ที่จะ decompile คุณจะดูเนื้อหาของไฟล์ DLL ได้โดยไม่ส่งผลอะไรกับระบบคอม [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ "Assembly Explorer" หา nodes ของไฟล์ DLL. ไฟล์ DLL นั้นประกอบกันขึ้นจาก "nodes" หรือ modules ต่างๆ ของโค้ดที่ทำงานร่วมกันจนกลายเป็นไฟล์ DLL ออกมา คุณขยายแต่ละ node เพื่อดู subnodes ได้ ถ้ามี
-
ดับเบิลคลิก node เพื่อดูโค้ด. โค้ดของ node ที่คุณเลือกจะโผล่มาในกรอบขวาของ dotPeek คุณเลื่อนสำรวจโค้ดได้เลย dotPeek จะแสดงผลโค้ดเป็นภาษา C# หรือดาวน์โหลด library เพิ่มเติมให้คุณดู source code ต้นฉบับได้
- ถ้า node นั้นต้องมี library เพิ่มเติมถึงจะดูเนื้อหาได้ dotPeek จะดาวน์โหลดมาให้อัตโนมัติ
-
เข้าใจโค้ดแต่ละส่วน. ถ้าคุณไม่เข้าใจโค้ดส่วนไหน ให้ใช้ฟีเจอร์ Quick Documentation ว่าคำสั่งนั้นใช้ทำอะไร
- เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่โค้ดที่อยากได้ documentation หรือคู่มือ ในกรอบ Code Viewer
- กด Ctrl + Q เพื่อเปิดหน้าต่าง Quick Documentation
- ตาม hyperlink ไปดูข้อมูลต่างๆ ของโค้ดนั้น
-
export โค้ดไปที่ Visual Basic. ถ้าอยากปรับแต่ง แก้ไข หรือสร้างไฟล์ใหม่ของตัวเอง ก็ให้ export โค้ดเข้า Visual Studio โดยโค้ดที่ export ไปจะเป็นภาษา C# แม้ต้นฉบับจะเป็นภาษาอื่นก็ตาม
- คลิกขวาไฟล์ DLL ใน Assembly Explorer
- เลือก "Export to Project"
- เลือก export options หรือวิธีการนำไฟล์ออก ถ้าอยากใช้งานทันที ก็เลือกให้เปิด project ใน Visual Studio เลยก็ได้
-
แก้ไขโค้ดใน Visual Studio. พอ project เปิดขึ้นมาใน Visual Studio แล้ว คุณก็แก้ไขหรือสร้างไฟล์ DLL ใหม่ได้เต็มที่ ยังไงลองศึกษาวิธีใช้ Visual Studio เพิ่มเติมดูโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา