PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คนเรามักจะมีปัญหากับการอยู่คนเดียวด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนโสด คนที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว หรือคนที่ทนอยู่กับตัวเองเพียงคนเดียวไม่ได้ การทำให้ตัวเองมีความสุขเมื่อต้องอยู่คนเดียวจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากเสมอ และส่วนใหญ่เราก็มักจะมองหาคนอื่นให้มาช่วยเติมเต็มช่องว่างให้กับพวกเรา อย่างไรก็ตาม หนทางที่จะทำให้เรามีความสุขในขณะที่อยู่คนเดียวก็ยังมีอยู่หลายทาง ไม่ว่าจะเป็น การพึ่งพาตัวเอง การเพิ่มทัศนคติในเชิงบวก และการเข้าใจตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

พึ่งพาตัวเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนบางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็น extrovert (คนที่ชอบเข้าสังคมและเพิ่มพลังงานให้ตัวเองด้วยการอยู่กับคนอื่น) บางครั้งอาจจะชอบพึ่งพาคนอื่นให้มาช่วยทำให้ตัวเองมีความสุขหรือพึงพอใจ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราอยากจะมีความสุขเมื่ออยู่คนเดียวได้ เราก็ต้องหัดพึ่งคนอื่นให้น้อยลงและเชื่อมั่นในตัวเองให้มากกว่าเดิมเสียก่อน ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนประเภท extrovert คุณอาจจะได้ประโยชน์จากการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว จนทำให้คุณสามารถเพิ่มพลังงานให้ตัวเองเมื่ออยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าแทนที่จะต้องอยู่กับเพื่อนสนิทของตัวเองได้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องโชคดีมากที่สมัยนี้ คุณสามารถเชื่อมโยงกับสังคมภายนอกได้อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะอยู่คนเดียวก็ตาม
    • โฟกัสไปที่การพัฒนาความมั่นใจของตัวเอง ด้วยการฝึกฝนและทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอยู่คนเดียว รวมถึงเกี่ยวข้องกับการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน [1] ตัวอย่างเช่น หากคุณคิดอยากจะเรียนรู้วิธีเล่นเครื่องดนตรีสักชิ้นมาตลอด คุณก็อาจจะเริ่มจากตอนนี้ได้เลย ซึ่งมีบทเรียนออนไลน์มากมายที่คุณสามารถใช้ เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้วิธีการเล่นเครื่องดนตรีที่คุณชอบ
    • ลองตั้งใจทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวคนเดียวให้ได้ โดยก่อนที่คุณจะขอความช่วยเหลือหรือต้องการให้คนอื่นมาทำสิ่งต่างๆ เป็นเพื่อนคุณ ให้คุณพยายามทำด้วยตัวเองก่อน ตัวอย่างเช่น หากคุณชอบให้แฟนของคุณไปร้านขายของชำเป็นเพื่อน ให้คุณพยายามไปคนเดียวให้ได้ก่อน
  2. ดูว่าตัวเองชอบทำอะไรและพยายามทำมันให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียวให้ได้ นอกจากนี้ ให้คุณพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนด้วย เพื่อที่จะได้เสริมสร้างความสนใจและงานอดิเรกให้กับตัวเอง ซึ่งถ้าหากคุณเป็น extrovert คุณอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ทำยาก เพราะคุณต้องการที่จะอยู่รอบๆ ตัวคนอื่นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังมีส่วนร่วมในสิ่งที่ตัวเองสนใจอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณฝึกทำในสิ่งที่ชอบด้วยตัวคนเดียวมากเท่าไร มันก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น
    • ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้! [2] มีกิจกรรมให้คุณเลือกทำมากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น งานศิลปะ เต้น เขียน อ่าน เล่นดนตรี ปีนเขา ตั้งแคมป์ ดูแลสัตว์เลี้ยง ท่องเที่ยว และทำอาหาร
    • ทำกิจกรรมที่ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองยังเชื่อมโยงกับสังคมภายนอกอยู่ แม้ตัวเองจะอยู่คนเดียว ซึ่งคนที่เป็น extrovert อาจจะชอบทำกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่ายังอยู่ในสังคมแม้จะอยู่คนเดียว เช่น ส่งข้อความ แชทในโทรศัพท์ หรือเข้าเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งนี่จะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากขึ้นและรู้สึกว่าตัวเองเชื่อมโยงกับคนอื่นมากกว่าเดิมแม้ว่าจะอยู่คนเดียว
    • คุณอาจจะวางแพลนหรือทำบางสิ่งบางอย่างให้กับคนที่คุณรัก วิธีนี้จะทำให้คุณโฟกัสอยู่กับการรักษาความสัมพันธ์ในช่วงที่คุณอยู่คนเดียวไว้ได้
  3. เสริมสร้างความอดทนต่อการอยู่คนเดียวให้ตัวเอง. ยิ่งคุณทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวคนเดียวเยอะเท่าไร คุณก็จะยิ่งรู้สึกสบายใจเมื่อต้องอยู่คนเดียวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการได้เผชิญหน้ากับความกลัวในการอยู่คนเดียวอาจจะช่วยทำให้คุณรู้สึกกลัวน้อยลง และรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น คนที่เป็น extrovert ควรจะโฟกัสกับการอยู่คนเดียวให้ได้ (อาจจะอยู่คนเดียวในห้องนอนที่บ้านก็ได้)
    • สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ ให้ลองทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกไปเดินเล่น ออกไปหาอะไรกิน และไปช้อปปิ้ง
    • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารบางอย่างเพื่อรับมือกับการอยู่คนเดียว [3]
    • รู้ว่าการอยู่คนเดียวและการอยู่อย่างโดดเดี่ยวนั้นแตกต่างกัน [4] เพราะคุณ สามารถ อยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวได้
  4. เมื่อใดก็ตามที่เรากำลังเรียนรู้ที่จะอดทนต่อการอยู่คนเดียว การปลอบโยนตัวเองนั้นเป็นทักษะในการรับมือกับปัญหาที่ดีอย่างหนึ่งเลยล่ะ และถ้าหากคุณรู้สึกถึงอารมณ์ในเชิงลบ (โมโห เศร้า หรือเหงา) มันจำเป็นที่คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองใจเย็นลงก่อน [5] ซึ่งการปลอบใจตัวเองนั้นมีประโยชน์สำหรับคนที่เป็น extrovert มาก เพราะการอยู่คนเดียวนั้นสามารถทำให้คนประเภทนี้รู้สึกอึดอัดได้
    • สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง แทนที่เราจะหวังแต่พึ่งให้คนอื่นมาสร้างความมั่นใจให้กับตัวเรา เราต้องพยายามสร้างความมั่นใจด้วยตัวเองให้ได้ก่อน ตัวอย่างเช่น หากคุณรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองทำงานที่โรงเรียนหรือที่ทำงานได้ไม่ดีพอ ให้คุณพยายามบอกกับตัวเองในสิ่งที่บางทีเพื่อนคุณก็อาจจะพูดแบบนั้นกับคุณเหมือนกัน เช่น “เอาจริงดิ? ฉันว่าเธอก็ทำงานของตัวเองได้ดีแล้วนะ!” ซึ่งคนที่เป็น extrovert นั้นอาจจะชอบไปหวังพึ่งความเห็นชอบจากสังคมเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมั่นใจมากเกินไป แต่ถ้าหากพวกเขาเรียนรู้ที่จะมั่นใจด้วยตัวเองได้ สิ่งนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างมาก
    • บอกตัวเองอยู่เสมอว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ใช่สิ่งที่ร้ายแรงอะไร และมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจอะไรเมื่อต้องอยู่คนเดียวในที่สาธารณะ
    • โฟกัสไปที่คุณสมบัติด้านบวกของตัวเอง รวมถึงสิ่งที่คุณชื่นชอบเกี่ยวกับตัวเองด้วย ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจว่าตัวเองมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง แต่ก็อย่าปล่อยให้ข้อบกพร่องเหล่านั้นมาตัดกำลังใจคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

พัฒนาสิ่งที่เป็นด้านบวกให้กับตัวเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่อาจจะฟังดูเหมือนไร้สาระ แต่มันคือเรื่องจริงนะ! เพราะพวก Introvert (คนที่เพิ่มพลังให้ตัวเองด้วยการใช้เวลาอยู่คนเดียว) และคนที่มีความกังวลในการอยู่ในสังคมนั้นมักจะมีความสามารถในการพัฒนาทักษะการอยู่อย่างมีความสุขเมื่อต้องอยู่คนเดียว ด้วยการคิดถึงความสัมพันธ์ต่างๆ ที่พวกเขามีในด้านบวก รวมถึงมองไอเดียของการอยู่คนเดียวว่าเป็นเรื่องที่ดีด้วย ซึ่งจากการวิจัยพบว่าคนที่รู้สึกโดดเดี่ยวมักมีแนวโน้มที่จะคิดในแง่ลบ โดยมักจะคิดถึงแต่เรื่องความสัมพันธ์ทางสังคมของพวกเขาว่ามันอาจจะเป็นไปในแง่ลบ และก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาสายสัมพันธ์ทางสังคมเอาไว้ [6] ดังนั้น การปรับเปลี่ยนความคิดของตัวเองอาจจะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจในขณะที่อยู่คนเดียวได้
    • ลองคิดหาเหตุผลว่าทำไมการอยู่คนเดียวถึงเป็นสิ่งที่ดี ตัวอย่างเช่น คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองอยากทำ โดยที่ไม่มีใครเข้ามากวนใจ และทำให้คุณสามารถโฟกัสอยู่กับตัวเองได้ด้วย
    • ทำความเข้าใจว่าความรู้สึกเศร้าและโดดเดี่ยวนั้นคือทัศนคติอย่างหนึ่ง ดังนั้น ให้ลองคิดถึงสิ่งยอดเยี่ยมต่างๆ ที่คุณเคยทำสำเร็จในชีวิตดู และลองคิดต่อว่าคุณสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้อีก [7]
    • เขียนลิสต์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณรู้สึกยินดีในชีวิตลงกระดาษ เช่น ครอบครัว เพื่อน อาหารการกิน บ้านที่ตัวเองอยู่ การสนับสนุนทางสังคม ฯลฯ
    • พูดให้กำลังใจตัวเอง หากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดในแง่ลบเช่น “ไม่มีใครอยากจะใช้เวลาอยู่กับฉันเลย” ให้คุณเปลี่ยนความคิดพวกนี้ ให้เป็นบางสิ่งที่ดูมีเหตุผลอย่าง “คนที่รักฉันก็คงอยากจะใช้เวลากับฉัน เพียงแต่ว่าบางครั้งพวกเขาไม่มีเวลาว่างก็แค่นั้นเอง”
  2. การยอมรับตัวเองและรักตัวเองนั้น คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข [8] ดังนั้น ให้คิดซะว่าตัวเราเองก็เปรียบเสมือนเพื่อนเราคนหนึ่ง และโฟกัสไปที่การมองเห็นคุณค่าในตัวเองซะ
    • หากคุณเป็นคนประเภท introvert ให้คุณเตือนตัวเองว่านี่คือบุคลิกของคุณ และมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติและเป็นสิ่งที่รับได้ถ้าหากจะต้องเป็นแบบนั้น และถ้าหากคุณมีความกังวลทางสังคม ให้คุณยอมรับว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่จริงๆ และมันก็ไม่ผิดอะไรที่จะรู้สึกแบบนี้ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดามากที่ในบางครั้งเราจะรู้สึกกังวลกับบางสถานการณ์ทางสังคม
    • เขียนลิสต์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณชอบในตัวเอง ดูว่ามีอะไรบ้างที่คุณทำได้ดี และคนอื่นๆ ชอบอะไรในตัวคุณบ้าง จากนั้นเก็บลิสต์นี้ไว้ในที่ๆ ปลอดภัยเผื่อในกรณีที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยวในขณะที่อยู่คนเดียว คุณจะได้นำมันมาใช้
    • หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพราะนี่อาจจะทำให้คุณรู้สึกผิดหวังในตัวเอง รู้สึกอิจฉา และรู้สึกถึงความไม่พอของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเรามองหาแต่ด้านดีๆ ของคนอื่นและทำให้คนเหล่านั้นเป็นคนในอุดมคติของตัวเอง
  3. สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่คุณมีกับคนอื่นนั้น สามารถช่วยให้คุณอดทนกับการอยู่คนเดียวและทำให้คุณมีทัศนคติเชิงบวกได้ [9] หากคุณรู้สึกว่าตัวเองมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแรงพอ แนวโน้มที่คุณจะรู้สึกทุกข์เมื่อไม่ได้อยู่กับคนที่คุณรักก็จะน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งคนประเภท introvert และคนที่มีความกังวลทางสังคมอาจจะมองหาคนที่ใกล้ชิดจริงๆ เพื่อขอแรงสนับสนุน (มากกว่าที่จะมองหาเพื่อนเยอะๆ หรือคนรู้จักหลายๆ คน) ดังนั้น การมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแรงและให้การสนับสนุนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก (ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบที่มีการเหยียดหยามกัน หรือความสัมพันธ์ที่ปราศจากการสนับสนุน)
    • ทำให้การมีปฏิสัมพันธ์ของคุณขึ้นอยู่กับคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเมื่อใดก็ตามที่คุณใช้เวลาอยู่กับคนอื่น ดูให้แน่ใจด้วยว่าตัวคุณโฟกัสอยู่กับการสร้างปฏิสัมพันธ์และโฟกัสอยู่กับการสนทนา มากกว่าที่จะสนใจอยู่กับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างปฏิสัมพันธ์เช่น การดูทีวี
    • รับคนที่เคารพในตัวคุณและปฏิบัติกับคุณในแบบที่คุณอยากจะให้เป็นเข้ามาในชีวิตคุณ และหลีกเลี่ยงคนที่ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ถูกคุกคาม หรือถูกละเลย
    • เมื่อคุณอยู่คนเดียวให้คุณโฟกัสไปที่ความทรงจำดีๆ ที่คุณกับคนที่คุณรักมีร่วมกัน โดยคุณอาจจะเขียนความทรงจำเหล่านั้นลงกระดาษและนั่งนึกถึงสิ่งเหล่านั้นก็ได้
  4. ทำความเข้าใจว่ากิจกรรมแบบไหนที่จะช่วยพัฒนาอารมณ์ของคุณ หากคุณคิดไม่ออกว่ามีกิจกรรมไหนบ้าง ให้คุณลองทำกิจกรรมใหม่ๆ และดูว่ามันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเมื่ออยู่คนเดียวหรือไม่ ซึ่งคนประเภท introvert ส่วนใหญ่มักจะมีกิจกรรมที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว แต่บางทีก็อาจจะอยากลองกิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยในการพัฒนาอารมณ์โดยเฉพาะ (เช่น ออกกำลังกาย)
    • ลองทำลิสต์เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดี ซึ่งสิ่งที่อยู่ในลิสต์นั้นอาจจะเป็น การได้อยู่กับธรรมชาติ การฟังเพลงที่มีเนื้อหาด้านบวก การค้นหาสถานที่ใหม่ๆ การแช่น้ำในอ่างฟองสบู่ การไปช็อปปิ้ง และการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาให้กำลังใจก็ได้
    • ฝึกสติตัวเอง การฝึกสติเพื่อลดความตึงเครียดของตัวเองนั้น จะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวได้ [10] ซึ่งการมีสติก็คือ การอยู่กับปัจจุบัน หรือการยินดีกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่ไปยึดติดอยู่กับอดีตหรือกังวลเกี่ยวกับอนาคตมากเกินไป
  5. จากการศึกษาได้ชี้ให้เห็นว่าคนที่โดดเดี่ยว อาจจะไม่ค่อยมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหาด้วยตัวเอง [11] อย่างไรก็ตาม การรับมือกับปัญหาอย่างเช่น การออกกำลังกาย จะทำให้สมองหลั่งเอนดอร์ฟินออกมา ส่งผลให้คุณรู้สึกดีและมีความสุขมากขึ้น ซึ่งคนที่เป็น introvert หรือคนที่มีความกังวลทางสังคมควรจะฝึกออกกำลังกายในที่สาธารณะ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาที่ต้องอยู่ในสังคม (อาจจะวิ่งที่ชายหาด หรือยกเวทที่ยิมก็ได้)
    • พยายามเลือกการออกกำลังกายที่ให้ความสนุกด้วย เพื่อที่มันจะได้ไม่ดูเหมือนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น เดิน เต้นแอโรบิค โยคะ ทำสวน ปีนเขา ปีนหน้าผา ขี่จักรยาน เล่นกีฬา (มีหลายประเภทที่คุณสามารถฝึกได้ด้วยตัวเอง) จ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ เล่นสเก็ต และฝึกศิลปะการต่อสู้
  6. จากการวิจัยพบว่าคนที่โดดเดี่ยวและรู้สึกว่าตัวเองถูกสังคมปฏิเสธ อาจจะสูญเสียจุดมุ่งหมายและจุดประสงค์ในการใช้ชีวิตของตัวเองไป [12] และคนเราก็ชอบอ่อนไหวกับการถูกสังคมปฏิเสธหรือขาดแคลนจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตของตัวเอง เรา ในฐานะมนุษย์ จึงต้องมีจุดมุ่งหมายของตัวเอง เพื่อที่เราจะได้รู้สึกถึงการดำรงชีวิตอยู่ของเรา ซึ่งสิ่งนี้มาจากการที่เรามีเป้าหมายในชีวิตนั่นเอง
    • จุดมุ่งหมายอาจจะแตกต่างกันออกไปเช่น จุดมุ่งหมายด้านอาชีพการงาน ครอบครัว ศาสนา ความเชื่อทางจิตวิญญาณ การช่วยเหลือคนอื่น ทำทานให้คนยากจน สร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เยียวยารักษาคนอื่น และอีกหลายๆ อย่าง
    • เริ่มต้นด้วยการทำลิสต์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณให้คุณค่า (เช่นในลิสต์ด้านบน) จากนั้นกำหนดเป้าหมายหรือจุดประสงค์ของแต่ละสิ่งที่คุณให้คุณค่าไว้ ตัวอย่างเช่น หากหนึ่งในสิ่งที่คุณให้คุณค่าคือ ความเชื่อทางจิตวิญญาณ บางทีจุดมุ่งหมายของคุณอาจจะเป็นการสร้างผลกระทบให้คนอื่นในทางบวกและในทางจิตวิญญาณก็เป็นได้ ซึ่งนี่อาจจะรวมถึงการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนทางศาสนาและเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับศาสนาของคุณก็ได้
    • เริ่มต้นในแต่ละวันด้วยการดูลิสต์ของสิ่งที่มีคุณค่าและเป้าหมายที่คุณเขียนไว้ และหาทางทำสิ่งนั้นให้ได้ โดยคุณอาจจะทำบางสิ่งบางอย่างที่ดูเล็กๆ ก็ได้ เช่น การยิ้มให้กับคนที่ไม่รู้จัก เพื่อที่คุณจะได้ทำตามจุดประสงค์ของตัวเอง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเพิ่มความตระหนักในตัวเองจะช่วยทำให้คุณมีความสุขได้ง่ายกว่าเดิมเมื่อคุณอยู่คนเดียว และยิ่งคุณรู้จักตัวตนของตัวเองมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งทำให้ตัวเองมีความสุขได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการที่เราจะตระหนักในตัวเองได้นั้นก็ต้องเริ่มจากการที่เราใส่ใจกับตัวเอง ใส่ใจกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำต่างๆ ของตัวเอง [13]
    • ใช้เวลาตรวจสอบตัวเอง เพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร โดยให้ถามตัวเองด้วยคำถามเช่น “เรารู้สึกอย่างไร? เราตอบสนองต่อสิ่งใด? เราอยากจะทำอะไรบ้าง?”
  2. การเขียนความคิดและความรู้สึกของตัวเองลงกระดาษนั้น จะช่วยทำให้คุณได้ทำความรู้จักตัวตนของตัวเองผ่านการแสดงความรู้สึกนึกคิดของตัวเองที่อยู่บนกระดาษ
    • รู้ว่าตัวเองชอบอะไรและไม่ชอบอะไร จากนั้นเขียนลิสต์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณชอบทำ [14] ตัวอย่างเช่น คนที่เป็น extrovert อาจจะชอบอยู่กับเพื่อนๆ และไม่ชอบกินข้าวเย็นคนเดียว แต่คนที่เป็น introvert อาจจะชอบทำกิจกรรมคนเดียว เช่น อ่านหนังสือ และไม่ชอบอยู่ในที่ๆ มีคนเยอะหรือมีเสียงดัง
    • พัฒนาเป้าหมายของตัวเอง โดยให้คุณเขียนลิสต์เป้าหมายชีวิตลงกระดาษ รวมถึงเป้าหมายที่คุณอยากจะทำให้สำเร็จในอีก 1 เดือน 6 เดือน และอีก 1 ปีข้างหน้าด้วย [15] [16]
  3. ค้นหาว่าอะไรคือความยากลำบากในการอยู่คนเดียวสำหรับคุณ. อุปนิสัยอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง เพราะคนบางคนนั้นมีความเป็น extrovert มากกว่าคนอื่น ซึ่งการเป็นคนประเภท extrovert นั้นหมายถึง คนที่เพิ่มพลังงานให้ตัวเองด้วยการอยู่กับคนอื่น ในขณะที่คนประเภท introvert นั้นหมายถึง คนที่เพิ่มพลังงานให้ตัวเองด้วยการใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
    • ความโดดเดี่ยวอาจจะเป็นผลมาจากความเศร้าโศกและการสูญเสีย ความชอกช้ำทางใจ หรือปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเองก็ได้
    • การมีความรู้สึกเหงาเนื่องจากอายุที่มากขึ้นนั้นเป็นเรื่องธรรมดา [17]
    • จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าคนที่รู้สึกโดดเดี่ยวมีแนวโน้มที่จะมีความกังวล ความโกรธ มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกไม่ปลอดภัยได้มากกว่า [18]
  4. ความรู้สึกโดดเดี่ยวอาจจะเป็นลักษณะอาการของโรคซึมเศร้าก็เป็นได้ [19] [20] หากคุณรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่สามารถทนอยู่ตัวคนเดียวได้ การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้จะมีประโยชน์ต่อคุณอย่างมาก ซึ่งจิตบำบัดนั้นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น นอกจากนี้มันยังช่วยคุณในการรับมือกับการอยู่คนเดียวด้วย
    • ติดต่อผู้ให้บริการด้านการประกันสุขภาพ เพื่อขอรายชื่อนักจิตวิทยา นักบำบัด และจิตแพทย์ (สำหรับการใช้ยา) ที่ได้รับการรับรอง
    โฆษณา


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 85,878 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา