ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
โลโก้ที่ดีนั้นเป็นมากกว่าแค่รูปภาพหรือคำ โลโก้ที่ยอดเยี่ยมจะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบริษัทของคุณ ว่าคุณเป็นใคร ทำอะไร และยึดหมั่นในหลักการอะไร นี่ดูจะเป็นการเรียกร้องหลายสิ่งจากแค่งานศิลปะชิ้นหนึ่ง และจึงเป็นเหตุว่าทำไมคุณควรใช้เวลาออกแบบมันให้ถูกต้อง โชคดีไปว่าคุณไม่ต้องทำมันเพียงลำพัง ขั้นตอนข้างล่างนี้จะนำเสนอกระบวนการออกแบบโลโก้ที่จะช่วยสร้างชื่อเสียงให้คุณในท้องตลาด
ขั้นตอน
-
กำหนดหน้าที่หลักของโลโก้. โลโก้เป็นตัวแทนนำเสนอตราสินค้าของคุณ โดยการใช้ รูปร่าง แบบอักษร สี และรูปภาพ การรู้แน่ชัดว่าทำไมคุณจึงต้องการโลโก้จะช่วยเป็นแนวทางในการออกแบบได้
- สร้างความรู้จัก บริษัทของคุณยังใหม่อยู่ หรือกำลังแข่งขันในตลาดกับบริษัทอื่นๆ อีกมากมายหรือไม่? การมีโลโก้ที่โดดเด่นจะช่วยให้ลูกค้าจำตราสินค้าของคุณได้อย่างทันที
- สร้างการจดจำ ผู้บริโภคมักจับจ่ายสินค้าผ่านทางตา และโลโก้นั้นจำง่ายกว่าชื่อ ผลิตภัณฑ์ และบริการ เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าจึงค่อยเชื่อมโยงโลโก้ของคุณเข้ากับตัวบริษัท
- สร้างความน่าเชื่อถือ ส่วนหนึ่งในการเพิ่มและรักษาลูกค้านั้น ขึ้นอยู่กับความเต็มใจของพวกเขาที่จะเชื่อถือคุณด้วย โลโก้แบบน่าเชื่อถือที่แสดงให้เห็นความจริงใจและความซื่อสัตย์จะช่วยสร้างความสบายใจให้แก่ลูกค้า
- เพิ่มความน่าชื่นชม หากลูกค้ามีความประทับใจในธุรกิจของคุณอยู่แล้ว คุณสามารถต่อยอดได้ด้วยการสร้างโลโก้ที่จะได้รับคำชมจากรูปลักษณ์ที่ดี ความเฉลียวฉลาด หรือความเรียบง่ายที่มีประสิทธิภาพของมัน
-
คิดถึงกลุ่มเป้าหมาย. คุณจำเป็นต้องรู้ว่าลูกค้าของคุณคือใคร และปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของโลโก้ให้ดึงดูดลูกค้าเหล่านั้นที่จะมาใช้บริการของคุณ
- โลโก้สำหรับร้านดอกไม้อาจจะมีแบบอักษรแบบแปลกๆ และใช้ชุดสีสดใส แต่โลโก้รูปแบบนี้จะใช้ไม่ได้ผลกับร้านซ่อมรถยนต์
- โลโก้สำหรับบริษัทกฎหมายต้องแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และความมั่นคง ไม่ใช่โลโก้แบบที่ใช้กับบริษัทรับจัดอาหารงานเลี้ยง
-
ตัดสินใจว่าจะใส่ชื่อบริษัทลงไปในโลโก้หรือไม่. แน่นอนว่าคุณย่อมต้องการทำให้ชื่อบริษัทเป็นที่จดจำ แต่การใส่ชื่อบริษัทลงไปในโลโก้อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเสมอไป
- ใส่ชื่อบริษัทลงไปถ้ามันเป็นคำที่ค่อนข้างโดดเด่น แต่ไม่ถึงกับเป็นคำธรรมดาทั่วไป หรือใส่ชื่อลงไปถ้างบการตลาดของคุณมีจำกัดและคุณต้องการสร้างการจดจำให้กับชื่อ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม่ต้องใส่ชื่อลงไปถ้าเป็นคำธรรมดาเกินไป ยาวเกินไป แปลเป็นภาษาอื่นแล้วไม่ได้ความหมาย (ถ้าเป็นสิ่งที่คุณต้องพิจารณา) หรือไร้ซึ่งลักษณะเฉพาะตัว ตัดชื่อออกด้วยเช่นกันถ้าคุณต้องใส่โลโก้ลงไปบนสินค้า เช่น รองเท้าผ้าใบหรือกระเป๋าถือ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คิดถึงแนวทางการใช้โลโก้หลายๆ วิธี ลองจินตนาการขนาดเล็กที่สุดที่คุณอาจต้องการ ถ้าโลโก้มีขนาดเท่ากับภาพร่างขนาดเล็กแล้วชื่อบริษัทอ่านไม่ออก มันอาจจะดีกว่าถ้าคุณตัดชื่อออกไป
-
ทำตามชุดสีของบริษัท. ถ้าบริษัทของคุณได้ใช้สีบางสีบนป้าย ในการโฆษณา หรือในวัสดุอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว สีเหล่านั้นก็ควรจะปรากฏในโลโก้
- การใช้สีที่สอดคล้องกันจะช่วยสร้างความคุ้นเคย คุณต้องการให้ลูกค้าสามารถ “เชื่อมโยง” โลโก้กับบริษัทของคุณได้ในใจ
- ถ้าบริษัทของคุณได้ยึดสีใดเป็นหลัก สาธารณชนก็จะสร้างการเชื่อมโยงด้วยจิตใต้สำนึกไปยังสีเหล่านั้น
- ถ้าหากคุณยังไม่มีชุดสีถาวรสำหรับธุรกิจของคุณ ลองค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับจิตวิทยาของสี เพื่อที่จะได้เลือกสีอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น สีแดง หมายถึงความแข็งแรง ความกระตือรือร้น พลัง และความมั่นใจ แต่ก็ทำให้นึกถึงความอันตรายได้ด้วย
-
รับแรงบันดาลใจจากโลโก้ที่ประสบความสำเร็จได้ แต่อย่าลอกเลียนแบบ. แม้ว่าคุณจะอยากสร้างโลโก้ให้เหมือนกับของบริษัทที่คุณชอบมากแค่ไหน แต่มันคือการบอกลูกค้าของคุณเป็นนัยๆ ว่า คุณขี้เกียจและไร้แรงบันดาลใจ
- ลองดูโลโก้ของบริษัทอื่นที่คล้ายกับคุณ ถามตัวเองว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไรในโลโก้เหล่านั้น อะไรใช้ได้และใช้ไม่ได้ อย่าเพิ่งรู้สึกท่วมท้นในใจจากการดูตัวอย่างมากเกินไป แค่ 10 หรือ 12 ตัวอย่างก็เกินพอสำหรับให้แนวคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ
- โลโก้ที่ดี ควรจะเรียบง่าย น่าจดจำ ไม่ตกยุค และเหมาะสม ตั้งข้อเหล่านี้ไว้เป็นเป้าหมายในขณะที่คุณเล่นสนุกกับความคิดต่างๆ
- หากคุณประสบปัญหาในการหาแนวคิดดีๆ ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตด้วยคำสำคัญที่แตกต่างออกไป หรือใช้พจนานุกรมคำเหมือนเผื่อคุณจะพบแนวทางใหม่ๆ
- วาดรูปคร่าวๆ ร่างภาพออกมาและลองเล่นกับมัน เขียนคำสำคัญด้วยแบบอักษรที่ต่างกัน ลองดูว่ารูปภาพจะช่วยให้ปิ๊งไอเดียหรือไม่
-
คงความเรียบง่าย. การออกแบบโลโก้คือการฝึกความยับยั้งชั่งใจ แม้ว่าคุณจะอยากสื่อความหมายหลายๆ อย่างด้วยการออกแบบของคุณมากแค่ไหน แต่การพยายามทำมากเกินไปจะทำลายความสำเร็จของโลโก้
- หลีกเลี่ยงการใช้สีหลายสี แบบอักษรหลายแบบ และภาพซ้อนกันหลายภาพ โลโก้ที่น่าสับสนและดูรกจะสื่อความหมายที่ชัดเจนไม่ได้
- ถ้ามีองค์ประกอบที่มองเห็นได้มากเกินไปในโลโก้ของคุณ ลูกค้าจะประมวลผลได้ยาก และจะไม่รู้ว่าควรมองตรงไหน หรือมันหมายความว่าอะไร
- หากพูดในเชิงปฏิบัติ โลโก้แบบเรียบง่ายผลิตได้ง่ายและถูกกว่า เนื่องจากโลโก้ของคุณอาจปรากฏในสินค้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่หัวกระดาษจดหมาย โฆษณา ไปจนถึงกระเป๋าสะพายใส่ของ ความเรียบง่ายจะช่วยประหยัดงบของคุณในระยะยาว
โฆษณา
-
สร้างลวดลายหลายแบบ. ในช่วงแรก คุณอาจจะมีความคิดหลากหลายที่คุณอยากจะแสดงออกมาบนลายโลโก้ของคุณ จดทั้งหมดใส่กระดาษ เพื่อที่คุณจะได้เห็นว่าอะไรใช้ได้และอะไรใช้ไม่ได้
- แม้แต่ลายที่ไม่ได้เรื่อง ก็สามารถช่วยให้เกิดความคิด หรือให้องค์ประกอบบางอย่างที่คุณต้องการรักษาให้อยู่ในการออกแบบเวอร์ชั่นต่อไป
-
วาดลายที่ออกแบบอย่างหยาบๆ. จะดีกว่าถ้าคุณใช้ดินสอวาดลงบนกระดาษในช่วงระยะแรกของการออกแบบโลโก้ การร่างแบบเป็นวิธีที่เร็วและง่าย ในการนำสิ่งที่คิดได้มาใส่ไว้ในกระดาษ ซึ่งคุณสามารถประเมินความคิดเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น
- กระดาษเปล่าสีขาวหรือกระดาษกราฟแบบธรรมดาเหมาะจะใช้เป็นพื้นหลังสำหรับการร่างภาพด้วยดินสอ
- อย่าลบ การออกแบบไม่ใช่การทำงานเป็นเส้นตรงที่มีแค่ขั้นตอนเริ่มและเสร็จ เก็บหน้าที่มีลายแบบที่คุณไม่ชอบเอาไว้ ลายเหล่านั้นอาจจะช่วยให้เกิดไอเดีย หรือหลังจากที่พิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง อาจจะให้อะไรที่มีประโยชน์ได้
- บริษัทออกแบบใหญ่ๆ มักจะร่างแนวคิดโลโก้ออกมาหลายสิบหน้า ก่อนที่จะเริ่มจับเมาส์ด้วยซ้ำ นำเคล็ดลับจากมืออาชีพมาใช้ และมุ่งความสนใจไปที่ภาพร่างของคุณ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
นำเสนอลายโลโก้กับตลาดทดลอง. คุณอาจจะอยากเดินหน้าทำงานทันทีที่คุณได้โลโก้ที่คุณมองว่าเจ๋งมากๆ แต่การดูผลตอบรับก็สำคัญเช่นกัน
-
รับคำติชมจากคนที่อยู่ในตลาดเป้าหมาย. นำเสนอลายโลโก้ให้กับคนในกลุ่มจากการสุ่มตัวอย่างที่มีคุณลักษณะครบถ้วนเหมือนลูกค้าในอุดมคติของคุณ คุณอาจจะให้พวกเขาดูหลายๆ ลาย หรืออาจจะเสนอแค่ 1 แบบที่คุณคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุด
- ถามคำถามหลักๆ ที่จะทำให้เห็นปฏิกิริยาของพวกเขาต่อโลโก้ พวกเขาคิดว่ามันน่าเบื่อหรือน่าตื่นเต้น? น่าเกลียดหรือดึงดูดใจ? ดูธรรมดาหรือมีเอกลักษณ์? และตรวจสอบดูด้วยว่าโลโก้นั้นให้ภาพหรือสื่อความหมายใดแก่พวกเขา พวกเขาคิดว่ามันอ่านง่ายหรือจำได้ง่ายไหม และมันตรงกับสิ่งที่พวกเขารับรู้เกี่ยวกับบริษัทคุณหรือธุรกิจของคุณหรือไม่
-
ระวังการเชื่อครอบครัวและเพื่อนมากเกินไป. แม้ว่าคุณจะอยากได้ความคิดเห็นแบบไม่เป็นทางการจากคนใกล้ชิด ความคิดเห็นของพวกเขาอาจจะไม่ให้คำติชมที่มีประโยชน์
- คุณสามารถใช้ครอบครัวและเพื่อนทดสอบความสามารถในการสร้างความจดจำของโลโก้ได้ ให้พวกเขาดูลายโลโก้เพียงไม่กี่วินาที แล้วจึงขอให้พวกเขาวาดรูปมัน หากพวกเขาจำลายของมันได้เกือบหมด แสดงว่าโลโก้นั้นเป็นที่น่าจดจำ
-
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลายที่ออกแบบสามารถย่อหรือขยายได้. ลองพิจารณาวิธีการต่างๆ ที่คุณจะใช้โลโก้ เช่น ในโฆษณาหนังสือพิมพ์ บนป้าย หรือบนเว็บไซต์ของคุณ โลโก้ของคุณจะต้องใช้การได้ดีไม่ว่าจะถูกนำไปพิมพ์ใหม่บนรูปแบบที่ใหญ่หรือเล็ก
- ถ้าโลโก้มีรายละเอียดมากเกินไป หรือมีเส้นที่บางเกิน องค์ประกอบเหล่านี้อาจจะหายไป และโลโก้อาจจะดูยุ่งเหยิงมากเมื่อย่อขนาดเล็กลง
- ถ้าโลโก้ถูกวาดมาให้ดูดีเฉพาะบนกระดาษขนาดนามบัตร มันจะดูประหลาดมากเมื่อนำมาพิมพ์ในขนาดใหญ่ขึ้น
- โปรแกรมกราฟิกดีไซน์ เช่น Adobe Illustrator หรือ Inkscape สามารถใช้ทดสอบความสามารถในการย่อและขยายของโลโก้ได้ หากคุณเริ่มทำด้วยมือก่อน ลองทำสำเนาของลายที่ออกแบบหลายๆ ขนาด
โฆษณา
-
สร้างแบบร่างขั้นสุดท้าย. ท้ายที่สุดแล้ว คุณจะต้องแปลงโลโก้เป็นดิจิทัล คุณสามารถทำขั้นตอนนี้ด้วยตัวเองหรือจ้างมืออาชีพก็ได้
- เรียนรู้โปรแกรมกราฟิกดีไซน์ โปรแกรมที่นิยมใช้คือโปรแกรม Adobe Illustrator แต่โปรแกรม Inkscape ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง และมันสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเตอร์เน็ต
- มีหนังสือและเว็บไซต์มากมายที่ช่วยสอนการใช้โปรแกรม Illustrator วิทยาลัยในชุมชนหรือโปรแกรมการศึกษาต่อเนื่องก็เปิดสอนการใช้โปรแกรมออกแบบนี้
- จ้างนักออกแบบกราฟิกมืออาชีพ ถ้าคุณมีภูมิหลังในงานกราฟิก การออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย หรือเป็นคนเรียนรู้เร็ว คุณก็อาจจะสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ มันอาจจะดีกว่าถ้าคุณให้มืออาชีพทำแทน
- เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของนักออกแบบเพื่อดูแฟ้มผลงานของพวกเขา คุณควรจะเลือกคนที่มีประสบการณ์ทำงานออกแบบโลโก้มาก่อน
- สอบถามเวลากำหนดส่งงาน ขึ้นอยู่กับว่าการออกแบบของคุณอยู่ในขั้นไหน คุณอาจจะแก้ไขปรับปรุงใหม่อีกครั้งกับนักออกแบบ หรือพวกเขาอาจจะสร้างโลโก้ขึ้นมาจากไอเดียของคุณ “ตามสภาพจริง” ไม่ว่าจะกรณีไหน คำนวณดูว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ นับตั้งแต่เวลาที่คุณให้การออกแบบของคุณไป จนถึงเวลาที่พวกเขาจะทำเสร็จ
- คำนวณค่าใช้จ่าย เช่นกัน ขั้นที่คุณอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ จะส่งผลต่อราคาการให้บริการ หากคุณอยากได้คนออกแบบลายให้คุณใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ค่าจ้างย่อมแพงกว่าการที่คุณมีโลโก้สร้างเองที่ถูกใจ และแค่ต้องการนำมันลงคอมพิวเตอร์โดยมืออาชีพเฉยๆ
- ลองหาบริการออนไลน์ มีบริการกราฟิกออนไลน์มากมายที่ให้คุณจ่ายค่าธรรมเนียมเริ่มต้น และได้รับโลโก้หลายๆ แบบจากศิลปินที่ต้องการจะได้งานนี้ คุณเลือกโลโก้แบบที่ชอบที่สุดและทำงานร่วมกับศิลปินคนนั้นไปจนกว่างานจะเสร็จสมบูรณ์
- เรียนรู้โปรแกรมกราฟิกดีไซน์ โปรแกรมที่นิยมใช้คือโปรแกรม Adobe Illustrator แต่โปรแกรม Inkscape ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง และมันสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเตอร์เน็ต
-
รับฟังเสมอ. เมื่อโลโก้เสร็จแล้ว คุณควรคอยดูผลตอบรับของการออกแบบอยู่เสมอ
- ใช้สื่อสังคมออนไลน์ หากบริษัทของคุณมีตัวตนหรือการยอมรับพอสมควรในโลกออนไลน์ ลองปล่อยให้โลโก้ผ่านหน้าผ่านตาคนที่เชื่อมต่อกับคุณ
- ทดลองใช้โลโก้บนเว็บไซต์ของคุณก่อน ถ้าผลตอบรับของโลโก้ไม่ค่อยดี การแก้ไขและเผยแพร่ใหม่ลงบนเว็บไซต์ย่อมง่ายและถูกกว่าการทำใหม่บนวัสดุที่พิมพ์ออกออกมาแล้ว
- ขอรายละเอียด ถ้าลูกค้าบอกว่าโลโก้ “น่าสับสน” หรือ “อ่านยาก” ลองขอให้พวกเขาอธิบายเพิ่มเติมว่าทำไม ยิ่งคุณได้ข้อมูลก่อนที่จะลงทุนพิมพ์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบโลโก้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.logodesignlove.com/symbol-or-wordmark
- ↑ http://www.logodesignlove.com/symbol-or-wordmark
- ↑ http://www.youthedesigner.com/2008/01/11/design-a-logo-the-ultimate-guide/
- http://www.creativebloq.com/graphic-design/pro-guide-logo-design-21221
- http://justcreative.com/2008/01/08/how-to-design-a-logo/
- http://www.smashingmagazine.com/2009/01/28/colors-in-corporate-branding-and-design/
- http://graphicdesign.stackexchange.com/questions/8611/how-to-ensure-scalability-of-logo-
- http://aytm.com/blog/research-junction/logo-testing-target-market/
- http://blog.hubspot.com/blog/tabid/6307/bid/6832/4-Ways-Social-Media-Helped-Gap-s-Logo-Disaster.aspx
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 58,980 ครั้ง
โฆษณา
