ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คิดว่าตัวคุณจะเป็นวิลเลียม เช็คสเปียร์ส หรือชาร์ลี คอฟแมน คนต่อไปรึเปล่า หากต้องการพิสูจน์ คุณก็จะต้องเขียนสคริปต์เพื่อแสดงความสามารถของคุณออกมา และวิธีการเขียนสคริปต์ก็มีแนวทางต่อไปนี้
ขั้นตอน
-
ต้องมีหน้าหนึ่งที่ระบุชื่อเรื่อง. สคริปต์ของคุณจะต้องมีหน้าที่ระบุชื่อเรื่อง ซึ่งจะต้องระบุชื่อเรื่องและชื่อของคุณ นอกจากนี้อาจจะมีข้อมูลในการติดต่อและข้อมูลของตัวแทนของคุณ (ถ้าคุณมีตัวแทน)
-
ใช้แบบตัวอักษร. ตั้งค่าขอบกระดาษ และการขึ้นหน้าใหม่ที่เหมาะสม คุณจะต้องใช้ตัวอักษรแบบ Courier (ตัวอักษรแบบเครื่องพิมพ์ดีด) (ขนาด 12 พอยต์) ขณะที่เขียนสคริปต์ มันจะทำให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นแต่ก็ยังทำให้อ่านง่ายอีกด้วย เช่นเดียวกัน คุณควรจะตั้งย่อหน้าให้เหมาะสมในแต่ละส่วนของสคริปต์ มันจะช่วยให้คนอ่านแยกแยะบทพูดกับการบรรยายฉากได้ เป็นต้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับฉากและตัวละคร. ใช้บรรทัดบอกสถานที่ก่อนขึ้นฉาก มันจะบอกว่าฉากนั้น ๆ เกิดขึ้นภายในหรือภายนอก สถานที่ไหน และเป็นกลางวันหรือกลางคืน ชื่อตัวละครควรจะพิมพ์เป็นตัวใหญ่ (หากเป็นภาษาอังกฤษ) เหนือหรือถัดจากบทพูดของพวกเขา (ขึ้นว่าคุณเขียนสคริปต์อะไร) คุณยังใส่คำอธิบายอื่น ๆ ลงไปได้ในวงเล็บได้ด้วยเช่น หยุด เป็นต้น
-
ใช้รูปแบบที่ถูกต้องกับวิธีการที่คุณตั้งใจนำเสนอ. ถ้าคุณต้องการเขียนสคริปต์ภาพยนตร์ คุณจะต้องเขียนสคริปต์ในรูปแบบของภาพยนตร์ ถ้าคุณอยากจะเขียนสคริปต์ละครเวที คุณจะต้องเขียนสคริปต์ละครเวที ถึงแม้มันจะมีส่วนคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และทำความใจสคริปต์แบบต่าง ๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ลองอ่านสคริปต์ในแนวที่เราต้องการจะเขียนมากๆ เพื่อเรียนรู้เทคนิคจากมืออาชีพ
-
อย่าลืมว่าคุณจะต้องไม่เขียนมากเกินไป. โดยปกติสคริปต์จะมีความยาวประมาณหน้าละหนึ่งนาที แต่ก็ไม่ค่อยจะแน่นอนนัก [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง สคริปต์จะไม่เหมือนหนังสือที่นับความยาวกันเป็นคำๆ เพราะมันมีวิธีเฉพาะทางในการวัดความยาวโฆษณา
-
กำหนดประโยคหลักสำคัญ. เขียนประโยคหรือคำสั้น ๆ ที่เป็นแนวคิดสำคัญที่จะให้เรื่องดำเนินไป มันอาจจะเป็นใจความหรือแนวคิดเบื้องหลังเรื่องราวของคุณ แนวคิดพล็อตเรื่องที่สั้นมาก ๆ หรืออาจจะเป็นอย่างอื่นที่ทำให้คุณมีเป้าหมายและมีแนวคิดที่รวมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้ดำเนินต่อไปได้
-
ทำโครงเรื่องหรือโครงเรื่องขยาย. ก่อนที่จะเริ่มการเขียนบทพูดและสคริปต์จริง ๆ มันจะช่วยได้มากเลยถ้ากำหนดแนวทางหรือเรื่องราวพื้นฐานของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเรื่องราวของคุณ จะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง และยังจัดการช่องโหว่หรือจุดที่เป็นปมของพล็อต ร่างแผนงานทั่วไปและนึกภาพว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ จะคลี่คลายออกมาอย่างไร และควรจะเป็นการบอกเล่าจากบุคคลที่สามด้วย
-
ทำให้เรื่องราวดูสมจริงมากขึ้น. เขียนบรรยายประโยคหลักสำคัญในละคร ภาพยนตร์ หรืออื่น ๆ ทั้งหมด ด้วยรายละเอียดและแนวคิดให้มากที่สุด โดยไม่ต้องสนใจเรื่องสไตล์ รูปแบบ ความซ้ำซาก หรือสิ่งอื่น ๆ ที่จะขัดขวางความคิดสร้างสรรค์ที่ลื่นไหลของคุณ ผลงานที่เสร็จสิ้นของคุณควรจะมีทั้งพล็อตเรื่อง ลักษณะนิสัยตัวละคร ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร จุดเปลี่ยนของตัวละคร และประเด็นที่ใหญ่กว่าของเรื่องราว บางครั้งอาจจะมีการใช้การวาดโครงร่างหรือแผนผังเป็นบทภาพหรือสตอรี่บอร์ด เพื่อแสดงให้คนอื่น ๆ เห็น และแสดงให้เห็นถึงแง่มุมต่าง ๆ ของพล็อตเรื่องและตัวละครของคุณ เป็นต้น
- ตัวละครของคุณควรจะเป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินเรื่องบนเวทีหรือบนจอ ฉะนั้นต้องจำไว้เลยว่าต้องทำให้ตัวละครของคุณน่าสนใจและแปลกใหม่ อาจจะไม่จำเป็นพัฒนาตัวละคร “อย่างเต็มที่” สักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าอย่างไร ตัวละครเหล่านั้นก็มีแนวโน้มที่จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยตัวเองขณะที่การเขียนสคริปต์ดำเนินไป
-
ปรับแต่งเรื่องราวให้กระชับ. ตอนนี้คุณมีทุกอย่างบนกระดาษเรียบร้อยแล้ว ให้มองหาส่วนที่ไม่จำเป็น ความเชื่อมโยงที่อ่อนเกินไป รายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้อง การอธิบายยืดยาวเกินไป การออกนอกใจความ ส่วนสำคัญที่เชื่องช้า และอะไรก็ตามที่ทำให้วิถีทางของเรื่องราวทั้งหมดมันอ่อนลง ทำต้องเขี้ยวลากดินกับตัวเอง แค่คุณรักอะไรบางอย่างที่คุณสร้างมันขึ้นมาในขั้นตอนการบุกเบิก ไม่ได้หมายความว่ามันควรจะต้องอยู่ในขั้นตอนการขัดเกลาโฆษณา
-
ค้นคว้าหลังจากเขียนบทร่างแรกเสร็จแล้ว. ดูละครเวที รายการทีวี และภาพยนตร์ที่คล้าย ๆ กันกับงานที่คุณเพิ่งเขียนไป ทดลองเอางานของคุณมาเปรียบเทียบกับงานอื่น ๆ พวกนี้ ดูสิว่าคุณมีการเปรียบเทียบมากเกินไปไหม เรื่องราวของคุณมันแสดงออกมาเกินจริงหรือเปล่า ดูสิว่าคุณจะหาทางแยกตัวเองออกมาจากงานเหล่านี้ได้ไหม
- ทุ่มเทค้นคว้าอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณเขียนไป ใช้วิธีการทางปรัชญาต่อหัวข้อแนวคิดและท้าทายแนวคิดเดิม ๆ มันจะทำให้งานของคุณน่าดึงดูดใจมากขึ้น
-
ทำให้การเขียนเข้าใจง่ายขึ้น. คุณไม่จำเป็นต้องทำให้บทพูดหรูหราเกินความเป็นจริง หรือมีฉากบ้าบอที่ใช้ดึงดูดผู้ชมเลย มันคล้าย ๆ กับการเขียนหนังสือนั่นล่ะ งานของเราจะโดดเด่นที่สุดตอนที่เราแสดงมันออกมา ไม่ใช่ตอนที่เราพยายามประกาศตัว เลือกคำพูดให้กับตัวละครของคุณและทำให้สิ่งที่ตัวละครไม่ได้พูดมีความหมายมากกว่าคำที่พูด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เขียนพล็อตเรื่องในรูปแบบของสคริปต์. รูปแบบที่ถูกต้องนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังเขียนสคริปต์ให้กับโรงละคร ทีวี หรือหนังจอเงิน และเขียนในประเทศไหน (ตัวอย่างเช่น ในแวดวงทีวีของอเมริกา รูปแบบมาตรฐานของสคริปต์นั้นมีต้นแบบให้ดูได้ที่แผนธุรกิจ ใช้ส่วนหัวเรื่องเพื่อแนะนำฉาก ระบุผู้พูดแต่ละคน รวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ บริษัทผลิตภาพยนตร์และละครเวทีจำนวนมากไม่แม้แต่จะลองอ่านบทเลยด้วยซ้ำ ถ้าหากรูปแบบที่ทำมาไม่ถูกต้อง
- คุณอาจลองพิจารณาที่จะซื้อซอฟต์แวร์สำหรับการเขียนสคริปต์สำหรับขั้นตอนการดำเนินงาน มีหลายโปรแกรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดรูปแบบ หรือแม้แต่บางตัวยังสามารถแปลงสคริปต์ที่เขียนเสร็จแล้วให้อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องได้ด้วย
-
พยายามรักษาสไตล์ของตัวเองไว้. จำไว้ด้วยว่า สคริปต์เป็นมีใจความสำคัญที่การแสดงและบทสนทนา ต้องแน่ใจว่าตัวละครของคุณพูดอย่างสมจริง และพยายามอย่าใช้สำบัดสำนวนการพูดและคำศัพท์อลังการมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าต้องการให้เกินผลที่ตามมาอย่างเฉพาะเจาะจงโฆษณา
-
กำหนดฉาก. อย่าลืมที่จะใส่รายละเอียดสำคัญ ๆ อย่างเช่น ช่วงของวัน การจัดฉาก และการแสดงของตัวละครในฉาก สิ่งเหล่านี้มันมีความสำคัญพอ ๆ กับพูดที่เกิดขึ้น
-
บรรยายการแสดงอย่างกระชับเท่านั้น. ทำให้เกิดภาพและความรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในจอ แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้กำกับที่จะใส่รายละเอียด การเขียนบรรยายการแสดงนั้นไม่ใช่หน้าที่ของนักเขียน การใส่รายละเอียดในส่วนนี้มากจนเกินไป จะทำให้ผิดหวังเปล่า ๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
-
อย่าเสียดายเวลากับบทพูดของคุณ. บทพูดจะทำตัวละครของคุณและความสัมพันธ์ของตัวละครเชื่อมโยงกันหรือไม่ประติดประต่อกันก็ได้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ สำหรับคนส่วนมาก การเขียนบทพูดนั้นยากมาก ๆ เพื่อให้มีทิศทางที่แน่นอน ควรจะเขียนหรือบันทึกบทสนทนาจริง ๆ ที่คุณเห็นคนทั่วไปพูดกันจริง ๆ รวมทั้งสำนวนต่าง ๆ ที่พวกเขาใช้กันด้วย
- อย่าลืมว่าต้องฟังคนพูดให้หลากหลาย เพื่อที่คุณจะได้ทำให้ตัวละครของคุณมีลักษณะเฉพาะตัว
- ต้องแน่ใจว่าตัวละครที่ต่างกันจะมี “เสียง” และ “ลักษณะเฉพาะ” ของตัวเอง ซึ่งยึดจากที่มาที่ไปของตัวเองที่จะทำให้ตัวละครต่าง ๆ มีความผสมกลมกลืนกัน จำไว้ด้วยว่าลักษณะเฉพาะของตัวละครจะส่งผลต่อทัศนคติ การใช้คำและสำเนียงด้วย
- อ่านบทพูดของคุณออกมาดัง ๆ ขณะทำบท พยายามใส่ใจเป็นพิเศษว่ามันฟังดูตะกุกตะกัก ธรรมดา เกินจริง หรือจืดชืดเกินไปหรือไม่
โฆษณา
-
ตรวจสอบแก้ไขงานของคุณ. ขัดเกลางาน แต่ไม่ต้องถึงกับทำให้สมบูรณ์ไร้ที่ติ ทำงานโดยหวังว่า “เกือบ” ไร้ที่ติ ไม่ใช่ ไร้ที่ติ “โดยสิ้นเชิง”
-
นำผลงานที่เสร็จแล้วของคุณไปให้คนรับฟังความคิดเห็นดู. การเลือกคนนั้นไม่ใช่เพียงแค่คนที่มีที่มาต่าง ๆ กันเท่านั้น แต่ต้องมีรสนิยมส่วนตัวต่างกันด้วย แต่ที่เหมือนกันก็คือจะต้องยินดีให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา
- ไม่ต้องรู้สึกว่าถูกดูถูก ถูกบงการ ไม่พอ หรือโกรธจากคำวิจารณ์หรือข้อคิดเห็น เพราะสิ่งพวกนั้นคือความเห็น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ให้หัวเราะและกระตือรือร้นกับความช่วยเหลือและคำแนะนำเหล่านั้น แต่ให้ชั่งความเห็นของผู้ที่วิจารณ์งานของคุณกับการตัดสินใจของตัวคุณเองก่อนที่จะนำไปเปลี่ยนแปลงอะไร
-
ทบทวนแก้ไขงานของคุณให้มากที่สุดเท่าที่จำเป็น. มันอาจจะน่าหงุดหงิด แต่คุณจะยินดีเมื่อในที่สุดคุณก็สามารถถ่ายทอดสิ่งที่คุณคิดออกมาได้โฆษณา
เคล็ดลับ
- ต้องรู้ชนิดของสคริปต์ที่จะเขียน ถ้าหากสคริปต์ของคุณเป็นแบบตลก ต้องแน่ใจว่าคนอื่น ๆ คิดว่ามันตลก ถ้าหากคุณเขียนสคริปต์โศกนาฏกรรม ต้องทำให้บทพูดมันเศร้าและจับใจ
- ต้องแน่ใจว่าสคริปต์ของคุณฟังดูดีในชีวิตจริงและการพูดก็ไม่ฟังดูแข็งเหมือนหุ่นยนต์
- ถ้าคุณอยากจะเขียน “สคริปต์ภาพยนตร์” คุณอาจจะต้องใช้บริการค้นหาแบบออนไลน์ของแวดวงภาพยนตร์ เพื่อให้เรื่องและบทภาพยนตร์ของคุณได้รับการพิจารณาโดยผู้บริหารของแวดวงภาพยนตร์ในแพลตฟอร์มการเผยแพร่ที่ได้รับการปกป้องสิทธิ์
- “บทละครเวที” ควรจะมีหน้าปกที่ระบุชื่อเรื่องของละคร ผู้ประพันธ์บทละคร และความยาวโดยประมาณของบทละคร อย่างชัดเจน การกำกับเวที/การกำกับอื่น ๆ จะต้องเป็นตัวเอียง
- ก่อนจะตั้งโครง “บทภาพยนตร์” คุณจะต้องมีหลักฐานการสร้างแบบอิเล็กทรอนิกส์ คุณทำได้แบบออนไลน์
- คุณอาจจะเข้าชั้นเรียนการเขียนสคริปต์ ซึ่งจะมีแนวทางที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความแตกต่างของการเขียนสคริปต์เต็มรูปแบบ สิ่งที่มีความเฉพาะเจาะจงต่าง ๆ อย่างเช่น การพัฒนาพล็อตเรื่อง การพัฒนาตัวละคร และบทพูด
- ต้องแน่ใจว่าทำให้สคริปต์นั้นไม่ซ้ำแบบใครให้มากที่สุด!
- หาโปรแกรมเขียนสคริปต์ อย่างเช่น Celtx มาใช้ เพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบ
- ใส่จุดหักเหให้กับรูปลักษณ์หรือลักษณะนิสัยของตัวละคร
โฆษณา
ข้อควรระวัง
- อดทนสักนิด การเขียนนั้นใช้เวลา และสคริปต์ที่เขียนแบบเร่งรีบมักจะไม่ดีพอ ถ้าหากคุณใช้เวลาอย่างเต็มที่ สคริปต์ของคุณก็จะออกมาดีเยี่ยม
- ถ้าหากคุณอยากจะให้สคริปต์ของคุณถูกนำไปแสดงบนเวทีหรือในจอ คุณจะต้องติดต่อกับตัวแทนที่จะช่วยส่งสคริปต์ไปให้คนที่จำเป็นได้ (โปรดิวเซอร์และผู้กำกับ) บ่อยครั้งที่มันเป็นกระบวนการที่นานและยากลำบากกว่าที่สคริปต์จะได้รับการยอมรับ เพราะฉะนั้น จงอดทน
- อย่าคาดหวังว่าสคริปต์แรก ๆ ของคุณจะถูกเลือกทันที วงการนี้ไม่ได้เข้ากันง่าย ๆ
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
