ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักแสดงหรือต้องเค้นน้ำตาออกมาเพื่อให้คนเชื่อเรื่องเศร้าที่คุณแต่งขึ้น การฝึกร้องไห้แบบสั่งได้ก็เป็นทักษะที่มีประโยชน์ไม่น้อย แค่ฝึกนิดหน่อย ไม่นานคุณก็ร้องไห้แบบสั่งได้ได้แล้ว
ขั้นตอน
-
ลืมตาค้างไว้ให้นานที่สุด. การลืมตาค้างไว้จะทำให้ตาแห้งและเคืองตา สุดท้ายความแห้งก็จะกระตุ้นให้ตาผลิตน้ำตาออกมา เพราะฉะนั้นพยายามอย่ากระพริบตาจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าน้ำตาเริ่มมาแล้ว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณอยู่ใกล้พัดลม พยายามยืนขึ้นเพื่อให้ลมเป่าตา ซึ่งจะทำให้น้ำตาไหล
- ถ้าคุณสามารถจ้องแสงจ้าได้ น้ำตาก็จะยิ่งไหลเร็วขึ้น
-
ขยี้ตา. หลับตาแล้วขยี้เปลือกตาเบาๆ ประมาณ 25 วินาที จากนั้นก็ลืมตาและจ้องมองอะไรบางอย่างจนกว่าน้ำตาจะเริ่มคลอเบ้า วิธีนี้อาจจะต้องฝึกสักหน่อย แต่พอคุณทำได้แล้ว มันจะได้ผลมากๆ การขยี้ตาทำให้ผิวหนังรอบดวงตาแดงก่ำ แต่ก็อย่าขยี้แรงเกินไป ไม่อย่างนั้นดวงตาอาจบาดเจ็บได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้นิ้วชี้แตะลูกตาดำข้างหนึ่งเบาๆ วิธีนี้จะทำให้ตาระคายเคืองและอาจทำให้น้ำตาไหล แต่ระวังอย่าจิ้มเข้าไปลูกตาแล้วกัน
-
กัดริมฝีปากด้านใน. ความรู้สึกเจ็บนิดหน่อยมักทำให้น้ำตาคลอเบ้า และถ้าคุณต้องร้องไห้แบบสั่งได้ คุณก็สามารถอาศัยความเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ได้เช่นกัน วิธีนี้ได้ผลดีเป็นพิเศษถ้าคุณกัดริมฝีปากระหว่างที่คุณกำลังคิดเรื่องเศร้าๆ ไปด้วย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองค้างลมหายใจเอาไว้ระหว่างที่กัดริมฝีปากด้านใน เพราะจะช่วยให้คุณจดจ่ออยู่กับความเจ็บมากขึ้น
- นอกจากนี้คุณก็อาจจะหยิกตัวเองแรงๆ ตรงบริเวณที่ไวต่อการสัมผัส เช่น ต้นขาหรือตรงระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้
-
ทาสารผลิตน้ำตาใต้ดวงตา. ใช้เทคนิคแบบนักแสดงฮอลลีวูดโดยการทาแท่งน้ำตาที่เย็นๆ คล้ายยาหม่องใต้ดวงตาเบาๆ อาจจะแสบหน่อยแต่มันจะสมจริงมาก และต้องระวังอย่าให้เข้าตา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้คุณก็สามารถใช้น้ำตาเทียมเพื่อให้ดูเหมือนว่าใบหน้าของคุณเปื้อนคราบน้ำตาก็ได้ แค่หยดลงตรงหัวตาเพื่อให้ดูเหมือนว่ามันไหลลงบนใบหน้า
-
หั่นหอมหัวใหญ่. การหั่นหอมหัวใหญ่ที่ยังไม่ได้ล้างเป็นวิธีเรียกน้ำตาที่ได้ผลมากๆ แต่วิธีนี้อาจจะได้ผลดีแค่กับการเล่นละครเวที เพราะคนคงไม่เชื่อว่าคุณร้องไห้จริงๆ ถ้าคุณเอาหอมหัวใหญ่ออกมาหั่นก่อนที่คุณจะร้องไห้ออกมา! [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณสามารถหนีไปอีกห้องได้ ให้หยิบหอมหัวใหญ่หั่นแล้วมาสัก 2-3 ชิ้น หยิบมาดมใกล้ๆ ใบหน้า พอน้ำตาเริ่มคลอ ก็กลับไปคุยต่อ
-
6บังคับให้ตัวเองหาว. การหาวจะทำให้น้ำตาคลอเบ้า และถ้าคุณอ้าปากหาวกว้างพอน้ำตาก็จะเริ่มไหลออกมา พยายามซ่อนหาวโดยการหาอะไรมาปิดปาก หรือคุณอาจจะหาวแบบไม่เปิดปากก็ได้เพื่อให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นโฆษณา
-
คิดถึงช่วงเวลาที่คุณรู้สึกอ่อนไหวมากๆ. ถ้าคุณต้องร้องไห้ออกมาเดี๋ยวนั้น การคิดถึงช่วงเวลาที่คุณเศร้าช่วยให้จิตใจของคุณอยู่ในห้วงที่จะทำให้น้ำตาไหลออกมาได้ เช่น การคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่คุณสูญเสียคนที่คุณรักหรือการเลิกราที่เจ็บปวดมากๆ อาจช่วยคุณได้ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เหตุการณ์อื่นที่กระตุ้นอารมณ์ได้ก็อาจจะเป็นการสูญเสียคนพิเศษของคุณไป มีปัญหากับพ่อแม่ หรือพลาดสิ่งที่คุณตั้งใจทำให้สำเร็จ
-
จินตนาการว่าตัวเองอ่อนแอหรือสิ้นหวัง. ลึกๆ แล้วหลายคนกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ตัวเองเชื่อ การนึกภาพตัวเองไร้ค่าและอ่อนแออาจทำให้ใจของคุณอยู่ในจุดที่เปราะบางที่อาจทำให้ร้องไห้ออกมาได้จริงๆ [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- พอคุณเข้าถึงอารมณ์นั้นแล้ว ปล่อยให้ความรู้สึกสิ้นหวังหลั่งไหลออกมาผ่านน้ำตาของความกลัว
- เช่น การฝึกฝนทั่วไปในคลาสการแสดงจะให้คุณจินตนาการว่าตัวเองเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่มีใครดูแล [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้จินตนาการสร้างสถานการณ์ที่เลวร้าย. บางครั้งการคิดย้อนไปถึงประสบการณ์เลวร้ายในอดีตอาจทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ขึ้นมาจริงๆ จนยากที่จะรับมือไหว ถ้าคุณเป็นอย่างนั้น พยายามจินตนาการถึงเรื่องเศร้าที่อาจเกิดขึ้นได้ที่คุณสมมุติขึ้นมาแทนที่จะไปคิดเรื่องส่วนตัวจริงๆ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คุณอาจจะคิดว่ามีลูกหมาถูกทิ้งอยู่ข้างถนน คุณอยากช่วยทุกตัว แต่คุณช่วยได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น ขณะที่คุณอุ้มลูกหมาตัวที่คุณช่วยไว้ คุณก็หันกลับไปมองตัวอื่นๆ ที่คุณไม่ได้อุ้ม
-
ร้องไห้อย่างมีความสุขถ้าคุณไม่อยากเศร้า. จินตนาการถึงสิ่งที่ทำให้คุณน้ำตาคลออย่างมีความสุข เช่น ตอนที่มีคนให้ของขวัญที่มีความหมายกับคุณ ทหารผ่านศึกที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง หรือคนที่คว้าชัยชนะมาได้ท่ามกลางความยากลำบาก [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตราบใดที่คุณไม่ได้ยิ้มออกมา ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณร้องไห้ด้วยความปลื้มปิติหรือความเศร้า
โฆษณา
-
ทำหน้าร้องไห้. โดยทั่วไปที่คุณต้องทำก็คือหลับตาแล้วทำหน้าย่นเล็กน้อย แค่จินตนาการถึงการเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยการนึกว่าหน้าตาของคุณเป็นอย่างไรเวลาที่คุณร้องไห้ออกมาจริงๆ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร ให้ส่องกระจกแล้วแกล้งทำเป็นร้องไห้ จากนั้นสังเกตว่ากล้ามเนื้อใบหน้าของคุณรู้สึกอย่างไร
- เบะมุมปากลงเล็กน้อย
- พยายามยักมุมด้านในของคิ้วขึ้น
- ทำคางย่นเหมือนเวลาที่คนเราทำก่อนจะแหกปากร้องไห้ออกมา แต่ถ้าทำมากเกินไปมันจะดูปลอมได้ เพราะฉะนั้นพยายามเล่นให้เนียน
-
จดจ่ออยู่กับลมหายใจ. การหายใจเป็นส่วนที่ทำให้คนอื่นเชื่อว่าคุณเศร้าจริงๆ เริ่มสะอึกสะอื้นด้วยการทำเสียงเหมือนคนร้องไห้และหายใจไปพร้อมกัน หายใจ เข้าสม่ำเสมอราวกับว่าคุณกำลังหอบ อย่าลืมหายใจขาดห้วงเล็กน้อยเป็นพักๆ เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าไม่มีใครเห็น ให้วิ่งอยู่กับที่หลายๆ นาทีเพื่อให้ตัวเองหายใจหอบ วิธีนี้ยังช่วยทำให้หน้าแดงเหมือนเวลาร้องไห้จริงๆ ด้วย
-
ก้มหน้าหรือเอามือปิดหน้าเพื่อให้ยิ่งดูสมจริง. พอน้ำตาเริ่มมา ทำหน้าร้องไห้ และหายใจหอบแล้ว ก็ปิดท้ายอีกเล็กน้อยเพื่อความสมจริง เช่น เอามือปิดหน้า เอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะ หรือทำคอตกให้ดูเหมือนว่าคุณเศร้า
- คุณอาจจะกัดปากด้วยเพื่อให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
- มองไปทางอื่น พยายามแกล้งทำเป็นว่าคุณไม่ได้ร้องไห้เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก!
-
เพิ่มเสียงสะอื้นเพื่อให้เหมือนว่าคุณร้องไห้อยู่จริงๆ. เวลาที่คุณร้องไห้ เส้นเสียงจะบีบตัว ทำให้เกิดเสียงแหบพร่าหรือเสียงสะอื้นเวลาที่คุณพยายามพูดออกมาตอนกำลังร้องไห้ พยายามพูดตะกุกตะกักและหายใจเข้ายาวๆ เพื่อเพิ่มความสมจริง
- วิธีการนี้โดยพื้นฐานก็คือให้ "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ยิ่งคุณแสดงอารมณ์ออกมาเท่าไหร่ ร่างกายของคุณจะทำตามที่ใจสั่งและแสดงท่าทางออกมาได้อย่างที่คุณต้องการ
-
ไม่สนใจโลกข้างนอก. ถ้าคุณอยากร้องไห้แบบสั่งได้ คุณต้องผ่อนคลาย หายใจ และจดจ่ออยู่กับเหตุผลที่คุณต้องร้องไห้ออกมา การปิดกั้นตัวเองจากสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจจะทำให้คุณสามารถด่ำดิ่งลงไปในอารมณ์ที่คุณกำลังแสดงออกมาได้ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอามือปิดหน้าแล้ว หัวเราะ ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกเศร้า. บางครั้งมันก็ดูไม่ค่อยออกว่าอีกคนกำลังหัวเราะหรือร้องไห้กันแน่ถ้าเขาแกล้งทำได้เนียนจริงๆ ขณะที่เอามือปิดหน้า ให้สั่นหัวไหล่และพยายามทำให้ตาดูแดงๆ เล็กน้อยด้วยการเอามือขยี้ตาแรงๆ และอย่า ยิ้ม ตอนเอามือออก
- วิธีนี้ได้ผลกับการแสดงบนเวทีมากที่สุด เพราะคนดูไม่ได้อยู่ใกล้คุณจนสามารถเห็นน้ำตาหรือใบหน้าได้อย่างชัดเจน
- อย่าหัวเราะมีเสียง ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะจับโป๊ะได้ว่าคุณกำลังหัวเราะ! ถ้าคุณบังเอิญหัวเราะเสียงดังออกมา พยายามทำเสียงร้องไห้เช่นเสียงกระซิกหรือสะอึกสะอื้นหลังจากนั้น แต่ก็อย่ามากเกินไปนะ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ดื่มน้ำเยอะๆ ถ้าร่างกายไม่มีน้ำมากพอ คุณจะร้องไห้ออกมาไม่ได้
- อย่าร้องไห้คร่ำครวญจนเกินเหตุหรือโจ่งแจ้งเกินไป เพราะว่าคนที่คุณพยายามจะทำให้เขาเชื่ออาจจะสงสัยเอาได้ ทำเหมือนว่าคุณไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าเขาเลย ทำท่าละอายใจหน่อยๆ หรือขอโทษที่ตัวเองร้องไห้ด้วยก็ได้นะ!
- ถ้าคุณยังเด็กอยู่ ให้คิดถึงความยากลำบากที่โรงเรียนที่อาจทำให้คุณร้องไห้ออกมาได้ เช่น ลองคิดดูว่าข้อสอบวิชาคณิตมันยากแค่ไหนเพราะว่าคุณไม่เข้าใจหลักการเลย
- จ้องกำแพงโล่งๆ ให้นานที่สุด เมื่อตาเริ่มจะเคือง ให้หลับตา 5 วินาที วิธีนี้อาจจะทำให้น้ำตาไหลออกมาได้
- ทำเป็นกลั้นน้ำตาแทน ถ้าคุณไม่สามารถบังคับให้ตัวเองร้องไห้ออกมาได้ บางครั้งการทำเหมือนกลั้นน้ำตาเอาไว้ก็อาจจะดีกว่า บางครั้งคนเราก็มีอารมณ์ร่วมไปกับอะไรแบบนี้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปกติแล้วคุณเป็นคน "ใจแข็ง" ซึ่งจะน่าเชื่อถือมากกว่าเพราะมันสื่อถึงความเปราะบางมากกว่า
- ถ้าเป็นไปได้ให้ฟังเพลงเศร้า/เร้าอารมณ์ก่อนคิดเรื่องเศร้าเพื่อให้อารมณ์รุนแรงขึ้น
- ลองกระพริบตาเร็วๆ บางครั้งมันก็ทำให้น้ำตาไหลได้
- ฝึกร้องไห้ด้วยการร้องไห้ตามนักแสดงในหนัง
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าจ้องดวงอาทิตย์เพื่อให้น้ำตาไหลเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนดวงอาทิตย์ก็ปล่อยรังสีที่แรงพอที่จะทำลายการมองเห็นได้!
- ถ้าคุณใช้แท่งน้ำตาหรือสารอื่นๆ เพื่อให้น้ำตาไหล อย่าให้มันเข้าไปในดวงตา เพราะมันอาจจะส่งผลเสียต่อการมองเห็นได้
- อย่าทำหน้าตาเหยเกจนรู้สึกเกร็ง แต่ให้ ผ่อนคลาย กล้ามเนื้อบนใบหน้าแทน
- อย่าทำให้ตาระคายเคืองมากเกินไป เพราะถ้าไม่ระวังอาจทำให้ดวงตาบาดเจ็บได้
- ถ้าคุณแต่งตาสีเข้ม การร้องไห้จะทำให้เครื่องสำอางเละแน่ๆ และต้องแต่งหน้าใหม่ แต่มาสคาราที่ไหลเยิ้มจะทำให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://kidshealth.org/en/kids/eyes-water.html
- ↑ http://www.health.com/eye-health/eye-care-mistakes
- ↑ https://www.independent.co.uk/life-style/health-and-families/features/why-do-we-cry-the-science-of-tears-9741287.html
- ↑ https://www.cinemablend.com/television/Secret-Trick-Crying-Command-According-Anna-Faris-98487.html
- ↑ https://www.nytimes.com/2017/09/05/science/onions-crying-chemicals.html
- ↑ https://www.backstage.com/advice-for-actors/how-to-cry-on-cue/
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25928892
- ↑ https://www.nytimes.com/2015/02/22/magazine/how-to-cry-on-command.html
- ↑ https://www.backstage.com/advice-for-actors/how-to-cry-on-cue/
โฆษณา
