ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเริ่มหันมาเคารพตนเองจะช่วยให้คุณมีศักยภาพในการใช้ชีวิตดีมากขึ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้างและที่มากไปกว่านั้นคือ เมื่อทุกคนเห็นว่าคุณนั้นเคารพตนเองและเป็นคนที่คู่ควรกับการให้ความเคารพนับถือแล้วเขาก็จะหันมาให้เกียรติคุณกันเอง และถ้าคุณอยากจะเริ่มหันมาเคารพตนเองจริงๆ แล้วล่ะก็ ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ปรับทัศนคติให้ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยิ่งคุณรู้จักและเข้าใจตัวเองมากเท่าไรคุณก็จะยิ่งรู้ว่าคุณเป็นคนที่แตกต่างและจะยิ่งเคารพตนเองมากขึ้นเท่านั้น คุณจะต้องรู้ว่าหลักการในการใช้ชีวิตของตนเองมีอะไรบ้าง ลักษณะนิสัยของตนเองเป็นอย่างไรและตนเองมีความสามารถและเก่งในด้านไหน ซึ่งมันอาจจะใช้เวลาสักพักหนึ่งในการเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองแบบนี้แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณก็จะรู้เองว่าการใช้เวลาเรียนรู้ตนเองนั้นมันเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากๆ
    • ลองเขียนความรู้สึกหรือกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตที่สำคัญต่อคุณออกมา วิธีนี้จะช่วยคุณสามารถรู้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการและชอบทำ [1]
    • ลองทำสิ่งใหม่ๆ บ้างเพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ชอบ และอะไรคือสิ่งที่ไม่ชอบ [2]
    • ลองเขียนไดอารี่ดูบ้าง โดยให้แสร้งทำว่าคุณกำลังคุยอยู่กับตัวคุณเองตอนอายุ 99 ปีอยู่ คุณจะต้องตั้งคำถามและตอบลงไปในสมุดนั้น อาจจะเริ่มด้วยการตั้งหัวข้อแรกหรือคำถามแรกเอาไว้ว่า “มีเรื่องอะไรบ้างที่ฉันไม่อยากเขียนลงไปในสมุด” วิธีนี้จะสามารถทำให้คุณนั้นซื่อสัตย์กับตนเองมากขึ้น [3]
    • ใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้างเหมือนกับว่าคุณกำลังออกเดทกับตัวเอง เช่น ลองออกไปทานข้าวที่ร้านใหม่ๆ ดูบ้าง [4] วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสในการเข้าใจความรู้สึกและความคิดของตัวเองมากขึ้น
  2. ถ้าคุณอยากที่จะเคารพตนเอง คุณจะต้องให้อภัยตนเองในสิ่งที่คุณได้ทำผิดไปในอดีตให้ได้เสียก่อน ให้ยอมรับกับสิ่งที่เคยทำผิดจากนั้นก็ให้ขอโทษตนเอง และผู้อื่นถ้าเป็นไปได้ จากนั้นให้เรียนรู้ที่จะเดินหน้าต่อไป เพราะถ้าคุณยังจมอยู่กับอดีต และโทษตัวเองอยู่อย่างนั้น คุณก็จะไม่สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่พวกเราจะทำผิดพลาดกันบ้าง แต่เมื่อทำผิดพลาดแล้ว เราก็ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ ยอมรับ และให้อภัยตนเองให้ได้ [5]
  3. รู้จักที่จะอยู่ ยอมรับ และรักตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องคิดว่าตัวเองดีที่สุดในโลกแต่คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะโอบกอดความเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุด พอใจ และมีความสุขในสิ่งที่ตนมี และยอมรับในสิ่งที่คุณขาดหรือไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้มีความสุขที่สุด
    • หยุดบอกกับตัวเองว่าคุณจะรักตัวเองก็ต่อเมื่อน้ำหนักของคุณลดลงไป 10 กิโล เพราะคุณจะต้องรักตัวเองตั้งแต่วันนี้ ตอนนี้
  4. การเคารพตนเองเป็นเรื่องยากถ้าคุณไม่มีความสุขกับรูปลักษณ์ภายนอก สิ่งที่คุณเป็นหรือสิ่งที่คุณทำ การสร้างความมั่นใจให้ตนเองนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก และอาจจะต้องทำหลายอย่างมากพอสมควร แต่คุณสามารถเริ่มต้นทำได้วันละนิดวันละหน่อย ค่อยๆ สะสมไปได้ [6]
    • เริ่มต้นโดยการเปลี่ยนบุคลิกภาพของตนเอง พยายามทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุข และเป็นแง่บวก เช่น การยิ้มให้มากขึ้น และคิดบวกมากขึ้นในทุกๆ ชั่วโมง
    • ถ้ามีใครชมคุณก็ให้ตอบเขาไปว่า “ขอบคุณครับ/ค่ะ”
  5. ทัศนคติสามารถสร้างหรือทำลายความสำเร็จในชีวิตของคุณได้มากพอๆ กับการยอมรับในตนเองนั่นแหละ ถึงแม้ว่าชีวิตจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังเสมอ แต่ก็ขอให้คุณมั่นใจ คิดบวกเอาไว้ว่า เดี๋ยวมันก็คงจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น พยายามทำตัวให้มีความสุข คิดบวกในทุกๆ วัน เพราะถ้าคุณคิดลบกับทุกอย่างในโลก คุณจะไม่สามารถหาความรู้สึกดีๆ ให้กับตัวคุณเองได้ และในที่สุดก็จะไม่สามารถเคารพตนเองได้ด้วย
    • ตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปสมัครงานพยายามอย่าพูดว่า “คนอื่นเก่งกว่าฉันตั้งเยอะ ฉันไม่มีทางได้งานนี้แน่นอน” โดยให้พูดแบบนี้แทนว่า “น่าตื่นเต้นจังเลยถ้าฉันได้งานนี้ ถึงแม้ฉันจะไม่ได้ถูกเชิญมาสัมภาษณ์แต่ฉันก็ภูมิใจมากๆ เลยที่ฉันสมัครเข้ามาเอง”
  6. เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณไม่สามารถหันมาเคารพตนเองได้ก็คือการที่คุณชอบรู้สึกแย่ เวลาที่เพื่อนๆ มีแฟนกันหมด แต่คุณยังโสดอยู่ หรือเวลาที่คุณรู้สึกว่ามีเงินน้อยกว่าคนอื่นเขา อย่าไปเสียเวลาคิดเรื่องแบบนี้เพียงเพราะอยากให้ตนเองรู้สึกสูงส่ง และให้เพื่อนในเฟซบุ๊คประทับใจเลย เพราะการหันมาทำสิ่งที่คุณชอบให้ดีที่สุด และประสบความสำเร็จนั้นมันน่าประทับใจมากเสียยิ่งกว่า การเดินตามรอยเท้าของคนอื่นเขาเป็นไหนๆ [7]
  7. หยุดปรารถนาในสิ่งที่คนอื่นมีแต่คุณไม่มีได้แล้ว และหันมาเริ่มลงมือทำในสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ แทน เพราะความรู้สึกขมขื่นที่มาพร้อมความอิจฉาริษยาในจิตใจของคุณ เวลาเห็นคนอื่นได้ดีนั้นจะทำให้คุณเริ่มเกลียดตัวเอง และไม่ชอบตัวเองมากขึ้น เพราะคุณไม่สามารถเป็นในแบบที่คนอื่นเป็นได้ คุณจะต้องเลิกอิจฉาคนอื่น และหันมาทำในสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขแทนให้ได้ [8]
  8. ถ้าคุณอยากที่จะเคารพตนเองเป็นคุณจะต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตนเองให้ได้ คุณจะต้องมีความหนักแน่นในความเชื่อนั้น และพยายามเข้าใจตนเองให้ได้มากที่สุดว่า อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขได้ ที่สำคัญที่สุดคือ การให้รางวัลกับตัวเอง หลังจากที่เลือกในสิ่งที่ต้องการ และต้องตั้งใจทำในสิ่งที่ตนเองเลือกให้ดีที่สุด ไม่ว่ามันจะยากมากแค่ไหนก็ตาม
    • บางครั้งการขอคำปรึกษาจากคนอื่นก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะมันจะช่วยให้คุณได้เห็นมุมอื่นของเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่คุณต้องห้ามใช้เวลาไปกับการโทษตัวเอง เกี่ยวกับสิ่งที่ตนได้ทำลงไปว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดพลาด และเป็นสิ่งที่คุณไม่น่าทำเสียเลย
  9. ถ้าคุณอยากที่จะเคารพตัวเองเป็นจริงๆ แล้วล่ะก็ คุณจะต้องยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้ ซึ่งถ้ามีคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ ติคุณเพื่อก่อหรือประเมินตัวตนคนของคุณให้คุณฟัง คุณจะต้องใช้คำติชมเหล่านั้นเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเองให้ได้ เพราะการติเพื่อก่อแบบนี้จะสามารถช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่ดีมากขึ้นในอนาคต [9]
    • แฟนของคุณอาจจะบอกว่าคุณเป็นคนพูดมาก และน่าจะเป็นผู้ฟังบ้าง หรือหัวหน้างานของคุณอาจจะบอกว่าคุณจะต้องเขียนรายงานให้รอบคอบมากกว่านี้
    • ถ้ามีใครพยายามพูดทำร้ายจิตใจคุณ คุณก็อย่าเก็บคำติชมพวกนั้นมาใส่ใจ เพราะบางครั้งการแยกแยะระหว่างคนที่พูดความจริงแรงๆ กับพวกที่พูดเรื่องแรงๆ ให้ดูเบาได้นั้นอาจจะยาก โดยคุณจะต้องไตร่ตรองคำติชมคุณนั้นอย่างซื่อสัตย์ และรอบคอบเท่าที่จะเป็นไปได้
  10. อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่คุณค่าของคุณ และความสุขของคนนั้นจะต้องมาจากภายในตัวคุณเอง ไม่ใช่จากคนอื่นรอบตัวคุณ แน่นอนว่าคำชมทั้งหลายอาจจะทำให้คุณรู้สึกดีได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วความสุข และความพึงพอใจในตนเองนั้นจะต้องออกมาจากภายใน อย่ายอมให้คนอื่นมาสอนคุณว่าคุณเป็นใคร ทำให้คุณดูไม่มีค่า หรือทำให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อของคุณเอง ถ้าคุณอยากที่จะเคารพตนเองแล้วล่ะก็ คุณจำเป็นจะต้องเชื่อมั่น และเคารพการตัดสินใจของตนเอง และจำเอาไว้ว่าคนที่เขาเกลียดเรายังไงเขาก็เกลียดเรา
    • ถ้าคุณปล่อยให้คนอื่นเข้ามาเปลี่ยนแปลงความคิด หรือการตัดสินใจของคุณได้ ทุกคนก็จะคิดว่าคุณไม่มีความเข้มแข็ง และไม่มีความมั่นคงพอ แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณสามารถที่จะเชื่อมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วล่ะก็ คนเหล่านั้นก็จะเข้ามายุ่งกับชีวิตคุณได้ยากมากขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนเรามักจะไม่ชอบทำให้ตัวเองเสียใจเหมือนกับไม่ชอบทำให้คนที่รักเสียใจอย่างไรก็อย่างนั้น ตัวอย่างเช่นเราก็จะไม่ว่าเพื่อนที่เรารักว่าน่าเกลียด ไม่ดีพอหรือไม่พยายามทำให้เพื่อนเสียกำลังใจ เวลาที่พวกเขาอยากจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งให้สำเร็จ ซึ่งคุณเองก็ต้องทำสิ่งเหล่านี้กับตัวเองเช่นเดียวกัน อย่าดูถูกตนเองหรือลงโทษตัวเองไม่ว่าคุณจะรู้สึกแย่หรือผิดมากแค่ไหนเพราะมันจะมีแต่ทำให้คุณยิ่งรู้สึกแย่ไปมากกว่าเดิม โดยให้คุณลองเปลี่ยนมาเคารพตัวเองในแบบอื่นๆ แทนบ้าง ดังนี้:
    • อย่าขโมยเงินตัวเอง เช่น การใช้บัตรเครดิตตลอดเวลาเพราะการใช้บัตรเครดิตคือการนำเงินของตัวเองในอนาคตมาใช้ก่อนและตามไปจ่ายทีหลัง
    • ซื่อสัตย์กับตนเองแทนที่จะปฏิเสธทุกๆ อย่างที่ตนต้องการ
    • พัฒนาตนเองด้วยตัวของคุณเอง เช่น การค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองแทนที่จะทำตามในสิ่งที่คนอื่นบอก
  2. การที่คุณพยายามดูแลร่างกายให้แข็งแรงนั้นไม่เพียงแต่จะทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายภายนอกที่แข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่มันจะทำให้คุณมีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์ที่ดีของคุณได้อีกด้วย แต่ที่สำคัญคือที่สุดคือคุณจะต้องไม่ดูถูกรูปลักษณ์ของตัวเองและยอมรับมันไปตามธรรมชาติให้ได้ คุณจะต้องดูแลร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี แต่ก็อย่าไปเสียเวลาควบคุมมื้ออาหาร หรือจริงจังกับการลดน้ำหนักมากเกินไป ให้หันไปปรังปรุง และดูแลในส่วนที่คุณสามารถควบคุมได้แทน แต่อย่างไรก็ดีคุณต้องห้ามคิดว่าคุณนั้นไม่ดีพอคุณเลยต้องหันมาปรับปรุงตนเองก็ใช้ แต่ให้คิดเอาไว้เสมอว่าคุณนั้นดีพอแล้วแต่ที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้นนั้นเป็นเพราะมันทำให้คุณรู้สึกดีเท่านั้น [10]
    • ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าการที่คุณเข้าฟิตเนสจะทำให้คุณเกิดการเคารพในตัวเองได้เลย แต่มันหมายความว่าถ้าคุณไม่มีเวลาที่จะใส่ใจดูแลตัวเองหรือหันมามองรูปลักษณ์ของตัวเองบ้างเลย คุณก็จะเสียความเคารพในตัวเองไปในที่สุด
  3. การเคารพตัวเองไม่ได้หมายความว่าคุณคิดว่าคุณสมบูรณ์แบบอยู่แล้วและไม่มีอะไรที่จะต้องปรับปรุงอีก แต่มันหมายความว่าคุณจะต้องยอมรับในสิ่งที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้และหันไปปรับปรุงในสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ให้ดี มันอาจจะใช้เวลาสักพักหนึ่งในการหาว่าอะไรคือสิ่งที่คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงมากที่สุด อาจจะเป็นทางด้านทักษะการฟัง การลดความเครียดลงในชีวิตวันละนิดวันละหน่อย หรือหาความพอดีในการทำให้คนอื่นรอบๆ ตัวหันมาชอบเราโดยที่เราไม่ต้องเสียสละไปเสียทุกอย่าง เป็นต้น
    • ตั้งใจทำเรื่องนี้ให้ดีๆ เพื่อที่คุณจะสามารถเคารพตนเองให้มากขึ้นได้ในอนาคต โดยให้คิดออกมาเลยว่ามีสิ่งไหนบ้างที่ต้องการจะปรับปรุง และจดไว้เลยว่าสิ่งไหนปรับปรุงได้บ้างแล้วโดยไม่สำคัญว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จดเอาไว้ เพราะจุดเล็กๆ สามารถกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้
    • แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเกิดความแตกต่าง ความคิดหรือแม้แต่ทั้งความรู้สึกมันต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งหรือสองวันอยู่แล้ว มันจะต้องใช้ทั้งความแน่วแน่ และความอดทนในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้แน่นอน แต่เมื่อคุณเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง และกลายเป็นคนที่คุณเคารพมากขึ้นคุณก็จะเริ่มมี ความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเช่นกัน
  4. การพัฒนาตนเองหมายความว่าคุณจะต้องเปิดใจเรียนรู้และทำในสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตบ้าง
    • การพัฒนาตนเองสามารถทำได้ไม่ยาก เช่น การเข้าคอร์สเรียนโยคะ ใช้เวลาคุยและเรียนรู้จากผู้หลักผู้ใหญ่ที่คุณรัก มองสถานการณ์ต่างๆ ด้วยหลากหลายมุมมองมากขึ้น อ่านข่าวเยอะๆ และเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณต้องการที่จะเคารพตัวเองเป็น คุณจะต้องรู้จักที่จะเคารพคนรอบตัวเป็นด้วย โดยคุณไม่จำเป็นจะต้องเคารพแต่เพียงผู้ที่มีบุญคุณหรือเกี่ยวข้องอะไรกับคุณเท่านั้น คุณสามารถให้ความเคารพกับทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ที่ไม่ได้ทำร้ายหรือทำอันตรายใดๆ ให้คุณได้ รวมไปถึงบางคนที่ไม่สมควรได้รับการเคารพด้วยเช่นกัน คุณก็จะต้องปฏิบัติต่อคนพวกนั้นในแบบที่คุณต้องการได้รับกลับมาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดกับหัวหน้าหรือกับพนักงานขายร้านสะดวกซื้อคุณก็ต้องให้ความเคารพเช่นเดียวกัน โดยคุณจะต้องมีสิ่งพื้นฐานเหล่านี้ในการเคารพคนอื่น:
    • ซื่อสัตย์กับคนอื่น
    • อย่าลักขโมย ทำร้ายหรือดูถูกคนอื่น
    • ฟังในสิ่งที่พวกเขาพูด เปิดใจรับความคิดเห็นและอย่าแทรกในขณะที่คนอื่นกำลังพูดอยู่
  2. รู้ว่าเมื่อไรที่มีคนเริ่มไม่เคารพคุณ และหยุดพวกเขาเสีย. คนที่จะมีความเคารพในตนเองได้นั้นจะต้องไม่ยอมปล่อยให้คนอื่นเข้ามาทำสิ่งที่ไม่ดีกับตัวเอง หรือจะต้องไม่เข้าพัวพันกับพวกที่ไม่เคารพคนอื่น ฟังดูมันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากนักแต่ในความเป็นจริง หลายๆ ครั้งที่เรายอมปล่อยคนอื่นเข้ามาทำร้าย (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่) เพราะพวกเราคิดว่าพวกนั้นอาจจะไม่ได้ตั้งใจและคุณอาจจะไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง และไม่กล้าพอที่จะต่อสู้กับคนพวกนี้ ต่อจากนี้ไปถ้ามีใครเข้ามาปฏิบัติตัวไม่ดีกับคุณหรือไม่เคารพคุณ คุณก็ควรบอกเขาไปตรงๆ เลยว่าให้พวกเขาเคารพคุณให้มากกว่านี้! [11]
    • แต่ถ้ายังมีคนบางคนที่ไม่เคารพคุณอยู่ล่ะก็ คุณก็ต้องเลิกยุ่งกับพวกเขาเสีย ไม่มีใครบอกว่าการเลิกคบคนที่เขาไม่เคารพนั้นเป็นเรื่องง่าย ยิ่งในกรณีที่เป็นเขาเป็นคนที่คุณแคร์ แต่ถ้าเมื่อไรที่คุณสามารถเลิกยุ่งกับคนจำพวกนี้ได้แล้วคุณก็จะสามารถหันมาเคารพตนเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
    • ลองสังเกตดูความสัมพันธ์ที่เป็นแบบมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นใหญ่ให้ดีๆ เพราะในความสัมพันธ์แบบนี้อาจจะเห็นเรื่องของการไม่เคารพซึ่งกันและกัน ยากสักหน่อยเนื่องจากคนนั้นเขาอาจจะค่อยๆ ไม่เคารพเราในแบบที่เราไม่รู้ตัวมาเป็นระยะเวลานานจนเราชินไปเสียแล้ว
  3. เรียนรู้ที่จะสื่อสารพูดคุยแบบไม่ใช้ความรุนแรงกับคนอื่น. เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับคนที่เขาไม่เคารพคุณ ให้คุณพยายามคุยกับเขาดีๆ อย่างสร้างสรรค์และอย่าใช้คำที่ก่อให้เกิดความรุนแรงระหว่างคุณและเขา โดยมีหลักในการปฏิบัติดังนี้: [12]
    • อย่าเถียงหรือตะโกนใส่กัน และห้ามดูถูกอีกฝ่ายหนึ่งเพราะมันไม่ได้ทำให้บทสนทนาของคุณนั้นดีขึ้นหรือสร้างสรรค์ขึ้นเลย มีแต่จะแย่ลง
    • มองความรู้สึกของตัวเองให้ออกว่ารู้สึกอย่างไร พยายามซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองและต้องรับผิดชอบกับความรู้สึกของตัวเองด้วย
    • บอกสิ่งที่คุณต้องการตรงๆ ไปเลย เช่น พูดว่า “ฉันอยากจะมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น และฉันไม่อยากฟังเรื่องลบๆ เกี่ยวกับตัวฉันอีก”
  4. หลายๆ ครั้งที่คนเราเวลาคบกับเพื่อนหรือแฟนเรา จะยอมเสียสละสิ่งที่เราต้องการหลายๆ อย่างไป และยอมให้คนอื่นมามีอิทธิพลเหนือเราเพียงเพราะเราไม่อยากเสียความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาไป พอนานๆ เข้าคุณก็จะเริ่มเห็นความคิดของคนอื่นสำคัญกว่าตัวเอง และจะยอมให้ความต้องการของคนอื่นอยู่เหนือตนเองไปในที่สุด และนี่ก็จะกลายเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณเริ่มเคารพตัวเองน้อยลงแล้ว เพราะฉะนั้นคุณต้องเห็นความต้องการของตนเองสำคัญกว่าของคนอื่นบ้าง และอย่ายอมปล่อยให้คนอื่นมากำหนดความสุขของคุณได้อีก
    • คุณอาจจะเริ่มต้นง่ายๆ โดยการเรียนรู้ว่าอะไรที่คุณควบคุมได้ และอะไรที่คุณควบคุมไม่ได้ ตัวอย่างเช่น คุณไม่สามารถควบคุมการกระทำของคนอื่นได้ (คุณสามารถมีอิทธิพลเหนือคนอื่นได้จริง แต่คุณไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้) และคุณไม่สามารถควบคุมดินฟ้าอากาศให้เป็นอย่างที่คุณต้องการได้ แต่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็คือ ปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณเองที่มีต่อคนอื่นเวลาเจอสถานการณ์ที่เลวร้าย โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าคุณจะรู้สึกแบบไหน
    • คุณสามารถปรับเปลี่ยนการปฏิบัติตนต่างกันออกไปในหลายๆ สถานการณ์ เช่น กล้าแสดงออกมากขึ้น เรียนรู้ขอบเขตของผู้อื่น เรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ควรที่จะบังคับหรือตามพวกเขา วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถมีระยะปลอดภัยเป็นของตัวเอง และจะสามารถเพิ่มความเคารพให้กับตัวคุณเองได้มากขึ้น
  5. ให้อภัย ผู้อื่น. ถ้าคุณอยากที่จะเคารพตัวเองเป็นคุณก็ต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนอื่นก่อน ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องไปเป็นเพื่อนสุดที่รักของพวกเขา แต่มันหมายความว่าคุณจะต้องให้อภัย และเรียนรู้จะเดินต่อไปข้างหน้าเพราะถ้าคุณใช้เวลาไปกับการคิดถึงแต่เรื่องเดิมๆ และจมอยู่กับอดีต คุณก็จะไม่สามารถอยู่กับปัจจุบันได้อย่างมีความสุข เพราะฉะนั้นให้อภัยคนอื่นเสียเถิดเพื่อที่จะทำให้คุณนั้นสามารถก้าวต่อไปในชีวิตได้ง่ายมากขึ้น [13]
    • ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความผิดที่พูดถึงไม่ได้ก็ตาม คุณก็ต้องให้อภัย และเดินหน้าต่อไป และอย่าไปยึดติดอยู่กับเหตุการณ์นั้น หรือคนที่ทำให้คุณต้องเสียใจอีกเลย พยายามอย่าไปจมอยู่กับความโกรธและความไม่พอใจของตัวเองตลอดเวลา
    • การให้อภัยคนอื่นนั้นเปรียบเสมือนเป็นของขวัญที่คุณให้กับตัวเอง และเป็นการทำให้จิตใจของตนเองนั้นดีขึ้นด้วย มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะโกรธใครสักคนหนึ่งสักพัก แต่อย่าปล่อยให้ความโกรธอยู่นานจนเกินไป อย่าให้ความโกรธเข้ามาแทรกแซงชีวิตของคุณได้ตลอดเวลา และอย่ายอมให้มันมาทำลายความสุขของคุณได้ คิดเอาไว้เสมอว่าการที่คนอื่นมาทำร้ายคุณนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขามีปมในชีวิตและชีวิตพวกเขาต้องเลวร้ายกว่าคุณมากแน่นอน เพราะฉะนั้นให้อภัยพวกเขาเสียเถิด อย่าไปถือโทษโกรธในความผิดพลาดของพวกนี้เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะมีความสุขที่สุดก็จะเป็นคุณนั่นเอง
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ปฏิบัติตนให้ดีเพื่อตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณอยากที่จะเคารพตัวเองคุณก็จะต้องหยุดลดค่าของตัวเองเสีย โดยเฉพาะในเวลาที่คุณอยู่ต่อหน้าคนอื่น การที่คุณขำหรือหัวเราะตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเท่ากับการที่คุณพูดกับตัวเองว่า “วันนี้ฉันอ้วนจัง” หรือ “จะมีใครอยากจะคุยกับฉันกันล่ะ” ถ้าคุณทำให้จิตใจของตัวเองตกต่ำแบบนี้มันก็จะกลายเป็นแรงผลักดันให้คนอื่นสามารถเข้ามาดูถูกคุณได้ง่ายมากขึ้น [14]
    • คราวหน้าถ้าคุณมีความคิดแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง ให้พยายามเขียนมันลงไปในหนังสือแทนที่จะพูดมันออกมาดังๆ เพราะถ้าคุณพูดมันออกมาแล้วคุณก็มีโอกาสที่จะคิดต่อยอดในสิ่งที่คุณพูดว่ามันเป็นเรื่องจริง
  2. อย่าให้คนอื่นเห็นว่าคุณทำในสิ่งที่คุณจะต้องเสียใจภายหลัง. พยายามทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองภูมิใจไม่ใช่เพียงสิ่งที่จะทำให้คนอื่นหัวเราะ และไร้สาระไปวันๆ อย่าทำอะไรที่จะทำให้ตัวเองเสียใจภายหลัง เช่น การเมาและเรื้อนในที่สาธารณะ หรือจีบคนในผับเพียงแค่อยากให้คนอื่นหันมาสนใจ
    • พยายามเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะให้คนหันมาเคารพคุณ ทั้งๆ ที่คุณเป็นคนที่เก่งที่สุดในห้องเวลาเรียน แต่กลับไปเป็นนักเต้นระดับโคโยตี้ในบาร์ตอนกลางคืน
  3. มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะโกรธหรือโมโหบ้างเป็นบางครั้งบางคราว แต่การที่คุณนั้นหงุดหงิดกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ่อยครั้งมันจะทำให้คุณมีความเครียด และจะไม่สามารถมีเวลาสนใจเรื่องการเคารพตัวเองได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นให้ลองหายใจลึกๆ เวลาโกรธ หรือกลับมาจัดการกับปัญหาตอนที่คุณเย็นลงแล้ว การจัดการกับปัญหาในชีวิตเวลาที่คุณมีสติ ไม่ใช่ตอนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวนั้น จะสามารถช่วยให้คุณควบคุมปัญหาชีวิตในแต่ละวันได้ดีมากขึ้น และจะทำให้คุณมีความเคารพในตนเองมากขึ้นด้วย
    • ถ้าคุณรู้สึกว่ากำลังโกรธ พยายามหาเรื่องอื่นทำเสีย เช่น ออกไปเดินสูดอากาศ หรือโทรหาใครก็ได้ที่จะทำให้คุณนั้นใจเย็นลงได้ หรือคุณอาจจะลองนั่งสมาธิ เขียนไดอารี่ หรือเล่าให้คนอื่นฟังก็ได้ [15]
  4. ถ้าคุณต้องการที่จะเคารพตนเองจริงๆ คุณก็ต้องสามารถที่จะตระหนักได้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป และถ้าคุณทำผิดคุณก็ต้องบอกให้คนอื่นรู้และขอโทษพวกเขาในสิ่งที่คุณทำอย่างจริงใจ บอกพวกเขาไปว่าคุณจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด การมีความรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำและการพยายามที่จะแก้ไขอย่างสุดความสามารถนั้นจะช่วยให้คุณสามารถก้าวผ่านความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งก็จะช่วยคุณมีความเคารพให้กับตนเองมากขึ้น เพราะคุณก็จะภูมิใจที่คุณได้ยอมรับผิด และที่คุณได้พยายามทำทุกอย่างโดยสุดความสามารถแล้ว ให้ความเคารพคนรอบข้างให้มากๆ และทำให้เขายอมรับคุณว่าคุณเองก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ทำผิดเป็น
    • ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะยอมรับว่าคุณทำผิดแล้วล่ะก็ ผู้คนก็จะหันมาเคารพ และเชื่อใจคุณมากขึ้น
  5. การที่คุณรายล้อมไปด้วยคนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับตัวเองนั้น มีแต่จะทำให้คุณเคารพตัวเองน้อยลง ไม่ใช่เพียงเพราะคุณจะรู้สึกแย่กับตัวเองจากสิ่งที่พวกเขาพูดแต่ในใจลึกๆ แล้ว คุณก็จะมีความโกรธที่คุณนั้นไม่สามารถออกมาจากคนแย่ๆ พวกนั้นได้ คุณจะต้องหาคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเองและทำให้คุณมีทัศนคติบวกเกี่ยวกับโลกใบนี้ได้ และมีเวลายอมฟังและช่วยเหลือคุณ [16]
    • สิ่งนี้ถือว่ามีความสำคัญในการใช้ชีวิตคู่มากๆ เพราะถ้าคุณคบกับคนที่เขาไม่เห็นคุณค่าของคุณ คุณก็จะไม่สามารถเคารพตัวเองได้เลย
  6. บางคนคิดว่าการพูดโอ้อวดเกี่ยวกับความสำเร็จในชีวิต จะทำให้พวกเขาดูดี แต่การกระทำแบบนี้มีแต่จะทำให้ตัวเขายิ่งดูเป็นคนไม่มั่นคง ถ้าคุณอยากจะให้คนอื่นเคารพคุณจริงๆ แล้วล่ะก็ คุณจะต้องถ่อมเนื้อถ่อมตัว และทำตัวให้เป็นที่น่าเคารพ และเดี๋ยวพวกเขาจะหันมาเคารพคุณเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามพัฒนาทักษะการแสดงออกที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีได้ด้วย
  • การเคารพตนเองนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับการสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองแต่การเคารพตนเองมันขึ้นอยู่กับการกระทำในขณะที่ความเชื่อมั่นนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึก (ทั้งสองอย่างมักจะมาพร้อมๆ กัน)
  • อย่ากลัวที่จะเป็นตัวตัวเอง
  • คิดให้ดีว่าคุณควรที่จะปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างไรและคิดด้วยว่าคุณเองก็สมควรได้รับการปฏิบัติกลับมาแบบนั้นเช่นกัน
  • ท่องไว้เสมอว่า คนที่มีค่าและมีความสูงส่งในตนเองนั้นมักจะรักษาความสูงส่งของจิตใจเขาเอาไว้ได้ในทุกสถานการณ์ เช่น การมีความแจ่มใสและคิดบวกในเรื่องต่างๆ โดยในชีวิตอาจจะมีบางอย่างเข้ามาสั่นคลอนตัวฉันทำให้ฉันเคารพน้อยลงหรือเข้ามาทำร้ายความสุขของฉัน แต่ฉันจะต้องเดินหน้าต่อไปและยังคงต้องเคารพตนเองและคิดบวกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • ปฏิญาณกับตนเองเอาไว้ได้ว่า วันนี้ฉันจะทำแต่เรื่องที่ทำให้ฉันสามารถเคารพตนเองได้ ฉันจะสั่งการทุกๆ อย่างในร่างกาย ความคิดและอวัยวะส่วนต่างๆ ให้มีความมั่นคงต่อตนเองและไม่ให้ไขว้เขวโดยคำพูดหรือสถานการณ์ลบๆ จากภายนอกได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 30,579 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา