ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

iPhone เป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ แต่อาจจะยุ่งยากนิดหน่อยเวลาอยากเพิ่มไฟล์เพลงในเครื่อง โดยเฉพาะถ้าไม่อยากใช้ iTunes media player ของ Apple ซึ่งบังเอิญเป็นวิธีเดียวที่ sync ไฟล์ media กับ iPhone ได้ แถมพออัพเดท iOS ใหม่ๆ ก็ยิ่งทำให้ใช้ช่องทางอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ ที่สำคัญคือคุณใช้ Safari ดาวน์โหลดไฟล์ MP3 จากเว็บไม่ได้ด้วยนี่สิ แต่วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเซฟไฟล์เพลงลง iPhone ผ่าน music player อื่น แบบไม่ต้องใช้ iTunes ให้คุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

ใช้ Dropbox

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอัพโหลดเพลงเข้า Dropbox แล้วเปิดฟังผ่านแอพ Dropbox ใน iPhone ได้เลย คุณสมัคร Dropbox ได้ฟรี แถมพื้นที่เก็บข้อมูล 2 GB แต่ถ้าไฟล์เพลงคุณเยอะกว่านั้น ก็ต้องเสียเงินให้ได้พื้นที่เพิ่ม หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นในบทความนี้แทน
  2. เพื่อสร้างโฟลเดอร์ Dropbox ไว้ที่หน้า desktop ต่อไปพอใส่อะไรไว้ในโฟลเดอร์นี้ ก็จะถูกอัพโหลดเข้า Dropbox
  3. copy ไฟล์เพลงทั้งหมดที่จะเซฟลง iPhone ใส่ไว้ในโฟลเดอร์ Dropbox. คุณเปิดโฟลเดอร์ Dropbox ได้โดยคลิกไอคอน Dropbox ใน System Tray หรือแถบเมนู จากนั้นคลิกปุ่ม Folder โดย Dropbox นั้นรองรับไฟล์ทั้ง .mp3, .aiff, .m4a และ .wav [1]
  4. อาจจะต้องรอหน่อย ถ้าอัพโหลดทีละหลายไฟล์ รวมถึงขึ้นอยู่กับความแรงของเน็ตที่ใช้ด้วย จะมีแถบความคืบหน้าให้ดูในเมนู Dropbox ตรง System Tray หรือแถบเมนู
  5. เป็นแอพฟรี ดาวน์โหลดได้ใน App Store พอติดตั้งแอพแล้วก็ให้ล็อกอินเข้า Dropbox
  6. คุณใช้แอพ Dropbox stream เพลงไหนก็ได้ที่เก็บไว้ใน Dropbox ของตัวเอง ขอแค่ต่อเน็ตแล้ว โดยเพลงจะยังเล่นต่อไป ถึงสลับไปใช้แอพอื่นแล้วก็ตาม
  7. ทำเครื่องหมายให้เป็น Favorites (เพลงโปรด) เอาไว้ฟังแบบ offline. ปกติ Dropbox จะ stream เพลงที่เลือกผ่านเน็ต แต่ถ้าทำเครื่องหมายเป็น Favorite หรือเพลงโปรด ก็ฟังได้ตลอดเวลา ถึงจะไม่ต่อเน็ตก็ตาม
    • ปัดเพลงที่จะเซฟลงเครื่อง จากซ้ายไปขวา
    • แตะ ☆ เพื่อเซฟเพลงลง iPhone.
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

ใช้ Google Play Music

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ามีบัญชี Gmail หรือ YouTube ก็แปลว่ามีบัญชี Google อยู่แล้ว มีบัญชี Google แล้วอัพโหลดเพลงเข้าบัญชี Google Play Music ได้ฟรีเป็น 50,000 เพลง จากนั้นก็ stream เพลงที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ผ่านแอพ Google Play Music ใน iPhone
    • คุณล็อกอิน Google Play Music ได้ที่ music.google.com
    • สมัคร Google Play Music All Access แล้ว จะได้พื้นที่เก็บข้อมูลเท่าบัญชีฟรี แต่จะเข้าถึง Google Play Music streaming library ได้แบบไม่จำกัด
  2. เป็นช่องทางอัพโหลดคอลเลคชั่นเพลงขนาดใหญ่ของคุณเข้า Google Music ได้รวดเร็วทันใจที่สุด คุณดาวน์โหลด Music Manager ได้ ที่นี่ [2]
  3. พอติดตั้ง manager แล้ว จะมีให้ล็อกอินด้วยบัญชี Google ล็อกอินเสร็จให้เลือก "Upload songs to Google Play"
  4. จะมีรายชื่อตำแหน่งเบื้องต้นที่ music manager สามารถสแกนหาไฟล์เพลงได้ แต่จะเพิ่มเติมตำแหน่งเองได้ทีหลัง ถ้าปกติใช้ iTunes ฟังเพลง Google Play Music จะย้าย playlists และคะแนนรีวิวเพลงไปด้วย
    • ถ้าเก็บไฟล์เพลงไว้ที่อื่น ให้เลือก "Other folders" แล้วคลิก Add folder เพื่อค้นหาโฟลเดอร์ในคอม ที่มีไฟล์เพลง
    • เพลงที่เหลือจะขึ้นที่ด้านล่างของหน้าต่าง
  5. music manager สามารถติดตามโฟลเดอร์เพลง แล้วอัพโหลดเพลงใหม่ๆ ที่คุณเพิ่มเข้ามาได้อัตโนมัติ เพื่อให้คอลเลคชั่นเพลงในเครื่องคุณอัพเดทอยู่เสมอ
  6. ให้คลิกขวาที่ไอคอน music manager ใน System Tray หรือแถบเมนู แล้วคลิกตัวเลือก "# songs uploaded" เพื่อติดตามความคืบหน้าในการอัพโหลด ถ้าหลายเพลงหรือไฟล์ใหญ่ ก็ต้องรอสักพัก
  7. คุณดาวน์โหลดได้ฟรีจากใน App Store ติดตั้งเสร็จแล้วให้ล็อกอิน Google ต้องรอหน่อย กว่า library จะโหลดครั้งแรก
  8. พอ library โหลดขึ้นมาแล้ว ก็ค้นหาศิลปินและอัลบั้มจากในรายชื่อ แล้วเปิดเพลงฟังได้เลย หรือสร้าง playlist เหมือนในแอพ Music ของ iPhone
  9. ปกติ Google Play Music จะ stream ไฟล์เพลงผ่านเน็ต แต่คุณเซฟเพลงไว้ฟังใน iPhone แบบไม่ต้องต่อเน็ตก็ได้ด้วย
    • แตะ ⋮ ข้างเพลง อัลบั้ม หรือ playlist ที่จะเซฟลง iPhone
    • เลือก "Download" เพื่อเริ่มดาวน์โหลดเพลงลงเครื่อง
    • แตะปุ่ม ☰ แล้วเปิดสวิตช์ "Downloaded Only" เพื่อดูเฉพาะเพลงที่อยู่ใน iPhone
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

ใช้ MediaMonkey

ดาวน์โหลดบทความ
  1. MediaMonkey เป็นโปรแกรม music player สำหรับฟังและจัดการไฟล์เพลงที่คนนิยมใช้กันใน Windows ใช้ sync เพลงกับ iPhone ได้ โดยปรับแต่ง settings นิดหน่อย
    • แต่วิธีนี้ก็ยังต้องติดตั้งบางบริการของ iTunes อยู่ดี ถึงจะ sync ข้อมูลใน iPhone กับ MediaMonkey ได้ แต่ก็ไม่ต้องใช้ตัวโปรแกรม iTunes
    • MediaMonkey จะ sync ได้เฉพาะไฟล์เพลง แต่จะ sync วิดีโอกับรูปไม่ได้ ถ้าจะ sync จริงๆ ต้องตั้งค่า MusicMonkey ให้จัดการเฉพาะการ sync ไฟล์เพลง ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ iTunes
  2. ถ้าไม่อยากใช้ iTunes ขั้นตอนนี้ก็เอาไว้ลงเฉพาะบริการที่ทำให้เชื่อมต่อ iPhone กับ MediaMonkey ได้ แต่ถ้าจะใช้ iTunes จัดการวิดีโอ รูป และ backup ข้อมูล ก็ต้องติดตั้ง iTunes ไปตามปกติ [3]
    • ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง iTunes จาก apple.com/itunes/download/
    • เปลี่ยนชื่อ iTunesSetup.exe (หรือ iTunes64Setup.exe ) เป็น iTunesSetup.zip (หรือ iTunes64Setup.zip )
    • ดับเบิลคลิกเปิดไฟล์ .zip แล้วหา AppleMobileDeviceSupport.msi (หรือ AppleMobileDeviceSupport64.msi ) จากนั้นลากไปไว้ที่ desktop
    • ดับเบิลคลิกไฟล์ที่หน้า desktop เพื่อติดตั้ง connection service
    • ดาวน์โหลดแล้วติดตั้ง QuickTime ของ Windows ได้ที่ apple.com/quicktime/download/
  3. ถ้าจะใช้ iTunes จัดการรูป วิดีโอ และ backup ข้อมูล ก็ต้องปิดการ sync ไฟล์เพลงซะก่อน จะได้ไม่เซฟทับข้อมูลตอนเชื่อมต่อ iPhone กับคอม แต่ถ้าจะไม่ใช้ iTunes เลย แค่ติดตั้งบาง services ที่จำเป็น ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
    • คลิกเมนู "Edit" แล้วเลือก "Preferences" ถ้าไม่เจอเมนู "Edit" ให้กด Alt
    • คลิก tab "Devices" แล้วติ๊ก "Prevent iPods, iPhones, and iPads from syncing automatically"
    • คลิก tab "Store" แล้วเอาติ๊กออกจาก "Automatically download album artwork"
    • เชื่อมต่อแล้วเลือก iPhone จากในแถวปุ่มต่างๆ ทางด้านบนของหน้าต่าง iTunes ในหน้าต่างที่เปิดอยู่ ให้เลื่อนลงไปเอาติ๊กออกจาก "Automatically sync when this iPhone is connected"
    • คลิก tab "Music" ในกรอบทางซ้าย แล้วเอาติ๊กออกจาก "Sync Music" ถ้ามี ทำซ้ำกับ tab "Podcasts" ถ้าจะใช้ MediaMonkey จัดการ podcast ด้วย
  4. ถ้ามีก็ปิด iTunes ไปได้ เพราะตอนนี้ไม่ต้องใช้แล้ว แต่ยังต้องลง services ที่จำเป็นของ iTunes ไว้
  5. เพื่อเปิดหน้า Summary ใน iPhone
  6. เพื่อเลือกว่าจะลบเพลงที่ไม่ sync ไปจาก iPhone หรือเก็บไว้ และเลือกว่าจะให้ iPhone sync อัตโนมัติทันทีที่เชื่อมต่อไหม
  7. คุณใช้ตัวเลือกพวกนี้ตั้งค่าว่าจะ import หรือนำเข้าไฟล์เพลงยังไงได้ รวมถึงเลือกหน้าปกอัลบั้ม และตัวเลือกอื่นๆ ในการ import ไฟล์
  8. คุณ import และจัดการไฟล์เพลงทั้งหมดได้ด้วย library tools ของ MediaMonkey คุณให้ MediaMonkey ติดตามโฟลเดอร์ต่างๆ แล้วคอยอัพเดท library อัตโนมัติได้ รวมถึงลากไฟล์และโฟลเดอร์ไปหย่อนในหน้าต่าง MediaMonkey เพื่อเพิ่มใน library ได้ด้วย
  9. พอเพิ่มเพลงและปรับแต่ง settings แล้ว ก็เริ่ม sync คอลเลคชั่นเพลงกับ iPhone ได้เลย ทำได้ 1 - 2 วิธีด้วยกัน
    • คลิกขวาที่เพลงเดียวหรือหลายเพลง แล้วเลือก "Send To" → "Your iPhone" เพลงที่เลือกไว้จะ sync กับ iPhone ทันที
    • เลือกอุปกรณ์แล้วคลิก tab "Auto-Sync" จากนั้นเลือกศิลปิน อัลบั้ม แนวเพลง และ playlist ที่จะ sync อัตโนมัติ คลิกปุ่ม "Apply" เพื่อเซฟค่าใหม่ แล้วเริ่มขั้นตอนการ sync ได้เลย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

ใช้ Spotify Premium

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สมาชิก Spotify แบบ premium ให้คุณ sync ไฟล์ในเครื่องกับบัญชี Spotify ได้ จากนั้นก็ดาวน์โหลดเข้า iPhone ได้เลย คลิกที่นี่ถ้าอยากรู้ขั้นตอนการสมัครสมาชิกแบบ Premium โดยละเอียด [4]
  2. ต้องใช้ player นี้เพิ่มไฟล์จากเครื่อง ติดตั้งเสร็จให้ล็อกอิน Spotify
  3. เลื่อนลงไปที่หัวข้อ "Local Files"
  4. คลิก "Add a Source" เพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่จะเพิ่มเข้า Spotify. Spotify จะโหลด track เพลงทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์นั้น
  5. คุณดาวน์โหลดแอพได้ฟรีที่ App Store ติดตั้งเสร็จให้ล็อกอิน Spotify
  6. คลิกเมนู "Devices" แล้วเลือก iPhone จากในรายชื่อ จากนั้นคลิก "Sync this device with Spotify"
  7. เช็คก่อนว่าต่อเน็ตเดียวกับคอม
  8. เพื่อโหลดรายชื่อเพลงทั้งหมดที่เพิ่มไว้ใน Spotify
  9. แล้วจะเห็นรายชื่อไฟล์ทั้งหมดที่เพิ่มจากคอมลง Spotify
  10. 10
    แตะแถบเลื่อน "Available Offline" ทางด้านบนของหน้าจอ. เพื่อเซฟไฟล์เพลงทั้งหมดลง iPhone จะได้เปิดฟังที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องต่อเน็ต
    • อาจจะต้องรอหน่อย กว่าจะ sync ไฟล์สำเร็จ โดยเฉพาะถ้าไฟล์เยอะ จะเห็นลูกศรสีเขียวข้างแต่ละเพลงที่ sync กับ iPhone ไว้
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

ใช้อีเมล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ดาวน์โหลดวิดีโอที่มีเพลงลงคอม. หมายเหตุ: ไฟล์เพลงในข้อนี้ต้องเป็นวิดีโอ
  2. 2
    ส่งไฟล์ของเพลงนั้นเข้าอีเมลตัวเอง.
  3. 3
    เข้า inbox ใน iPhone แล้วดาวน์โหลดวิดีโอลงเครื่อง.
  4. 4
    เซฟลง camera roll.
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

ใช้ WhatsApp

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ดาวน์โหลด WhatsApp ลงมือถือ.
  2. 2
    เริ่มแชทกับตัวเอง.
  3. 3
    อนุญาตให้ WhatsApp backup ไฟล์ลง Camera Roll.
  4. 4
    เปิดคอม.
  5. 5
    ดาวน์โหลดเพลงที่จะเซฟลงเครื่อง ถ้ายังไม่ได้ทำ.
  6. 6
    เปิด WhatsApp Web ในคอม.
  7. 7
    ส่งเพลงหาตัวเองเป็นไฟล์แนบ.
  8. 8
    เปิด WhatsApp ใน iPhone.
  9. 9
    แตะวิดีโอแล้วเซฟ.
    • หมายเหตุ: วิธีนี้ดาวน์โหลดเพลงแล้วใช้ข้อมูลเป็น 2 เท่า เพราะงั้นต้องระวัง ถ้าจะเลือกใช้วิธีนี้
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 35,202 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา