คนส่วนใหญ่แค่คิดก็ขยาด เวลาต้องหอบน้องเหมียวประจำบ้านไปเที่ยวหรือติดรถไปด้วย แมวใครใจกล้าว่าง่าย ก็หอบไปเที่ยวด้วยสบายหน่อย แต่แมวส่วนใหญ่มักสยองพองขนเวลาต้องจากถิ่นที่อยู่ที่คุ้นเคยไปไหนไกลๆ นี่สิ แต่อย่าเพิ่งเครียดไป บอกเลยว่าเรามีวิธีพาน้องเหมียวไปเที่ยวแบบไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อมาฝากกัน จุดสำคัญก็คือต้องวางแผนล่วงหน้ามาอย่างดี โดยค่อยๆ ปรับให้แมวคุ้นเคยกับการเดินทาง และจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนวันเดินทาง
ขั้นตอน
-
ปรับตัวน้องเหมียวก่อนเดินทาง. ถ้าน้องเหมียวไม่เคยนั่งรถไปไหนหรือเคยนั่งแต่นานมาแล้ว ต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์ก่อนหน้าวันเดินทาง พาน้องเหมียวไปนั่งรถใกล้ๆ หลายๆ ครั้ง (ครั้งละไม่เกิน 30 นาที) ที่สำคัญคือต้องให้น้องเหมียวอยู่ในกรงสำหรับเดินทางด้วย ต้องเป็นกรงที่คุณจะใช้จริงเลย แมวจะได้ทำความคุ้นเคยกับเสียงๆ และการเคลื่อนไหวของรถ รวมถึงกลิ่นในกรงด้วย
- นั่งรถเล่นไปพลาง ให้ขนมไปพลาง แมวจะได้รู้สึกดีกับการนั่งรถ
- คิดซะว่าเป็นการซ้อมนั่งรถแบบเบาะๆ ก่อนจะขยับขยายไปเป็นการนั่งรถทางไกลต่อไป
-
เตรียมยาป้องกันการเมารถถ้าจำเป็น. ถ้าลองซ้อมนั่งรถแล้วพบว่าแมวคุณเมารถง่าย ให้สอบถามคุณหมอเรื่องยาอย่าง chlorpromazine ที่เป็นยาสำหรับป้องกันการเมารถของน้องเหมียว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาการที่บอกว่าแมวกำลังเมารถ (แน่นอนว่าต้องแสดงอาการตอนอยู่ในรถ) ก็เช่น หลังจากนั่งรถมาได้ 2 - 3 นาทีแล้วก็ยังร้องหรือครางไม่ยอมเลิก น้ำลายไหลเยอะผิดปกติ ตัวแข็งทื่อ กลัวจนไม่กล้าขยับตัวหรืออีกแบบคือเดินวนหรือขยับตัวมากเกินไป อ้วก ฉี่ หรืออึราด [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ขิงที่ใช้แก้อาการคลื่นไส้อาเจียนของคน ก็เอามาใช้กับแมวได้ อาจจะเป็นแบบน้ำหรือแบบเคี้ยวหนึบ ตามเน็ตก็มีขายทั่วไป หรือจะลองสอบถามตามร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แต่ดีที่สุดก็คือถามคุณหมอที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์นั่นแหละ
-
ใช้ "วิธีบำบัด" ด้วย Bach Flower Essence หรือสูตรเยียวยาจิตใจด้วยดอกไม้ของบาค น้องเหมียวจะได้คลายเครียดคลายความหวาดกลัวเวลาต้องเดินทางหรือพบเจอสถานที่ใหม่ๆ. ให้หยดน้ำมันนี้ลงในน้ำของแมว 2 - 3 หยดต่อวัน และหยดใส่ปากอีกหยดก่อนเดินทางแต่ละวันถ้าแมวยังดูเครียดแบบเห็นได้ชัด วิธีทดสอบว่าได้ผลหรือไม่ก็คือหยดใส่ปากแล้วพาแมวไปนั่งรถเล่นใกล้ๆ ในอีก 30 นาทีต่อมา ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าการวางยาแมวเป็นไหนๆ เพราะนั่นจะทำให้แมวมึน ในขณะที่น้ำมันสูตรนี้จะทำให้แมวสงบและมั่นใจ
-
เก็บยาคลายเครียดไว้ใช้สุดท้าย. ลองฝึกแมวให้ชินกับการนั่งรถบวกกับทางเลือกอื่นๆ ที่ไม่ใช้ยาก่อน ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ ค่อยคิดวางยาแมว คุณหมอจะบอกเองว่าควรใช้ยาคลายเครียดหรือยากล่อมประสาทตัวไหนถึงจะปลอดภัยที่สุด แต่บางทีก็เป็นยาแก้แพ้ตามร้านขายยานี่แหละ (อย่าง Benadryl) หรือไม่ก็ยาสั่งจ่ายอื่นๆ อย่าง alprazolam (Xanax) น้องเหมียวจะได้หายวิตกจริต [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แล้วแต่คุณหมอแนะนำ ว่าควรใช้ยาปริมาณเท่าไหน จากนั้นคุณก็ทำตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุด
-
ลองใช้ยาที่บ้านประมาณ 2 - 3 วันก่อนเดินทาง. จากนั้นคอยสังเกตพฤติกรรมของแมว ถ้ามีอาการข้างเคียงน่าเป็นห่วง จะได้มีเวลาปรึกษาคุณหมอและปรับเปลี่ยนปริมาณยา หรือลองใช้ยาตัวอื่นแทน แมวก็เหมือนคน ยาต่างชนิดก็ออกฤทธิ์และมีผลข้างเคียงต่างกัน ถ้าแมวแสดงอาการหงุดหงิดงุ่นง่านหรืออาการผิดปกติอื่นๆ คุณหมอจะบอกเองว่าให้เปลี่ยนไปใช้วิธีไหน
- ยาคลายเครียดส่วนใหญ่ไม่ทำให้แมวถึงขั้นนอนสลบ แค่ทำให้ซึมๆ มึนๆ เท่านั้น ถ้าใช้แล้วแมวนิ่งเกินไปหรือยังนิ่งไม่พอ ต้องรีบบอกคุณหมอก่อนวันเดินทาง ยังไงก็ต้องให้แมวตื่นตัวรับรู้สภาพแวดล้อมไว้ ถึงจะถูกวางยาอยู่ก็เถอะ
- ตอนที่ซ้อมวางยาแมว ต้องเอาแมวใส่กรงเดินทางแล้วไปลองนั่งรถดู จะได้รู้พฤติกรรมแมวล่วงหน้า ว่าเวลาเดินทางจริงแมวจะเป็นยังไง ที่สำคัญปริมาณยาที่คุณหมอจ่ายให้ต้องเพียงพอตลอดการเดินทางด้วย (ทั้งไป และ กลับ) ทางที่ดีขอเกินมาสัก 1 - 2 เม็ด เพื่อใช้ทดสอบก่อนเดินทางด้วยจะดีกว่า
-
ปูผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่มบนเบาะหรือที่นอนประจำของแมว 2 - 3 วันก่อนเดินทาง. เพื่อให้กลิ่นน้องเหมียวติดมากับผ้า รวมถึงกลิ่นบรรยากาศในบ้านของคุณด้วย ที่สำคัญคือแมวจะได้นอนสบายคลายความกังวลเพราะมีผ้านิ่มๆ ปู
-
เตรียมกรงเดินทางให้พร้อมตอนเช้าของวันเดินทาง หรือจะคืนก่อนเดินทางก็ได้. เอาผ้าที่ปูให้แมวนอนมารองในกรงเดินทาง และจะเพิ่มผ้าเข้าไปอีกก็ได้ถ้าพื้นกรงไม่นิ่มพอ อย่าลืมของเล่นชิ้นโปรดของน้องเหมียวด้วย จะได้มีอะไรเบี่ยงเบนความสนใจ
-
ฉีดสเปรย์ฟีโรโมนอย่าง Feliway ในกรงแล้วก็ในรถ 20 นาทีก่อนออกเดินทาง. เป็นสเปรย์ที่เลียนแบบกลิ่นฟีโรโมนที่แมวปล่อยออกมาตอนผ่อนคลายสบายใจอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง เลยช่วยปลอบแมวให้สงบเวลาอยู่บนรถได้ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ก็อย่าลืมทดสอบปฏิกิริยาของแมวที่มีต่อสเปรย์ก่อนเอาไปฉีดจริงในกรง เพราะแมวบางตัว (ส่วนน้อย) ดันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกลิ่นพ่นอาณาเขตของแมวตัวอื่นนี่สิ ทีนี้อาจแสดงอาการก้าวร้าวหรือพฤติกรรมน่าเป็นห่วงอื่นๆ ได้
โฆษณา
-
ให้แมวกินอาหาร 2 - 3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง แล้วปล่อยให้ใช้กระบะทรายตามใจชอบ. ถ้ากรงเดินทางคุณกว้างพอ จะเอากระบะทรายจิ๋วใส่ไปเผื่อก็ได้ แต่จริงๆ ก็ไม่จำเป็นหรอก อาหารหรือน้ำก็เหมือนกัน
- ห้ามใส่แมวไว้ในกรงเดินทางนานเกิน 8 ชั่วโมงโดยไม่ให้น้ำและอาหารเด็ดขาด รวมถึงการปล่อยให้ฉี่และอึด้วย
-
เปิดประตูกรงไว้ แมวจะได้สำรวจกรงเดินทางซะให้พอ. อย่าลืมว่าแมวต้องรู้สึกคุ้นเคยและสบายใจจนเป็นฝ่ายอยากเข้าไปในกรงซะเอง ระหว่างที่กำลังทำความคุ้นเคย ห้ามบังคับแมวเข้าไปในกรงเด็ดขาดถ้าแมวไม่อยากเข้าไป
-
เอาแมวใส่กรงแล้วยกไปที่รถ. ระหว่างยกกรงไปที่รถ ให้เอาผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่มคลุมกรงไว้หน่อยก็ดี แมวจะได้ไม่เห็นนู่นนี่เยอะไปหมดจน “ตื่น” [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พอเอากรงใส่รถเรียบร้อยก็เอาผ้าที่คลุมไว้ออกได้
- ต้องวางกรงเดินทางในรถตรงจุดที่มั่นคงปลอดภัย ทางที่ดีให้เอาเข็มขัดนิรภัยคาดไว้ด้วย แต่ถ้าคาดไม่ได้ ให้เอาสายสำหรับโดดบันจี้จัมพ์ หรือเชือกไม่ต้องยาวมากมารัดกรงไว้ให้อยู่กับที่ เผื่อกรณีที่รถเบรคกะทันหันหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใส่เสื้อรัดอกให้แมวตอนอยู่ในกรง. ถึงจะชอบหรือไม่ชอบ เวลานั่งรถนานๆ แมวก็เครียดได้อยู่ดี ถ้าเอาแมวใส่เสื้อรัดอกหรือสายจูงไว้ พอแมวออกจากกรงเมื่อไหร่ (ถึงจะอยู่บนรถก็เถอะ) คุณจะได้มีอะไรไว้จับทันเผื่อแมวเกิดพุ่งตัวหนีออกมาจากหน้าต่างหรือประตูรถที่เปิดไว้
-
ให้แมวยืดเส้นยืดสายหน่อย. ไม่มีแมวตัวไหนทนได้หรอกถ้าต้องอุดอู้อยู่ในรถนานเป็นวันๆ เราถึงบอกว่าจำเป็นต้องใส่เสื้อรัดอกหรือสายจูงไง พอใส่สายจูงพร้อมเมื่อไหร่ก็พาแมวไปเดินเล่นนอกรถหน่อย สัก 20 นาทีหรือนานกว่านั้น หรือปล่อยให้แมวได้ใช้กระบะทรายก็ดี แต่ก็อย่าแปลกใจไป ถ้าน้องเหมียวเกิดเล่นตัวขึ้นมา
-
ฉีดสเปรย์ Feliway ตามจุดต่างๆ (หรือจะใช้ Feliway แบบปรับอากาศก็ได้) ก่อนเอาแมวเข้าที่พัก. เวลาจะออกไปข้างนอก ก็ให้เอาแมวใส่กรงแล้วติดป้าย 'Do Not Disturb' หรือห้ามรบกวน ไว้ที่ประตู คนทำความสะอาดเขาจะได้ไม่เปิดเข้าไป แต่ถ้าคุณต้องออกไปข้างนอกทั้งวัน ให้เอาแมวใส่ไว้ในห้องน้ำพร้อมของใช้ส่วนตัวต่างๆ จากนั้นก็ปิดประตูไว้ (ถ้าเป็นไปได้) แล้วอย่าลืมทิ้งโน้ตไว้ที่ประตู ว่าตอนนี้มีแมวอยู่ในห้องน้ำ กรุณาอย่าเปิดประตูโฆษณา
เคล็ดลับ
- สายการบินต่างๆ จะไม่ให้คุณเอาแมวที่ถูกวางยาขึ้นเครื่องหรอก เพราะบอกยากว่าตอนนั้นแมวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาหรือเปล่า รวมถึงอาการ heat stroke หรือโรคลมแดดด้วย ถ้าคุณต้องขับรถนานกว่าจะถึงสนามบิน ก็อย่าวางยาแมว เพราะไม่งั้นเดี๋ยวจะเอาขึ้นเครื่องไม่ได้ ให้เลี่ยงไปใช้น้ำมันสูตรบำบัดแทน ถือเป็นวิธีทำให้แมวสงบได้เป็นอย่างดีแถมยังรู้ตัวเต็มที่
- อย่าลืมเอาที่ลับเล็บไปด้วย จะเป็นเสาหรือแผ่นกระดาษลังก็ได้! บอกเลยว่าคนชอบลืมนึกถึง แล้วจะมานั่งปวดหัวทีหลังเวลาแมวเที่ยวข่วนตามที่ที่ไม่ควรข่วน อย่างตามม่านหรือผ้าคลุมเตียงในห้องพัก ยังไงคุณก็ห้ามแมวข่วนไม่ได้ นอกจากจะเป็นไปตามสัญชาตญาณแล้ว การลับเล็บยังทำให้แมวได้ยืดเส้นยืดสาย ได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนที่ปกติไม่ค่อยได้ใช้ด้วย
- ถ้าต้องหอบน้องแมวมากกว่า 1 ตัวไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ ก็ให้ใช้กรงเดินทางสำหรับหมาที่เป็นกระเป๋าแบบพับเก็บได้แทน เลือกแบบที่ใหญ่หน่อยแต่ยังวางที่เบาะหลังได้ และนอกจากเบาะนอน ชามน้ำอาหาร และของเล่นแล้ว คุณจะเพิ่มกระบะทรายเล็กๆ แบบมีหลังคาเข้าไปด้วยก็ได้ จะได้เป็นที่นั่งเสริมให้แมวชมวิวนอกหน้าต่าง กระเป๋าสำหรับน้องหมาจะมีตาข่ายรูดซิปปิดที่ด้านข้าง เวลาเอาแมวใส่ก็เลยง่าย แถมแมวยังเห็นทั้งวิวนอกหน้าต่าง ทั้งเจ้าของอย่างคุณด้วย ยิ่งกรงหรือกระเป๋าใหญ่ ก็ยิ่งสะดวกและปลอดภัยเวลาต้องไปเจอกับคนอื่นที่เขามีสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน เพราะแมวจะได้ใช้กระบะทรายและเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในนั้นได้
โฆษณา
คำเตือน
- ต้องให้แมวใส่ปลอกคอที่มีป้ายประจำตัวไว้ตลอดเวลา! คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าแมวจะหลุดหายไปได้ตอนไหน ยิ่งถ้าเคยฝังไมโครชิพที่มีข้อมูลติดต่อล่าสุดไว้ได้ยิ่งดี คนที่เขาเก็บแมวคุณได้จะได้เอาไปสแกนหาเจ้าของที่โรงพยาบาลสัตว์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
- ตอนรถวิ่ง ต้องปิดกรงไว้ให้แน่นหนา เพราะแค่เรื่องกระจิบยิบย่อยก็ทำเอาแมวตื่นได้ ระวังแมวจะเข้าไปซ่อนที่หลังรถหรือใต้เบาะที่เอื้อมหยิบยาก หรือน่ากลัวกว่านั้นคือกระโดดมาขัดใต้คันเร่งหรือเบรครถ ถ้าข้างหลังมีคนนั่งมาด้วยแล้วแมวอยากจะดูวิวนอกหน้าต่าง ก็ให้ใส่เสื้อรัดอกกับสายจูงก่อน แล้วค่อยปล่อยให้นั่งตักคน แต่ต้องคอยสังเกตดูแลไม่ให้แมวตื่นล่ะ
- ห้าม ทิ้งแมวไว้ในรถตัวเดียวเด็ดขาด ถึงจะแง้มหน้าต่างไว้แล้วก็เถอะ แค่ 20 นาทีหรือน้อยกว่านั้นก็ทำให้แมวร้อนจนเป็นอันตรายถึงตายได้
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กระบะทราย
- ชามอาหารและน้ำ
- กรงเดินทาง
- ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่มผืนไม่ต้องใหญ่มาก
- เสาหรือแผ่นลับเล็บ
- อาหารแมว
- น้ำสะอาด
- ของเล่นหรือไม้ล่อแมว
- เสื้อรัดอกพร้อมสายจูง
- ปลอกคอแมวที่มีป้ายชื่อพร้อมข้อมูลติดต่อ
- สเปรย์ฟีโรโมน Feliway
- น้ำยาทำความสะอาด Enzyme cleaner เผื่อแมวทำเลอะเทอะในรถหรือในห้องพัก
- สเปรย์น้ำมันบำบัด
- ยาที่จำเป็น
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.petmd.com/cat/conditions/digestive/c_ct_motion_sickness?page=2
- ↑ http://www.merckvetmanual.com/mvm/nervous_system/motion_sickness/overview_of_motion_sickness.html
- ↑ http://www.vcahospitals.com/main/pet-health-information/article/animal-health/motion-sickness-in-cats/6528
- ↑ http://www.feliway.com/uk/What-causes-cat-stress-or-anxiety/Traveling-with-a-cat-in-a-cat-carrier
- ↑ http://veterinarynews.dvm360.com/safe-travels-feline-patients
- ↑ http://www.vcahospitals.com/main/pet-health-information/article/animal-health/motion-sickness-in-cats/6528
โฆษณา