ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเป็นคนเจ๋งๆ ก็คือการทำให้คนอื่นตกตะลึง ซึ่งคนเราทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยได้แสดงความตกตะลึงออกมาสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นในการที่จะเป็นคนที่เจ๋งจริงๆ นั้น คุณต้องหาทางทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้ยากแบบนี้ให้ได้ การเป็นคนเจ๋งๆ นั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณกำลังจะอ่านต่อไปนี้ไม่ใช่หนทางเดียวที่จะทำให้คุณเป็นคนเจ๋งๆ ได้ นิยามความเจ๋งนั้นเปลี่ยนไปทุกวัน และไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนนิยามนั้นก็ได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้พรสวรรค์ทำให้คนอื่นตะลึง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พัฒนา พรสวรรค์ . ไม่ว่าพรสวรรค์ของคุณจะเป็นอะไร ให้ทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ คนที่เป็นคน "เจ๋งๆ" ในสิ่งที่เขาทำนั้นต้องลงทุนเวลาไปมากมายกว่าเขาจะไปถึงจุดนั้น ใครบอกล่ะว่าการเป็นคนเจ๋งๆ เป็นเรื่องง่าย
    • บางทฤษฎีบอกว่า คุณต้องใช้เวลาฝึกฝน 10,000 ชั่วโมงกว่าจะชำนาญเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแท้จริง [1] ซึ่งเป็นจำนวนชั่วโมงที่เยอะมากๆ และคุณก็สามารถสร้างพรสวรรค์เจ๋งๆ ได้โดยไม่ต้องใช้เวลาฝึกฝนถึง 10,000 ชั่วโมง แต่คนที่เขามีพรสวรรค์ที่มหัศจรรย์และน่ายกย่องจริงๆ อย่าง บิลล์ เกตส์ โมซาร์ต เฟลิคซ์ เซมเดกส์ ก็ใช้เวลา มากมาย ในการเตรียมตัวจนกลายเป็นคนเจ๋งๆ ในที่สุด
    • ขณะที่คุณฝึกฝนพรสวรรค์ของคุณอยู่ หาทางสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง แตกเป้าหมายออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ แล้วให้รางวัลตัวเองด้วยการพัก ขนม หรือวิดีโอเกมใหม่หลังจากที่คุณทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ
  2. แสดง พรสวรรค์ของคุณ. คุณอาจจะเป็นนักเต้นหรือนักเขียนที่มหัศจรรย์ที่สุดเลยก็ได้ แต่คุณคงไม่สามารถทำให้ใครตกตะลึงได้ถ้าพวกเขาไม่เคยเห็นพรสวรรค์ของคุณมาก่อน การเป็นคนเจ๋งๆ โดยนิยามแล้วนั้นคือการเอาตัวเองออกไปข้างนอกไม่ว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหนก็ตาม แต่จำไว้ว่าอย่าอวดเก่งมากเกินไป เช่น ขี้โม้ เพราะคนอื่นจะมองว่าคุณเป็นคนขี้อวดเอาได้
    • เริ่มจากจุดเล็กๆ นานทีปีหนที่จะมีคนเริ่มพัฒนาพรสวรรค์อะไรสักอย่างแล้วก็ประสบความสำเร็จในชั่วพริบตา แต่สำหรับคนเดินดินอย่างเรา มันมักจะต้องใช้เวลากว่าจะพัฒนาพรสวรรค์ขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นให้เริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ไต่ระดับไปสู่ความเป็นเลิศ
    • ในขณะเดียวกันก็ให้คิดถึง "เวทีที่ใหญ่ที่สุด" ที่คุณจะได้แสดงพรสวรรค์ของตัวเองออกมาด้วย นักมายากลก็อยากจะเปิดการแสดงในโรงละครที่อัดแน่นไปด้วยผู้ชมในเวกัส นักร้องก็อยากจะมีเพลงที่ติดอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด นักฟุตบอลก็อยากจะชนะฟุตบอลโลก อย่ากลัวที่จะฝันไกลเวลาที่ฝึกฝนพรสวรรค์ เพราะมันคือส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณมีแรงก้าวต่อไป
  3. ไม่ว่าจะเป็นโค้ช พ่อ/แม่ หรือคณะกรรมการ การได้รับคำแนะนำว่าทำอย่างไรคุณจึงจะพัฒนาพรสวรรค์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง อย่างที่กวีผู้โด่งดังคนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า "ไม่มีใครเป็นเกาะเดียวดาย" สิ่งที่จอห์น ดันต้องการจะบอกก็คือ คุณต้องอาศัยคนอื่นให้ช่วยเหลือคุณ เพราะคุณไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
    • ถามผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ในสาขาที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอว่า คุณจะพัฒนาพรสวรรค์ของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างไร ความปรารถนาที่จะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมของคุณเกี่ยวข้องกับความเต็มใจที่จะพัฒนาพรสวรรค์ของตัวเองให้ดีที่สุด ขอความช่วยเหลือจากนักมายากลคนอื่นๆ ติดต่อนักแสดงเพื่อขอเทคนิค เข้าร่วมค่ายบาสเก็ตบอลเพื่อพัฒนาทักษะให้ดีขึ้น
  4. ที่ปรึกษาก็คือคนที่มีประสบการณ์ในสาขาของคุณที่เต็มใจจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือในเรื่องของทิศทางที่คุณจะแสดงพรสวรรค์ของตัวเองออกมา การมีที่ปรึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยากจะอาศัยพรสวรรค์ในการทำให้ตัวเองเจ๋ง ที่ปรึกษาจะช่วยคุณประมวลคำติชม หาโอกาสใหม่ๆ ที่จะได้แสดงพรสวรรค์ และสร้างเครือข่ายกับคนอื่นๆ ที่อาจจะช่วยเหลือคุณได้ [2]
    • เข้าหาคนอื่นๆ ที่อาจจะมาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้คุณได้ คุณอาจจะพูดอะไรธรรมดาๆ เช่น "ดิฉันหวังว่าจะได้รับคำแนะนำจากนักเป่าฟลุตที่เก่งที่สุดในโลกเกี่ยวกับการเป่าฟลุตเดี่ยวเพลง Tchaikovsky's Symphony No. 2 ดิฉันจะดีใจเป็นอย่างยิ่งหากได้รับความช่วยเหลือจากคุณค่ะ!"
    • เข้าใจว่าคนอื่นจะได้อะไรจากการเป็นที่ปรึกษาให้เรา การเป็นที่ปรึกษาไม่ใช่ความสัมพันธ์ข้างเดียวที่ที่ปรึกษาแค่ทำให้ลูกศิษย์เห็นว่าต้องทำสิ่งต่างๆ อย่างไร แต่ที่ปรึกษาเองก็ได้รับคุณค่าและความสุขจากการได้รู้ว่า เขาได้ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ และได้หล่อหลอมให้คุณกลายเป็นคนที่ทุ่มเทและยอดเยี่ยมคนหนึ่ง มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากเลยนะ!
    • แสดงความเคารพต่อที่ปรึกษา คุณอาจจะคิดว่าคำแนะนำของที่ปรึกษาไม่ถูกต้องเท่าไหร่ แต่ให้ลองก่อนที่จะปฏิเสธมันไปเลย มันต้องมีเหตุผลสิว่าทำไมเขาหรือเธอถึงได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในขณะที่คุณไม่ได้เป็น แสดงความเคารพที่ปรึกษาด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของเขาอย่างเคร่งครัด
  5. เป็นเรื่องจริงที่ว่าเวลาที่คุณพัฒนาพรสวรรค์อะไรสักอย่าง คุณจะต้องล้มเหลวบ้างอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ล้มเหลวเลย คุณก็ไม่ใช่มนุษย์แล้วล่ะ หลายคนยอมแพ้เวลาที่ล้มเหลว ถ้าคุณอยากเป็นคนเจ๋งๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือลุกขึ้นมา ฟื้นตัวเองอีกครั้ง และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ไม่ใช่ให้มันมาฉุดรั้งคุณอยู่อย่างนั้น [3]
    • เอาอัตตาของตัวเองออกไปก่อน วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามความผิดพลาดได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่มันยังช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ไม่เห็นแก่ตัวและอ่อนน้อมอีกด้วย ถ้าคุณยังไม่รู้ ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คนส่วนใหญ่มองว่า คนที่แสดงความเป็นเลิศออกมาโดยที่ยังคงความอ่อนน้อมไว้ได้นั้นถือว่าเป็นคนที่ "เจ๋งสุดๆ"
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้บุคลิกภาพสร้างความประทับใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นคนตลก . มีแต่พวกที่มองโลกในแง่ร้ายสุดๆ เท่านั้นแหละที่จะไม่ชอบคนที่ทำให้เขายิ้มและหัวเราะได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเป็นคนตลกถึงเป็นส่วนสำคัญของการใช้บุคลิกภาพให้ตัวเองกลายเป็นคนเจ๋งๆ [4] ส่วนที่ดีและไม่ดีของความตลกขบขันก็คือมันทำได้หลายวิธี หมายความว่าคุณสามารถสร้างอารมณ์ขันของตัวเองขึ้นมาได้ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง แต่นั่นก็หมายความว่ามันไม่มีคู่มือ "วิธีทำ" ว่าทำอย่างไรถึงจะเป็นคนตลก
    • เป็นคนตลกโดยการใช้คำพูด การเล่นคำและการเล่นสำนวนเป็นวิธีที่จะทำให้คุณเป็นคนตลกได้แบบเจ๋งๆ เพราะว่าเราใช้คำพูดกันตลอดเวลาอยู่แล้ว ลองดูการเล่นคำต่อไปนี้:
      • "บางคนสร้างความสุขในทุกที่ที่เขาไป แต่บางคนสร้างความสุขในทุกครั้งที่เขาไป" - ออสการ์ ไวลด์
      • "กินมันติดเหงือก กินเผือกติดใจ" - Caption.in.th
    • แสดงความตลกด้วยท่าทางเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ. การแสดงท่าทางตลกนั้นได้แก่ การทำท่าทางเลียนแบบคนอื่น การแสดงท่าทางล้อเลียนโดยไม่ใช้คำพูด และตลกคาเฟ่ เลือกสักอย่างมาทดลองแล้วลองนำมันมาเป็นส่วนหนึ่งกิจวัตรตลกๆ ของคุณให้ได้
    • เล่าเรื่องราวดีๆ เราคิดว่าคนที่เล่าเรื่องราวขบขันที่ดีได้เป็นคนตลกเพราะว่าเราทุกคนก็มีชีวิตอยู่เพื่อเรื่องราวต่างๆ เรื่องราวทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นคนที่สามารถเล่าเรื่องราวดีๆ ได้จึงเป็นคนที่ทำให้เรามีความสุข เรียนรู้วิธีการเล่าเรื่องขั้นพื้นฐานเพื่อทำให้คุณรู้สึกเจ๋งมากกว่าที่คุณเป็นอยู่แล้ว
  2. การเป็นคนชอบผจญภัยก็คือการเปลี่ยนโอกาสในทุกๆ วันให้เป็นข้ออ้างในการได้ผจญภัย จำไว้ว่าถึงคุณจะไม่ได้เป็นอินเดียนา โจนส์ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นคนรักการผจญภัยไม่ได้ คุณแค่ต้องเต็มใจที่จะเดินไปในเส้นทางที่ไม่ค่อยมีใครเดินไปบ้าง
    • เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ การเดินทางไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะแยะหรือเสียเวลามากมาย ลองไปสถานที่ใกล้ๆ ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน แล้วคุณก็จะได้รู้จักสถานที่ใหม่ๆ ได้รับความสำเร็จใหม่ๆ และมีโอกาสได้ทำให้คนท้องถิ่นเห็นว่าคุณเจ๋งแค่ไหน
    • เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน และการเป็นคนรักการผจญภัยยังรวมถึงการ เดินทางทางจิตใจ ด้วย พูดอย่างนี้มันอาจจะฟังดูเลี่ยนมากๆ แต่มันเป็นเรื่องจริงที่สุด คนที่เจ๋งที่สุดในโลกเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่อยู่ห่างไกลทั้งทางจิตใจและทางร่างกาย
    • อย่ากลัวที่จะเลือกเส้นทางที่แตกต่างหากนั่นเป็นสิ่งที่คุณอยากทำ บางครั้งคนเจ๋งๆ ก็กลายเป็นคนที่ชอบการผจญภัยได้ด้วยการทำตามหัวใจและกำหนดเส้นทางของตัวเองโดยที่ไม่ฟังคำแนะนำของใคร จงเป็นคนที่รักการผจญภัยด้วยการทำในสิ่งที่ คุณ อยากทำ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอยากให้คุณทำ
  3. คนที่เจ๋งที่สุดคือคนที่ไม่รู้สึกถึงความเจ๋งของตัวเองด้วยซ้ำ เขาก็แค่ดูเจ๋งเองโดยที่เขาแทบไม่ได้คิดถึงมันเลย ความเจ๋งจะต้องออกมาจากข้างในตัวคุณ คุณไม่สามารถบังคับมันออกมาได้
    • พยายามอย่าจดจ่ออยู่กับ "การเป็นคนเจ๋งๆ" อย่างเดียว แต่ให้เน้นไปที่การทำในสิ่งที่จะทำให้คุณเจ๋งแทน เช่น พัฒนาวิธีเปลี่ยนขยะรีไซเคิลให้เป็นพลังงานไบโอดีเซล หรือหัดเล่นบิลเลียดด้วยลูกฮอกกี้บนน้ำแข็ง วิธีนี้จะทำให้คนอื่นทึ่งในความเจ๋งของคุณก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งคำถามด้วยซ้ำ
  4. สร้างสไตล์ที่เป็นของคุณเอง อย่าเลียนแบบสไตล์ที่คุณคิดว่ามันเท่ แต่จงทำให้สไตล์ของตัวเองเท่ด้วยการเชื่อมั่นในสไตล์ของตัวเองอย่างสนิทใจและไม่เคยตั้งคำถามว่าใครจะพูดอย่างไร
    • คุณอาจจะมีเครื่องประดับที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าที่เมื่อทุกคนได้เห็นแล้วก็จะรู้ทันทีว่าเป็นคุณ ใช้สิ่งนั้นแต่อย่าใช้ในทางที่ผิด ไม่ต้องไปใส่ใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่น (เขาอาจจะแค่อิจฉาหรือไม่ก็รู้สึกไม่มั่นคง) และใส่มันอย่างมั่นใจ
    • บางครั้งการไม่มีสไตล์ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสไตล์ในตัวมันเอง บางคนก็ไม่ได้สนใจเรื่องแฟชั่น เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับจริงๆ หลายคนชอบแบบนั้นเพราะว่าเขามักจะไปให้ความสนใจกับสิ่งอื่น ถ้าคุณเป็นคนแบบนี้ ก็ให้สบายใจกับการเป็นคนไม่มีสไตล์นั่นแหละ และอย่าตัดสินคนที่ใช้เวลาไปกับเสื้อผ้าเยอะๆ
  5. ตระหนักว่าบุคลิกของคุณบอกอะไรเกี่ยวกับตัวคุณมากกว่าลุคหรือรูปลักษณ์ภายนอก แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะสำคัญก็ตาม ทำตัวน่ารัก เข้าอกเข้าใจ อัธยาศัยดี ห่วงใย และมีเสน่ห์ (ทั้งภายในและภายนอก) เพราะไม่มีใครชอบคนที่ใจร้าย เห็นแก่ตัว ไม่เป็นมิตร และน่าเบื่อหรอก [5]
    • อุปนิสัยที่ผู้คนมักจะมองว่า "เจ๋ง" ก็เช่น
      • ทุ่มเท/ซื่อสัตย์ คุณทุ่มเทให้กับสิ่งที่คุณริเริ่มสุดหัวใจ และซื่อสัตย์ต่อข้อบกพร่องของตัวเอง
      • พึ่งพาได้ คุณเป็นคนที่คนอื่นสามารถพึ่งพาได้ในยามที่เขาต้องการคุณไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
      • ใจดี/เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คุณยินดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่นในทุกๆ ทางหากคุณช่วยได้และหากมันจะทำให้คนอื่นมีความสุข
      • ทะเยอทะยาน แม้ว่าเป้าหมายของคุณจะอยู่ไกลแสนไกล แต่คุณจะไม่มีวันเหยียบหัวใครเพื่อให้ได้มันมา
      • มุมมอง คุณสามารถเห็นภาพใหญ่ได้จากรายละเอียดเล็กๆ คุณรู้ว่าสิ่งธรรมดาๆ ในชีวิต เช่น เพื่อน ครอบครัว ความรัก และสุขภาพนั้นมักเป็นสิ่งที่ผู้คนมองข้ามมากที่สุด
      • หลักการ คุณรู้ว่าตัวเองเชื่อในเรื่องอะไร และคุณก็มีเหตุผลที่ดีพอที่จะยึดถือความเชื่อนั้นไว้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สร้างความประทับใจผ่านการให้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถเป็นแบบอย่างได้มากมายหลายวิธี แต่สิ่งที่คุณจะต้องเก็บไปคิดก็คือ ถ้าคุณตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเด็กๆ แล้ว คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองมีเหตุผลที่ดีในการเลือกทำสิ่งนั้น การช่วยเหลือเด็กๆ เพราะคุณแค่อยากให้คนอื่นมองว่าคุณเจ๋งก็แทบไม่ต่างจากการที่คุณควบคุมอาหารเพราะอยากให้คนอื่นชอบคุณ ไม่ใช่เพราะคุณอยากมีสุขภาพดี
    • เป็นครูอาสาสมัคร สอนเด็กๆ อ่านหนังสือ แก้โจทย์เลขง่ายๆ หรือเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย อดทนและนึกไว้เสมอว่า เด็กแต่ละคนเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน!
    • เป็นที่ปรึกษาให้กับเด็กๆ ในขณะที่คุณต้องการที่ปรึกษา เด็กๆ เองก็ต้องการที่ปรึกษาด้วยเช่นกัน พวกเขาต้องการข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ยาเสพติด อาชีพ และชีวิต และคุณก็สามารถเป็นแนวทางให้กับเด็กๆ ที่คุณเอ็นดูได้
    • แค่แบ่งเวลาไปอยู่กับเด็กๆ ถ้าคุณมีความสุข มองโลกในแง่ดี มีความรับผิดชอบ และเป็นผู้ใหญ่ เด็กๆ ก็จะมีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ คุณไม่ต้องพยายามทำอะไรมากมายเพื่อให้ดูเจ๋งในสายตาเด็กๆ ให้เวลาพวกเขาสักหน่อย แล้วคุณจะรู้ว่าแค่ได้อยู่กับพวกเด็กๆ ก็สนุกมากแล้ว
  2. เราบ่นการเมืองกันบ่อยแค่ไหน ตลอดเวลา แล้วเราเข้าไปมีส่วนร่วมบ่อยแค่ไหน ไม่เท่าไหร่หรอก การลงสมัครเพื่อชิงตำแหน่งทางการเมืองก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความแตกต่างให้กับชุมชนด้วยการทดสอบความสามารถทางการเมืองของคุณเอง นอกจากนี้ใครล่ะที่จะพูดได้ว่าตัวเองลงสมัครเพื่อชิงตำแหน่งจริงๆ เห็นไหมล่ะว่ามันฟังดูเจ๋งขนาดไหน!
    • ถ้าคุณยังเด็ก ลองคิดเรื่องการเข้าไปมีส่วนร่วมในสภานักเรียน มันอาจจะไม่ได้มีอำนาจหรืออิทธิพลเท่ากับหน่วยงานเทศบาล จังหวัด หรือประเทศ แต่มันก็สำคัญกับคนรอบข้างคุณ และยิ่งคุณได้เข้าไปมีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
  3. การเป็นคนใจบุญไม่ได้เป็นภาระหน้าที่ตามกฎหมาย แต่มันก็อาจจะเป็นภาระหน้าที่ทางศีลธรรม ถ้าคุณเคยได้รับความช่วยเหลือจากใครในเส้นทางชีวิตของคุณ หรือคุณแค่เชื่อในหลักการ ลองคิดที่จะส่งต่อความช่วยเหลือนั้น ช่วยให้คนที่เขาด้อยโอกาสกว่าคุณได้มีหนทาง
    • เข้าสู่เครือข่ายผ่านทางกลุ่มศาสนาในพื้นที่ของคุณ ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนผู้มีจิตศรัทธา ให้ถามสมาชิกในกลุ่มว่า พวกเขารู้วิธีที่คุณจะเข้าไปมีส่วนร่วมในงานการกุศลหรือไม่ เพราะบ่อยครั้งที่กลุ่มศาสนามักจะมีโครงการหรือข้อมูลอยู่แล้วว่า คนทั่วไปจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง
    • คุณอาจจะให้กู้ยืมเงินขั้นต่ำ เงินกู้ขั้นต่ำก็คือเงินก้อนเล็กๆ (เช่น 600 บาท) ที่คุณสามารถให้คนอื่นกู้ยืมได้ผ่านทางสถาบันกู้ยืม คนที่ได้เงินกู้ไปมักจะมาจากประเทศที่ยากจนมากๆ พวกเขาจะนำเงินไปสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือไร่นา หลังจากที่เขาใช้เงินกู้ไป คุณก็จะได้เงินคืน ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้ได้เป็นอย่างมาก
    • ทำความดีแบบไม่เลือก เปิดประตูค้างไว้ให้คนที่พยายามจะขึ้นรถเมล์ นำอาหารกลางวันที่คุณกินเหลือให้กับคนไร้บ้าน บอกเพื่อนร่วมงานว่าคุณเห็นคุณค่าที่เขาทุ่มเทให้กับการทำงานมากแค่ไหน การทำความดีเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แทบไม่ต้องใช้พลังงานหรือทรัพยากรเลย และยังสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย [6]
  4. คุณเชื่อในอะไร คุณเชื่อในสิทธิของสัตว์ใช่ไหม เข้าไปมีส่วนร่วมในองค์กรพิทักษ์สัตว์ (PETA) หรือองค์กรในลักษณะเดียวกันสิ คุณเชื่อในการเรื่องการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนเหรอ เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาพลังงานสีเขียวดูสิ คุณเชื่อในทักษะทางการเงินขั้นพื้นฐานเหรอ เข้าไปมีส่วนร่วมกับ Guerrilla Economics หรือการให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้อื่นดูสิ ไม่ว่าคุณจะเชื่อในสิ่งไหน การเป็นคนเจ๋งๆ ก็คือการแสดงออกให้โลกเห็นว่าคุณขับเคลื่อนด้วยอะไร
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การเป็นคนเจ๋งๆ ก็อาจจะมาจากความรู้ก็ได้ เพราะคนอื่นจะชื่นชมที่คุณมีความรู้ในสิ่งที่น่าสนใจอย่างกว้างขวาง
  • คบเพื่อนดี! ถ้าเพื่อนไม่ให้เกียรติคุณ คุณก็อาจจะต้องหาเพื่อนใหม่
  • การเป็นคนเจ๋งๆ ก็คือการเป็นตัวของตัวเองและมั่นใจ ทดลองสิ่งใหม่ๆ และใช้ความคิดสร้างสรรค์!
  • เรียนรู้ที่จะพูดภาษาอื่น เพราะคนเรามักจะชื่นชมคนที่ทำในสิ่งที่เราทำไม่ได้
  • ทำในสิ่งที่คิด แล้วคนอื่นจะเคารพคุณ มีไอเดียแปลกๆ เหรอ ทำให้มันเป็นจริงสิ
  • ความเจ๋งมีอยู่ในตัวคุณ คุณอาจจะไม่รู้ว่ามันอยู่ในนั้น แต่มันอยู่ในตัวคนทุกคน แค่รอให้คุณเปิดประตูแล้วปลดปล่อยมันให้เป็นอิสระเท่านั้นเอง
  • จำไว้ว่าอาจจะมีบางคนที่เดินเข้ามาบอกคุณว่า พวกเขาเกลียดคุณ แต่อย่าให้มันมามีผลกับคุณ เพราะพวกเขาอาจจะแค่อิจฉาก็ได้
  • ไม่ต้องกังวล ในช่วงแรกคนอื่นอาจจะวิพากษ์วิจารณ์คุณ แต่เดี๋ยวเขาก็จะเห็นคุณค่าของคุณเอง
  • เป็นคนเจ๋งๆ เพื่อที่จะได้เป็นคนเจ๋งๆ ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นเห็น พูดอีกอย่างก็คือ จงเป็นคนที่เจ๋งเพราะคุณอยากเป็น ไม่เพราะคุณรู้สึกว่าตัวเองต้องดูเป็นคนเจ๋งๆ ในสายตาคนอื่น
  • ไอนสไตน์ ซูซาน บ. แอนโธนี โซเจอเนอร์ ทรูธ บักกี้ ฟุลเลอร์ และคนที่ยิ่งใหญ่อื่นๆ ล้วนเป็นคนเจ๋งๆ แต่ก็มีไม่กี่คนที่ไม่ได้เป็นแบบที่กล่าวไว้ข้างต้น เพราะฉะนั้นให้ค้นหาในสิ่งที่คุณรัก ทำมันให้ดีที่สุด และคุณก็จะกลายเป็นคนเจ๋งๆ
  • เป็นที่นิยมชมชอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากถ้าคุณดีกับคนอื่นมากๆ และรับผิดชอบในสิ่งต่างๆ จงเป็นผู้นำ แต่อย่าควบคุมสภาพแวดล้อมตลอดเวลา
  • คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวโง่ๆ และเสี่ยงอันตรายเพื่อให้กลายเป็นคนเจ๋งๆ! การเสพยาเสพติดและดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้คุณเจ๋ง ถ้าคุณยังมีพอสามัญสำนึกหลงเหลืออยู่บ้าง และเต็มใจที่จะลองสิ่งใหม่ๆ ก็ลุยเลย!
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าเที่ยวคุยโวโอ้อวดว่าคุณเจ๋งขนาดไหน เพราะถ้าคุณเจ๋งพออยู่แล้ว คนอื่นจะสังเกตเห็นเอง
  • อย่าพยายามเป็นคนอื่นที่คุณไม่ได้เป็น เพราะแม้ว่าคุณจะได้รับการชื่นชมจากคนอื่น แต่คุณอาจจะสูญเสียความเคารพในตัวเองไป ซึ่งเป็นสิ่งที่แย่กว่ากันมาก แต่คุณสามารถเริ่มทำสิ่งใหม่หรือเปลี่ยนแปลงความสนใจได้
  • อย่าให้อะไรฟรีๆ กับคนอื่นมากเกินไป ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่าคุณเจ๋งเพราะว่าคุณให้ของเขา ซึ่งไม่ใช่ความเจ๋งที่แท้จริง
  • อย่าทำอะไรโง่ๆ การเป็นคนเจ๋งๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทำอะไรที่มันโลดโผน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเกี่ยวข้องกับคนที่ไม่เต็มใจจะทำ
  • อย่าเลียนแบบคนที่เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น จงเป็นตัวของตัวเอง!
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,792 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา