ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณอาจจะแวะเข้าไปอ่านบทความ วิธีการเป็นคนเท่ มาแล้ว แต่ก็อาจจะยังสงสัยอยู่ว่าจะนำเคล็ดลับในบทความนั้นมาใช้กับชีวิตในรั้วโรงเรียนได้อย่างไร สภาพแวดล้อมของโรงเรียนอาจมีความกดดันสูง แต่การวิเคราะห์มุมมองของตัวเองว่าอะไรที่ทำให้คนดู "เท่" ก็สามารถกำจัดความกดดันต่างๆ ออกไปได้บ้าง การจะเป็นคนเท่ๆ ที่โรงเรียนนั้น คุณต้องดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองขั้นพื้นฐาน อัธยาศัยดี และใจกว้าง พัฒนาความสนใจของตัวเอง และเป็นตัวของตัวเองในแบบเจ๋งๆ ตามปกติ ถ้าคุณทำได้ทั้งหมดนี้ การเป็นคนเท่ๆ จะง่ายกว่าที่คุณคิดเอาไว้มาก ทั้งหมดนี้แหละคือวิธีการเป็นคนเท่ๆ เมื่ออยู่ที่โรงเรียน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

สร้างความประทับใจที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ได้ตำแหน่งความนิยมก็คือ การรักษาร่างกายให้สดชื่นและมีกลิ่นหอม เด็กที่โรงเรียนมักจะตัดสินอะไรจากภายนอกอยู่แล้ว และการเป็นคนตัวเหม็นก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คนอื่นปฏิเสธคุณอย่างแน่นอน อาบน้ำ เป็นประจำ แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน และใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย แล้วคุณจะดูดีขึ้นไม่ว่าคุณจะเป็น ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง
    • การล้างหน้าเป็นประจำก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน เด็กก่อนวัยรุ่นและวัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่มักมีสิวและสิวหัวดำอยู่แล้ว และการล้างหน้าก็สามารถช่วยต่อสู้กับสิวได้
    • ถ้าคุณกังวลว่าเหงื่อจะออกระหว่างวันเนื่องจากอากาศหรือชั่วโมงพละ ให้เก็บผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบแท่งหรือสเปรย์กลิ่นหอมๆ ไว้ใต้โต๊ะหรือในกระเป๋า
  2. นอกจากการไม่รักษาความสะอาดแล้ว เพื่อนๆ ก็อาจจะไม่อยากเข้าใกล้คุณเท่าไหร่นักถ้าคุณดูเหมือนเพิ่งกลิ้งตัวออกจากที่นอนไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ใช้เวลาสัก 2 – 3 นาทีในตอนเช้าเพื่อจัดการทรงผมที่คุณคิดว่าดูดีที่สุด คุณอาจจะไม่สามารถทำทรงผมได้หลากหลายนักเวลาไปโรงเรียน แต่ก็พยายามหวีและรวบให้เรียบร้อย คุณจะใช้ที่รีดผมหรือไดร์เป่าผมจัดทรงหน่อยก็ได้ แค่นี้ไม่ผิดระเบียบหรอก
    • ถ้าคุณไม่ชอบทรงผมของตัวเองในตอนนี้ ก็ไปตัดซะ ไม่รู้จะตัดทรงอะไรดีเหรอ อันนี้คุณต้องศึกษาระเบียบของโรงเรียนให้ดีก่อน เพราะบางโรงเรียนอาจมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด ในขณะที่บางโรงเรียนก็ให้อิสระพอสมควร ถ้าคุณสามารถซอยหรือดัดผมได้ ให้ไปร้านตัดผมแล้วให้ช่างดูว่าผมทรงไหนที่เข้ากับรูปหน้าของคุณ
  3. ด้วยความที่โรงเรียนไทยเกือบทุกโรงเรียนบังคับให้คุณต้องใส่ชุดนักเรียนอยู่แล้ว คุณจึงไม่สามารถใส่อะไรได้ตามอำเภอใจ แต่การจะเป็นคนเท่ๆ เมื่ออยู่โรงเรียนนั้น สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องให้ความสำคัญกับชุดนักเรียนที่คุณใส่และแน่ใจว่าคุณจะมั่นใจว่าตัวเองดูดีเมื่อเดินออกจากบ้าน ชุดนักเรียนของคุณสะอาดหรือเปล่า เสื้อเหลืองแล้วหรือยัง มีรอยเปื้อนมั้ย กระโปรง/กางเกงสั้น/ยาวไปมั้ย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก
    • ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองดูดี คุณก็จะเดินไปเดินมาด้วยท่าทีที่รู้ว่าตัวเองดูดี และคนอื่นก็จะรู้สึกว่าคุณดูดีไปด้วย เพราะฉะนั้นส่วนสำคัญของบุคลิกภาพคือความมั่นใจ คุณไม่จำเป็นต้องสวยเลิศเลอหรือฉลาดสุดๆ หรือตลกระดับคาเฟ่ คุณแค่ต้อง มั่นใจในตัวเอง แล้วโลกทั้งโลกก็จะเชื่อตามนั้น
  4. ให้บุคลิกภาพของคุณเปล่งประกายผ่านรูปลักษณ์ภายนอก. แม้ว่าคุณจะเลือกเสื้อผ้าใส่ไปโรงเรียนเองไม่ได้ แต่คุณก็ยังพอเลือกนาฬิกา ติดสติกเกอร์ที่กระเป๋า ตกแต่งกระเป๋าเคียง และเลือกกรอบแว่นตาเองได้ตราบใดที่ไม่ผิดระเบียบ อย่ากลัวที่จะมีสไตล์เป็นของตัวเอง ค้นหายี่ห้อและเครื่องประดับ/ของใช้ที่คุณชอบ จากนั้นก็สร้างสไตล์ของตัวเองขึ้นมา คุณอาจจะเป็นคนสร้างเทรนด์ใหม่ขึ้นมาเลยก็ได้ ใครจะไปรู้
    • นอกจากนี้การเป็นคนเท่ๆ ยังหมายถึงการเป็นผู้นำและทำทุกสิ่งในแบบของตัวเอง ไม่ใช่การเป็นผู้ตาม อย่ากังวลเรื่องคนที่ตัดสินคุณจากสไตล์ของคุณและคนที่พยายามจะเป็นเหมือนคุณให้ได้ (ส่วนมากคนพวกนี้มักเป็นคนๆ เดียวกัน) แล้วสไตล์ของคุณจะดึงดูดคนที่มีสไตล์ของตัวเองเข้ามาหาคุณ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

คบหาคนเยอะๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเป็นคนเท่ๆ ไม่ใช่แค่การเป็นคนดัง แต่คือการเป็นที่ รู้จัก และวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คนจำชื่อและหน้าของคุณได้ก็คือ การเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนยังไงล่ะ พยายามเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมสัก 2 – 3 กลุ่มที่ไม่คล้ายกัน เพื่อที่คุณจะได้เจอคนเกือบทุกคนและมีความสนใจที่หลากหลาย
    • พยายามเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมทุกประเภท กีฬา 1 กลุ่ม วิชาการ 1 กลุ่ม และศิลปะ 1 กลุ่ม คุณอาจจะอยู่ทีมบาสเก็ตบอล ทีมหนังสือพิมพ์โรงเรียน และชมรมร้องเพลงประสานเสียง การเข้าร่วมกลุ่มที่หลากหลายจะทำให้ประวัติเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของคุณดีขึ้นด้วย
  2. พยายามระบุให้ได้ว่าใครอยู่ที่ไหนบน "บันไดสังคม" ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขนาดนั้น (การเป็นคนเท่คือการเป็นที่ชื่นชอบ ซึ่งต่างจากการเป็นคนดัง) แต่วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณจะจัดประเภทคนได้อย่างไร กลุ่มเด็กเท่ๆ เป็นยังไง คนพวกนี้มีความสนใจเป็นพิเศษมั้ย ฉลาดหรือเปล่า นอกคอกหรือเปล่า แล้วพวกกลางๆ ล่ะเป็นยังไง พวกเขาตามน้ำหรือก็ทำอะไรในแบบที่พวกเขาชอบ แล้วพวกที่อยู่ต่ำที่สุดล่ะ พวกเขาเป็นยังไง คนกลุ่มไหนที่คุณอยากเป็นเพื่อนด้วย แต่คุณก็ควรเป็นเพื่อนกับคน ทุก ระดับ เพราะคุณไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะไปอยู่จุดไหน
    • ถ้าคุณอยากเป็นคนดังจริงๆ คุณก็ควรเป็นเพื่อนกับกลุ่มคนดังที่ดีๆ หน่อย พวกเขาจะเป็นบัตรผ่านทางให้คุณได้เข้าไปอยู่ใน "กลุ่ม" แต่คุณต้องไม่ทำร้ายคนอื่นเพื่อไต่เต้าไปยังบันไดสังคมขั้นที่สูงกว่า บางครั้งกลุ่มเพื่อนที่คุณเลือกที่จะเข้าไปคบหาด้วยก็อาจจะไม่เหมาะกับคุณก็ได้ และพวกที่โดนปฏิเสธเขาก็จะไม่อยากคบกับคุณอีกเมื่อคุณต้องการเพื่อน [1]
  3. ขอบอกอีกครั้งว่า การเป็นคนเท่ไม่ได้หมายถึงการเป็นคนดังเสมอไป มีคน "ดัง" มากมายที่ทั้งหยาบคายและไม่ได้มีใครชอบขี้หน้าจริงๆ เลยด้วยซ้ำ การเป็นคนประเภทนี้ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น เพราะฉะนั้นให้พยายามเป็นคนที่ทั้งดังและเท่ด้วยการทำให้คนอื่นชอบคุณจริงๆ ซึ่งการที่จะเป็นคนแบบนี้ได้นั้น คุณก็ต้องอัธยาศัยดีและปฏิบัติตัวดีกับทุกคนที่คุณเจอ ทำไมต้องทำอย่างอื่นด้วยล่ะ จริงมั้ย
    • คุณอาจจะเข้าใจดีอยู่แล้วว่าการมีอัธยาศัยที่ดีนั้นจะต้องทำอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจก็คือ คุณต้องอัธยาศัยดีกับคนที่คุณคิดว่าไม่เท่ด้วย ช่วยเหลือพวกเขาเมื่อคุณรู้สึกได้ว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ทักทายพวกเขาตรงระเบียงทางเดินถ้าคุณรู้จักพวกเขา เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าพวกเขาอาจจะกลายเป็นเด็กเท่คนใหม่ก็ได้
  4. แค่เพราะคุณอยากขยับไปอยู่กลุ่มคนที่เท่กว่าก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรทิ้งเพื่อนเก่าไปเลย ถ้าคุณพยายามจะทิ้งเพื่อนเก่า กลุ่มคนที่คุณอยากเข้าไปเป็นเพื่อนด้วยเขาจะรู้ และไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ ขยายกลุ่มเพื่อนให้กว้างขึ้นด้วยการหาเพื่อนใหม่เพิ่มจากเพื่อนเก่า
  5. คุณอาจจะหวีผม/แอบแต่งหน้าอ่อนๆ นานเป็นชาติแล้วบอกว่า "แค่หวีๆ ให้มันเสร็จๆ" พวกเขาจะชื่นชมคุณเพราะว่า ถ้าจะให้ได้ผมแบบนี้พวกเขาต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่คุณทำแค่ 5 หรือ 10 นาทีก็เสร็จแล้ว พวกเขาจะอยากเป็นเหมือนคุณ แต่อย่าพูดบ่อยหรืออย่าอวดนัก
  6. เหมือนที่ผู้ใหญ่ทุกคนจะบอกคุณว่า พอคุณโตขึ้นคุณจะรู้ว่าการเป็นคนเท่ไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรเลยจริงๆ และถ้าพวกผู้ใหญ่รู้ว่าการเป็นคนเท่นั้นคือการ ไม่ พยายามต่างหาก พวกเขาก็จะไม่เน้นย้ำขนาดนี้ แม้ว่ามันอาจจะพูดง่ายกว่าทำ แต่ก็พยายามผ่อนคลายสักเล็กน้อย ถ้าคุณพยายามมากเกินไป คนอื่นก็จะหมดความสนใจในตัวคุณและคนอื่นๆ ก็จะคิดว่าคุณไม่มั่นใจและไม่ชอบตัวเอง และถ้าคุณไม่ชอบตัวเอง ทำไมคนอื่นจะต้องชอบด้วยล่ะ
    • ตัวอย่างเช่น สมมุติว่ามีคนที่คุณไม่ได้รู้จักมักจี่มาชวนคุณไปเดตแต่คุณปฏิเสธ จากนั้นเขาก็เริ่มส่งจดหมายรักมาให้คุณ คุณก็ยังปฏิเสธอีก ยังไม่พอเขายังส่งดอกไม้มาให้ด้วย รู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนอยู่ตรงประตูบ้านคุณตอนกลางคืนแล้ว เขาพยายามมากเลยจริงๆ ใช่มั้ย แล้วมันได้ผลมั้ยล่ะ ไม่เลย แต่จริงๆ แล้วมันกลับให้ผลลัพธ์ที่ ตรงกันข้าม มากกว่า คุณอยากให้เขาเคารพตัวเองสักหน่อยและคุณก็อยากให้เขาไปไกลๆ คุณด้วย
  7. ให้คุณค่ากับความคิดเห็นของตัวเองมากกว่าของคนอื่น. พยายามอย่าไปสนใจว่าตัวเองจะคิดว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเราให้มากที่สุด แค่เล่นไปตามน้ำ ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าไม่มีทางที่คนทุกคนจะชอบคุณน่ะสิ ไม่มีใครที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกคนเพราะเราทุกคนต่างมีข้อบกพร่องและมีบุคลิกที่แตกต่างกัน ถ้าคุณแน่ใจว่ามีใครตัดสินคุณอยู่ คุณก็สามารถพูดเรื่องนี้ออกมาได้ จากนั้นก็ทำเหมือนว่าคุณไม่ได้สนใจ เพราะคุณไม่ได้สนใจจริงๆ ฝึกคิดแบบนี้แล้วความมั่นใจของคุณจะเพิ่มขึ้นผ่านการยอมรับตัวเอง คนที่โรงเรียนจะสงสัยว่าคุณไปเอาความภาคภูมิใจในตัวเองแบบนี้มาจากไหนกัน!
    • นี่แหละคือส่วนที่สไตล์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ พวกที่เล่นสเก็ตก็มีสไตล์แบบนึง พวกที่นึกว่าตัวเองเจ๋งก็อีกแบบนึง พวกเด็กเนิร์ดเขาก็มีสไตล์ของเขา เป็นต้น เราทุกคนไม่มีใครเหมือนกันและก็ไม่ได้มีสไตล์ไหนที่ดีกว่าสไตล์อื่นๆ ถ้ามีใครมาตัดสินคุณ พวกเขาก็แค่ติดกับดักอยู่ในกะลาใจที่คับแคบ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเขาได้อะไรขึ้นมาด้วย เพราะฉะนั้นอย่าไปเป็นเพื่อนกับคนพวกนี้ เพราะสุดท้ายคุณก็ต้องเจอทางตันอยู่ดี
  8. อย่าหยาบคายกับคนอื่นในโรงเรียนเพื่อให้ตัวเองดูเท่ขึ้น จริงๆ แล้วคนทั่วไปเกลียดขี้หน้าพวกอันธพาลจะตาย พวกเขาแค่กลัวจนไม่กล้ายอมรับซึ่งๆ หน้าต่างหาก [2] สักพักพวกอันธพาลก็จะสูญเสียอำนาจและพวกเขาก็ไม่เหลืออะไรเลย มันอาจจะดูเป็นสิ่งที่คุณควรจะเป็นในตอนนี้ แต่ในระยะยาวมันกลับเป็นสิ่งที่มีแต่จะทำร้ายคุณ
    • อย่าแพร่คำนินทาหรือเริ่มกุข่าวลือ
    • อย่าวิจารณ์ใครในทางที่ไม่ดี แค่เพราะคุณไม่ชอบเขาหรือไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องพูดออกมา
    • อย่ากีดกันคนอื่น เพราะสุดท้ายแล้วเหตุผลที่คุณอ่านบทความนี้ก็เพราะว่าคุณอยากให้คนอื่นชอบคุณ
  9. อาจจะพูดง่ายกว่าทำ แต่ที่โรงเรียนการใช้อารมณ์ขันและเทคนิคการเข้าสังคมได้เป็นอย่างดีคือกุญแจสำคัญ ตราบใดที่คุณมีเพื่อนอยู่เคียงข้าง จะไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้ ถ้าอะไรๆ มันแย่จนเกินไป ให้บอกผู้ใหญ่ที่คุณไว้ใจเพื่อที่พวกเขาจะได้ช่วยรับมือกับมันได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

อัธยาศัยดี มั่นใจ และเป็นที่ชื่นชอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จำส่วนข้างต้นที่บอกว่า การเป็นคนเท่คือการเป็นที่ชื่นชอบของคนกลุ่มต่างๆ มากมายได้มั้ย การที่จะให้คนทุกกลุ่มที่มีความแตกต่างกันชอบคุณได้นั้น คุณต้องชอบพวกเขาก่อน เปิดใจให้กว้างและพยายามเข้าใจว่าทุกคนล้วนมีคุณค่า ไม่ใช่เฉพาะแต่กลุ่มเด็กที่เท่ที่สุดเท่านั้น แล้วคุณจะดูเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น และดูเป็นคนที่มีความสุขมากขึ้นด้วย และนั่นแหละคือคนในแบบที่คนส่วนใหญ่อยากเข้าใกล้มากที่สุด
    • ไม่ว่าจะเป็น Taylor Swift Demi Lovato Selena Gomez Zac Efron Kristen Stewart Lady Gaga คนเท่ๆ พวกนี้ล้วนเป็นคนที่สมัยเรียน ไม่ เท่เลย (พวกเขาบอกอย่างนั้นนะ) [3] นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า ถ้าคุณไม่เปิดใจให้กว้าง คุณอาจจะพลาดคนบางคนที่เจ๋งๆ ไปก็ได้
  2. การให้เกียรติคนอื่นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นเพื่อนกับคุณนั้นแสดงให้เห็นว่า คุณไม่ได้เหยียดคนอื่นด้วยอะไรก็ตามเพียงเพราะว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกับคุณ คุณจะได้สร้างชื่อเสียงที่ดีในแง่ของการเป็นคนใจดี เห็นใจคนอื่น และเป็นเพื่อนกับทุกคนเสมอเพราะว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาคุณได้และคุณก็จะไม่ตัดสินพวกเขา ซึ่งเป็นอะไรที่ฟังดูเท่อยู่นะ
    • วิธีการที่ดีในการ หาเพื่อน ก็คือการทำให้พวกเขาขำ ถ้าคุณเล่นมุกล้อเลียนอีกคน คุณต้องแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่ามันเป็นแค่การแซวสนุกๆ และพยายามอย่าล้อครู เพราะมันอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม ได้ง่ายๆ
  3. คุณรู้จักพวกเด็กที่ทำหน้าบึ้งตึ้งอยู่ตรงมุม พวกที่ดูมืดมน หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลาแล้วก็ไม่พูดไม่จากับใครเลยใช่มั้ย เขาดูไม่ค่อยมีความสุขเลยนะว่ามั้ย คุณอยากไปไหนมาไหนกับคนมองโลกในแง่ร้ายแบบนี้มั้ยล่ะ ไม่หรอกมั้ง ถ้าคุณอยากดึงดูดให้คนอื่นเข้าหาคุณ ให้ทุกคนชอบคุณ คุณต้องมองโลกในแง่บวกเข้าไว้ เชิดหน้า เต็มใจที่จะหัวเราะเรื่องของตัวเอง และกระจายการมองโลกที่เป็นบวกและความเจ๋งไปยังผู้อื่น สุดท้ายคนอื่นๆ จะอยากอยู่ใกล้คุณเพื่อที่จะซึมซับสิ่งเหล่านี้จากคุณ
    • แล้วคนอื่นจะซึมซับมันไปได้จริงๆ เหรอ ก็อาจจะได้นะ งานวิจัยบางชิ้นบอกว่า การอยู่กับคนที่มีความสุขจะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะมีความสุขมากขึ้น และการคบหากับคนที่เศร้าก็จะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะเศร้ามากขึ้น แล้วคุณจะเป็นแสงสว่างนำทางให้เพื่อนๆ ได้มั้ย ได้อยู่แล้ว!
  4. เมื่อเป็นเรื่องของมนุษย์เราแล้ว เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่าย เรารู้ว่าเราชอบอะไรและไม่ชอบอะไร และสิ่งที่พวกเราชอบ แน่ๆ ก็คือคนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า รอยยิ้มไม่เพียงแต่ทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความสุขมากกว่า และ ทำให้ คุณมีความสุขมากกว่าเดิมเท่านั้น (ใจคุณจะเริ่มเชื่อจริงๆ ว่าคุณมีความสุข) แต่มันยังเสริมเสน่ห์ทางเพศให้คุณด้วย [4] สร้างรอยยิ้มบนใบหน้าและดูว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นนิสัยที่คุ้มค่าแก่การสร้างเลยล่ะ!
    • พยายามอย่าแกล้งยิ้ม ยิ้มแบบธรรมชาติ คนส่วนใหญ่จะดูออกถ้าคุณแกล้งยิ้ม ถ้าคุณมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ การสร้างรอยยิ้มที่จริงใจก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ยากเย็นเกินไปนัก
  5. แม้คุณจะได้ยินคำพูดที่ว่า "เป็นตัวของตัวเอง" อยู่บ่อยๆ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ใช่คำแนะนำที่มีคุณค่า อันที่จริงมันชัดเจนอยู่แล้วในระหว่างคำพูดที่ว่า "อย่าพยายามมากเกินไป" กับ "ยึดกับสไตล์ที่ใช่ของตัวเอง" ที่ว่าการเป็นตัวของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เท่ก็ต่อเมื่อตัวคุณไม่เท่ ทำไมต้องเป็นตัวของตัวเองล่ะ ถ้าเท่อยู่แล้วก็จะยิ่งเท่เข้าไปใหญ่มั้ย การเป็นตัวของตัวเองคือการที่คุณสบายใจที่จะเป็นตัวเองและคุณก็มั่นใจมากขึ้น ถ้าคุณพยายามเป็นคนอื่น คุณก็จะกลายเป็นแค่ของเลียนแบบ และการเป็นของปลอมนี่ก็ไม่เท่ เลยสักนิด
    • ลองนึกดูสิว่ามีแต่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นคุณได้อย่างแท้จริง ไม่มีใครเป็นเหมือนคุณได้ คุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีชุดคุณลักษณะและทักษะที่ไม่มีใครมีเหมือนคุณ คุณสร้างความแตกต่างให้โลกใบนี้ได้ แล้วทำไมจะต้องไปเป็นคนอื่นในเวอร์ชั่นที่ด้อยกว่าด้วยล่ะ จริงๆ แล้วคุณน่ะเจ๋งกว่าอะไรทั้งหมดที่ "คุณ" จะเป็นได้อยู่แล้ว
  6. รู้ว่าโรงเรียน (และการเป็นคนเท่ๆ) ไม่ได้อยู่กับคุณตลอดไป. งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้พบว่า โดยทั่วไปเด็กที่เท่ๆ สมัยเรียนมัธยมนั้นไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาวเท่ากับเพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยเท่สักเท่าไหร่ [5] เพราะฉะนั้นถ้าตอนนี้คุณให้ความสำคัญกับการเป็นคนเท่และเป็นคนดัง พยายามเข้าใจว่าพวกเด็กที่เท่ๆ ใน ตอนนี้ กำลังอยู่ในจุดที่ดีที่สุดของชีวิต ต่อจากนี้ไปชีวิตของพวกเขาก็จะเข้าสู่ช่วงขาลงไปเรื่อยๆ และจุดนี้ก็เป็นจุดขา ขึ้น ของคุณ และ นั่น ต่างหากคือชัยชนะ แม้ว่าคุณจะไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นชัยชนะสักเท่าไหร่ก็ตาม
    • สั้นๆ ก็คือ การเป็นคนเท่ๆ นั้นก็เป็นแค่เรื่องชั่วคราว สุดท้ายแล้วพอเราโตขึ้น เราก็จะรู้ว่า "ความเท่" ไม่มีอยู่จริง เราต่างเดินหน้าต่อไปและเริ่มทำสิ่งต่างๆ ในแบบของเราเพราะว่ามันทำให้เรามีความสุข ถ้าความเท่ไม่ได้มาหาคุณง่ายๆ ขอให้รอก่อน เมื่อเวลาผ่านไปมันจะมาหาคุณง่ายขึ้น
  7. คนเท่ๆ จะเป็นผู้ตามไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนกำหนดเทรนด์ต่างๆ ใช้ความคิดริเริ่มเมื่อต้องวางแผน ฟังเพลงที่ต่างออกไปแล้วแนะนำให้เพื่อนๆ ฟังบ้าง เริ่มเล่นเกมใหม่ๆ ใส่เสื้อผ้าสไตล์ใหม่ๆ สิ่งที่คุณทำอาจจะไม่ได้กลายเป็นเทรนด์ไปซะทุกอย่าง แต่การเป็นผู้ตามนั้นไม่ดีต่อสถานะของคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก็แค่ใช้ชีวิต! ใช้ชีวิตในแบบที่คุณอยากใช้ คุณอยากให้คนอื่นมาคอยบอกจริงๆ เหรอว่าคุณควรใช้ชีวิตยังไง ใช้ชีวิต ให้ความรัก และใช้ความคิด
  • อัธยาศัยดีและปฏิบัติตัวดีต่อผู้อื่น พูดทักทายคนอื่นโดยเฉพาะถ้าคุณสบตาพวกเขาและดูเหมือนว่าพวกเขาคาดหวังคำทักทายจากคุณ และอัธยาศัยดีกับครูด้วยเช่นกัน
  • บ่อยครั้งที่การเป็นคนเท่คือการเป็นคนตลก เล่นมุกที่ทำให้คนอื่นหัวเราะ
  • ติดตามเทรนด์ล่าสุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องมีทุกสิ่งที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนั้น นอกจากนี้อย่าประโคมใส่ของที่เขาฮิตกันมากเกินไปในครั้งเดียว มันจะทำให้คุณดูโหยหาและขาดสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
  • จริงๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเป็นฝูงก็ได้ หาเพื่อนดีๆ สัก 2 หรือ 3 คนที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอ
  • ช่วยเหลือคนอื่นเมื่อพวกเขาประสบปัญหา
  • อย่าเป็นอันธพาล ปฏิบัติดีต่อผู้อื่น เพื่อที่เด็กคนอื่นจะได้ประทับใจในความเมตตาที่คุณมีต่อผู้อื่น
  • อย่าปล่อยให้ความคิดเห็นของคนอื่นมาควบคุมชีวิตของคุณ คนบางคนจะพยายามกดคุณให้ต่ำอยู่เสมอเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่า
  • เวลาที่เล่นมุกหรือพยายามจะตลก ระวังอย่าเผลอทำให้คนอื่นไม่พอใจ
  • แสดงความน่าสนใจในสิ่งที่คุณทำให้มากที่สุดเสมอ
  • อย่าเลิกมองโลกในแง่ดี เพราะคนที่แผ่รังสีการคิดบวกนั้นเป็นที่ชื่นชอบของผู้อื่นเสมอ
โฆษณา

คำเตือน

  • คุณต้องศึกษากฎระเบียบเรื่องทรงผมและการแต่งกายของโรงเรียนก่อน เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจจะมีปัญหาใหญ่กับครู/ผู้อำนวยการได้
  • ขอย้ำอีกครั้งว่าการเป็นคนเท่ๆ ไม่ใช่ทุกสิ่ง บ่อยครั้งที่ "ขนบ" ในโรงเรียนมัธยมนั้นเป็นสิ่งที่อันตราย เพราะมันอาจทำไปสู่การกดดันจากเพื่อนในโรงเรียน และสุดท้ายชีวิตของคุณอาจถูกยาเสพติดและแอลกอฮอล์ทำลาย ถ้าการเป็นคนเท่ๆ หมายถึงการทำในสิ่งที่คุณรู้ว่ามันอันตราย ก็อย่าทำ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,939 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา