ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เราไม่สามารถควบคุมยีนส์หรือลักษณะภายนอกทั่วๆ ไปได้หรอก แต่ที่ทำได้คือการควบคุมสิ่งที่มี เพราะการจะดูดีนั้นเป็นการรวมเอาหลายๆ ปัจจัย อย่างการแต่งตัว นิสัยส่วนตัว และลักษณะต่างๆ ไว้ด้วยกัน หากกำลังหาวิธีเพิ่มเสน่ห์ความดึงดูดทางเพศหรือไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหน นี่แหละจะเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะสามารถเปลี่ยนให้เป็นคนที่ดูดีมากขึ้นได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

ดูแลเครื่องแต่งกายและผมเผ้าให้เรียบร้อย

ดาวน์โหลดบทความ

สิ่งที่ง่ายและสำคัญที่สุดเพื่อการดูดีคือการฝึกรักษาความสะอาด เพราะการที่ดูสะอาดสอ้านและมีกลิ่นหอมจะทำให้คนอื่นอยากเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัวเลย เพราะฉะนั้นลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อปรับปรุงกิจวัตรประจำวันกันเถอะ

  1. หากลิ่นที่เหมาะกับตัวเอง แล้วฉีดมันเป็นสิ่งแรกเลยหลังจากอาบน้ำเสร็จ รวมถึงถ้ารู้ว่าตัวเองมีเหงื่อหรือกลิ่นเหม็นระหว่างวันก็เอาโรลออนใส่ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าหิ้ว แล้วใช้มันซ้ำอีกทีหนึ่ง [1]
    • ถ้าลืมทาโรลออนก่อนออกจากบ้านก็หาน้ำยาล้างมือแล้วเช็ดที่รักแร้ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น โดยอาจจะใช้ซ้ำได้หลายๆ ครั้งตลอดวัน
    • โรลออนชนิดไร้กลิ่นจะช่วยลดฏอกาสที่คุณจะไปทำให้คนอื่นเกิดภูมิแพ้
  2. สระผมให้ทั่วศีรษะ และใช้เจลอาบน้ำหรือสบู่ที่มีกลิ่นแบบสดชื่นและสะอาด
    • ถ้าปกติอาบน้ำตอนเช้า ใช้กระจกที่ไม่ขึ้นฝ้าจะได้มองเห็นตอนล้างหน้าและโกนหนวด
  3. ฉีดน้ำหอม (ที่ทาหลังโกนหนวด) หรือสเปรย์สำหรับฉีดตัว. กลิ่นที่มีตลอดวันมีผลให้เป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนหรืออาจเป็นตัวขับไล่ก็ได้ ถ้าทำถูกจะมีคนเข้ามาหาโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่จะให้ผลตรงกันข้ามและเป็นที่รังเกียจของผู้คนเลยจริงๆ ดังนั้นมาทำตามคำแนะนำง่ายๆ นี้กันเถอะ:
    • อย่าฉีดเยอะไป เพราะข้อสำคัญคือการมีกลิ่นหอม ไม่ใช่การมีกลิ่นแรง กลิ่นดีที่มากเกินไปก็อาจแย่ได้ แม้แต่กุหลาบยังอาจจะมีกลิ่นเอียนๆ ถ้าฉีดกลิ่นน้ำมันกุหลาบเยอะๆ ฉีดน้ำหอม (ที่ทาหลังโกนหนวด) แค่ 2 หรือ 3 ปั๊มและสเปรย์สำหรับฉีดตัวซัก 3 ปั๊มก็พอ แม้จมูกจะชินกลิ่นและไม่ได้กลิ่นมันหลังจากฉีดไปหลายนาที แต่คนอื่นยังได้กลิ่นอยู่นะ
    • หาน้ำหอมที่เหมาะกับกลิ่นตัวตนเอง สารเคมีในร่างกายของแต่ละคนจะต่างกันเล็กน้อย และผลก็ออกมาแล้วว่าน้ำหอมทุกอย่างไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนหรอก โดยมันจะมีกลิ่นที่ “ทำงานได้ดี” กับบางคนแต่แย่ถ้าใช้กับคนอื่น ถ้าสามารถลองน้ำหอมหรือสเปรย์ฉีดตัวก่อนซื้อได้จะดีมาก ลองฉีดมันซักวันแล้วถามเพื่อนว่ากลิ่นเป็นยังไงหลังจากผ่านไป 2–3 ชั่วโมงแล้ว
    • พยายามให้เจลอาบน้ำกับน้ำหอมหรือสเปรย์หลังจากโกนหนวดเหมาะสมกัน ไม่จำเป็นต้องกลิ่นเดียวกันหรอก แต่ควรจะคล้ายกันเพื่อจะได้ไม่ตีกัน
    • ฉีดน้ำหอมหรือสเปรย์หลังจากโกนหนวดเหนือจุดชีพจร บริเวณส่วนที่มีเลือดไหลเวียนใกล้กับผิวเป็นจำนวนมากจะเป็นส่วนที่มีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย ซึ่งจะเพิ่มความร้อนอีกนิดแก่น้ำหอมเหล่านั้นและทำให้มันกลิ่นแรงขึ้น โดยทั่วไปแล้วมีหลายจุด เช่น ข้อมือ ลำคอ และหลังคอ
  4. โดยธรรมชาติแล้วผู้ชายจะมีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่มีผลกับการทำให้สิวเพิ่มขึ้นและลุกลามได้มากกว่าผู้หญิง ดังนั้นต้องดูแลความสะอาดใบหน้าให้ดี [2]
    • หาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทของผิว และลักษณะทั่วไป มีดังนี้:
      • ผิวบอบบางและผิวแห้ง : ถ้าผิวมีแนวโน้มว่าจะแตกและแห้งเป็นสะเก็ด หรือแดงและแพ้ง่าย ต้องใช้ตัวทำความสะอาดที่อ่อนโยนมากๆ ข้ามขั้นตอนการใช้โทนเนอร์ไปได้เลย แต่ให้ใช้ตัวให้ความชุ่มชื่นที่อ่อนๆ ก็พอ
      • ผิวผสมหรือผิวทีโซน : คือหน้าผาก จมูกและคาง(หรือเรียกว่า “ทีโซน”) มันแต่แก้มแห้ง โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีผิวแบบนี้กันเยอะ ก็ใช้ตัวทำความสะอาดสำหรับผิวปกติหรือผิวผสมตามท้องตลาดได้เลย และใช้โทนเนอร์สูตรอ่อนโยนที่บริเวณทีโซน แล้วตบท้ายด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์
      • ผิวมัน : ต้องหาตัวทำความสะอาดเหนียวๆ หรือทำให้หน้าแห้งลง โดยใช้โทนเนอร์อ่อนๆ ทาให้ทั่วหน้า แล้วจบด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรบางเบา แต่ถ้ารู้สึกหน้ามันตลอดวัน ให้ใช้กระดาษซับมันที่ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปตอนช่วงบ่ายๆ ดูก็ได้
    • ถ้ามีสิว ใช้โฟมล้างหน้าที่มีกรดซาลิซิลิกและทาครีม benzoyl peroxide ที่สิว แต่ถ้ามันไม่ช่วยอะไร ก็ไปหาหมอซะ
  5. ไม่ว่าจะอยากมีหน้าเกลี้ยงเกลาหรือไว้หนวดเครา แต่ที่สำคัญคือต้องดูแลความสะอาดขนบนหน้าทุกวัน
    • เพื่อการโกนที่สะอาด ต้องโกนทุกเช้าก่อนไปทำงานหรือไปโรงเรียน โดยทำให้หน้าเปียกก่อนแล้วใช้ที่โกนหนวดคมๆ และครีมสำหรับโกน ต้องโกนสวนกับแนวขน (อีกทางของการยาวของขน) เริ่มจากขากรรไกรไปยังแก้ม การใช้ที่มีดโกนอาจทำให้ระคายเคืองได้ และถ้าขนยังไม่ยาวให้โกนตามแนวขนไปเลย
    • จัดการเครา หนวดหรือเคราแพะซะ ดูว่าขอบมันเรียบร้อยและสะอาดไหม และเล็มไม่ให้มันดูยาว รวมทั้งเมื่อทำความสะอาดใบหน้าให้ตั้งใจขัดผิวที่อยู่ใต้ขนเหล่านั้นด้วย
  6. ไม่ถึงขั้นต้องกันคิ้วหรอก แต่มันจะช่วยให้ดูดีขึ้นมาได้นะ ลองทำตามแนวทางพวกนี้สิ:
    • หากรรไกรดีๆ ซักอัน ที่คมซ้อนกันแล้วจะทำให้การกันคิ้วเจ็บน้อยลงและทำได้ดีขึ้น โดยอาจจะซื้อที่เล็มขนที่ไม่แพงมาก (แถมยังไม่เจ็บด้วย) มาใช้ก็ได้ และยังสะดวกกับการตัดขนจมูกหรือขนหูที่เห็นชัดๆ ด้วย
    • ให้หน้าเป็นแนว โดยหาดินสอเขียนคิ้วแล้ว เริ่มจากหัวคิ้วตรงจมูกข้างหนึ่งไปตามแนวขน ส่วนที่ดินสอเขียนไม่ผ่านแสดงว่าเป็นบริเวณที่ “หนาและดก” และควรกันทิ้ง แล้วทำทั้งสองข้างให้เสร็จ
    • ทำความสะอาดโหนกคิ้ว ถ้าคิ้วยังหนาอยู่แม้จะกันหรือเล็มตรงกลางไปแล้ว อาจจะเอาตรงใต้โหนกคิ้วออกอีกซักหน่อย โดยจำไว้ว่าให้กัน ‘หรือเล็ม’ ตรงใต้คิ้ว ไม่ใช่เหนือคิ้ว
  7. ทุกๆ 2 หรือ 3 วัน ใช้เวลาซักนิดตัดเล็บทั้ง 20 เล็บอย่างรวดเร็วและเอาพวกขี้เล็บออกไป หลังจากอาบน้ำเสร็จ เพราะมันจะนุ่มและง่ายกว่าเมื่อออกจากน้ำไม่นาน โดยทั้งเล็บมือและเล็บเท้าควรตัดให้สั้น ให้มีขอบขาวๆ เหนือหนังใต้เล็บนิดนึงก็พอ
  8. ต่อสู้กับลมหายใจแย่ๆ และรักษารอยยิ้มสีขาวสดใสโดยดูแลฟันให้ดี
    • เปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยๆ ทุก 3 เดือน หรือหลังจากหายหวัดหรือโรคติดต่ออื่นๆ ถ้าขนแปรงเริ่มแยกออกจากกันก็ได้เวลาหาแปรงด้ามใหม่
    • ใช้ไหมขัดฟันทุกคืน เพราะมันไม่ใช่แค่กำจัดคราบพลัคและเศษอาหารออกจากปาก แต่ยังป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย
    • แปรงลิ้นด้วย แม้ว่าฟันจะต้องขาวแต่ยังต้องยี้กับกลิ่นปากเหม็นๆ ถ้าลิ้นสกปรก โดยใช้แปรงสีฟันลากขนแปรงเบาๆ เหนือลิ้นตอนที่แปรงฟัน (อย่าทำแรงมากไม่งั้นจะทำลายช่องปากได้)
    • จบขั้นตอนด้วยน้ำยาบ้วนปาก กลั้วปากซัก 20 วินาทีแล้วบ้วนทิ้ง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

ออกแบบทรงผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต้องตัดผมแตกปลายทิ้ง แม้ว่าจะอยากเลี้ยงให้มันยาวก็ตาม โดยอาจจะไปทำกับช่างทำผมมืออาชีพหรือตัดด้วยตัวเองก็ได้ [3] ไม่ว่าจะยังไงก็ควรทำตามนี้:
    • ถ้าอยากไว้ผมสั้น ก็ให้เล็มทุก 2 ถึง 3 อาทิตย์ โดยโกนผมที่ยาวอยู่หลังคอด้วย
    • ถ้าไว้ผมยาว เล็มทุก 4 ถึง 6 อาทิตย์ โกนผมที่ยาวอยู่หลังคอด้วย แม้ว่ามันยาวลงมาปิดก็ตาม
  2. สระผมทุกวันจะดีสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ แต่ถ้าผมแห้งเป็นพิเศษก็ยิ่งควรทำเลย
    • หาแชมพูและครีมนวดผมที่ออกแบบมาสำหรับผมแบบต่างๆ เช่น แห้ง มัน เป็นต้น
    • ซื้อแชมพูกับครีมนวดผมแยกกัน เพราะอันที่มีแชมพูกับครีมนวดรวมกันมันไม่ดีนัก
    • ขอคำแนะนำจากช่างทำผม เพราะพวกเขาชำนาญที่สุด และถ้าซื้อแชมพูกับครีมนวดจากพวกเขา อาจจะแพงกว่าปกติหน่อย แต่จะมีคุณภาพดีกว่าแน่ๆ
  3. ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อออกแบบทรงผมเลยก็ได้ แต่ผู้ชายหลายคนมักจะทำ เพราะมันทำให้ผมเป็นมันวาวและดูสุขภาพดี มาจัดแต่งทรงผมโดยใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กันเถอะ:
    • เซรั่มหรือครีม เพราะมันจะช่วยจัดการกับผมฟูหรือทำให้ลอนคลายโดยไม่ทำให้ผมแข็งทื่อและขยับไม่ได้
    • มูส ใส่เพื่อเพิ่มชั้นและความมันให้ผม จับผมเล็กน้อย ใส่ตอนผมเปียกจนผมแห้ง
    • น้ำมันใส่ผมจะเป็นแบบขี้ผึ้งหรือเคลย์ก็ได้ โดยใช้มันทำทรงยากๆ อย่าง ปอมปาดัวร์หรือดัดลอน (สำหรับผมตรงโดยธรรมชาติ) อาจจะต้องล้างหลายรอบเลย ดังนั้นใส่บางๆ ก็พอ ปริมาณขนาดเท่ากับถั่วพอสำหรับผมสั้น ยาวกลางๆ หรือผมบาง ใช้ขี้ผึ้งเพื่อความมันวาว ดูเปียก และใช้ครีมแต่งผมชนิดด้านเพื่อความด้านและดูเป็นธรรมชาติ
    • เจล จะแตกต่างกับน้ำมันใส่ผม เพราะมันมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผมแห้งและจัดทรงผมให้แข็ง โดยใช้เจลตอนผมหมาดๆ เพื่อให้อยู่ทรง
    • กาวต่อผม เคยสงสัยไหมว่าคนพวกนั้นทำทรงโมฮอว์กที่เป็นตั้งๆ แบบนั้นได้ยังไง อาจจะใช้กาวหลายแบบ ที่จะจัดทรงได้ดีที่สุด ต้องระวังผลิตภัณฑ์พวกนี้ด้วยการล้างให้ทั่ว
    • หรือถามช่างทำผมเลย พวกเขาจะรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี
  4. ถามเพื่อนก็ได้ และครั้งถัดไปที่ตัดผมให้ถามคำแนะนำจากช่าง รวมทั้งถามว่าจะหวีผมหรือเป่าให้แห้งดี บางทีอาจจะต้องทดลองดูว่าทรงผมไหนเหมาะที่สุดกับใบหน้าและตัวเอง แต่ในที่สุดก็จะได้แบบที่เหมาะกับตัวเอง โดยทำตามนี้:
    • แบ่งผม ตรงกลาง ด้านข้าง หรือไม่ต้อง ลองหลายๆ ทางแล้วดูว่าชอบแบบไหน
    • หวีผมไปทางหนึ่งเลยแทนการแบ่งผม อาจจะลองหวีด้านบนสุดของศีรษะให้ไปทางเดียวเลย ถ้ามันค่อนข้างสั้น หวีไปข้างหน้า ถ้ามันยาว หวีไปข้างหลังหรือทำให้ตั้งขึ้น แล้วลองดูว่าชอบแบบไหน
    • ถ้าผมยาวอาจจะลองไว้เป็นหางม้า ทำให้มันอยู่บนหน้าหรือหวีไปข้างหลังและมัดแค่ส่วนบนสุด
  5. ถ้าหัวเริ่มล้าน ตัดหรือโกนผมให้สั้นจะดีกว่า เพื่อจะสังเกตข้อแตกต่างระหว่างสองบริเวณนี้ได้ยากกว่า ให้แน่ใจว่าได้สระผมทันทีหลังจากออกกำลังกาย เพราะถ้าทำไม่ได้จะกลายเป็นตัวเร่งให้ศีรษะล้าน และควรนวดหนังศีรษะทุกครั้งที่สระ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

แต่งตัว

ดาวน์โหลดบทความ

อย่างที่เขาพูดกันว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ไม่ต้องใส่แพงๆ ก็ได้ แต่เสื้อผ้าบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้นะ

  1. ทุกเช้าแม้จะใส่ชุดลำลองในวันทั่วๆ ไป อย่าเอาอะไรก็ได้ที่วางอยู่มาใส่ แต่ต้องเลือกที่เหมาะกับตัวเองและกาลเทศะ
  2. ถ้าซื้อคนเดียวอาจจะดูไม่ออกว่าแบบไหนดี เพราะอย่างน้อยก็มองไม่เห็นตัวเองในกระจกทั้งหมดหรอก รวมทั้งในรูปที่คนดังหรือนายแบบใส่แล้วดีอาจไม่เหมาะก็ได้ ดังนั้นเอาเพื่อนที่แต่งตัวเก่งและรู้เรื่องแฟชั่นไปด้วยสิ
  3. เสื้อผ้าราคาถูกที่พอดีตัวดีกว่าเสื้อแพงๆ แต่ไม่คับหรือหลวมโคร่ง! [4]
    • ลองใส่ก่อนซื้อทุกชิ้น แล้วถามเพื่อนให้ดูทุกมุม อย่าเชื่อไซส์ที่บอกไว้ มันแค่กะเอาคร่าวๆ
    • โดยหลักแล้ว ปลายกางเกงขายาวควรแตะรองเท้าพอดี ส่วนเสื้อแขนยาวควรคลุมข้อมือ และปลายเสื้อเชิ้ตก็ให้แตะสะโพก รวมทั้งเสื้อชั้นในก็ควรใส่ให้พอดีด้วย
    • ลองอย่างละหลายๆ อันก่อนจะซื้อ ถ้าร้านนั้นไม่มีที่ใส่แล้วโอเค ก็ไปซื้อที่อื่น อย่ายึดติดกับที่เดียว
    • อย่าซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ เพราะไม่ได้ลองตั้งแต่แรกอาจจะใส่ไม่พอดีก็ได้ รวมทั้งไม่รู้ด้วยว่าใส่แล้วจะดูดีไหม (แม้ว่ามันจะดูดีสำหรับนายแบบในรูปก็ตาม!)
    • อย่าพยายามปกปิดรูปร่างตัวเอง ไม่ว่าจะตัวใหญ่หรือผอมแห้งเกินไป การที่บังมันด้วยเสื้อผ้าหลวมๆ มันก็แค่จะทำให้ดูแย่ลงเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใส่แบบพอดีเป๊ะ แค่ไม่ควรหย่อนหรือเหลือพื้นที่ไว้มากก็พอ
    • ถ้าใส่ตามไซส์ที่มีไม่ได้ หาช่างเย็บผ้าหรือตัดผ้าราคาเป็นมิตรสักที่สิ เพราะคุณอาจจะมีสะโพกใหญ่แต่ขายาว แล้วก็เลยหากางเกงยีนส์ที่เหมาะๆ ไม่ได้ โดยซื้อเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าปกติและหาคนทำให้มันพอดีกับสัดส่วน และร้านซักแห้งส่วนใหญ่จะทำให้ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก
    • เอาเสื้อผ้าเก่าๆ ออกไปซะ แม้ว่าจะรักเสื้อยืดเก่าๆ สมัยมัธยมนั้นแค่ไหน แต่มันก็ใส่ไม่พอดีแล้ว เพราะเสื้อผ้าและร่างกายเปลี่ยนขนาดได้ และถึงแม้ว่ามันจะยังใส่ได้พอดีกับตัว แต่เสื้อผ้าที่มากกว่า 2 – 3 ปีจะเริ่มดูเก่าหรือล้าสมัยไปแล้ว
  4. นี่คือกฎพื้นฐานเกี่ยวกับการแต่งตัว : สีสว่างช่วยให้โดดเด่นและสีทึมเป็นตัวพราง เช่น ถ้าชอบส่วนไหล่แต่ไม่ชอบขา อาจจะลองใส่กางเกงยีนส์สีทึบๆ และเสื้อยืดสีสว่างดูก็ได้
  5. สีที่โอเคจะช่วยขับให้ผิวดูมีออร่า ส่วนที่ไม่จะทำลายความดูดีและทำให้ดูซีดเซียว ลองถามเพื่อนดูอีกก็ได้ และนี่เป็นวิธีการทดสอบง่ายๆ:
    • ดูว่าสีขาวหรือสีขาวนวลอันไหนดีกว่า ด้วยการเอาเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วนมาเทียบกับหน้าแล้วก็ลองสีขาวนวลดู โดยถ้าเป็นคนส่วนใหญ่แล้วจะดูออกอย่างชัดเจนว่าสีไหนโอเคกว่า ถ้ารู้แล้ว ก็ยึดมันไว้ใช้เลย
    • สีน้ำตาลหรือสีดำดี มันจะเห็นไม่ชัดเจนเท่ากับสีขาวแต่บางคนดูดีอย่างเห็นได้ชัดในสีดำมากกว่าสีน้ำตาลและสีน้ำตาลมากกว่าสีดำ เมื่อใส่สีหนึ่งแล้ว อย่าไปปนกันสีอื่น เช่น อย่าใส่รองเท้าสีน้ำตาลแล้วใส่กางเกงขายาวสีดำคาดเข็มขัดน้ำตาล ให้ใส่รองเท้าสีดำ กางเกงขายาวสีดำและคาดเข็มขัดสีดำหรือสีน้ำตาลทั้งหมด
    • ดูว่าชอบสีโทนอบอุ่นหรือโทนเย็น สีโทนเย็นส่วนใหญ่ก็มีพวกสีน้ำเงิน สีม่วง สีเขียวแก่ และสีน้ำเงินอมแดง ขณะที่สีอบอุ่นมีสีเหลือง ส้ม น้ำตาลและเหลืองอมแดง วิธีการก็คือหาอะไรที่เป็นสีน้ำเงินกับแดง และที่เป็นสีเหลืองกับแดง และถือมันทาบกับหน้า อันไหนดูดีเหมาะกับโทนผิวมากกว่ากัน (ถ้าอยากได้ตัวช่วยตัดสินใจเรื่องสีโทนอบอุ่นและเย็น หาข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับวงจรสีได้เลย)
  6. ของพวกนี้จะไม่ตกยุคเร็วนักและควรทำจากวัสดุคุณภาพจะได้อยู่ได้อีกหลายๆ ปี โดยเลือกพวกเสื้อโปโลสีเดียว เสื้อเชิ้ตสีเดียวหรือลายสก็อตติดกระดุม กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม เสื้อคอกลมสีขาวและสีดำล้วน(ไม่ต้องมีโฆษณาหรือลายต่างๆ ) ชุดกีฬาสีเดียว กางเกงสีทึบ เสื้อแจ๊คเกตสีทึบพอดีตัว รองเท้าผูกเชือกและรองเท้าผ้าใบสีขาว ซึ่งสามารถใส่ชุดที่โดดเด่นโดยเอาของพวกนี้มาใส่รวมกันได้เลย [5]
  7. เสื้อผ้าบางชิ้นอาจจะใส่ได้หลายครั้งก่อนจะสกปรก(อย่างกางเกงยีนส์หรือเสื้อแจ็คเกต) แต่เสื้อเชิ้ต ชุดชั้นในและถุงเท้าใส่ได้แค่ครั้งเดียวก็ต้องซักแล้ว ดังนั้นจัดตารางสำหรับการซักรีดไว้จะได้ไม่ต้องมีเช้าที่แสนวุ่นวายเพื่อจะทำความสะอาดอะไรซักอย่าง
    • เมื่อซักเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาว ปั่นแห้งจนมันค่อนข้างหมาด แล้วแขวนมันบนราวตากผ้า(หรืออาจจะวางแผ่) จนมันแห้ง จะได้ช่วยลดรอยยับ
    • ควรรีดด้วยก่อนที่มันจะแห้งสนิท แม้แต่กางเกงยีนส์ก็รีดแล้วจะดีกว่า
    • เสื้อผ้าที่เก็บไว้ (ยกเว้นชุดชั้นใน) ให้แขวนหรือพับให้เรียบร้อย จะได้ไม่ยับ
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

มีท่าทางที่ดึงดูด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาจจะดูไม่เกี่ยวแต่การยืนตัวตรงทำให้ดูมีความมั่นใจและสามารถควบคุมอะไรๆ ได้ เป็นสิ่งที่คนมองแล้วดูดี โดยถ้าทำให้เหมาะก็จะทำให้ดูสูงขึ้น รักษาให้ไหล่และกระดูกสันหลังตั้งตรง และพยายามให้สะโพกอยู่ตรงกับเท้า แล้วเดินด้วยความมั่นใจและอย่าลากเท้าหรือเดินงุ่มง่ามนัก รวมทั้งไม่มองพื้นและเอามือไว้ในกระเป๋ากางเกง เพราะมันทำให้ดูขี้อายหรือดูกังวล [6]
  2. การมอบรอยยิ้มที่จริงใจกับใครซักคนเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะให้ดูน่าดึงดูดใจอย่างทันที โดยฝึกยิ้มบ่อยๆ และพยายามทำตัวเองให้เป็นคนยิ้มง่ายซะ
    • พัฒนาอารมณ์ขัน โดยมองหามุมตลกและสนุกของชีวิต แล้วอย่ากลัวที่จะทำให้คนอื่นเห็น พยายามอย่าให้มุขตลกไปเกี่ยวกับทางกาย การปฏิบัติทางเพศหรือการดูถูกเหยียดหยามคนกลุ่มอื่นล่ะ
  3. เมื่อพูดกับใครซักคน (โดยเฉพาะคนที่ชอบ) ต้องแสดงให้เค้าเห็นว่าสนใจและใส่ใจโดยส่งสายตาตลอด [7]
    • ใช้สายตาจีบ ส่งสายตาจ้องมองไปที่ใครที่นั่งใกล้หรือนั่งตรงข้ามในห้องจนเขาหรือเธอเข้ามาหาเอง โดยรักษาสายตาแบบนั้นไว้ซักแปปนึง แล้วยิ้มและเมินหน้าหนี
  4. ไม่จำเป็นต้องวางมาดเพื่อจะแสดงการเอาใจใส่และเห็นใจผู้คน พูด “ขอร้อง” “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” และแสดงความมีมารยาทโดยจับประตูเปิดให้คนข้างหลัง [8]
    • แสดงความเคารพผู้อื่น อย่าทำลายความเชื่อพวกเขาและหยาบคายโดยไม่จำเป็น ถ้ามีคนพยายามจะเผชิญหน้าด้วยก็ให้เดินออกมาอย่างสงบ นี่เป็นการแสดงว่าเราไม่ได้ตกอยู่ในอารมณ์ของผู้อื่น
    • อย่าสาบานหรือแสดงความคิดเห็นที่หยาบคายต่อสาธารณะ ทำตัวตามสบายกับเพื่อนหรือครอบครัวน่ะได้ แต่ไม่ควรทำกับคนที่ไม่รู้จัก
  5. การเป็นคนพูดเก่งจะสามารถช่วยให้คนอื่นรู้สึกสบายและผ่อนคลายเมื่ออยู่ใกล้ ต้องรู้จักการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบและเปิดประเด็นบทสนทนา โดยถามคำถามกว้างๆ อย่างแทนที่จะพูดว่า “สุดสัปดาห์นี้มีแผนจะทำอะไรใช่ไหม” ที่จะได้คำตอบมาง่ายๆ ว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็พูดว่า “ทำอะไรอยู่” แทน และหลีกเลี่ยงข้อพิพาทอย่างหัวข้อการเมืองและศาสนาซะ
    • ลองคุยกับคนแปลกหน้าตอนที่กำลังรอใครอยู่ในที่สาธารณะ เช่น ที่ป้ายรถเมล์หรือในแถวจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อลับฝีปากการพูด และถ้าได้รับรอยยิ้มที่จริงใจและการสนทนาสั้นๆ กลับมา ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว
  6. เมื่อพูดกับคนอื่นพยายามอย่าพูดพึมพำหรือพูดลิ้นพัน และหลีกเลี่ยงการพูดแบบ “โหลยโท่ย” หรือคำวิบัติ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มองว่ามันดูไม่ดี ควรพูดเต็มประโยคและหลีกเลี่ยงการพูดก่อนคิด เพื่อป้องกันตัวเองจากความอับอายที่จะเกิดขึ้นได้ 
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

ดูแลร่างกายตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำตามโภชนาการเพื่อสุขภาพเพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นปากและกลิ่นตัวฉุนๆ ทำให้ตัวเองสุขภาพดีและผอมอีกด้วย และลองทำตามคำแนะนำนี้กับการกินดูด้วย:
    • หลีกเลี่ยงอาหารขยะและของที่น้ำตาลสูงที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อผิวและทำให้ดูแก่กว่าปกติ สามารถกินได้แค่นานๆ ครั้งแต่ไม่ควรกินทุกวัน พยายามจำกัดปริมาณโซดา เบียร์ แท่งลูกอม มันฝรั่งทอดกรอบ และอาหารขยะอื่นๆ โดยกินแค่ 1 วัน “โกง” ต่ออาทิตย์
    • กินผักและผลไม้เยอะๆ อาจจะได้ยินมาเยอะแล้ว แต่การกินผักผลไม้สดๆ มันจำเป็นต่อการกินแบบนี้จริงๆ โดยลองกินผลไม้สดๆ (อย่างแอปเปิ้ล ส้ม และสาลี่) แทนขนม และพยายามกินผักอย่างน้อย 1 ชนิดทั้งมื้อเที่ยงและมื้อกลางวัน
    • เรียนรู้ที่จะเตรียมอาหาร เริ่มทำง่ายๆ ก่อน โดยการต้มไข่ ทำแซนด์วิชและสลัด เบอร์เกอร์และสเต็ก ละลายผักแช่แข็ง ต้มข้าวและเส้นพาสต้า เพราะมันจะช่วยประหยัดเงิน ทำให้สุขภาพดีขึ้นและทำให้คนประทับใจได้อีกด้วย
  2. การทำกิจกรรมทางกายภาพอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่ทำให้ร่างกายดูดีมากขึ้น แต่ยังช่วยให้อารมณ์ดีและห่างไกลจากโรคได้อีกด้วย [9] โดยวางแผนที่เหมาะกับตัวเองแล้วทำตามอย่างเคร่งครัด และนี่เป็นคำแนะนำเพื่อการเริ่มต้นที่ดี:
    • ยืดเส้นแบบง่ายๆ ลุกนั่ง วิดพื้น และออกกำลังกายอย่างอื่นทุกๆ วัน ทำต่อเนื่องโดยทำซ้ำๆ เยอะๆ แล้วกล้ามเนื้อจะพัฒนาขึ้น จากนั้นเพิ่มจำนวนครั้งที่ทำอีกและจะเห็นผล
    • ลองแผนยกน้ำหนักที่แตกต่างดู ทำให้มากเท่าที่ทำได้ แต่อย่าเกินแรงตัวเอง และให้วันพักสำหรับกล้ามเนื้อที่จะรักษาและสร้างตัว เพราะการออกกำลังกายทุกวันอาจจะแย่ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะกลายเป็นตัวล่ำบึ้กหรอก นักเพาะกายในนิตยสารที่ตัวใหญ่ๆ น่ะเพราะยกน้ำหนักเป็นชีวิตจิตใจต่างหาก แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก
      • ท่ายกน้ำหนักส่วนกลางลำตัวขั้นพื้นฐาน คือ ท่าดันอก(Bench Press) ท่าสควอท ท่าบริหารไหล่(Overhead Press) และท่า Deadlift ที่ยกน้ำหนักแบบยกขึ้นและยกเอียงๆ จะเป็นอุปกรณ์ที่ดีเลย โดยให้ทำท่า Incline Press แต่หากอยากทำท่าที่ใช้พลังมากขึ้นให้ทำท่า Power Clean หรือท่า Push-press ถ้ายังไม่พอลองท่า Bar snatch ท่าออกกำลังกายแบบกระชาก ท่า Hang Clean พร้อมกับ Front Squat หรือท่ายกดัมเบลแบบอื่นดู ยิ่งถ้าเป็นสมาชิกฟิตเนสด้วยก็เยี่ยมไปเลย จะได้ใช้บาร์น้ำหนักให้เต็มที่ รวมถึงเครื่องดึง Lat pull down ด้วย
    • เดิน วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยานหรือวิ่งซัก 30 นาทีหรือในระยะทาง 2 ถึง 3 กิโลเมตร (ถ้าทำเป็นประจำอยู่แล้วก็ออกกำลังได้ดีเลย และมันยังช่วยบริหารหน้าท้อง ต้นขาและหลังได้ด้วย) รวมทั้งช่วยให้ระบบร่างกายมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและรับกับสภาพต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย
    • ออกกำลังกายตอนเช้าจะเผยผิวที่สดใสออกมาและทำให้ผิวดูดีไปตลอดทั้งวันเลยล่ะ อย่าลืมอาบน้ำหลังออกกำลังด้วย เพราะบางครั้งออกกำลังแล้วเหงื่อออกมีกลิ่นไม่ดีได้ ดังนั้นการอาบน้ำให้สะอาดหมดจดหลังจากเหงื่อออกจะช่วยระงับกลิ่นเหล่านั้น
  3. สำหรับผู้หญิงบางคนแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเป็นคนฉลาดหรอก โดยควรทำการบ้านให้เสร็จและตั้งใจทำเกรดดีๆ และอ่านเป็นกิจวัตรโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์จะได้รู้เรื่องราวในปัจจุบัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากทำให้คนที่ชอบประทับใจอย่าแสดงให้เขาเห็นถึงข้อบกพร่องไม่ว่าในสถานการณ์ไหน เพราะพวกเขาจะไม่เคยเห็นมนมาก่อนและจะทำให้ถูกมองไม่ดีได้
  • ต้องใส่ใจความรู้สึกคนอื่นเสมอ ถ้ามัวแต่พูดถึงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ก็อาจจะไม่มีใครให้พึ่งพาได้นอกจากตัวเอง
  • สูดน้ำมูก ไม่มีใครชอบเสียงสูดจมูกฟุดฟิดหรอกและส่วนใหญ่ก็จะรังเกียจที่จะเห็นคนแคะขี้มูกกันทั้งนั้น ดังนั้นให้ใช้ผ้าเช็ดน้าซะ
  • อย่าให้ความสนใจกับคนที่ชอบมากไป อาจจะกลายเป็นพวก “โรคจิตชอบสะกดรอยตาม” ได้ ถ้าคุยกันแล้วเขาไม่ชอบก็จบ อย่าเสียเวลาที่มีค่าไปกับสิ่งที่ไม่มีวันได้มาเลย ถ้าลองเชิดใส่แล้วปล่อยพวกเขาไว้ลำพังซักพัก ไปใส่ใจคนอื่นให้มากขึ้นอาจจะทำให้เขาหันกลับมาชอบก็ได้
  • ห้ามทำตัวหยาบคายหรือดูถูกเหยียดหยามคนอื่นในที่สาธารณะเด็ดขาด มันจะทำให้ถูกมองในแง่ลบ
  • ใช้ 8 ชั่วโมงนั้นซะ เพราะการนอนหลับที่ดีจะทำให้ไม่เหนื่อยไปตลอดวัน และยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ตื่นตัวมากขึ้น คิดหรือเรียนรู้ได้เร็วขึ้น มีการตอบสนองของร่างกายที่ดี (ก็คือจะทำผิด ซุ่มซ่ามน้อยลงนั่นเอง) ดูฉลาด เมื่อหลับเพียงพอจะทำให้ตาบวมๆ ใต้ตาดำๆ และผิวซีดน้อยลง รวมทั้งป่วยน้อยลง (และแม้กระทั่งจุดด่างดำก็น้อยลงด้วย) เพราะระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี
  • เมื่อมีสิวหนึ่งหรือสองหัว ก็อย่าไปยุ่งกับมัน เพราะทุกคนก็มีกันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก สำหรับสิวที่ขึ้นเป็นครั้งคราวก็ใช้ยา “ต้านสิว” และอย่าทาบ่อยนัก โดยส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นอยู่ 2 – 3 วัน ยกเว้นแต่ว่าผิวมีการระคายเคืองหรือติดเชื้อ
  • อย่าพยายามเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเอง ถ้าแค่ค้นหามุมมองที่แตกต่างของตัวเองก็ได้ แต่อย่ากดดันให้ตัวเองเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงโดยสิ้นเชิง และการเป็นคนจริงใจนั้นน่าดึงดูด คนอื่นจะดูรู้ว่าจริงหรือไม่ หากเขาไม่มองที่ความเป็นคุณ ก็ไม่มีค่าพอจะให้เสียเวลาหรอก
  • ขณะที่พยายามทำให้คนที่ชอบประทับใจ อย่าปล่อยไก่ทั้งที่ยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะบางทีพวกเขาอาจจะไม่สังเกตเห็นข้อเสียเหล่านั้นก็ได้ ไม่งั้นอาจจะเป็นการทำให้โดนวิจารณ์หนักๆ ก็ได้
  • เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะถ้าพูดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลา จะไม่มีใครให้สนใจเลยนอกจากตัวเอง
  • ทำตัวกล้าๆ ต่อหน้าสาว พวกหล่อนจะชอบเวลาที่ตัวเองกลัวแล้วมีคนสามารถทำตัวเข้มแข็งและปกป้องเขาได้
  • อย่ากลัวการมั่นใจในตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งที่แย่แต่ก็อย่าทำให้มันมากเกินไป
  • เป็นตัวของตัวเอง อาจจะฟังดูน่าเบื่อ แต่จะมีประโยชน์อะไรล่ะ ถ้าการดูดีเพื่อให้คนอื่นชอบไม่ได้เป็นตัวคุณเลย
  • ลองอะไรที่ต่างไป อาจจะมีหมวกใบเหมาะ หรือนาฬิกา หรือแม้กระทั่งเสื้อกั๊กสำหรับฤดูใบไม้ร่วงนั้น โดยเสื้อกั๊กที่หรูหรากับเสื้อที่หรูหราก็เข้ากันได้ดีเลย และเพิ่มสิ่งที่จะทำให้ดูดีลงไป แต่ไม่ใช่แค่นั้นต้องใช้งานได้ด้วย เช่น หมวกจะช่วยหันแสงแดดในฤดูร้อนได้ โดยอาจจะเป็นหมวกปีกกว้างอย่าง Fedora ส่วนเสื้อกั๊กก็สามารถเพิ่มลักษณะอันโดดเด่นไปได้แต่ไม่ต้องฟูฟ่องมากนัก รวมทั้งอาจจะใส่สิ่งที่ดั้งเดิมอย่างเสื้อคลุมใหญ่ๆ ในเดือนหนาวๆ จะช่วยสร้างความแตกต่างได้ และรองเท้าหนังคลุมข้อเท้าก็ทันสมัยและใช้ได้หลายโอกาส
  • ใช้สายตาแต่อย่ามองที่หน้าอกหล่อนล่ะ
  • มองโลกในแง่ดี เพราะความคิดในแง่บวกจะส่งผลให้อารมณ์ดี ทำให้ดูน่าดึงดูดขึ้น แต่แง่ลบนั้นเป็นตัวตัดความสัมพันธ์กับผู้คน
  • ภูมิใจในตัวเองแต่ก็อย่าหยิ่งยโสมากเกินไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,387 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา