ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถึงกราฟิกในเกมจะเป็นบล็อกๆ แต่ถ้าคอมเก่า คอมไม่แรงจริง เล่น Minecraft ไปก็อาจค้างหรือกระตุกได้ วันนี้ใครคอมเก่า คอมไม่แรง แต่อยากเล่น Minecraft ถือว่ามาถูกที่แล้ว เพราะมีหลายวิธีช่วยให้คุณเล่น Minecraft ได้ลื่นไหล ไม่ lag ถ้าคุณเล่น Minecraft PE ในอุปกรณ์พกพา ก็มี 2 - 3 วิธีช่วย boost การทำงานของเกมได้เช่นกัน
ขั้นตอน
-
เปิดเมนู Video Settings ใน Minecraft. มีหลาย settings ใน Minecraft ที่คุณปรับแต่งแล้วช่วย boost การทำงานของเกมให้ไหลลื่นขึ้นมาก แต่ก็ต้องยอมเสียกราฟิกสวยๆ ไป อาจจะระคายตากว่าเดิม เพราะงั้นก็ต้องชั่งน้ำหนักแล้วเลือกดูตามความสะดวก
- กด Esc ตอนอยู่ในเกม
- เลือก "Options" แล้วเลือก "Video Settings"
-
เปลี่ยน "Graphics" เป็น "Fast" . แน่นอนว่าความละเอียดของภาพจะลดลงบ้าง แต่รับรองเล่นได้ลื่นไหลขึ้นแน่นอน แน่นอนว่าเลือก "Fast" แล้ว ความคมชัดของภาพจะแตกต่างจากเดิมชัดเจน
-
ลด "Render Distance" . พอลด Render ภาพในเกมอาจดูเบลอๆ ขึ้น แต่ก็เล่นได้รวดเร็วทันใจ ลอง 8 chunks หรือต่ำกว่า แล้วจะรู้เองว่ารับได้ไหมกับระยะความคมชัดที่ต่างไป
-
เปลี่ยน "Clouds" เป็น "Fast" หรือ "Off" . ทั้ง 2 ตัวเลือกนี้จะช่วยให้เล่นลื่นไหลกว่าตอนเลือก "Fancy"
-
เปลี่ยน "Particles" เป็น "Decreased" หรือ "Minimal" . เพื่อปิดบาง effects ในเกม เช่น ควันไฟ แต่ก็ทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสมใจ
-
ปิด "Entity Shadows". มอนสเตอร์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในโลกเกมจะไม่มีเงา ทำให้ภาพดูแบนๆ ไปบ้าง แต่ก็เล่นเกมสะดวกแน่นอน
-
เปิด "VBOs" ถ้าใช้การ์ดจอ. ช่วยให้เกมลื่นไหลดี แต่ใช้วิธีนี้ได้เฉพาะคนที่ติดตั้งการ์ดจอดีๆ ไว้เท่านั้น
-
เปลี่ยน "Smooth Lighting" เป็น "OFF" หรือ "Minimum" . เพื่อลดความละเอียดเรื่องแสง น่าจะช่วยให้เกมทำงานได้ลื่นไหลขึ้น โดยเฉพาะใครเล่นในคอมรุ่นเก่าๆ
-
เปลี่ยน game resolution ของ Minecraft. ลด resolution แล้ว หน้าต่างของเกมจะเล็กลง แต่ช่วยให้เล่นได้เร็วทันใจขึ้น
- ปิด Minecraft ก่อนถ้าเปิดอยู่ แล้วเปิด Minecraft Launcher
- คลิกปุ่ม "Edit Profile" มุมซ้ายล่าง
- พิมพ์ resolution ใหม่ที่เล็กลง โดย resolution ตามปกติของหน้าจอ widescreen จะอยู่ที่ 1920x1080, 1600x900 และ 1280x720
โฆษณา
-
ปิดโปรแกรมอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้. โปรแกรมที่ทำงานอยู่ในเบื้องหลังนี่แหละ ที่กระทบต่อการทำงานของ Minecraft มาก โปรแกรมที่ว่าก็เช่น torrent, iTunes และบาง antivirus อย่าง Norton กับ McAfee ไปจนถึง Chrome และอื่นๆ พวกนี้เป็นโปรแกรมเปลืองทรัพยากรทั้งนั้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- กด Ctrl + ⇧ Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager ใน Windows คุณปิดได้ทุกอย่างที่ทำงานอยู่ ในส่วนของ Apps หรือ Applications โดยเลือกแล้วคลิก "End task" อย่าลืมเช็คก่อนว่าเซฟเอกสารหรือไฟล์ที่เปิดค้างไว้ก่อนปิดโปรแกรม
- กด ⌘ Cmd + ⌥ Opt + Esc ถ้าใช้ Mac เพื่อเปิดหน้าต่าง Force Quit เลือกโปรแกรมในรายชื่อ แล้วคลิกปุ่ม "Force Quit" เพื่อปิด อย่าลืมเช็คก่อนว่าเซฟเอกสารหรือไฟล์ที่เปิดค้างไว้แล้ว
-
เสียบปลั๊กแล็ปท็อป (ถ้าใช้แล็ปท็อป). ถ้าใช้ไฟจากแบตอยู่ แล็ปท็อปส่วนใหญ่จะ throttle CPU และ GPU ถ้าอยากเล่นลื่นไหลกว่าเดิม ต้องเช็คว่าเสียบปลั๊กแล็ปท็อปเรียบร้อยแล้ว
-
อัพเดท Minecraft launcher เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด. Minecraft เวอร์ชั่นใหม่ๆ จะมีไฟล์ Java ที่จำเป็น ไม่ต้องใช้เวอร์ชั่น standalone เป็นข้อดีของการติดตั้ง Java เวอร์ชั่นที่ถูกต้อง ตรงตามระบบที่ใช้
- เปิด Minecraft launcher แล้ว โปรแกรมจะสแกนหาอัพเดทใหม่อัตโนมัติ
-
ติดตั้งไดรฟ์เวอร์ล่าสุดของการ์ดจอ (Windows). ไดรฟ์เวอร์เป็นโปรแกรมใช้ควบคุม hardware ถ้าอัพเดทไปใช้ไดรฟ์เวอร์ล่าสุดของการ์ดจอ จะช่วยให้เล่นเกมได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นในการอัพเดทไดรฟ์เวอร์ หรือจะอ่านบทความวิธีการ หาและอัพเดทไดรฟ์เวอร์ ก็ได้ ถ้าอยากรู้ขั้นตอนโดยละเอียด
- เปิดเมนูหรือหน้า Start พิมพ์ devmgmt.msc แล้วกด ↵ Enter เพื่อเปิด Device Manager
- ขยายหัวข้อ Display Adapters ให้เห็นการ์ดจอ ถ้าเจอ 2 ชื่อ ให้สังเกตอันที่ไม่ใช่ Intel
- จดรุ่นการ์ดจอ ปกติจะมี 3 ยี่ห้อหลักๆ คือ NVIDIA, AMD และ Intel โดยรุ่นจะอยู่ต่อท้ายชื่อยี่ห้อ
- เข้าเว็บของยี่ห้อ ไปค้นหารุ่นการ์ดจอ แล้วดาวน์โหลดไดรฟ์เวอร์เวอร์ชั่นล่าสุดที่มี
- เปิดไฟล์ติดตั้งเพื่ออัพเดทไดรฟ์เวอร์ หน้าจอจะกะพริบหรือดับไประหว่างการติดตั้ง
-
ติดตั้งมอด OptiFine. OptiFine ใช้ดัดแปลงไฟล์เกม Minecraft แล้ว optimize โค้ด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผู้ใช้ส่วนใหญ่รายงานผลว่าช่วย boost เกมให้รวดเร็วทันใจขึ้นอย่างเห็นผลทันทีหลังติดตั้ง mod โดยไม่ต้อง tweak เพิ่มเติม mod นี้มีให้ใช้ทั้งใน Windows และ Mac
- เข้าเว็บ optifine.net/downloads ในเบราว์เซอร์
- คลิกลิงค์ "Download" OptiFine HD Ultra เวอร์ชั่นล่าสุด พอจบโฆษณา ให้คลิกลิงค์เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ JAR ของ OptiFine อาจจะต้องยืนยันการดาวน์โหลดในเบราว์เซอร์ก่อน
- ดับเบิลคลิกไฟล์ JAR ที่ดาวน์โหลดมา แล้วคลิก "Install" ในหน้าต่างที่โผล่มา เพื่อติดตั้ง OptiFine ในโฟลเดอร์ Minecraft
- เปิด Minecraft Launcher แล้วเลือก "OptiFine" จากในเมนู "Profile" ก่อนเปิดเกม เพื่อโหลดมอดของ OptiFine
- ลองเล่นเกมที่ลงมอดแล้ว โดยใช้ default settings หลายคนว่าเล่นได้ลื่นไหลแบบเห็นๆ แต่ถ้าจะปรับแต่งเพิ่มเติม ให้เข้าเมนู Options → Video Settings แล้วจะเห็นตัวเลือกเพิ่มเติมเยอะแยะ
-
ลองอัพเกรดคอม. นอกเหนือไปจากการปรับแต่งด้านบน บางทีก็ต้องอัพเกรดคอมด้วย เกมถึงจะทำงานเร็วขึ้น Minecraft เป็นเกมหนักทั้ง CPU และ GPU เพราะงั้นอาจจะต้องอัพเกรดทั้ง 2 อย่าง ถึงจะเห็นผลชัดเจน อย่างถ้าติดตั้ง RAM เพิ่มเติม ก็อาจจะไม่ค่อยเห็นความต่าง เว้นแต่ Minecraft จะใช้ RAM ได้ทั้ง 100%
- ถ้าใครใช้แล็ปท็อปก็อาจจะมีเพดานในการอัพเกรดอยู่บ้าง ถ้าจะใช้วิธีเพิ่ม RAM ให้ลองอ่านบทความวิธีการ ติดตั้ง RAM จะได้รู้รายละเอียดว่าต้องเปลี่ยนและอัพเกรด memory ของแล็ปท็อปยังไง นอกจากเพิ่ม memory แล้ว ให้ลองปรับ memory ให้เร็วขึ้น แต่ลด timing หรือลองใช้ 2 แท่งแบบ dual-channel ไม่ใช่แค่อันเดียว ปกติ Windows 10 (และอื่นๆ) จะพอใช้ RAM 4GB ได้ ถ้าแค่ทำงานทั่วไป
- ถ้าจะหา CPU ใหม่ ก็ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ด้วย ให้ลองอ่านบทความวิธีการ ติดตั้ง CPU ใหม่ จะมีรายละเอียดเพิ่มเติม
- การอัพเกรดที่ง่ายที่สุดคือการติดตั้งการ์ดจอ ขอแค่แน่ใจว่ามีพื้นที่ในเคสคอมมากพอ ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมให้อ่านบทความวิธีการ ติดตั้งการ์ดจอ (Graphics Card)
โฆษณา
-
เปลี่ยนบาง graphics settings เบื้องต้นของ Minecraft PE. Minecraft PE จะมีตัวเลือกกราฟิก 2 - 3 อย่าง ที่ปรับแต่งจากในเกมได้ แล้วช่วย boost การทำงานของเกม [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิด Minecraft PE แล้วแตะ "Options"
- แตะปุ่ม "Graphics" ทางด้านล่างของเมนูทางซ้าย
- ลด "Render Distance" เพื่อเปลี่ยนระยะในการมองเห็น จะช่วย boost ให้เกมเร็วขึ้นแบบเห็นๆ
- ปิด "Fancy Graphics" กับ "Beautiful Skies" เพื่อดูว่าจะ boost เกมได้มากแค่ไหน
-
ทวงคืนพื้นที่ในอุปกรณ์. แอพอาจจะเปิดแล้วกระตุกบ้าง ถ้าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตพื้นที่เกือบเต็ม ถ้าทวงพื้นที่ในมือถือคืนมา ก็น่าจะช่วยให้เล่นเกมได้เร็วยิ่งขึ้น โดยลบรูปและไฟล์เก่าๆ ที่เคยดาวน์โหลดไว้ในเครื่อง ถอนการติดตั้งแอพ และลบไฟล์อื่นๆ
- ลองค้นหาวิธีเช็ค storage ของ Android ถ้าอยากรู้ขั้นตอนการค้นหาแล้วลบอะไรที่เปลืองพื้นที่ในเครื่อง
- ลองค้นหาวิธีทวงคืนพื้นที่ใน iPhone ถ้าอยากรู้ขั้นตอนการล้างข้อมูลใน iPhone
-
รีเซ็ตอุปกรณ์กลับค่าโรงงาน. ถ้าไม่เคยรีเซ็ตอุปกรณ์ หรือเคยแต่นานมาแล้ว เครื่องก็อาจจะมีอืดบ้าง ถ้ารีเซ็ตเครื่องแล้วอาจจะกลับมาทำงานลื่นไหลเหมือนตอนซื้อใหม่ๆ แต่ทุกอย่างในมือถือจะถูกลบหายไป ต้องเช็คก่อนว่า backup ทุกไฟล์สำคัญไว้แล้ว ก่อนรีเซ็ตมือถือ
- ลองอ่านบทความวิธีการ รีเซ็ตโทรศัพท์มือถือ Android ดู ถ้าอยากรู้ขั้นตอนการรีเซ็ตมือถือ Android โดยละเอียด
- หรือค้นหาวิธีการรีเซ็ต iPhone แทน ถ้าไม่ได้ใช้ Android
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 51,196 ครั้ง
โฆษณา
