PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การแต่งหน้าเป็นเรื่องปกติสำหรับสังคมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะไปทำงานในเวลากลางวันหรือแต่งไปงานกลางคืน แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ในโลกแห่งเครื่องสำอาง คุณอาจจะรู้สึกสับสนกับรูปแบบและสไตล์การแต่งหน้าอันหลากหลายนับไม่ถ้วน โชคดีที่การเรียนรู้ประเภทและวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าขั้นพื้นฐานนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การเตรียมผิวหน้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    การแต่งหน้าก็เหมือนการลงสีที่ควรเริ่มด้วยจานสีที่สะอาด ดังนั้น เช็ดเครื่องสำอางที่ล้างไม่หมดเมื่อคืนก่อนหรือเครื่องสำอางที่ลงไว้ก่อนหน้านี้ออกเสียก่อน หากคุณพยายามแต่งหน้าทับเครื่องสำอางเก่าบนใบหน้า(ไม่รวมการเติมหน้าระหว่างวัน) เครื่องสำอางจะจับตัวเป็นก้อนและดูไม่เป็นธรรมชาติ ต่างจากการแต่งหน้าลงบนผิวที่สะอาด คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางดีๆหรือเบบี้ออยล์เพื่อเช็ดเครื่องสำอางที่ตกค้างออก
    • อย่าลืมว่าคุณควรจะล้างเครื่องสำอางเมื่อหมดวันเสมอ การนอนหลับไปพร้อมๆกับที่แต่งหน้าอยู่จะทำให้เครื่องสำอางอุดตันรูขุมขน ก่อให้เกิดสิวและริ้วรอยได้
  2. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    ด้วยเหตุผลเดียวกับการเช็ดล้างเครื่องสำอาง คุณก็ควรจะล้างหน้าเพราะการปล่อยให้มีน้ำมันและเหงื่อบนใบหน้า จะทำให้หน้าของคุณดูมันและมีเครื่องสำอางจับเป็นก้อนหลังจากแต่งหน้าได้หลายๆชั่วโมง ใช้สบู่อ่อนๆสำหรับล้างหน้า ค่อยๆล้างโดยใช้เวลาสักหนึ่งนาทีในการขัดเพื่อขจัดแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วในรูขุมขน จากนั้นตบท้ายด้วยการลงมอยซ์เจอร์ไรส์เซอร์บนใบหน้า ผิวแห้งจะทำให้ดูไม่เรียบเนียนและยังจะมีการผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มอีก ดังนั้นต้องมั่นใจว่าผิวของคุณได้รับการบำรุงจากโลชั่นแล้ว
  3. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    คอนซีลเลอร์นั้นมีจุดประสงค์เพื่อทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะไม่สม่ำเสมอเพราะรอยสิวหรือรอยคล้ำใต้ตา ใช้แปรงคอนซีลเลอร์หรือปลายนิ้ว(ที่สะอาด)ในการเกลี่ยคอนซีลเลอร์ใต้ตา หรือบริเวณที่มีรอยแดง จุดด่างดำ และสิว เกลี่ยบริเวณขอบของจุดคอนซีลเลอร์เพื่อไม่ให้มีร่องรอยสีที่ไม่เท่ากันบนใบหน้า
  4. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    รองพื้นมีหลายชนิดแต่การใช้งานโดยทั่วไปนั้นเหมือนกัน ทั้งรองพื้นแบบน้ำ แบบครีม และแบบแป้ง มีคุณสมบัติในการทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ลงรองพื้นให้เนียนไปกับสีผิวธรรมชาติของคุณและคอนซีลเลอร์ที่ได้ลงไปแล้ว ใช้แปรงทารองพื้นในการลงรองพื้นทั่วใบหน้า หากจำเป็นให้ทาลงไปถึงคอและใบหูด้วย อย่าลืมว่าสีของรองพื้นควรเป็นสีเดียวกับสีผิวธรรมชาติ ไม่ให้เข้มหรืออ่อนเกินไป รองพื้นที่ลงควรจะทับบริเวณที่ลงคอนซีลเลอร์ไปแล้วเพื่อความเรียบเนียน
    • ใช้แปรงคอนซีลเลอร์ลงรองพื้นเพิ่มเล็กน้อยเพื่อปกปิดรอยสิวที่เห็นได้ชัด
    • รองพื้นแบบน้ำสามารถใช้นิ้วมือเกลี่ยได้ แต่จะทำให้แบคทีเรียสัมผัสกับผิวได้และทำให้เกิดสิวในภายหลัง
  5. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกของคุณ หากคุณต้องการเมคอัพที่ติดทนนาน คุณสามารถใช้แป้งฝุ่นในการทำให้รองพื้นและคอนซีลเลอร์อยู่ตัว ใช้แปรงฟูๆใหญ่ๆในการลงแป้งสีธรรมชาติหรือสีที่เข้ากับผิวคุณ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีประโยชน์หากคุณใช้รองพื้นแบบน้ำ เพราะจะทำให้รองพื้นอยู่ตัวและลดความมันวาวที่อาจจะเกิดขึ้น [1]
  6. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    เมื่อรองพื้นเสร็จเรียบร้อย ใบหน้าของคุณก็จะดูไม่มีมิติและไม่มีชีวิตชีวาเพราะสีที่สม่ำเสมอกัน ในการเพิ่มความลึกให้ใบหน้า คุณจะต้องสร้างแสงและเงาเพื่อลวงตา ใช้ไฮไลท์เตอร์แบบครีมหรือแบบฝุ่นเพื่อทำให้บริเวณที่ลึกที่สุดของใบหน้าสว่างขึ้น ได้แก่ หัวตา ใต้โหนกคิ้ว จุดกึ่งกลางของริมฝีปากบน ด้านบนและด้านข้างของโหนกแก้ม ใบหน้าของคุณจะดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
    • สร้างรูปเลข 3 บนโหนกแก้ม ขึ้นไปบริเวณคิ้ว และขึ้นไปที่หน้าผากเพื่อการไฮไลท์ที่สมบูรณ์แบบ
    • คุณสามารถใช้นิ้วมือหรือแปรงไฮไลท์อันเล็กๆเพื่อลงไฮไลท์เตอร์ได้
  7. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    วิธีตรงกันข้ามกับการเน้นแสงบนใบหน้า ก็คือการคอนทัวร์ ซึ่งเป็นการลงแป้งที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริงๆเล็กน้อย (ไม่เหมือนกับบรอนเซอร์) ลงบนบริเวณที่อยากให้ดูเล็กลงหรือดูไกลออกไป ตามหลักคือ คุณควรจะคอนทัวร์ใต้โหนกแก้มทำให้แก้มดูตอบ และบริเวณด้านข้างของจมูก วิธีนี้จะทำให้หน้าดูเล็กลงและยาวขึ้น ทำให้เกิดเงาตามธรรมชาติที่จะเห็นได้เมื่อไม่มีรองพื้นบนใบหน้า
  8. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    ขั้นตอนสุดท้ายในการเตรียมผิวหน้าคือการเพิ่มสีสันให้กับแก้มของคุณ แก้มของทุกคนมีสีอยู่แล้วเล็กน้อยซึ่งเป็นสีที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคน ปัดแก้มของคุณด้วยแปรงขนาดใหญ่ลงบนพวงแก้ม(บริเวณวงกลมที่จะปรากฏขึ้นมาเวลาคุณยิ้ม) อย่าหนักมือจนเกิดไป แค่เติมสีให้ดูเหมือนแก้มแดงตามธรรมชาติก็พอ
  9. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    ขั้นตอนนี้ก็เป็นทางเลือกของคุณขึ้นอยู่กับว่าคิ้วของคุณหนาเท่าใด แต่ก็ขั้นตอนที่แนะนำสำหรับคนที่มีคิ้วเส้นบางหรือมีขนคิ้วบาง เลือกดินสอเขียนคิ้วหรือฝุ่นที่จะลงสีคิ้วให้มีสีใกล้เคียงกับสีผมธรรมชาติ เริ่มจากการร่างขอบคิ้ว แล้วลงสีตรงกลางคิ้วเล็กน้อย ใช้การเขียนแบบเส้นสั้นๆเพื่อเลียนแบบลักษณะของเส้นขนคิ้วจริง โดยเขียนให้เป็นทางเดียวกัน [2]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การแต่งดวงตา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    ลงอายแชโดว์ไพรเมอร์หรือรองพื้นเปลือกตาก่อนลงสี. วิธีนี้ก็เป็นทางเลือกเช่นกัน แต่การลงอายแชโดว์ไพรเมอร์ก่อนนั้นจะช่วยให้สีอายแชโดว์ติดทนนานมากขึ้น หากคุณข้ามขั้นตอนนี้ไป คุณอาจจะพบว่าสีอายแชโดว์ของคุณจางลง หรือดูมันๆและจับเป็นก้อนบริเวณเปลือกตาหลังจากแต่งหน้าหลายๆชั่วโมง ใช้นิ้วมือในการแตะไพรเมอร์ลงบนเปลือกตา เกลี่ยให้ทั่วตั้งแต่โคนขนตาจนถึงเบ้าตา
  2. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    วิธีลงอายแชโดว์มีหลายวิธี โดยวิธีที่ง่ายและคลาสสิคที่สุดก็คือการลงสีเดียวทั่วทั้งเปลือกตา ใช้แปรงอายแชโดว์ลงสีให้ทั่วเปลือกตาโดยเริ่มตั้งแต่ตรงกลาง ใกล้โคนขนตา เกลี่ยออกมาด้านนอก ทำให้อายแชโดว์ฟุ้งและกลืนไปกับสีผิวธรรมชาติบริเวณเบ้าตาและหัวตา เพื่อไม่ให้เกิดเส้นที่ดูแข็ง หากคุณต้องการลุคที่เร้าใจกว่านี้ ใช้อายแชโดว์สีที่เข้มขึ้นลงเป็นรูปตัว C บริเวณมุมด้านนอกของโคนขนตาขึ้นไปด้านบน บริเวณหนึ่งในสามของเปลือกตาจากด้านนอก
    • สีอายแชโดว์ไม่ควรขึ้นไปถึงบริเวณคิ้ว และไม่ควรเลยออกมาจากหางคิ้วด้านข้าง(นอกเสียจากว่าคุณต้องการลุคที่ดูอลังการมากๆ)
    • คุณสามารถเกลี่ยอายแชโดว์ลงไปบริเวณขอบตาล่างได้ หากคุณไม่ทำให้เลยออกไปจากโคนขนตาล่าง
    • คุณจะต้องเกลี่ยสีให้เข้ากันหากใช้อายแชโดว์หลายสี
  3. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    อายไลเนอร์มีคุณสมบัติทำให้เกิดภาพลวงว่ามีโคนขนตาที่ดูเข้ม ดังน้ันต้องเลือกสีอายไลเนอร์ให้เหมือนกับสีผมธรรมชาติ (เลือกสีน้ำตาลหากคุณมีผมบลอนด์) เพื่อที่จะให้กลืนกับขนตา ใช้ดินสอเขียนขอบตาสำหรับลุคที่จงใจเขียนให้ดูฟุ้งๆ หรืออายไลเนอร์แบบครีมหรือน้ำในการสร้างเส้นที่คมชัดเรียบเนียน วาดจุดหรือขีดเล็กๆบริเวณโคนขนตา จากนั้นเชื่อมแต่ละจุดเข้าด้วยกันเพื่อทำให้เป็นเส้นที่สมบูรณ์และต่อเนื่อง คุณอาจจะวาดหางตาให้ตวัดขึ้นหรือยาวเลยหางตาไปอีกหน่อยหากคุณต้องการ หรือไม่ก็เพียงแค่วาดตามโคนขนตาจากหัวตาไปยังหางตา
    • เพิ่มการเขียนขอบตาด้านล่างในโอกาสพิเศษ เพราะจะทำให้เกิดลุคที่ดูห้าวหรือลึกลับมากกว่า และดูไม่เป็นธรรมชาติกว่าการเขียนขอบตาบนเพียงอย่างเดียว
    • หากคุณทำได้ ลองใช้อายไลน์เนอร์เขียนขอบตาด้านใน
  4. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    การแต่งตาที่สมบูรณ์จะต้องเติมมาสคาร่าเข้าไป มาสคาร่ามีหลายแบบให้เลือกขึ้นอยู่กับลุคที่คุณอยากได้ หากคุณมีขนตาสั้น ใช้มาสคาร่าที่เพิ่มความยาว หรือถ้าคุณมีขนตาบาง ก็ให้ใช้มาสคาร่าที่เพิ่มความหนา จุ่มแปรงลงไปในมาสคาร่าหนึ่งครั้ง ค่อยๆปาดส่วนเกิดออกจากแปรงลงบนขอบของหลอดมาสคาร่าหรือกระดาษทิชชู่ เริ่มจากบริเวณด้านในออกไปด้านนอก ปัดมาสคาร่าสองชั้นและปล่อยให้แห้ง [3]
    • ขยับแปรงไปมาซ้ายขวาในขณะที่ปัด เพราะจะทำให้เนื้อมาสคาร่าเข้าถึงระหว่างเส้นขนตาด้วย ไม่ใช่แค่ข้างใต้ชั้นขนตา
    • อย่าจุ่มแปรงลงไปในมาสคาร่าหลายๆครั้งเพราะจะทำให้เกิดแรงดันอากาศ
    • คุณสามารถปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างด้ายก็ได้ แต่จะทำให้ตาดูดุกว่าเดิมซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนเลือกที่จะไม่ทำ
    • ไม่ปัดมาสคาร่าเกิดสองชั้นเพราะจะทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ และจะทำให้ดูหนาเป็นก้อน
    • เคล็ดลับดีๆในการทำให้ขนตาดูหน้าขึ้น คือการลงแป้งเด็กก่อนจะปัดมาสคาร่ารอบที่สอง จะทำช่วยเพิ่มความยาวและความหนาของขนตาได้เล็กน้อย
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การลงสีปาก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    ทาลิปมันหรือไพรเมอร์หรือซีลเลอร์ เพื่อทำให้ลงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปากได้นานยิ่งขึ้นและได้สีีที่สด ใครกันล่ะที่จะไม่ชอบริมฝีปากนุ่มๆ ทาลิปมันดีๆเพื่อไม่ให้ริมฝีปากแห้งแตกระหว่างวันซึ่งอาจเกิดจากลิปสติกหรือลิปกลอส
  2. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    วาดขอบปากด้วยดินสอสีเดียวกับสีลิปสติก เหลาดินสอให้ดีและวาดขอบรอบๆริมฝีปาก เมื่อเขียนขอบปากเสร็จแล้ว ใช้ดินสอเติมสีปากเพื่อให้สีเท่ากันและเรียบเนียน ทำให้การลงลิปสติกหรือลิปกลอสง่ายขึ้น
  3. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    หรือลิปกลอสด้วยแปรง เลือกสีลิปสติกหรือลิปกลอสให้เข้ากับดินสอเขียนขอบปาก สำหรับลุคธรรมชาติให้เลือกสีนู้น สำหรับลุคเปรี้ยวๆเลือกสีสดๆได้เลย เริ่มจากกึ่งกลางริมฝีปากและเกลี่ยออกมาด้านนอก พยายามลงสีให้ใกล้ขอบปากมากที่สุดโดยไม่ให้เลยออกมาจากขอบปากที่เขียนไว้ และเพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกติดฟัน ให้อมนิ้วชี้ไว้ในปากและดึงออกอย่างรวดเร็ว สีลิปสติกส่วนเกินจะติดออกมาด้วยทำให้ไม่ไปติดฟันในภายหลัง
  4. Watermark wikiHow to แต่งหน้า
    เมื่อลงสีปากเสร็จเรียบร้อย การแต่งหน้าของคุณก็เสร็จสิ้น! ลองตรวจดูอีกครั้งว่าไม่มีจุดไหนเลอะ ไม่มีผงอายแชโดว์ที่ต้องใช้แปรงปัดออก หากมีข้อผิดพลาด ให้คอตตอนบัดจุ่มลงในน้ำยาเช็ดเครื่องสำอางเพื่อแก้ไขจุดนั้น [4]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่งหน้าในแสงธรรมชาติที่ทำให้มองเห็นชัด
  • อย่าดึงหรือถูบริเวณใต้ตาเพราะจะทำให้เกิดถุงใต้ตาและริ้วรอยถาวร
  • ปริมาณและประเภทของการแต่งหน้าที่คุณแต่งนั้นขึ้นอยู่กับคุณล้วนๆ คุณรู้จักใบหน้าของคุณดีที่สุด ลองใช้เวลาทดลองดู การแต่งหน้าก็เหมือนกับการระบายสีลงบนหน้า การทดลองแต่งจะทำให้คุณรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณ
  • ดึงจุดเด่นเพียงหนึ่งหรือสองจุดบนใบหน้า อย่าใช้สีลิปสติกสดๆมาแข่งกับอายไลเนอร์เส้นหนาและแก้มสีสด ลองไม่แต่งตากับปาก หรือแก้มกับผิว พยายามทำให้ดูเรียบง่าย อย่าใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้ามากจนเกินไป
  • ใช้รองพื้นที่มีส่วนผสมของครีมกันแดด SPF15 เป็นอย่างน้อย หากรองพื้นของคุณไม่ผสมครีมกันแดด ให้ลงครีมกันแดดก่อนจะเริ่มแต่งหน้า เพราะจะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและช่วยลดการเกิดริ้วรอย หาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อลดการเกิดสิวและมันยังมีกลิ่นที่ไม่แรงไปด้วย สีเมคอัพของคุณอาจจะดูเปลี่ยนไป(เข้มขึ้น)หากครีมกันแดดไม่กลืนไปกับสีผิว
  • อย่าลืมความแตกต่างระหว่างการแต่งหน้าเวลากลางวัน กลางคืนและโอกาสพิเศษ การแต่งหน้าเวลากลางวันนั้นจะดูเบาๆและใช้สีธรรมชาติ สำหรับกลางคืนจะมีสีเข้มกว่าแต่ก็ต้องไม่หนักและไม่เป็นก้อน ในโอกาสพิเศษอาจมีการใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น ขนตาปลอม อายไลเนอร์แบบน้ำ การลงไฮไลท์ใต้ตา ลองดูตามนิตยสารในช่วงที่มีการมอบรางวัลดูสิ
  • แต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนคุณไม่ได้พยายามแต่ง
  • ลงแป้งหรือรองพื้นเล็กน้อยบริเวณลำคอและกรอบหน้าเพื่อให้สีสม่ำเสมอ จะทำให้ไม่เกิดเส้นแบ่งเมคอัพ ลงสีแก้มหลังจากที่แต่งตาเส้นแล้วเพื่อไม่ให้คุณเผลอลงสีแก้มมากเกินไป
  • ใช้คอนซีลเลอร์โทนสีเหลืองหรือสีอ่อนเพื่อทำให้ดูตื่นตัว
  • คุณภาพเป็นสิ่งที่ดีกว่าปริมาณเสมอ หากคุณมีเงินสัก 1500 บาทสำหรับเครื่องสำอาง อย่าไปซื้อของถูก 10 ชิ้น แต่ให้ซื้อของดี4ชิ้น (รองพื้น 750 บาท มาสคาร่า 300 บาท ที่ปัดแก้ม 300 บาท และลิปกลอส 150 บาท)
  • ใช้ยาหยอดตาก่อนแต่งหน้าเพื่อให้ตาดูขาวขึ้น สว่างขึ้น และตื่นตัวขึ้น และยังจะทำให้ตาไม่แห้งระหว่างวันเนื่องจากการแต่งหน้า
  • เวลาทาลิปกลอสหรือลิปสติก ใช้นิ้วมือหรือแปรงขนาดเล็กจะดีกว่าเพราะจะไม่ทำให้เลอะ
  • การใช้เครื่องสำอางแบบธรรมชาติ เช่น บ๊อบบี้ บราวน์ และลอร่า เมอซิเออร์ จะทำให้ผิวดูงดงามอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ทาอายแชโดว์ก่อนปัดมาสคาร่าเพราะหากปัดมาสคาร่าไปแล้ว อายแชโดว์จะติดอยู่ที่ขนตา
  • อย่าลืมเช็คตัวเองในกระจกก่อนออกจากบ้าน
  • ล้างแปรงอย่างสม่ำเสมอ
โฆษณา

คำเตือน

  • ต้องแน่ใจว่ารองพื้นตรงกับสีผิว ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการใช้รองพื้นคุณภาพแย่ สีไม่สม่ำเสมอหรือรองพื้นราคาถูกอีกแล้ว
  • ล้างแปรงด้วยสบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เปลี่ยนหรือซักฟองน้ำเป็นประจำ(ทุกๆหนึ่งหรือสองสัปดาห์) แบคทีเรียและน้ำมันจะสะสมบนแปรงและก่อให้เกิดสิว พยายามอย่าไปใช้ฟองน้ำทั่วๆไปเพราะมันเต็มไปด้วยแบคทีเรีย
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • แสงที่ดี
  • กระจก
  • แปรงแต่งหน้า
  • ฟองน้ำ
  • มาสคาร่า
  • อายไลเนอร์
  • ไพรเมอร์
  • รองพื้นหรือมอยซ์เจอร์ไรส์เซอร์แบบมีสี
  • คอนซีลเลอร์
  • แป้ง (แป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็ง)
  • อายแชโดว์
  • ลิปสติก
  • ลิปบาล์ม
  • ลิปกลอส
  • มอยซ์เจอร์ไรส์เซอร์

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,240 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา