ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

จริงๆ แล้วคุณแปลงไฟล์ .doc, .docx หรือ .odf เป็น HTML ได้ง่ายนิดเดียว แต่แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ถ้าอยากสร้างหน้าเว็บที่โหลดเร็วและแสดงผลเสถียรในทุกเบราว์เซอร์ ก็ต้องใช้เว็บแปลงเอกสาร Word เป็น HTML ถ้าคุณอยากคงฟอร์แมตเดิมของเอกสารไว้ให้ได้มากที่สุด ก็ต้องแปลงเอกสารโดยเลือก "Save As" จากใน Word เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้เว็บหรือโปรแกรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีแปลงไฟล์ง่ายและเร็วที่สุด คือ copy/paste เอกสาร Word ใน หน้าแปลงไฟล์ของเว็บ TextFixer หรืออัพโหลดเอกสารเข้าเว็บ Online-Convert.com พวกนี้เป็นเว็บที่ให้บริการฟรี ใช้แปลงเอกสารเป็น HTML ได้ทันที แต่อาจเสียฟอร์แมตบางส่วนไป
  2. ถ้าอยากปรับแต่งได้มากขึ้นตอนแปลงไฟล์ หรือใช้ 2 เว็บที่ว่าแล้วออกมาไม่ได้ดั่งใจ ก็ให้ลองใช้เว็บฟรีข้างล่างดู อาจจะมีฟังก์ชั่นที่คุณกำลังตามหาอยู่
    • Word2CleanHTML จะคงฟอร์แมตเดิมของเอกสารไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้เอกสาร HTML ที่เหมาะใช้พัฒนาเว็บมากที่สุด [1] นอกจากนี้ยังปรับแต่งการแปลงไฟล์ได้หลายตัวเลือก เช่น กำหนดวิธีจัดการกับตัวอักขระพิเศษหรือย่อหน้าว่าง
    • ZamZar.com ใช้แปลงเอกสาร Word ไปเป็นทั้ง html5 ธรรมดาและ html4 ที่เลิกใช้ไปแล้วแต่ยังแสดงผลในแทบทุกเบราว์เซอร์ได้อยู่ แถมคุ้นตากว่าสำหรับบางผู้ใช้ แต่ต้องมีอีเมลถึงจะใช้เว็บนี้ได้
    • wordtohtml.net ก็เหมือนเว็บอื่นๆ ที่ใช้แปลงเอกสาร Word เป็น HTML คือให้คุณ paste text แล้วแปลงได้เลย นอกจากฟีเจอร์ทั่วไปแล้ว เว็บนี้ยังให้คุณเลือกลบเนื้อหาบางส่วนได้ (เช่น รูป ตาราง และอื่นๆ) และมีตัวเลือกค้นหาขั้นสูง คำสั่งแทนที่ รวมถึงรองรับ regular expression ด้วย
  3. ถ้าใช้เอกสาร Word ร่วมกัน เลือกวิธีนี้จะดีที่สุด โดยแชร์เอกสารกับทีมงาน แล้วส่งคำเชิญให้ทำตามขั้นตอน จะได้เห็นเอกสาร HTML ที่คุณจะแปลง [2]
    • ล็อกอินเข้าบัญชี Google ที่เว็บ Google Drive
    • คลิกปุ่ม Create สีแดง แล้วเลือก Document
    • copy/paste เอกสาร Word ในเอกสารเปล่าของ Google Drive
    • ในเมนูของ Google Docs ให้เลือก File Download as web page
  4. ถ้าต้องแปลงไฟล์เยอะมาก ให้ใช้โปรแกรมขั้นสูง. ถ้าต้องแปลงเอกสารร้อยๆ ไฟล์เป็น HTML ให้ใช้โปรแกรมขั้นสูง (แบบเสียเงิน) จะได้แปลงทั้งหมดในคราวเดียว บางโปรแกรมที่มีเวอร์ชั่นฟรีให้ทดลองใช้ก็เช่น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้ฟังก์ชั่นของ Word

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดเอกสารใน Microsoft Word หรือ OpenOffice . Word มีฟังก์ชั่นแปลงเอกสารเป็น HTML ในตัว แต่จะออกมาเทอะทะกว่า HTML ทั่วไป บางทีก็มีฟอร์แมตที่ใช้กับบางเบราว์เซอร์ไม่ได้ เช่น ไม่ใช้ list tags ของ HTML แบบมาตรฐานกับรายการ แต่ใช้ CSS ที่คนนิยมในการจัดรูปแบบเอกสารแทน [3] โดยที่ยังมีข้อมูลฟอร์แมตไว้ใช้แปลงกลับมาเป็นเอกสาร Word ได้เพื่อแก้ไขในภายหลัง
  2. . ไปที่เมนู File แล้วเลือก "Save As" ใน Word บางเวอร์ชั่น เช่น Word 2012 ตัวเลือก Save As จะอยู่ในปุ่ม "Home" แทน
  3. . พอเลือก "Save As" แล้ว จะเห็นหน้าจอที่มีเมนูแบบขยายลงมาได้ เป็นรายชื่อฟอร์แมตต่างๆ ของไฟล์ปลายทาง ให้เลือก "Web Page" เพื่อเซฟเป็นไฟล์ HTML [4]
    • ถ้าหาตัวเลือกนี้ไม่เจอ ให้แก้ไขชื่อไฟล์โดยเติม .htm หรือ .html เข้าไปข้างท้าย แล้วใส่เครื่องหมายคำพูดทั้งหน้าและหลังชื่อไฟล์ เช่น "ExampleFile.html"
  4. Word บางเวอร์ชั่นจะเซฟเป็นไฟล์ HTML ที่ "กะทัดรัด" กว่าได้ แม้จะหน้าตาเหมือนเดิมแต่หน้าเว็บจะโหลดเร็วขึ้นเยอะ ถ้าไม่ได้คิดจะแปลงเอกสารกลับเป็นไฟล์ Word อีก ให้เลือก "Web Page, Filtered" แทน [5]
    • ถ้าโปรแกรมเวอร์ชั่นที่ใช้ไม่มีตัวเลือกนี้ ให้เซฟเป็น "Web Page" ธรรมดาแทน แล้วใช้ Mess Cleaner ของ AlgoTech แปลงเป็นไฟล์ HTML ที่เล็กกว่า
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากเห็นตัวอย่าง (preview) ว่าไฟล์ HTML จะออกมาเป็นยังไง ให้เข้า Microsoft Word แล้วไปที่ View Web Layout
โฆษณา

คำเตือน

  • ไม่ว่าจะแปลงไฟล์วิธีไหน บางทีก็คงฟอร์แมตกับสไตล์ของเอกสาร Word ไว้ไม่ได้ แต่ไฟล์ HTML นั้นจะยังแสดงผลได้เสถียรดีในทุกเบราว์เซอร์ ถ้าอยากให้แสดงผลในเว็บได้แบบที่ว่า อาจต้องใช้ CSS แทน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,548 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา