PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

หลายเว็บและหลายแอพไม่ยอมให้คุณอัพโหลดรูป เว้นแต่จะเป็นไฟล์ .JPG (หรือก็คือ JPEG นั่นเอง) ถ้าไฟล์รูปของคุณเป็น .GIF, .TIFF, .PNG หรือสกุลไฟล์อื่นๆ คงจะเซ็งน่าดู การแปลงไฟล์รูปเป็น JPEG อาจทำให้ภาพไม่คมชัดเท่าเดิม แต่บอกเลยว่าเป็นฟอร์แมตที่ย่อไฟล์ได้เล็กสุดโดยยังคงคุณภาพรูปไว้ได้ด้วย ไม่ต้องเก่งคอมก็แปลงไฟล์รูปเป็น JPEG ได้ แค่พอรู้เทคนิคนิดหน่อยก็พอแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ใช้ Paint ใน Windows

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Paint เป็นโปรแกรมที่มากับเครื่อง PC อยู่แล้ว ให้กด Win + S เพื่อเปิดหน้าต่างค้นหา แล้วพิมพ์ paint พอเจอ “Paint” ในผลการค้นหา ให้คลิกเลย
  2. รูปที่ว่าต้องเซฟอยู่ในคอมแล้ว ให้คลิกเมนู “File” แล้วเลือก “Open” หาไฟล์รูปให้เจอแล้วคลิก “OK”
  3. จะมีรายชื่อฟอร์แมตรูปโผล่ขึ้นมา รวมถึง JPEG ด้วย
  4. เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่ใช้เลือกโฟลเดอร์ เปลี่ยนชื่อไฟล์ และเลือก “Save as type” เลือกโฟลเดอร์ที่จะเซฟ แล้วเลือก “Save as type” เป็น “JPEG”
  5. เท่านี้ก็แปลงไฟล์เรียบร้อย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ใช้เว็บแปลงไฟล์ในคอม สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ที่ต่อเน็ตเข้าเว็บได้ รวมถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ให้คุณค้นหา “convert XXX to jpg online” หรือก็คือเว็บแปลงไฟล์ jpg (ตรง “XXX” ให้ใส่ฟอร์แมตของไฟล์ต้นฉบับ) เว็บอย่าง Online-Convert [1] จะมีรายชื่อฟอร์แมตไฟล์ด้วย ว่าแปลงจากอะไรเป็นอะไรได้บ้าง
    • เว็บที่เลือกใช้ต้องแปลงไฟล์รูปที่คุณมีได้ [2] ไฟล์รูปบางฟอร์แมต อย่าง .RAW นั้นไม่ค่อยมีเว็บแปลง เพราะข้อจำกัดด้านขนาด
    • ถ้าคุณใช้มือถือ ให้ใช้ Wi-Fi แทนเน็ตมือถือ จะได้ไม่เปลืองเวลาไฟล์รูปใหญ่
  2. ในเว็บแปลงไฟล์มักมีปุ่มที่เขียนว่า “Choose file” หรืออะไรที่ใกล้เคียงกัน เพื่อใช้เลือกไฟล์ที่จะแปลง แต่หลายเว็บก็จำกัดขนาดไฟล์ที่แปลงได้เหมือนกัน
    • อ่านเงื่อนไขการใช้งานก่อนอัพโหลด
    • บางเว็บให้คุณใส่ URL ได้เลย เผื่อรูปที่จะแปลงนั้นอัพโหลดไว้ในเว็บไหน
  3. เว็บส่วนใหญ่จะมีเมนูที่ขยายลงมา หรือปุ่มให้กดเลือก “JPEG” หรือ “.JPG” (อันไหนก็ได้) บางเว็บก็ให้คุณปรับขนาดและคุณภาพไฟล์ได้ในหน้าจอเดียวกัน
  4. หาปุ่มที่เขียนว่า “Convert” หรือ “Save” เพื่อเริ่มแปลงไฟล์ อาจต้องรอหลายนาทีหน่อย จากนั้นรูปจะดาวน์โหลดลงโฟลเดอร์ตามค่า default โดยอัตโนมัติ หรือมีให้เลือกโฟลเดอร์ที่จะเซฟ เท่านี้ไฟล์รูปของคุณก็จะกลายเป็น JPEG
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ใช้ Preview ใน Mac

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. [3] Preview เป็นโปรแกรมที่มากับเครื่อง Mac อยู่แล้ว ใช้เปิดไฟล์รูปได้แทบทุกฟอร์แมต ให้กด Ctrl + คลิกที่รูป แล้วเลือก “Open With” จากนั้นเลือก “Preview” ได้เลย
    • ถ้าเจอไฟล์รูปที่เปิดไม่ได้ หรือเปิดแล้วมีอะไรผิดเพี้ยนไป ให้ลองใช้วิธีการ "ใช้เว็บแปลงไฟล์ในคอม สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต" หรือ "ใช้ Gimp ใน PC, Mac หรือ Linux" ดู
    • ไฟล์รูปที่ว่าต้องอยู่ในคอมถึงจะใช้วิธีนี้ได้ ถ้ายังไม่ดาวน์โหลดรูปลงคอม ก็ให้ ดาวน์โหลด ก่อน
  2. จะมีช่องโผล่มาพร้อมหลายเมนู
  3. จะปรับ quality กับ resolution ด้วยก็ได้ ยิ่งเลขตรง quality หรือ resolution สูง ขนาดไฟล์รูปก็ยิ่งใหญ่ขึ้น (ใช้พื้นที่ในฮาร์ดไดรฟ์เยอะขึ้น)
  4. ให้ชื่อไฟล์ลงท้ายด้วย “.jpg” (จะตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้) แล้วเลือกตำแหน่งที่จะเซฟไฟล์ เอาให้หาง่ายๆ จากนั้นคลิก “Save” เพื่อแปลงไฟล์ให้เสร็จสิ้น
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ใช้ Gimp ใน PC, Mac หรือ Linux

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. [4] ถ้าอยากแปลงไฟล์รูปที่โปรแกรมในเครื่องแปลงไม่ได้ หรืออยากให้มีตัวเลือกมากกว่านี้ ก็ให้ลองใช้โปรแกรมฟรีแถมดังอย่าง Gimp ถ้ายังไม่เคยติดตั้ง Gimp ให้ ดาวน์โหลดและติดตั้ง ก่อน
  2. [5] คลิก “File” แล้วคลิก “Open” จากนั้นเลือกรูปแล้วคลิก “Open” อีกรอบ
  3. คลิก “File” จากนั้นคลิก “Export As” เพื่อเลือกฟอร์แมตไฟล์เป็น JPEG. [6] จะมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาพร้อมตัวเลือกมากมาย ให้คุณคลิก “JPEG”
  4. หน้าต่างใหม่จะโผล่ขึ้นมาพร้อมตัวเลือกต่างๆ ของฟอร์แมต JPEG ให้ติ๊กช่อง “Show preview in image window” ก่อนปรับคุณภาพไฟล์ โดยเลื่อนแถบให้รูปตัวอย่างออกมาดูดีที่สุด
  5. จะมีหน้าต่างโผล่มาให้ตั้งชื่อไฟล์และเลือกตำแหน่งที่จะเซฟ ให้เลือกโฟลเดอร์ที่หาง่าย แล้วตั้งชื่อไฟล์ใหม่ตามใจชอบ ตอนนี้ไฟล์จะมี .jpg ต่อท้าย ก็ไม่ต้องไปยุ่งอะไร (จะตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้) จากนั้นคลิก “Save” เพื่อแปลงไฟล์ให้เสร็จสิ้น
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

เปลี่ยนนามสกุลไฟล์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าไฟล์ JPEG ของคุณใช้นามสกุลไฟล์ผิดๆ เช่น พิมพ์ผิดเป็น “.JGP” แทนที่จะเป็น “.JPG” ก็ใช้วิธีการนี้ได้เลย เท่ากับวิธีนี้ไม่ได้ใช้ “แปลง” ไฟล์รูปเป็นฟอร์แมต JPEG ซะทีเดียว
    • ถ้าไฟล์รูปไม่ได้เป็นฟอร์แมต JPEG อยู่ แล้วดันไปเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ ระวังไฟล์จะเสียไปเลย ให้ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่น ถ้าอยากแปลงไฟล์อื่นเป็น JPEG
    • นามสกุลไฟล์จะเป็นตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้ เพราะงั้น .JPG กับ .jpg ก็คืออย่างเดียวกัน
    • ก่อนจะเริ่ม ให้จดนามสกุลไฟล์ต้นฉบับไว้ก่อน เผื่อผิดพลาดจะได้เปลี่ยนกลับได้
  2. อาจจะอยู่ที่หน้า desktop เหมือนที่เรายกตัวอย่าง หรือในโฟลเดอร์อื่นที่หาได้จากใน Finder หรือ Windows Explorer
  3. [7] ถ้าใช้ Windows ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย แต่ถ้าใช้ Mac ให้คลิกที่รูป 1 ที จากนั้นคลิก “File” แล้วคลิก “Get Info” ต่อมาคลิกลูกศรข้าง “Name and Extension” แล้วไม่ต้องติ๊กช่อง “Hide Extension” สุดท้ายคลิก “Save”
  4. ให้ลบทุกอย่างหลัง “.” ในชื่อไฟล์
    • ถ้าใช้ Mac ให้คลิกที่รูป 1 ที แล้วกด Return จากนั้นคลิกที่ท้ายนามสกุลไฟล์ แล้วกด Delete จนลบทุกอย่างหลังจุดไปหมด
    • ถ้าใช้ Windows ให้คลิกขวาที่รูป แล้วเลือก “Rename” จากนั้นคลิกที่ท้ายนามสกุลไฟล์ แล้วกด Backspace เพื่อลบทุกอย่างหลังจุด
  5. จะตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้ ตอนนี้ชื่อไฟล์ของคุณจะเป็น image.jpg ให้กด Enter หรือ Return
  6. ไม่ว่าจะใช้ Mac หรือ PC จะมีขึ้นเตือนว่าการเปลี่ยนนามสกุลไฟล์อาจทำให้ไฟล์เสียได้ ให้คุณคลิก “Use.jpg” หรือ “Yes” เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง เท่านี้ชื่อไฟล์ของคุณก็จะลงท้ายด้วย .JPG แล้ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไฟล์ JPEG บางทีก็ลงท้ายด้วย .jpeg หรือ .jpg จะตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่ก็ได้
  • อย่าลืม backup ไฟล์รูปต้นฉบับก่อนแปลงไฟล์ทุกครั้ง
  • เวลาจะอัพโหลดหรือดาวน์โหลดรูป ควรใช้ Wi-Fi เพราะเดี๋ยวจะเปลืองเน็ตมือถือ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,597 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา