ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หลายโปรแกรม media player ให้คุณเลือกไฟล์ซับไตเติลต่างๆ มาใส่ในวีดีโอได้ด้วย แต่บางทีทำทุกวิถีทางก็ยังโหลดไม่ติดซะงั้น ถ้าเป็นแบบนี้คุณอาจต้อง hardcode คือฝังซับไตเติลลง source code ของไฟล์วีดีโอโดยตรงเลย แบบนี้ไม่ว่าคุณใช้ media player ไหน ซับไตเติลก็จะขึ้นเสมอ วิธีการก็คือคุณต้อง re-encode ไฟล์วีดีโอ เพื่อใส่ซับไตเติลลงในเฟรมโดยตรง อยากรู้แล้วก็รีบเลื่อนลงไปอ่านเลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

TEncoder

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เอาไฟล์วีดีโอกับไฟล์ซับไตเติลไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน. ชื่อของไฟล์ซับไตเติลต้องตรงกับชื่อไฟล์วีดีโอ เช่น ถ้าไฟล์วีดีโอชื่อ “MyMovie.mp4” ไฟล์ซับไตเติลก็ต้องชื่อ “MyMovie” แล้วตามด้วยนามสกุลไฟล์อย่าง .srt, .ssa หรืออื่นๆ แต่จุดสำคัญคือทั้ง 2 ไฟล์ต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
  2. ในเน็ตมีโปรแกรมแปลงไฟล์วีดีโอให้เลือกเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ใช้ทำ hardcode ซับไตเติลได้ไม่ยาก หนึ่งในโปรแกรมดีที่คนนิยมก็คือ TEncoder ซึ่งเป็นโปรแกรม video encoder แบบ open-source ดาวน์โหลดมาใช้กันได้ฟรี
  3. คลิกปุ่ม Add File ที่ด้านบนของหน้าต่าง TEncoder เพื่อเลือกไฟล์หนังที่จะใส่ซับไตเติล
  4. ใต้รายชื่อไฟล์ จะมีค่าต่างๆ ในการแปลงไฟล์วีดีโอ คุณต้องตั้งค่าพวกนี้ก่อนทำขั้นตอนต่อไป แต่ส่วนใหญ่จะปล่อยไว้เป็นค่า default ตามเดิมได้ คุณปรับให้ตรงตามความต้องการในการใช้งานได้ แต่ถ้าแค่อยากใส่ซับไตเติล ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไร
    • ถ้าอยากเปลี่ยนฟอร์แมตของไฟล์ที่แปลงแล้ว ให้เลือกฟอร์แมตใหม่จากใน Video Codec list แต่ถ้าอยากคงฟอร์แมตเดิมไว้ ให้เลือก Copy จากในลิสต์แทน
    • ถ้าอยากลดคุณภาพวีดีโอเพื่อให้แปลงไฟล์เร็วขึ้น ก็ต้องเลือกค่า Video Bitrate ต่ำๆ ไว้ แต่ยิ่งต่ำกว่าค่า default เท่าไหร่ความคมชัดของวีดีโอก็จะยิ่งลดลง
  5. ใน Other Options ให้ติ๊กช่อง “Enabled subtitles” ย้ำกันอีกทีว่าไฟล์ซับไตเติลของคุณ "ต้อง" อยู่ในโฟลเดอร์เดียวกับไฟล์วีดีโอ และ "ต้อง" ใช้ชื่อไฟล์เดียวกัน ไม่งั้นซับไตเติลจะไม่ขึ้น
  6. ถ้าอยากให้ไฟล์วีดีโอปลายทางคุณภาพดีหน่อย ก็ต้องติ๊กช่อง “Do two passes” เพื่อทำการ encode 2 รอบด้วยกัน ทำให้ไฟล์ที่ได้ออกมาคุณภาพดี แต่ระยะเวลาในการ encode ก็จะนานขึ้นเป็น 2 เท่า
  7. พอตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกปุ่ม Encode เพื่อเริ่มกระบวนการ ถ้าคอมคุณค่อนข้างอืด ก็จะใช้เวลานานหน่อย เพราะงั้นให้ encode ตอนที่ไม่ต้องใช้คอม อาจจะประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง [1]
    • ยิ่งวีดีโอยาวแถมคุณภาพดีก็ยิ่งใช้เวลา encode นาน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

VirtualDub

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เอาไฟล์วีดีโอกับไฟล์ซับไตเติลไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน. ชื่อของไฟล์ซับไตเติลต้องตรงกับชื่อไฟล์วีดีโอ เช่น ถ้าไฟล์วีดีโอชื่อ “MyMovie.mp4” ไฟล์ซับไตเติลก็ต้องชื่อ “MyMovie” แล้วตามด้วยนามสกุลไฟล์อย่าง .srt, .ssa หรืออื่นๆ แต่จุดสำคัญคือทั้ง 2 ไฟล์ต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
  2. เป็นโปรแกรมฟรีแบบ open-source คุณดาวน์โหลดได้จากเว็บของโปรแกรมเลย เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอขนาดกะทัดรัด ใช้ใส่ซับไตเติลในวีดีโอได้รวดเร็วทันใจ
  3. คุณดาวน์โหลด Subtitler filter ได้จากในเว็บ VirtualDub เลย filter นี้ใช้ใส่ซับไตเติลลงวีดีโอตอน encode
    • ติดตั้ง filter โดยเปิด VirtualDub คลิกเมนู Video แล้วเลือก Filters จากนั้นคลิกปุ่ม Add และปุ่ม Load ต่อมาก็ browse หาไฟล์ “subtitler.vdf” ที่คุณดาวน์โหลดมา แล้วกด Open ได้เลย
  4. ถ้าซับไตเติลคุณเป็นฟอร์แมต .srt ก็ต้องแปลงเป็น .ssa ก่อน VirtualDub ถึงจะอ่านไฟล์ได้ ให้หาโปรแกรมแปลง SRT เป็น SSA จากในเน็ตก่อน มีหลายโปรแกรมที่คุณดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี แต่ถ้าไฟล์ซับไตเติลคุณเป็น .ssa แล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
  5. คลิกเมนู Video ของ VirtualDub แล้วเลือก “Full Processing Mode” จากนั้นคลิกเมนู File แล้วเลือก Open Video File ให้คุณ browse หาไฟล์วีดีโอที่จะใส่ซับไตเติล
  6. พอเปิดวีดีโอแล้ว ให้คลิกเมนู Video แล้วเลือก Filters จากนั้นคลิกปุ่ม Add แล้วเลือก Subtitler จากในรายการ ต่อมากด OK แล้วจะมีให้เปิดไฟล์ .ssa คุณก็ browse หาจากในคอมแล้วกด OK ได้เลย
  7. คลิกเมนู Video แล้วเลือก Compression จากนั้นเลอืก codec ที่ตรงกับชนิดไฟล์ของคุณ แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดจะเป็น XviD Mpeg-4
  8. คลิก File แล้วเลือก “Save As .avi” จากนั้นเซฟวีดีโอไว้ตรงไหนในคอมก็ได้ตามต้องการ พอคลิก Save แล้ว โปรแกรมจะเริ่มกระบวนการ encode ทันที ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหนก็แล้วแต่ความแรงของคอม [2]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

VLC Player

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ายังไม่มี ให้ไปดาวน์โหลด VLC player ได้ที่เว็บของโปรแกรมเลย เป็นโปรแกรมฟรี ติดตั้งไม่กี่นาทีก็พร้อมใช้
  2. VLC Player จะเปิดไฟล์ซับไตเติลที่อยู่ในโฟลเดอร์เดียวกับไฟล์วีดีโอที่เปิดอยู่ขึ้นมาอัตโนมัติ ขอแค่ชื่อไฟล์เดียวกัน คุณดาวน์โหลดไฟล์ซับไตเติลของหนังและรายการได้แทบทั้งหมดจากในเน็ต แค่พิมพ์ชื่อเรื่อง ตามด้วย "subtitle file" หรือ "srt" โดย SRT นั้นเป็นฟอร์แมตซับไตเติลที่นิยมใช้กันมากที่สุด รองลงมาก็คือฟอร์แมต SSA
  3. เอาไฟล์วีดีโอกับไฟล์ซับไตเติลไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน. ในโฟลเดอร์นั้นจะมีไฟล์วีดีโอรวมกันอยู่หลายๆ เรื่องก็ได้ แต่ไฟล์ซับไตเติลต้องชื่อเดียวกับไฟล์วีดีโอ
  4. จะเปิด VLC ก่อนแล้วค่อยเปิดไฟล์วีดีโอ หรือจะตั้งค่าให้ไฟล์วีดีโอเปิดขึ้นมาในโปรแกรม VLC โดยอัตโนมัติทุกครั้งก็ได้ ขอแค่เปิดไฟล์วีดีโอใน VLC ก็พอ
  5. พอไฟล์วีดีโอเปิดขึ้นมาแล้ว ให้คลิกเมนู Subtitle แล้วคลิก "Add Subtitle File" จากนั้น browse หาไฟล์ซับไตเติลเพื่อเปิดขึ้นมา เท่านี้ซับไตเติลก็จะโผล่มาที่ด้านล่างของวีดีโอ
    • แต่วิธีนี้ไฟล์ซับไตเติลจะไม่ได้ฝังไปในไฟล์วีดีโอ ต้องคอยเปิดไฟล์ซับไตเติลทุกครั้งที่อยากดูหนังแบบมีซับ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,668 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา