ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การตกหลุมรักใครบางคนอาจเป็นเรื่องที่ยากจะต่อต้าน การเรียนรู้วิธีที่จะไม่ตกหลุมรักใครบางคนต้องใช้ความอดทนและความพยายาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้ บางทีคุณกำลังต้านทานการตกหลุมรักใครบางคนที่คุณชอบหรือคุณกำลังพยายามหนีความรักโดยรวม คุณสามารถลองหลีกเลี่ยงบุคคลที่คุณชอบและปิดกั้นตัวเองทางอารมณ์จากบุคคลนั้นเพื่อที่ความรู้สึกของคุณจะไม่มีอำนาจเหนือคุณ คุณยังสามารถจดจ่อกับความต้องการและความสนใจของคุณเพื่อเป็นวิธีในการตีตัวออกห่างจากบุคคลที่คุณอาจจะตกหลุมรัก
ขั้นตอน
-
ตีตัวออกห่างจากบุคคลนั้น. วิธีเดียวในการหลีกเลี่ยงการทำให้ความรู้สึกมีอำนาจเหนือคุณคือการรักษาระยะห่างจากบุคคลนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งนี้หมายถึงการตีตัวออกห่างจากบุคคลในสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ เช่น งานสังสรรค์กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานหรือคุณอาจจะหลีกเลี่ยงบุคคลนั้นเมื่อคุณต้องใช้พื้นที่ร่วมกัน เช่น ที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน รักษาระยะห่างจากบุคคลนั้นเพื่อที่คุณจะไม่ถูกกระตุ้นให้ต้องทักทายพวกเขาเพราะสิ่งนี้อาจนำไปสู่ความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อพวกเขา [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คุณอาจจะลองหลีกเลี่ยงการไปงานประชุมหรืองานสังสรรค์เดียวกับบุคคลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณรู้ว่าพวกเขาจะต้องอยู่ที่นั่น คุณอาจจะวางแผนในการไม่ต้องเจอบุคคลนั้นเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องอยู่ใกล้พวกเขา
- คุณอาจจะหลีกเลี่ยงการเพิ่มบุคคลนั้นในสื่อโซเชียลเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเห็นโปรไฟล์หรือกิจกรรมของเขา วิธีนี้คุณจะไม่ติดอยู่กับการจ้องกิจกรรมของบุคคลนี้บนเว็บไซต์ เช่น Facebook Instagram หรือ Tumblr
-
สร้างขอบเขตที่ชัดเจนสำหรับตัวเองเมื่อคุณต้องอยู่ใกล้เขา. หากคุณจำเป็นต้องอยู่ใกล้บุคคลนี้ คุณก็ควรสร้างขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อที่คุณจะไม่ปล่อยให้อารมณ์มีอำนาจเหนือคุณ บางทีคุณหลีกเลี่ยงการสัมผัส การกอดหรือการนั่งใกล้บุคคลนี้เวลาที่พวกเขาอยู่ใกล้คุณ คุณอาจจะยืนห่างจากพวกเขาด้วยภาษากายแบบปิดเพื่อที่คุณจะไม่ดูเป็นมิตรหรือตอนรับบุคคลนี้ สิ่งนี้สามารถส่งสัญญาณให้พวกเขาว่าคุณไม่สนใจพวกเขาในแบบคนรัก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คุณอาจจะรักษาภาษากายแบบปิดเวลาที่อยู่ใกล้เขาโดยการกอดอกและหลีกเลี่ยงการสบตากับบุคคลนี้เวลาที่คุณคุยกับเขา
-
อย่ารับท่าทีหรือของขวัญที่โรแมนติกจากบุคคลนี้. บุคคลนี้อาจจะมอบของขวัญให้คุณเพื่อแสดงความชอบที่มีต่อคุณหรือพวกเขาอาจจะแสดงท่าทีที่ใจดีกับคุณ หลีกเลี่ยงการรับหรือการสนับสนุนพฤติกรรมนี้ การรับของขวัญหรือท่าทีที่ใจดีจากบุคคลนี้สามารถส่งเสริมพวกเขาให้เข้าหาคุณซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่ต้องการหากคุณกำลังพยายามหลีกเลี่ยงพวกเขา
- เช่น คุณอาจจะพูดอย่างสุภาพว่า “ไม่ ขอบคุณค่ะ” และปฏิเสธของขวัญที่พวกเขาพยายามให้คุณหรือพูดว่า “ไม่ ฉันสามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง” หรือ “ไม่ ฉันจะทำเอง” หากพวกเขาพยายามทำบางสิ่งที่ดีให้กับคุณ
โฆษณา
-
เขียนคุณสมบัติที่ไม่ดีของบุคคลนี้. การปิดกั้นตัวเองทางอารมณ์จากบุคคลนี้อาจเป็นอีกวิธีที่คุณสามารถทำเพื่อหลีกเลี่ยงการตกหลุมรักพวกเขา พยายามควบคุมอารมณ์เพื่อที่คุณจะไม่รู้สึกท่วมท้นหรือควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาที่อยู่ใกล้เขา เขียนคุณสมบัติที่ไม่ดีของบุคคลนี้ อ่านมันซ้ำๆ และปล่อยให้ตัวเองรู้สึกไม่ชอบหรือตัดใจจากบุคคลนี้เพราะคุณสมบัติไม่ดีที่คุณเขียน วิธีนี้อาจจะช่วยให้คุณไม่ตกหลุมรักเขา [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชื่อสัตย์และคิดถึงคุณสมบัติของบุคคลนี้ที่อาจจะรบกวนหรือเป็นปัญหาหากคุณคบกับพวกเขา เช่น คุณอาจจะเขียนเกี่ยวกับบุคคลนี้ว่า “บ้างาน เงียบและเห็นแก่ตัว ยากที่จะคุยในกลุ่มใหญ่ๆ”
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญนักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์ซาราห์ เชวิตซ์เป็นนักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์ระดับปริญญาเอกที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการช่วยเหลือคู่รักให้พัฒนาและเปลี่ยนรูปแบบจำเจของความรักและความสัมพันธ์ เธอเป็นผู้ก่อตั้ง Couples Learn บริการฝึกจิตวิทยาออนไลน์อย่ามองข้ามเหตุผลที่ทำให้คุณจำเป็นต้องรักษาระยะห่าง นักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์อย่างดร. ซาราห์ สคีวิตซ์กล่าวว่า: "หากคุณพยายามที่จะไม่ตกหลุมรักใครสักคน มันย่อมมีเหตุผล ดังนั้นจงเตือนตัวเองเสมอเท่าที่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น หากเขาคนนั้นอยู่กับคนอื่น คุณอาจเตือนตัวเองว่ามันขัดต่อศีลธรรมประจำใจคุณที่จะออกเดทกับคนที่เป็นแฟนคนอื่น ทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ใจคุณไม่ไยดีต่อเขาคนนั้นโดยการสรรหากิจกรรมที่สนุกสนานและเติมเต็มชีวิตของคุณและทำให้คุณมีความสุขแทน"
-
ระบุว่าทำไมคุณและบุคคลนี้จึงไม่เหมาะสมกัน. คุณควรคิดว่าทำไมคุณและบุคคลนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อกันและกัน คุณอาจจะเขียนคุณสมบัติที่ไม่ดีของพวกเขาแล้วจากนั้นเขียนว่าทำไมคุณสมบัติที่ไม่ดีเหล่านี้ถึงแปลว่าคุณและบุคคลนี้ไม่ควรคบกัน คุณอาจจะระบุเหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจงที่คุณและบุคคลนี้ดูจะไม่ลงรอยกัน การจดจ่อกับความไม่เหมาะสมกันสามารถช่วยให้คุณปิดกั้นตัวเองทางอารมณ์จากบุคคลนี้และเห็นว่าพวกเขาเป็นแค่เพื่อน
- เช่น คุณอาจจะเขียนว่า “เราไม่เหมาะสมกันเพราะเขาบ้างานและฉันชอบเที่ยว” หรือ “เราคงไปกันไม่รอดเพราะพวกเขาตั้งใจที่จะลงหลักปักฐานในที่นึงและฉันวางแผนที่จะย้ายไปเรื่อยๆ”
-
จดจ่อกับด้านที่เป็นมิตรของความสัมพันธ์. หากคุณเป็นเพื่อนกับบุคคลนี้อยู่แล้ว คุณก็สามารถลองจดจ่อที่ความเป็นเพื่อนกับพวกเขาแทนการเป็นแฟน บางทีคุณกับเขาอาจจะเข้ากันได้ดีในแบบเพื่อน เตือนตัวเองว่าการคบใครในแบบคนรักอาจนำไปสู่ความรู้สึกที่เจ็บปวดและทำลายความเป็นเพื่อนของคุณ จากนั้นคุณอาจจะให้เหตุผลว่าทำไมคุณจึงควรเป็นเพื่อนกับบุคคลนี้แทนที่จะเป็นแฟน [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คุณอาจจะนั่งลงและเขียนถึงเวลาที่ดีที่คุณมีกับบุคคลนี้ในฐานะเพื่อน จากนั้นคุณอาจจะพิจารณาว่ามันคุ้มค่ากับการเสี่ยงความสัมพันธ์ที่มีความหมายและเติมเต็มในการเป็นแฟนกับบุคคลนี้หรือไม่
โฆษณา
-
ดึงความสนใจของตัวเองด้วยงานอดิเรกหรือกิจกรรม. คุณสามารถหลีกเลี่ยงการตกหลุมรักใครบางคนด้วยการอุทิศเวลาให้กับความต้องการและความสนใจของตัวเองแทนที่จะให้ผู้อื่นหรือความคิดเกี่ยวกับผู้อื่น ดึงความสนใจของตัวเองจากความต้องการความรักโดยการทุ่มเทพลังงานให้กับงานอดิเรกที่คุณรัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้ทั้งแรงใจและแรงกายจนคุณเหลือเวลาเพียงเล็กน้อยในการจดจ่อกับความรู้สึกรักใครบางคน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คุณอาจจะทุ่มเทพลังงานให้กับงานอดิเรก เช่น การวาดภาพ การเขียน การเล่นดนตรีหรือการร้องเพลง คุณยังสามารถทำกิจกรรมทางกีฬาหรือเข้าร่วมทีมที่โรงเรียนเพื่อฆ่าเวลา
-
ปรึกษาเพื่อนหรือคนที่คุณรัก. แม้คุณอาจจะต้องการเก็บความรู้สึกในเรื่องของความรักกับตัวเองแต่คุณควรลองพูดกับคนใกล้ตัวเกี่ยวกับอารมณ์ของคุณ บอกเพื่อนสนิทว่าคุณกำลังพยายามหลีกเลี่ยงการตกหลุมรักใครบางคน พูดกับสมาชิกในครอบครัวที่สนิทเกี่ยวกับความรู้สึกที่ขัดแย้งของคุณ บ่อยครั้งที่การพูดกับใครบางคนที่จะรับฟังคุณเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณสามารถทำให้คุณรู้สึกเหงาและสับสนน้อยลง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะได้รับมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์จากเพื่อนหรือสมาชิกของครอบครัว พวกเขาอาจจะเสนอคำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงการตกหลุมรักใครบางคน
- เช่น คุณอาจจะบอกเพื่อนว่า “ฉันมีความรู้สึกต่อใครบางคนแต่ฉันไม่อยากตกหลุมรักเขา ฉันควรจะทำยังไง?” หรือคุณอาจจะบอกสมาชิกของครอบครัวว่า “ฉันคิดว่าฉันกำลังตกหลุมรักใครบางคนแต่ฉันว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดี เธอมีคำแนะนำว่าฉันควรจะทำอย่างไรไหม?”
-
ลองคุยกับบุคคลนี้เกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ. หากความรู้สึกที่คุณมีต่อบุคคลนี้นั้นท่วมท้นและปฏิเสธไม่ได้ คุณก็อาจจะต้องบอกพวกเขาว่าคุณรู้สึกอย่างไร แม้บทสนทนาอาจจะรู้สึกอึดอัดแต่การจริงใจเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณและการบอกบุคคลนี้สามารถทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น มันยังสามารถเปิดประตูสู่โอกาสว่าบุคคลนี้อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับคุณ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณตัดสินใจที่จะคุยกับบุคคลนี้เกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ คุณก็ควรขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวเพียงแค่คุณสองคน คุณอาจจะบอกเขาว่า “ฉันว่าฉันกำลังพัฒนาความรู้สึกกับเธอในแบบคนรัก ฉันพยายามปฏิเสธความรู้สึกเหล่านี้แต่ฉันคิดว่าฉันควรจะจริงใจกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันรู้สึก”
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://youqueen.com/love/seduction/how-to-not-fall-in-love/
- ↑ https://pairedlife.com/dating/How-not-to-fall-in-love-Avoid-falling-in-love-with-your-crush-and-getting-into-a-relationship
- ↑ http://youqueen.com/love/seduction/how-to-not-fall-in-love/
- ↑ https://pairedlife.com/dating/How-not-to-fall-in-love-Avoid-falling-in-love-with-your-crush-and-getting-into-a-relationship
- ↑ https://pairedlife.com/dating/How-not-to-fall-in-love-Avoid-falling-in-love-with-your-crush-and-getting-into-a-relationship
- ↑ http://youqueen.com/love/seduction/how-to-not-fall-in-love/
- ↑ https://pairedlife.com/dating/How-not-to-fall-in-love-Avoid-falling-in-love-with-your-crush-and-getting-into-a-relationship
โฆษณา
