ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอยู่ๆ คุณต้องต๊กกะใจเพราะขนจากไหนไม่รู้อพยพมาอยู่บนหน้าเต็มไปหมด แบบนี้มีโทษสถานเดียวคือต้องกำจัดมันให้หมด แต่ทำไงดี สมัยนี้มีทั้งเรื่องจริงเรื่องหลอกเต็มไปหมด แล้วจะเลือกกำจัดขนด้วยวิธีไหน ลองทำใจเย็นสู้ขนแล้วอ่านบทความข้างล่างของเราดูก่อน เรามีขั้นตอนง่ายๆ ในการกำจัดขนบนใบหน้าสำหรับคุณผู้หญิงมาฝากกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

กำจัดขนแบบทันใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้แหนบดึงหรือถอนขนนี่แหละวิธีการที่ราคาถูกแต่เห็นผลที่สุด ไม่ว่าจะใช้กำจัดขนส่วนไหนบนใบหน้าก็ตาม ข้อเสียอย่างเดียวคือมัน "ช้าาาาา" เหลือเกิน ที่สำคัญคือเจ็บชะมัด โดยเฉพาะตรงจุดที่ไวต่อความรู้สึกน่ะ
  2. Epilator หรือเครื่องถอนขนไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาตั้งแต่ไม่ถึงพันไปจนถึงหลายพัน ใช้ถอนขนแบบรวดเร็วทีเดียวหลายๆ เส้น แต่ถึงจะเห็นผลทันใจ และถ้าเลือกดีๆ ก็ไม่แพงเท่าไหร่ ข้อเสียคือถอนครั้งแรกๆ มันเจ็บชะมัด แต่ก็เหมือนการแว็กซ์นั่นแหละ ยิ่งใช้บ่อยเท่าไหร่เดี๋ยวคุณก็เจ็บน้อยลงจนชินไปเอง
  3. หรือที่คนเขาเรียกกันว่า “กัดสีขน (bleaching)” เป็นการย้อมสีขนให้กลายเป็นสีเดียวกันหรือใกล้เคียงกับสีผิวของคุณที่สุด ขนจะได้ไม่โดดเด่นเป็นสง่า จะเลือกย้อมสีไหนนั้นต้องดูก่อนว่าโทนสีของผิวคุณเป็นยังไง คุณหาซื้อชุดย้อมสีขนได้ง่ายๆ ตาม Boots หรือ Watsons ก็มี
  4. มีทั้งแบบครีม โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน หรือก็คือการใช้สารเคมี "ละลาย" ขนออกมา วิธีนี้ราคาถูก ทำง่าย แถมไม่เจ็บด้วย แต่อาจจะแพ้หรือผิวไหม้ได้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ที่สำคัญคือแค่อาทิตย์เดียวขนก็งอกกลับออกมาแล้ว
  5. การแว็กซ์ขนนี่แหละที่คนเขานิยมกัน ส่วนราคานั้นก็แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่ากำจัดขนส่วนไหนของหน้า แต่ปกติก็ไม่แพงมากหรอก กว่าขนจะงอกกลับมาก็หลายอาทิตย์อยู่ แต่ข้อเสียคือเจ็บชะมัด แถมยังอาจทำให้เกิดขนคุดอีกต่างหาก [1]
  6. แว็กซ์มันเจ็บ ส่วนเครื่องถอนขนไฟฟ้าก็แพงไปใช่ไหม? งั้นกำจัดขนด้วยด้ายนี่แหละง่ายดี ไม่ว่าจะเป็นขนคิ้ว หนวด หรือขนอ่อนทั้งหน้า วิธีนี้ทำง่าย ทำเองก็ได้ ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรอีก แค่มีด้ายก็จบ! หรือจะเข้าร้านทำผมให้ช่างเขาทำให้ก็ได้ แต่ต้องแน่ใจจริงๆ นะ
  7. ถ้ากังวลเรื่องขนคิ้วเป็นพิเศษ ให้ลองไปกันคิ้วแทน ไม่ต้องถอนหรือกำจัด แค่กันคิ้วให้เป็นทรงก็ขนคิ้วก็ดูบางและสีจางลงแล้ว แถมวิธีนี้ยังง่ายและถูก ทำเองที่บ้านก็ได้ง่ายจัง
  8. จริงๆ ก็โกนขนที่หน้าได้นะ เพราะไม่จริงหรอกที่ว่าโกนแล้วขนจะงอกกลับมาแข็งหรือดำขึ้น เพียงแต่โกนแล้วอาจทำให้หน้าเป็นตุ่มๆ แล้วกลายเป็นขนคุด เพราะงั้นพยายามอย่าโกนจะดีกว่า หรือถ้าจะโกนก็ต้องโกนอย่างระมัดระวัง [2]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กำจัดขนถาวร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีการนี้ใช้คลื่นแสงกำจัดลึกถึงรากขน แต่ไม่ได้ทำให้ขนหลุดร่วงออกมาทันทีทันใดนะ รอหน่อย เดี๋ยวขนก็ค่อยๆ ร่วงไปเอง วิธีนี้จะได้ผลดีที่สุดสำหรับคนที่ขนดำแต่ผิวขาว ถ้าแบบอื่นจะค่อนข้างยากหรือไม่ได้ผล ราคาก็แพงหลายพันไปจนถึงเป็นหมื่น ที่สำคัญคือต้องมาทำซ้ำปีละครั้งด้วย แต่รับรองว่าวิธีนี้ทำแล้วขนจะบางลงอย่างเห็นได้ชัดเลย
  2. ตอนนี้นี่เป็นวิธีเดียวที่ได้รับการรับรองโดย FDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) ว่ากำจัดขนได้อย่างถาวร วิธีการก็คือสอดเข็มเล่มเล็กมากๆ ลงไปในผิวหนัง แล้วทำลายเซลล์ที่ทำให้ขนงอกออกมา เป็นวิธีที่ได้ผลมาก แถมราคาพอๆ กับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ การกำจัดขนด้วยกระแสไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นนั้นมี 2 แบบด้วยกัน (Thermolysis กับ Blend) ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้กับคนที่ผิวค่อนข้างคล้ำ (เพราะเป็นไปได้มากว่าจะเกิดแผลเป็น) อย่างไรก็ดี มี electrolysis อยู่แบบนึงที่ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น (เพราะไม่ได้ใช้ความร้อน) ก็คือแบบ Galvanic ซึ่งใช้ได้กับทุกสีผิว [3]
  3. มีครีมที่ใช้ทากำจัดขนได้เหมือนใช้วิธีผ่านๆ มาด้านบน ถึงปกติจะไม่ได้ใช้กำจัดขนถาวร แต่ก็พอมีหลักฐานบ้างว่าตัวยานี้ออกฤทธิ์เหมือนการกำจัดขนถาวร อย่างไรก็ดี วิธีนี้เป็นการรักษาแบบทางเลือก ประกันสุขภาพของคุณอาจไม่ครอบคลุมรับผิดชอบผลที่เกิดจากตัวยานี้
  4. ถ้าขนคุณหนาและสีเข้มเพราะฮอร์โมน (หมายถึงไปตรวจกับคุณหมอแล้วนะ) คุณก็อาจจะทำให้สภาพขนกลับเป็นปกติได้ด้วยการปรับสภาพฮอร์โมนหรือกินยาคุม (ที่จะไปปรับระดับฮอร์โมน) วิธีนี้ต้องปรึกษาคุณหมอประจำตัวก่อน เพราะต้องพิจารณาทางเลือกกับสภาพร่างกายของคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ลองปรึกษาคุณหมอดู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอตั้งใจจริงแล้วว่าอยากกำจัดหรือลดจำนวนขนบนใบหน้า ก็น่าจะลองปรึกษาคุณหมอประจำตัวดูก่อน รับรองว่าคุณหมอจะช่วยแนะนำให้คำปรึกษาว่ามีตัวเลือกไหนบ้าง รวมถึงคำเตือนที่ควรรู้
  2. ทุกวิธีที่กล่าวไปด้านบนต่างก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ก่อนคุณจะเลือกใช้วิธีไหน เป็นเรื่องดีที่จะลองปรึกษาคุณหมอดูก่อน ว่าจะมีผลต่อสุขภาพด้านใดของคุณหรือเปล่า เช่น คุณคงไม่เหมาะกับวิธีแบบใช้กระแสไฟฟ้า ถ้าคุณใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker) อยู่
  3. คุณต้องปรึกษาคุณหมอด้วย เรื่องสภาพร่างกายของคุณ บางโรคไม่ร้ายแรง รักษาง่าย แต่บางโรคก็น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะโรคที่ทำให้ขนยาวกว่าเดิม หรือมีขนงอกในที่ที่ไม่เหมาะสม
    • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็อาจเป็นสาเหตุให้ร่างกายคุณเปลี่ยนแปลง ซึ่งมักเกี่ยวกับอายุอานามของคุณ (ช่วงแตกเนื้อสาว ไม่ก็ช่วงหมดเมนส์ มักพบปัญหานี้)
    • บางทีขนเยอะขึ้นเพราะเนื้องอกในต่อมที่ควบคุมฮอร์โมน หรือเพราะคุณตั้งครรภ์อยู่ ไม่ก็การใช้ยาบางตัว
    • หาให้เจอว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยที่เป็นผลมาจากฮอร์โมนผิดปกติหรือเปล่า (อย่างประจำเดือนขาด น้ำหนักขึ้น สิวขึ้น หรือผมร่วง) 10% ของผู้หญิงมักเกิดภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome หรือ PCOS) เวลาฮอร์โมนผิดปกติ ทำให้ขนเยอะขึ้น (ที่เรียกว่า hirsutism หรือภาวะขนดก) แต่ก็มียาที่ใช้รักษาอาการ PCOS ซึ่งจะช่วยเรื่องขนส่วนเกินได้ชะงัดนัก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พวกวิธีกำจัดขนแบบเจ็บๆ อย่างการถอน ถ้าทำไปนานๆ เดี๋ยวก็ชินจนหายเจ็บเอง
  • ถ้าคุณยังเอ๊าะๆ รอหน่อยเดี๋ยวขนก็น้อย เพราะพอฮอร์โมนคงที่ พวกขนต่างๆ ก็จะจางลงเอง (บางทีก็แทบไม่เห็นเลยแหละ)
  • การแต่งหน้ากลบไม่ได้ช่วยอะไร โบ๊ะไปก็ไม่ปกปิด แถมแป้งอาจไปเกาะที่ขนจนเด่นกว่าเดิมอีก เพราะงั้นอย่าไปยุ่งอะไรมากตรงที่มีขน เดี๋ยวจะยิ่งเด่นเป็นสง่า แต่งหน้าเฉพาะตรงที่ไม่มีขนดีกว่า ดึงความสนใจไปที่อื่นแทน เช่น ถ้ามีหนวดบางๆ เหนือริมฝีปาก ก็เปลี่ยนมาทาลิปสีนู้ดแทน แล้วไปเน้นแต่งตาแบบสโมคกี้อาย
  • สำหรับหนูๆ มีอะไรก็ปรึกษาคุณแม่ดู คุณแม่จะเข้าใจปัญหาหนักอกนี้แน่นอน แถมจะช่วยหาวิธีจัดการกับขนพวกนี้ให้อีกต่างหาก
โฆษณา

คำเตือน

  • ไม่ว่าจะวิธีไหนก็อาจทำให้เกิดขนคุดได้ทั้งนั้น ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อ เกิดแผลเป็น หรือปัญหาอื่นๆ อีกสารพัด ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหนก็ต้องระวังเรื่องขนคุดให้มากที่สุด แต่ถ้ามันเป็นไปแล้ว ก็ต้องรีบหาวิธีจัดการต่อไป
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ด้าย แผ่นแว็กซ์ขน หรือแหนบ
  • ผลิตภัณฑ์กัดสีขน
  • ครีมกำจัดขนบนใบหน้า
  • ครีมบำรุงผิว
  • ยานวด
  • เครื่องสำอางที่ชอบ
  • ยาคุมกำเนิด

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,602 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา