วิธีการ กำจัดค้างคาว

ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ

ค้างคาวเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ เนื่องจากมันกินแมลงที่น่ารังเกียจ เช่น ยุง อย่างไรก็ตามถ้าค้างคาวมาทำรังในที่ที่มันไม่สมควรจะอยู่ เช่น ห้องใต้หลังคาของคุณ นี่ก็เป็นวิธีที่คุณจะกำจัดมัน ถ้าหากคุณอยู่ในประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

อย่าลืม: ในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ ค้างคาวทุกสายพันธ์จะถูกคุ้มครองโดยกฎหมายและการไล่หรือรบกวนมันก็ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย โทรถามผู้เชี่ยวชาญก่อนถ้าหากจำเป็นต้องละเมิด


ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ในกรณีที่ค้างคาวอยู่ในตัวอาคาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/5\/59\/Get-Rid-of-Bats-Step-1.jpg\/v4-460px-Get-Rid-of-Bats-Step-1.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/5\/59\/Get-Rid-of-Bats-Step-1.jpg\/v4-728px-Get-Rid-of-Bats-Step-1.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":343,"bigWidth":728,"bigHeight":543,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    การอพยพค้างคาวในฤดูกาลที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอยู่รอดและความสามารถที่จะกำจัดแมลงรบกวนต่างๆ
    • ดูก่อนว่ามันกำลังอยู่ในช่วงเลี้ยงลูกหรือเปล่า ถ้าคุณไล่ค้างคาวที่โตเต็มวัยไปก่อนที่ลูกๆ ของพวกมันจะบินได้ พวกมันก็จะตายอยู่ในอาคาร ไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมแต่ยังเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์เพราะซากของค้างคาวค้นพบและกำจัดได้ยาก ลูกค้างคาวต้องใช้เวลาประมาณ 5 สัปดาห์ถึงจะอยู่รอดได้ด้วยตนเอง (อย่าใช้ลูกเหม็นในอาคาร; แม่ค้างคาวค่อนข้างจะดื้อด้านและไม่ยอมทิ้งรัง แสงสว่าง, เสียงดังและกระเทียมไม่ช่วยอะไร) [1]
    • ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ฤดูกาลคลอดลูกจะอยู่ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมถึง 31 สิงหาคม
      • ฤดูคลอดลูกจะเริ่มตอนกลางเดือนเมษายนในตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา
      • ในรัฐอินเดียน่า ลูกค้างคาวส่วนมากจะเกิดตอนปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม ดังนั้นคุณสามารถเริ่มไล่ค้างคาวออกไปได้ในกลางเดือนสิงหาคม
      • ในรัฐวอชิงตัน คุณจะต้องหลๆกเลี่ยงการไล่ค้างคาวในเดือนพฤษภาคม,มิถุนายนและกรกฎาคม [1]
    • พยายามหลีกเลี่ยงการกำจัดค้างคาวในหน้าหนาว โดยปกติแล้วค้างคาวจะจำศีลในฤดูหนาวและข้างนอกนั่นก็ไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับพวกมันที่จะทำให้รอดชีวิตได้ ถ้าประชากรค้างคาวลดจำนวนลดอย่างมาก คุณก็อาจจะสังเกตได้ว่าแมลงชิดต่างๆ เช่น ยุงและแมลงศัตรูพืชต่างๆเพิ่มจำนวนมากขึ้น
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/35\/Get-Rid-of-Bats-Step-2.jpg\/v4-460px-Get-Rid-of-Bats-Step-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/35\/Get-Rid-of-Bats-Step-2.jpg\/v4-728px-Get-Rid-of-Bats-Step-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    มองหามูลค้างคาว (ปุ๋ยขี้นก) ด้านบนหรือด้านล่างของทางเข้า มูลค้างคาวจะมีชิ้นส่วนเล็กๆของเปลือกแมลง ดังนั้นมันจะส่องแสงแวววาวเวลาโดนแสงอาทิตย์และมีผิวสัมผัสขรุขระ ไม่เหมือนมูลของหนู ที่จะมีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นพืช พวกมันเป็นปุ๋ยอย่างดีเลยหละ
    • พยายามหลีกเลี่ยงการสูดดมมูลค้างคาว. คุณอาจจะเป็นโรคฮิสโตพลาสโมสิส (โรคที่เหมือนไข้) คนที่มีอายุน้อย, คนสูงอายุและคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำจะมีความเสี่ยงต่อโรคเป็นพิเศษ
    • ถ้าคุณไม่สามารถหาช่องทางเข้าได้โดยมูลค้างคาว เช่น ในกรณีที่ค้างคาวไม่ได้อยู่ตรงนั้นมานาน ให้จับตาดูให้ดีว่าพวกมันออกมาจากตรงไหนในเวลากลางคืน
    • อย่าลืมว่าค้างคาวในบางท้องที่สามารถเข้าไปอยู่ในรูที่มีขนาดเท่าเหรียญบาทได้!
    • ต่อไปนี้เป็นทางเข้าที่พบได้ทั่วไป:
      • ผนังที่แตกหรือไม่พอดี
      • แผ่นมุงหลังคาหรือกระเบื้องที่หลวมหรือหลุดหายไป
      • สถานที่ที่กันสาดหรือแผ่นบอร์ดหละหลวม
      • ตำแหน่งที่ท่อหรือสายไฟต่อเข้ากับตัวอาคาร
      • ตรงที่ผนังเชื่อมกับชายคาบ้านที่ปลายจั่วของห้องใต้หลังคา
      • ตรงที่ระเบียงบ้านติดอยู่กับส่วนหลักของตัวบ้าน
      • ตรงที่หน้าตาอยู่ตรงกับหลังคา
      • รอยแตกและรอยแยกที่มาจากตรงมุมหรือจุดที่มันอยู่ติดกับหน้าต่าง, ประตูหรือปล่องไฟ
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/02\/Get-Rid-of-Bats-Step-3.jpg\/v4-460px-Get-Rid-of-Bats-Step-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/02\/Get-Rid-of-Bats-Step-3.jpg\/v4-728px-Get-Rid-of-Bats-Step-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":344,"bigWidth":728,"bigHeight":544,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    เมื่อคุณไล่ค้างคาวไปได้แล้ว คุณจะต้องไม่ให้พวกมันกลับมาได้อีก มีสองวิธีที่สามารถทำได้
    • อุดรูโหว่ต่างๆอีกครั้ง. หลังจากที่มันออกไปหากินตอนกลางคืน ใช้ตะปูหรือแปะผนัง หรือตาข่ายถักตาถี่ปิดตรงเข้าเข้าออกไว้ คืนถัดมาก็จะมีแค่บางตัวเท่านั้นที่ออกไป ดังนั้นคุณจะต้องแกะมันออกเพื่อที่พวกมันจะได้ออกไปหากินได้ (พวกมันจะหิวเลยหล่ะ) ปกติแล้วค้างคาวจะต้องกินภายใน 24-48 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจะต้องเปิดช่องทางสัก 2-3 ทางให้พวกมัน เพื่อที่จะกำจัดประชากรทั้งหมดได้ วิธีนี้จะกินเวลานานนิดหน่อย ถ้ามันมีช่องทางเข้าออกในอาคารหลายแห่ง เนื่องจากค้างคาวจะไม่เปลี่ยนทางออกไปมา
    • ใช้อุปกรณ์ทางเดียว นี่เป็นสิ่งที่มืออาชีพใช้กัน เมื่อค้างคาวไปหมดแล้ว อุปกรณ์ทั้งหลายก็ถูกย้ายออกไปและรูโหว่ทั้งหมดก็จะถูกปิดตาย คุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์ทางเดียวได้หรือทำมันขึ้นเองมาจากตาข่าย, ท่อพีวีซีหรือภาชนะบรรจุยาที่ไม่ได้ใช้แล้ว
      • ทำอุปกรณ์ทางเดียวจากตาข่าย ปิดทางเข้าออกด้วยตาข่ายพลาสติก น้ำหนักเบา หรือตาข่ายยืดหยุ่นได้ ขนาดของตาข่าย 1/6 นิ้ว (0.4 ซม.) หรือเล็กกว่านั้น แต่ปิดมันแค่ส่วนบนและตรงกลาง มันควรจะยืดได้ตั้งแต่ 18ถึง 24 นิ้ว (46 ถึง 61 ซม.) จากขอบล่างของทางเข้าออก ทำแบบเดียวกันทุกทางเข้าออก ทิ้งตาข่ายให้อยู่อย่างนั้นอย่างน้อย 5 ถึง 7 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าค้างคาวออกไปหมดทุกตัวแล้ว จากนั้นก็ปิดตายทางเข้าออกทั้งหมดด้วยกาวซิลิโคน ,ที่ยาแนว, ตาข่ายลวดหรือตาข่ายถาวรแข็งแรง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ในกรณีที่ค้างคาวอยู่นอกอาคาร

ดาวน์โหลดบทความ

ลูกเหม็น

  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/d\/db\/Get-Rid-of-Bats-Step-4.jpg\/v4-460px-Get-Rid-of-Bats-Step-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/d\/db\/Get-Rid-of-Bats-Step-4.jpg\/v4-728px-Get-Rid-of-Bats-Step-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ใส่ลูกเหม็น 1 ถ้วยลงบนกึ่งกลางของผ้าขาวบางสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก (ประมาณ 5"x5"/12.7 x 12.7 ซม.) ผูกเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นถุง แขวนถุงไว้ในบริเวณที่ค้างคาวมาทำรัง (ถึงแม้ว่ามันจะไปแล้ว) กลิ่นลูกเหม็นจะทำให้มันไม่มาทำรังบริเวณนั้น อย่างไรก็ตามคุณอาจจะต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง เนื่องจากค้างคาวมีแนวโน้มที่จะกลับมาทำรังที่เดิม [2]

ที่ไล่สัตว์เลี้ยง

  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/d\/dd\/Get-Rid-of-Bats-Step-5.jpg\/v4-460px-Get-Rid-of-Bats-Step-5.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/d\/dd\/Get-Rid-of-Bats-Step-5.jpg\/v4-728px-Get-Rid-of-Bats-Step-5.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":344,"bigWidth":728,"bigHeight":545,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ฉีดตรงจุดที่ค้างคาวออกหากิน แต่ทำตอนกลางวันซึ่งเป็นเวลาที่ค้างคาวไม่อยู่
    โฆษณา

Mylar

  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/9\/90\/Get-Rid-of-Bats-Step-6.jpg\/v4-460px-Get-Rid-of-Bats-Step-6.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/9\/90\/Get-Rid-of-Bats-Step-6.jpg\/v4-728px-Get-Rid-of-Bats-Step-6.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":344,"bigWidth":728,"bigHeight":544,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    แขวนลูกโป่ง Mylar หรือแถบแผ่นฟอยล์บริเวณที่มันอยู่อาศัยแล้วปล่อยให้มันปลิวไปปลิวมา

สเปรย์น้ำ

  1. 1
    ใช้สเปรย์น้ำ.
    • ค้นหาว่าค้างคาวอยู่ที่ไหน เช่น ใต้เสา, ใต้ฐานยกสูง, ใต้จั่วหลังคา ฯลฯ ถ้าคุณเห็นมูลของมัน ก็แปลว่ามันอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ
    • นำสายยางมาฉีดน้ำบริเวณนั้น น้ำจะทำให้ค้างคาวออกไปแม้กระทั่งในเวลากลางวัน น้ำทำให้พวกมันกลัว แต่ไม่ได้ทำให้พวกมันบาดเจ็บ
    • ทำตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง. พวกมันอาจจะใช้เวลาสักพักที่จะเข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งรบกวนที่ซ้ำซาก แต่ก็ยังทนอยู่ต่อ ในที่สุดแล้วมันจะถอดใจและรู้ว่าหลังคาของคุณหรือไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม ไม่ใช่ที่ของมัน
    • ใช้บางอย่างในบริเวณนั้นที่ทำให้มันถอดใจหลังจากหลังจากการฉีดน้ำ เช่น ที่ไล่ค้างคาว หรือแถบ Mylar
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • อย่าพยายามที่จะจับค้างคาว. มันเป็นสิ่งที่ยากและมันอาจจะกัดคุณด้วย ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่มีอะไรมาการันตีเลยว่าคุณจะจับพวกมันได้ทั้งหมด บางตัวอาจจะซ่อนอยู่ในผนังหรือตามรอยแยกอื่นๆที่คุณไม่สามารถจับพวกมันได้
  • ช้อนค้างคาวตัวไหนก็ตามที่พบบนพื้นด้วยพลั่วหรือที่โกยผง. นำไปไว้ข้างนอก ถ้าคุณไม่ได้ทำมันหล่น มันก็อาจจะป่วย ค้างคาวเป็นพาหะของโรคพิษสุนัขบ้าเช่นเดียวกันกับสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ คุณควรจะระมัดระวังเมื่ออุ้มสัตว์ป่า “ใดๆ” ก็ตาม
  • อุปกรณ์อัลตร้าโซนิคใช้ไม่ได้ผลกับพวกค้างคาว
  • การสร้างบ้านค้างคาวไม่ทำให้พวกมันออกจากบ้านของคุณหรือตำแหน่งที่ไม่พึงประสงค์ แต่จะเป็นการให้ที่พักพิงแก่พวกมันเมื่อคุณอุดรูของอาคารแล้ว ดังนั้นพวกมันจะยังคงอยู่รอบๆบ้านของคุณและกินแมลงต่อไป [1]
  • วิธีกำจัดค้างคาววิธีเดียวที่ได้ผลและผ่านการพิสูจน์มาแล้วคือการไล่ออก. วิธีอื่นๆก็จะได้ผลแค่ชั่วคราวหรือไม่ได้ผลเลย [3]
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้ยาฆ่าแมลง. ค้างคาวบางสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ ในบางพื้นที่การใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดค้างคาวนั้นผิดกฎหมาย มันยังมีวิธีอื่นๆที่จะกำจัดมันและไม่ว่าพวกมันจะไปที่ไหน พวกมันก็จะกินแมลงรบกวนและแมลงศัตรูพืช แล้วก็จะบำรุงดินด้วยปุ๋ยขี้นก (มูลของพวกมัน)
  • การใช้ลูกเหม็นที่ได้ผลดีในตัวอาคาร จะต้องใช้ลูกเหม็นจำนวนมาก มากขนาดที่สารเคมีในลูกเหม็นคือแนฟทาลีนจะส่งผลเสียต่อร่างกายมนุษย์.
  • อย่าทำตามคำแนะนำเหล่านี้ในสหราชอาณาจักร [4] ในสหราชอาณาจักรค้างคาวเป็นสัตว์คุ้มครองและการรบกวนที่อยู่อาศัยและที่ขยายพันธุ์ของพวกมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย


โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

วิธีการ
ดูเพศไก่
วิธีการ
ระบุเพศเต่า
วิธีการ
ดูแลลูกหนู
วิธีการ
กำจัดจิ้งหรีด
วิธีการ
ช่วยหนูแฮมสเตอร์ที่มีขี้ตากรัง
วิธีการ
เลี้ยงดูลูกเป็ด
วิธีการ
เลี้ยงนกหงส์หยก
วิธีการ
รักษาแมวท้องผูก
วิธีการ
ดูว่าแมวตั้งท้องหรือยัง
วิธีการ
ให้อาหารนกแก้ว
วิธีการ
ดูว่าสุนัขตั้งครรภ์หรือไม่
วิธีการ
ทำกล่องเลี้ยงผึ้ง
วิธีการ
อาบน้ำให้แกสบี้
วิธีการ
เล่นกับปลากัด
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ↑ 1.0 1.1 1.2 http://www.batsnorthwest.org/bats_in_your_house.html
  2. ↑ http://www.asktheexterminator.com/wild_animals/How_to_Get_Rid_of_Bats.shtml
  3. ↑ http://www.howtoremovebats.com/how-to-get-rid-of-bats-four-step-guide/
  4. ↑ http://www.bats.org.uk/pages/bats_and_the_law.html
  5. A Plus Animal Solutions For Bat Removal

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

ในภาษาอื่น
มีการเข้าถึงหน้านี้ 83,953 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา