ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การให้อาหารนกแก้ว (ชื่อวิทยาศาสตร์ psittacine ) อย่างเหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้มันมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข ในความเป็นจริงแล้ว นกแก้วที่กินอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพจะปราดเปรียวและมีแนวโน้มว่าจะมีขนที่สวยกว่านกแก้วที่ขาดแคลนอาหารในบางพื้นที่ [1] คุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่านกแก้วนั้นชอบกินเมล็ดพืช แต่การให้นกกินเมล็ดพืชนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการให้อาหารนกแก้วที่ดีเท่านั้น การเข้าใจว่านกแก้วควรจะกินอาหารประเภทใดก็จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นในการเลือกอาหารเพื่อให้นกแก้วมีสุขภาพดี

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เรียนรู้ว่าควรให้นกแก้วกินอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารเม็ดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการให้อาหารนกแก้ว อาหารอัดเม็ดมีหลายสี หลายขนาด หรือแม้แต่หลายรสชาติ ที่แตกต่างกันไป [2] เพราะว่าอาหารอัดเม็ดนั้นทำมาจากผลไม้ ผัก ธัญพืช และเมล็ดพืช หลายๆ อย่างรวมกัน มันจึงมีคุณค่าทางอาหารสูง
    • เมื่อคุณเลือกอาหารเม็ดที่ร้านขายสินค้าสำหรับสัตวเลี้ยง ขอให้แน่ใจว่าได้อ่านส่วนผสมที่ฉลาก อย่าเลือกอาหารเม็ดที่มีสารกันเสียเยอะ [3]
    • เพราะว่าอาหารเม็ดนั้นมีหลากหลายแบบมาก ลองพูดคุยและปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อระบุได้ว่าอาหารเม็ดสูตรใดที่เหมาะสมกับนกแก้วของคุณที่สุด [4]
  2. แม้ว่าเมล็ดพืชไม่ควรเป็นอาหารหลักของนกแก้ว แต่มันก็ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อนกแก้ว เมล็ดพืชก็เหมือนกับอาหารเม็ดเพราะมีเมล็ดพืชมากมายหลายสูตรที่สามารถเลือกซื้อได้จากร้านขายสินค้าสำหรับสัตวเลี้ยง หากจะซื้อถุงที่มีเมล็ดหลายอย่างรวมกันนั้นก็ดี แต่คุณก็ควรซื้อถุงที่มีเมล็ดชนิดเดียวไว้ด้วยและนำมาผสมเอง [5]
    • เคยมีความเชื่อว่าเมล็ดทานตะวันนั้นจะทำให้นกแก้วเสพติด แต่จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องจริง [6]
    • ก่อนที่จะซื้อเมล็ดพืช ขอให้แน่ใจว่ามันเป็นเมล็ดที่สดใหม่ มันไม่ควรมีกลิ่นเหมือนราหรือเหม็นหืน และก็ควรปราศจากแมลงและเชื้อราด้วย เมล็ดพืชที่ดีนั้นควรจะเงา [7]
    • นกแก้วของคุณอาจจะชอบทานเมล็ดพืชที่มีต้นอ่อนหรือแตกหน่อ ในการทำให้เมล็ดแตกหน่อ ให้แช่เมล็ดจำนวนหนึ่งในน้ำสะอาดในตอนกลางคืน โดยเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิห้องหรือเก็บไว้ในตู้เย็น หลังจากผ่านไป 12-24 ชั่วโมง คุณจะเริ่มเห็นว่าเมล็ดมีปลายรากโผล่ออกมา ซึ่งหมายความว่าเมล็ดเหล่านี้แตกหน่อแล้ว ให้นำเมล็ดเหล่านี้ไปให้อาหารนกแก้ว [8]
    • สำหรับนกแก้วแล้ว เมล็ดพืชก็เหมือนกับลูกกวาดของคน มันเป็นขนมที่อร่อยแต่ก็ควรกินเป็นครั้งคราว คุณควรใช้เมล็ดพืชเป็นรางวัลถ้าคุณกำลังฝึกนกแก้ว [9]
  3. มีผักและผลไม้หลายประเภทที่คุณสามารถให้นกแก้วกินได้ เช่น แอปเปิ้ล บร็อคโคลี่ ผักคอลลาร์ด (Collard greens) และลูกพีช ไม่ว่าคุณจะเลือกผักผลไม้อะไร ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้น้ำล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนที่จะนำไปให้นกแก้วกิน [10] ขอให้ระลึกไว้ว่าผลไม้นั้นมีน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงไม่ควรให้เป็นอาหารที่นกแก้วกินโดยส่วนใหญ่ [11]
    • ระลึกไว้ว่าอาหารเม็ดนั้นก็มีส่วนผสมบางส่วนมาจากผลไม้ ดังนั้นนกแก้วของคุณนั้นจะได้รับสารอาหารจากอาหารเม็ดเหมือนกับที่ได้จากผลไม้ [12]
    • หั่นผักและผลไม้เป็นชิ้นเล็กเพื่อให้นกแก้วกินได้ง่าย
    • ผลไม้บางอย่างอาจจะทำให้มูลนกเป็นคราบ [13] แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล
  4. ถั่วเปลือกแข็งนั้นเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพของนกแก้ว มันมีโปรตีนและมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สูง แต่ขณะเดียวกันมันก็มีไขมันสูง เพราะว่ามันมีไขมันในปริมาณมาก คุณควรให้นกแก้วกินอย่างพอดีๆ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะให้นกแก้วกินถั่วเปลือกแข็งเป็นรางวัลเมื่อฝึกนกแก้วหรืออาจจะให้นกแก้วกินเป็นขนมในบางครั้งบางคราว [14]
    • ตัวอย่างของถั่วเปลือกแข็งที่คุณสามารถให้นกแก้วกินได้ เช่น ถั่วแมคคาเดเมีย วอลนัท พิสตาชิโอ และเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ [15]
    • ถั่วที่คุณให้นกแก้วกินไม่ควรมีเกลือ [16]
    • ถ้าเป็นไปได้ ไม่ต้องแกะเปลือกของถั่วออก นกแก้วป่าตามธรรมชาติมักจะใช้จงอยปากของมันกระเทาะเปลือกออก การไม่แกะเปลือกจะทำให้นกแก้วพยายามมากขึ้นเมื่อกินอาหาร ซึ่งก็เป็นการกระตุ้นที่ดีต่อร่างกายและจิตใจของมัน ขอให้ระลึกไว้ว่าการกระเทาะเปลือกเป็นพฤติกรรมที่นกแก้วสามารถเรียนรู้ได้ [17]
    • นกแก้วมาคอว์มักจะต้องกินถั่วและไขมันมากกว่านกแก้วสายพันธุ์อื่นๆ [18]
  5. ถั่วเมล็ดแห้งนั้นรวมถึง ถั่วฝัก ถั่วเมล็ดกลม ถั่วเมล็ดแบน ซึ่งมันมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ตัวอย่างของถั่วเมล็ดแห้งที่คุณสามารภให้นกแก้วกินได้ เช่น ถั่วดำ ถั่วเขียว และถั่วลูกไก่ เต้าหู้ก็เป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเมล็ดแห้งประเภทหนึ่งซึ่งคุณสามารถให้นกแก้วกินได้ถ้ามันชอบ จะให้นกแก้วกินถั่วเมล็ดแห้งแบบดิบหรือสุกก็ได้ [19]
    • ธัญพืชที่ควรให้นกแก้วกินควรเป็นธัญพืชโฮลเกรนเช่น ข้าวกล้องสุก พาสต้าโฮลเกรน และข้าวบาร์เลย์ [20] [21] ธัญพืชควรมีเกลือแค่เล็กน้อย [22]
  6. นกแก้วนั้นสามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร [23] ดังนั้นมันจึงสามารถกินเนื้อได้เช่นกัน เนื้อไก่นั้นเป็นเนื้อสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อนกแก้ว ขอให้แน่ใจว่าได้ทำให้เนื้อไก่สุกดีแล้วก่อนที่จะให้ให้นกแก้วกิน [24]
    • การให้นกแก้วกินเนื้อมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อไตของนกแก้วได้ ดังนั้นควรให้นกแก้วกินเนื้อสัตว์แต่น้อย [25]
  7. แม้ว่านกแก้วสามารถกินอาหารมนุษย์ได้หลากหลายมาก แต่ก็มีอาหารของมนุษย์บางอย่างที่ไม่ควรให้มันกิน เช่น อะโวคาโดและช็อคโกแลต ซึ่งมันสามารถเป็นพิษในนกแก้วได้และเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แอลกอฮอล์นั้นก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันเพราะมันจะเป็นพิษ [26] สำหรับคาเฟอีนนั้นก็ต้องหลีกเลี่ยงด้วย [27]
    • ถั่วลิสงนั้นไม่เหมาะที่จะนำมาเก็บไว้ (ในพื้นที่ที่มืดทึบและอุ่นชื้น) เพราะมันจะปล่อยสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษที่ผลิตจากเชื้อราประเภทหนึ่ง สารอะฟลาทอกซินนั้นเป็นอันตรายและสามารถทำให้นกแก้วถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นควร หลีกเลี่ยงการให้นกแก้วกินถั่วลิสง จะดีที่สุด
  8. นกแก้วควรมีน้ำสะอาดตั้งไว้ตลอดเวลา ขอให้ระลึกไว้ว่านกแก้วของคุณนั้นเป็นนักกินที่เลอะเทอะ ซึ่งหมายความว่าเศษอาหารอาจจะร่วงลงไปในน้ำ ให้เปลี่ยนชามน้ำ 2 ครั้งต่อวันหรือเมื่อไหร่ที่คุณเห็นว่ามีเศษอาหารในน้ำเป็นจำนวนมาก [28]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

เรียนรู้วิธีการให้อาหารนกแก้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จำนวนอาหารที่แน่นอนที่ควรให้นกแก้วนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นอายุ สายพันธุ์ และสภาพสุขภาพโดยรวม สัตวแพทย์จะให้แนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับปริมาณอาหารแต่ละส่วนที่นกแก้วควรกิน ในตอนเช้าและตอนเย็น ให้เมล็ดพืชและอาหารสดเล็กน้อย (ผักและผลไม้ เป็นต้น) รอประมาณ 1 ชั่วโมงและทิ้งอาหารที่เหลือไปเพื่อที่มันจะได้ไม่เสีย [29]
    • ให้นกแก้วกินเมล็ดพืชไม่มากเกิน 1-2 ช้อนชา
    • หลังจากที่มันกินเมล็ดและอาหารสดเสร็จแล้ว ให้มันกินอาหารเม็ด (แค่ตอนเช้าเท่านั้น) นกแก้วจะกินอาหารเม็ดเป็นขนมตลอดทั้งวันมากกว่าจะกินให้หมดทีเดียว ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องทิ้งอาหารเม็ดที่มันกินไม่หมดในตอนเช้า [30]
    • นกแก้วตัวเล็กๆ ควรกินอาหารเม็ด 1/4 ถ้วยต่อวัน นกแก้วสายพันธุ์ใหญ่อาจจะให้กินอาหารเม็ด 1/2 ถ้วยต่อวัน แทนที่จะใส่อาหารทั้งหมดไปในกรงของมันในคราวเดียว คุณสามารถเพิ่มอาหารเม็ดในปริมาณน้อยๆ ทีละครั้งได้ถ้าคุณสะดวก
    • อาหารอื่นๆ ก็ควรให้ในปริมาณน้อยๆ เช่น ถ้านกแก้วของคุณเป็นนกแก้วพันธุ์เล็ก มันอาจจะต้องกินผลไม้ประมาณ 1/2-1 ช้อนชา ผัก 1/2 ช้อน และโปรตีน 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถั่วเปลือกแข็งหรือเนื้อที่สุกแล้ว) ต่อวัน ถ้ามันเป็นกแก้วพันธุ์ใหญ่ มันอาจจะต้องกินผลไม้ 1 ช้อนโต๊ะ ผัก 1 ช้อน และโปรตีน 1.5 ช้อนโต๊ะ
  2. นกแก้วในป่าจะใช้เวลาอย่างมากในการหาอาหาร [31] คุณคงไม่อยากให้นกแก้วอิ่มแปล้หรือขี้เกียจตอนที่มันกินอาหาร ให้กระตุ้นให้มันมีความพยายามในการหาอาหารขึ้นนิดหน่อย เช่น โรยอาหารเม็ดและก้อนกรวดที่ถาดอาหารของมัน นี่จะทำให้มันต้องพยายามค้นหาอาหารเม็ดที่อยู่ปนกับก้อนกรวด
    • คุณสามารถใส่อาหารไว้ในของเล่นนก (Foraging toys) เพื่อให้นกเอาอาหารออกจากของเล่น ซึ่งมีขายที่ร้านค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงทั่วไป [32]
    • นกแก้วจะตื่นตัวและง่วนกับการพยายามที่จะกินอาหาร ซึ่งจะลดความเป็นไปได้ที่นกจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม [33]
  3. โรคอ้วนนั้นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนกแก้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันกินอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไป นกแก้วที่เป็นโรคอ้วนจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไขมันพอกตับ (Fatty liver disease) ซึ่งเป็นอาการที่ร้ายแรง ถ้าคุณสังเกตว่านกแก้วเริ่มดูจ้ำม่ำขึ้นมาเล็กน้อย ให้พามันไปหาสัตวแพทย์ การลดปริมาณอาหารที่ให้มันกินจะช่วยมันลดหน้ำหนัก แต่คุณก็ต้องแน่ใจว่านกแก้วยังคงได้ทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล
    • นกแก้วบางสายพันธุ์เช่น นกหงส์หยก นกค๊อคคาเทล และนกแก้วอเมซอน มีแนวโน้มอย่างยิ่งที่จะเป็นโรคอ้วนและโรคไขมันพอกตับ [34]
  4. วิตามินเอจะช่วยให้ร่างกายของนกแก้วต่อสู้กับอาการติดเชื้อ การขาดสารอาหารชนิดนี้พบได้ทั่วไปในนกและจะทำให้มันป่วยหนัก ระบบทางเดินหายใจของมันจะได้รับผลกระทบหากขาดวิตามินเอ ดังนั้นนกแก้วของคุณก็อาจจะมีปัญหาที่ระบบทางเดินหายใจ (มีน้ำมูก หายใจลำบาก และจาม) ถ้ามันไม่ได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอ [35] ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ให้พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษา
    • การขาดวิตามินเอนั้นจะส่งผลต่อไตและอวัยวะในการย่อยอาหารของนกแก้ว [36]
    • หากคุณให้นกแก้วกินอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล มันก็จะได้รับวิตามินเออย่างเพียงพอที่จะทำให้มันมีสุขภาพดี [37]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปรึกษากับสัตวแพทย์ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าอาหารของมนุษย์อะไรบ้างที่ดีต่อนกแก้ว
  • คำแนะนำในการให้อาหารนกแก้วนั้นแตกต่างกันไปในเรื่องของสัดส่วนของอาหารแต่ละประเภทที่นกแก้วควรกิน เช่น คำแนะนำหนึ่งบอกว่าอาหารเม็ดควรเป็นอาหารหลัก 80% ของอาหารนกแก้ว [38] แต่อีกคำแนะนำหนึ่งบอกว่าอาหารเม็ดนั้นควรมีปริมาณแค่ 25% ของอาหารนกแก้ว [39] สัตวแพทย์จะช่วยคุณกำหนดปริมาณที่สมดุลของอาหารประเภทต่างๆ ที่ดีที่สุดสำหรับนกแก้วของคุณ
โฆษณา
  1. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  2. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  3. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  4. http://www.parrothelp.com/page1/page2/page2.html
  5. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  6. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  7. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  8. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  9. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  10. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  11. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  12. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  13. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  14. http://www.livescience.com/28071-parrots.html
  15. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  16. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  17. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  18. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  19. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  20. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  21. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm
  22. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  23. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  24. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  25. http://www.petplace.com/article/birds/general/feeding-your-bird/the-best-foods-to-feed-your-parrot
  26. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  27. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  28. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  29. http://www.veterinarypartner.com/Content.plx?P=A&C=5&A=3148&S=0
  30. http://www.petuniversity.com/birds/parrots-and-parakeets/feeding-parrots.htm

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 104,414 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา