ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

นกหงส์หยก หรือ Parakeets นั้นเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกตัวที่คนนิยมเลี้ยง เพราะนอกจากจะน่ารัก ร่าเริง แล้วยังสีขนสวยสดใส แถมร้องเจื้อยแจ้วอีกต่างหาก นกหงส์หยกที่คนนิยมเลี้ยงกันนั้น อยู่ในตระกูล Melopsittacus undulatus ถือเป็นนกแก้วพันธุ์เล็ก หางยาว ที่กินเมล็ดพืชเป็นอาหาร ปกตินกหงส์หยกเลี้ยงค่อนข้างง่ายอยู่แล้ว ขอแค่รักษาความสะอาดกรงให้ดี เลือกอาหารให้เหมาะสม หมั่นพูดคุยเล่นด้วย และหากิจกรรมมาฝึกสมองเป็นประจำ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เลือกนกที่ใช่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คิดก่อน ว่าอยากเลี้ยงพันธุ์ยอดนิยมอย่าง Budgerigar แต่ถ้าไม่ ก็ยังมีให้เลือกอีกเป็น 100 พันธุ์. อย่าง Alexandrine, Indian Ringneck, Black-tailed หรือลองศึกษาดูว่าพันธุ์ที่หาง่ายหน่อยในไทยมีพันธุ์อะไรบ้าง เพราะอย่างนกหงส์หยก Budgerigars หรือชื่อเล่นน่ารักๆ ว่านก Budgies นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ออสเตรเลีย สำหรับคนออสเตรเลียเลยถือว่าหาง่ายราคาเป็นมิตร ส่วนนกหงส์หยกพันธุ์อื่นๆ ก็มาจากทั้งอเมริกาใต้ แอฟริกา และบางพื้นที่ของเอเชีย แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกก็เลี้ยงนกหงส์หยกได้ทั้งนั้น ขอแค่เลือกอุปกรณ์ให้ถูกต้องและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้น้องนก (อย่าลืมของเล่นด้วยนะ)
  2. ก็เหมือนเวลาจะเลือกสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นนั่นแหละ คุณต้องแน่ใจว่าได้ซื้อหาจากฟาร์มหรือผู้เพาะพันธุ์ที่มีประสบการณ์ น่าเชื่อถือ สมัยนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คืออ่านรีวิวในเว็บต่างๆ ว่าคนที่เขาเคยซื้อไปเขารู้สึกยังไง ถ้ายังไงลองแวะไปเยี่ยมชมสถานที่จริงก่อนก็ได้ ว่านกแต่ละตัวเป็นยังไง เลี้ยงอยู่ในที่ที่สะอาด อากาศถ่ายเทดีไหม กว้างขวางดีหรือเปล่า ที่สำคัญคือนกต้องดูสงบ สบายใจ สุขภาพดีด้วย
    • นกต้องไม่เกาะคอนแออัดอยู่ในกรงเดียวมากเกินไป และสังเกตด้วยว่าคนเลี้ยงให้อาหารที่สะอาด คุณภาพดีกับนกหรือเปล่า รวมถึงให้ผักผลไม้เสริมด้วย และต้องใส่กระดูกวัวควายหรือแร่ธาตุบำรุงนก (mineral block) ไว้ในกรงด้วย พวกนี้แหละอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพของนก
  3. บริเวณ cere (แผ่นหนังหุ้มโคนจะงอยปาก) ไม่ควรแห้งตกสะเก็ด และเช็คว่า vent สะอาดดี vent ที่ว่าก็คือรูก้นที่นกใช้ขับถ่ายนั่นแหละ ถ้ารูก้นสกปรกก็แสดงว่านกอาจมีปัญหาเรื่องย่อยอาหารนั่นเอง [1] อย่าเลือกนกที่ท่าทางเฉื่อยชา หรือไม่ยอมขยับไปไหน จุกอยู่แต่ที่พื้นกรง
    • นกต้องดูมีความสุข ปราดเปรียวว่องไว และสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ทางที่ดีคุณควรแวะไปดูนกในหลายช่วงเวลาของวัน จะได้รู้พฤติกรรมของนกที่แท้จริง เพราะที่เห็นซึมๆ หรือมึนๆ นกอาจจะแค่เพิ่งงีบมาก็ได้
  4. นกหงส์หยกชอบเข้าสังคม เลยมีความสุขถ้าถูกเลี้ยงเป็นคู่หรือเป็นฝูง แต่จะเลี้ยงตัวเดียวก็ไม่ว่ากัน ขอแค่คุณมีเวลาคุยเล่นกับนกทุกวัน นกจะได้ไม่เหงา [2]
    • แต่ถ้าคุณอยากเลี้ยงนกหลายตัวไว้ในกรงเดียว ก็ต้องเลี้ยงเฉพาะนกหงส์หยกด้วยกันเท่านั้น อย่าไปเลี้ยงรวมกับนกพันธุ์อื่น
  5. ถึงนกหงส์หยกตัวใหม่ของคุณจะดูแข็งแรงดีก็ต้องตรวจ เพราะปกตินกจะไม่แสดงอาการหรอกจนกว่าจะป่วยหนักเข้าขั้น เพราะงั้นได้นกตัวใหม่มาเมื่อไหร่ ให้รีบพาไปตรวจร่างกายกับคุณหมอเป็นอันดับแรก ส่วนใหญ่คุณหมอจะตรวจหาโรคนกแก้ว หรือ psittacosis ซึ่งเป็นแบคทีเรียร้ายที่อาจติดต่อลามไปถึงตัวคุณและครอบครัวได้ นอกจากนี้ก็ตรวจหาทั้งเห็บหมัดและพยาธิต่างๆ หรือเชื้อรา เช่น Macrorhabdus และแบคทีเรียชนิดต่างๆ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

จัดเตรียมกรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กรงควรมีขนาดอย่างต่ำ 18 x 24 x 24 นิ้ว แต่จริงๆ แล้วถ้าหาใหญ่สุดได้แค่ไหนก็เอาอันนั้นแหละ ขอให้เน้น "ความกว้าง" ของกรงเข้าไว้ ไม่ใช่ความสูง เพราะนกหงส์หยกจะบินไปข้างหน้ามากกว่าจะบินขึ้นข้างบน [3]
  2. ใช้กรงสแตนเลสหรือกรงที่ไม่ชุบสังกะสี (non-galvanized). ควรเลือกกรงที่ทำจากสแตนเลส เพราะโลหะอื่นอย่างสังกะสี ทองเหลือง หรือตะกั่วนั้นเป็นอันตรายต่อนกหงส์หยก รวมถึงห้ามใช้กรงขึ้นสนิมหรือกรงที่สีลอกเด็ดขาด อย่าใช้กรงทรงกลมด้วย เพราะที่ไม่กว้างพอให้นกหงส์หยกบินเล่น แถมเท้าเล็กๆ ของนกหงส์หยกอาจบาดเจ็บเพราะซี่กรงที่แคบเข้าไปด้านบน [4] [5]
  3. นกหงส์หยกชอบปีนป่ายเป็นชีวิตจิตใจ เพราะงั้นคุณควรเลือกกรงที่มีซี่กรงแนวนอน นกจะได้ใช้เกาะและกระโดดหยองแหยงขึ้นไปได้ แต่ขอให้ระยะห่างระหว่างแต่ละซี่กรงไม่เกินครึ่งนิ้ว นกจะได้ไม่เสี่ยงเอาหัวเข้าไปติด [6]
  4. ปูพื้นกรงด้วยกระดาษทิชชู่แบบที่ใช้ในครัวหรือกระดาษถ่ายเอกสารก็ได้ แต่ห้ามใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ พอเริ่มเลอะเทอะไปด้วยขี้นกและสิ่งสกปรกต่างๆ ก็ให้เอาทิ้งแล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่ [7]
  5. ต้องมีชามอาหารและกระบอกให้น้ำสำหรับนก ยึดไว้กับลูกกรงที่เหนือพื้นกรงขึ้นไป นกจะได้ไม่เผลอชนหกเลอะเทอะหรือมีขี้นกปนลงไป [8]
    • ถ้าคุณเลี้ยงนกหงส์หยกหลายตัวไว้ในกรงเดียวกัน ก็ต้องมีชามอาหารแยกกันไปเลย นกตัวหัวโจกจะได้ไม่ไล่เพื่อนแล้วกินอาหารตัวเดียว [9]
  6. คอนที่ปลอดภัยที่สุด คือคอนจากกิ่งของไม้ผลตามธรรมชาติ ให้เลือกที่เส้นผ่านศูนย์กลางของกิ่งไม้ใหญ่พอที่นกเกาะแล้วกรงเล็บไม้โอบรอบหรือซ้อนทับกัน ซึ่งก็คือประมาณ 3/8 นิ้วนั่นเอง ไม้ผลที่แนะนำก็เช่น ต้นแอปเปิ้ล ต้นพลัม ต้นแพร์ หรือต้นเชอร์รี่ เพราะถ้านกจิกกินก็ปลอดภัยหายห่วง แถมยังเป็นที่ลับเล็บตามธรรมชาติให้นกอีกด้วย [10]
    • คอนไม้แบบใช้เดือยยึดที่มักติดมากับกรงนั้นบอกเลยว่าไม่ได้เรื่อง นอกจากเส้นผ่านศูนย์กลางจะเล็กเกินไปจนนกเกาะไม่ถนัดแล้ว นกยังใช้ฝนเล็บไม่ได้อีกต่างหาก [11]
  7. นกหงส์หยกนั้นร่าเริงสดใสแถมยังอยากรู้อยากเห็น ต้องหากิจกรรมมาลับสมองบ่อยๆ ลองหาของเล่นมาใส่ในกรงดู นกจะได้ไม่เบื่อ ของเล่นชิ้นโปรดของนกหงส์หยกก็เช่น กระจก กระดิ่ง หรือบันไดไว้ให้ปีนขึ้นปีนลง [12]
    • เลือกของเล่นที่สนุกสนานแถมได้ออกกำลังกาย บอกเลยว่าถ้านกหงส์หยกเบื่อขึ้นมาเมื่อไหร่ เป็นได้ร้องโวยวายแน่นอน
  8. นกจะได้ไม่เหงา เห็นคนเดินไปเดินมา แต่นกหงส์หยกจะสบายใจ รู้สึกปลอดภัย ก็ต่อเมื่อมีมุมสงบของตัวเองเหมือนกัน เพราะฉะนั้นให้วางกรงด้านหนึ่งชิดติดผนัง (นกจะได้ไม่หวาดผวาเวลากรงโล่งโจ้งทุกด้าน) ระวังอย่าวางกรงนกข้างหน้าต่างหรือประตู เพราะนกจะโดนแดดโดนลมโดยตรง เดี๋ยวนกจะป่วยได้เพราะนกหงส์หยกนั้นไวต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงมากเลย [13]
    • ห้ามวางกรงนกไว้ในครัวเด็ดขาด [14] เพราะควันจากการทำอาหารด้วยน้ำมัน กระทั่งเศษเทฟลอนเคลือบกระทะที่หลุดลอก ก็เป็นพิษกับนกหงส์หยกด้วยกันทั้งนั้น ทำเอานกป่วยหนักได้เลย [15]
  9. แค่เปลี่ยนกระดาษรองกรงนั้นไม่พอ ต้องหมั่นล้างซี่กรงด้วยน้ำกับสบู่ โดยเฉพาะหลังจากติดชามอาหารกับลูกกรงแล้ว
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ดูแลประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงนกหงส์หยกตามธรรมชาติจะกินเมล็ดพืชเป็นอาหาร แต่นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งของการติดเชื้อแบคทีเรีย จนนกอาจสุขภาพย่ำแย่ถึงขั้นอายุสั้น นานๆ ไปแบคทีเรียจะสะสมจนร่างกายนกรับไม่ไหว ปรับอาหารเม็ดให้เป็น 60 - 70% ของอาหารนกทั้งหมดจะดีที่สุด นกแต่ละตัวก็ปรับตัวยอมกินอาหารเม็ดช้าเร็วต่างกันไป แรกๆ บางตัวอาจไม่ยอมกินจนอาละวาดก็มี แต่รับรองว่านกหงส์หยก 90% จะหันมากินอาหารเม็ดใน 2 อาทิตย์ แค่ลองทำตามวิธีนี้ดู
    • ให้นกกินเมล็ดพืชแค่ 1 ชั่วโมงตอนเช้า และอีก 1 ชั่วโมงตอนเย็น
    • ตลอดวันหลังจากนั้นให้กินแต่อาหารเม็ด
    • ปกตินกหงส์หยก 10% ที่พอผ่านไป 2 อาทิตย์แล้วยังไม่ยอมกินอาหารเม็ด จะเปลี่ยนมากินได้หลังจากทำตามวิธีนี้ไม่นาน
  2. นอกจากเสริมด้วยเมล็ดพืชแล้ว ก็ต้องให้นกกินผักผลไม้สดๆ ด้วย เช่น ผักเคลหรือคะน้า หัวบีท ถั่วลันเตา แครอท พาร์สลีย์ มันเทศปรุงสุก แอปเปิ้ลฝาน ส้มแมนดาริน และผลไม้รสเปรี้ยว เป็นต้น พยายามให้อาหารนกให้หลากหลาย อย่าให้อาหารสดชนิดเดิม 2 วันติดกัน นกจะได้ไม่รับสารอาหารบางชนิดเยอะเกินปกติจากการกินอาหารเมนูเดิมเยอะเกินไป [16]
    • ลองเอาชิ้นแอปเปิ้ลหรือแครอทเสียบไว้ตามลูกกรงดู นกจะได้จิกกิน ส่วนผักผลไม้ชิ้นใหญ่ๆ ก็ให้หั่นหรือเอาใส่เครื่องผสมอาหารก่อน แล้วค่อยเอาไปเทใส่ชามอาหารของนก
    • ผักผลไม้สดส่วนใหญ่ปลอดภัยสำหรับนกหงส์หยก "ยกเว้น" อะโวคาโด มะเขือม่วง เมล็ดแอปเปิ้ล รูบาร์บ ใบมะเขือเทศ และใบมันฝรั่ง อาหารต้องห้ามอย่างต่อมาก็คือคาเฟอีน ช็อคโกแลต และแอลกอฮอล์ [17]
  3. วิธีช่วยนกทำความคุ้นเคยกับคุณและบ้านใหม่ในช่วงแรก ก็คือคอยดูแลกรง เปลี่ยนอาหารและน้ำให้เป็นประจำ ทำซ้ำๆ จนนกเริ่มคุ้นเคยกับคุณแล้วค่อยคิดฝึกทริคต่างๆ อย่างการเกาะนิ้วคุณต่อไป
  4. ช่อข้าวฟ่าง (Millet sprigs) หรือที่เรียกว่า "sprays" นี่แหละขนมโปรดของนกหงส์หยก แต่ก็อย่าให้เยอะเกินไปนะ (ประมาณ 1/2 นิ้วต่อวันก็พอ) เพราะทำนกอ้วนได้เหมือนอาหารขยะของคน พวกขนมหวานนี่ห้ามเลย หรือข้าวโอ้ตมากเกินไปก็ไม่ดี เพราะตัวอ้วนเลยทั้ง 2 อย่าง
    • ช่อข้าวฟ่างนี่แหละ หนึ่งในสุดยอดอุปกรณ์ใช้ฝึกนกให้เกาะบนนิ้วคุณได้
  5. นกหงส์หยกขี้เหงา เพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวใช้เวลากับนกอย่างน้อย 90 นาทีต่อวันได้เลย แต่ไม่จำเป็นต้อง 90 นาทีรวดเดียวเลยนะ หมั่นแวะมาคุยหรือเล่นกับนกบ่อยๆ ตลอดวันก็ได้แล้ว รู้ไหมว่าคุณก็ฝึกนกหงส์หยกด้วย clicker แบบหมาได้ ถือเป็นกิจกรรมแสนสนุกที่ใช้กระตุ้นสมองนกได้อย่างดี แถมช่วยผูกสัมพันธ์ระหว่างนกกับคุณ
    • ถ้าคุณปล่อยนกไว้ตัวเดียว ไม่สนใจ นกหงส์หยกจะเบื่อจนเลิกสนใจคุณด้วยเหมือนกัน ถ้าเลี้ยงเป็นคู่ นกหงส์หยกมักจะสนิทสนมกันเอง (ไม่ว่าเพศไหน) จนลืมสนใจคุณ แต่ถ้าคุณหมั่นมาคุยเล่นด้วยบ่อยๆ นกก็จะมองคุณเป็นส่วนหนึ่งของฝูงเอง
    • กิจกรรมกระชับมิตรที่น่าสนใจก็เช่น ร้องเพลงด้วยกัน อาบน้ำให้นก และถ้านกชอบทำของเล่นหล่นบ่อยๆ ก็คอยหยิบคืนให้นก ดีไม่ดีนั่นอาจเป็นเพราะนกพยายามเล่นกับคุณก็ได้
    • บางทีนกหงส์หยกก็เหงาซึมขึ้นมา แต่แค่คุณเข้าไปคุยเล่นด้วย นกก็มีความสุขขึ้นมาแล้ว
    • ถ้าอยากให้นกปีนขึ้นมาเกาะนิ้วของคุณ ให้เอานิ้วดันตรงท้องของนกนิดๆ แล้วบอกว่า "ขึ้นมา" ถ้าคุณพูดซ้ำเรื่อยๆ นกจะเริ่มทวนคำพูดของคุณ แล้วกระโดด "ขึ้นมา" บนนิ้ว ทุกครั้งที่นกพูดคำนี้ออกมา ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่นกเกาะที่ขอบหรือบันได
  6. ถึงกรงจะใหญ่พอให้นกบินเล่นได้ แต่ก็ควรปล่อยฟรีให้นกบินนอกกรงวันละครั้ง แต่แน่นอนว่าคุณต้องเคลียร์ห้องซะก่อน เก็บให้หมดพวกของอันตราย และปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด จุดเทียนไว้ให้รีบดับ และอื่นๆ ที่คุณต้องคอยสังเกตให้ดี ตอนเรียกนกกลับเข้ากรงนี่แหละ ที่น่าจะลองฝึกหรือทดสอบออกคำสั่งกับนกด้วยคลิกเกอร์ดู
    • คุณอาจมองข้ามอันตรายบางอย่างได้ เพราะฉะนั้นย้ำอีกทีว่าก่อนปล่อยนกออกจากกรง นอกจากปิดประตูหน้าต่างแล้ว ให้เกิดพวกของแวววาวแต่อันตรายไปให้หมด เช่น มีดในครัว อย่าลืมปิดพัดลม ถ้ามีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่อย่าเผลอวางนกไว้ที่พื้น (หรือเลือกห้องที่ไม่มีเด็กและสัตว์) เป็นต้น ยิ่งปลอดภัยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
  7. ปกตินกหงส์หยกจะนอนหลับตอนกลางคืน ประมาณ 10 ชั่วโมงต่อวัน แต่ระหว่างวันก็มีงีบบ้างเหมือนกัน ตอนที่นกกำลังนอนอย่าส่งเสียงดัง แต่ถ้าเสียงเพลงหรือเสียงทีวีคลอเบาๆ นี่ไม่เป็นไร
    • ตอนกลางคืนที่กำลังหลับพักผ่อน นกหงส์หยกชอบกรงปิดทึบเพราะรู้สึกปลอดภัยดี เพราะงั้นให้ใช้ผ้าเช็ดตัวหรือปลอกหมอนคลุมกรง
  8. นกหงส์หยกไม่ถูกกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ถ้าเป็นอุณหภูมิห้องปกติในบ้านแบบนี้ไม่เป็นไร แต่อย่าลืมว่ามุมหนึ่งของกรงต้องมีร่มเงาให้พอหลบได้ และอย่าปล่อยให้อุณหภูมิห้องสูงเกินกว่า 27 องศา ที่สำคัญคือห้ามวางกรงโดนแดดโดยตรงเด็ดขาด
  9. เลี้ยงนกหงส์หยกน่ะบางทีก็งานรัดตัว แต่รับรองว่าคุณจะได้ผลตอบแทนเป็นน้องนกคู่หูคู่ฮาแสนน่ารักแน่นอน นกหงส์หยกส่วนใหญ่นานๆ ไปจะพูดตอบได้ แต่จะพูดได้มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่การทุ่มเทฝึกฝนของคุณด้วย สรุปคือถ้าคิดเลี้ยงนกหงส์หยกก็ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจดูแลเอาใจใส่ประจำวัน รวมถึงหมั่นคุยเล่นอย่าให้ขาด แต่ถ้ามองเป็นภาระ ก็เลือกทำงานอดิเรกแนวอื่นจะดีกว่า
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณไม่ค่อยอยู่บ้าน ต้องหาเพื่อนทิ้งไว้ให้นก ไม่งั้นล่ะเหงาแย่ อย่าลืมว่านกหงส์หยกชอบสมาคมกับคนอื่นเขา แถมปกตินกหงส์หยกตามธรรมชาติก็อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ เพราะงั้นถ้าคิดจะเลี้ยงนกพันธุ์นี้ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย ถ้าคุณไม่อยู่จะเปิดเพลงให้นกฟังแทนก็ได้ ประมาณว่าตั้งเวลาปิดเปิดไว้ เพลงคลอเบาๆ นี่แหละช่วยลดความเครียดให้นกที่ต้องเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางได้ดี
  • เติมเมล็ดพืชในถ้วยอาหารอย่าให้เต็ม แค่พอปิดก้นถ้วย จะได้เป็นการคุมอาหารนกหงส์หยกไปในตัว และไม่มีอาหารเหลือทิ้งเยอะเกินไป แถมวิธีนี้นกหงส์หยกจะได้ไม่ต้องใช้จะงอยปากคุ้ยเขี่ยจนอาหารหกเลอะเทอะ
  • ได้นกตัวใหม่มาให้รีบพาไปหาหมอเพื่อตรวจเช็คร่างกาย จะได้รู้สุขภาพพื้นฐานของนก จากนั้นพาไปตรวจซ้ำอย่างน้อยปีละครั้ง แยกนกใหม่จากนกเก่าก่อน จนกว่าจะแน่ใจว่านกใหม่ไม่มีโรค แบบนี้เผื่อนกใหม่ป่วยเป็นอะไร นกเก่าจะได้ไม่ติดไปด้วย
  • อย่าให้นกมองออกไปนอกหน้าต่าง เพราะนกจะนึกว่าบินออกไปได้ แต่จะชนกรงหรือกระจกแทน ทีนี้ล่ะเจ็บตัว
  • "อาหารเม็ด (pellets)" ของนกหงส์หยกมีหลายแบบด้วยกัน รสชาติก็แตกต่างกันไป คุณอาจต้องให้นกลองกินดูหลายๆ แบบ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอยี่ห้อที่นกชอบ อาหารเม็ดบางชนิดก็เป็นแท่งๆ เหมือนอาหารกระต่าย บางทีก็กลมๆ เหมือนเมล็ดพืช บางทีก็เป็นผง หรือแบบเป็นชิ้นๆ เศษๆ ก็มี สรุปแล้วก็หลายหน้าตาหลายขนาดด้วยกัน คุณสามารถบดอาหารเม็ดใหญ่ให้กลายเป็นเศษ หรือถึงขั้นเป็นผงก็ได้ เพื่อดูว่านกของคุณชอบแบบไหนกันแน่
  • คุณจะติดตาข่ายเชือกไว้ที่หน้าต่างก็ได้ และ/หรือหา playpen หรือสนามเด็กเล่นสำหรับนกมาให้ ไม่ก็ซื้อหรือสร้างอะไรไว้ให้นกปีนป่ายเล่นนอกกรง แต่ที่ดีที่สุดคือ play gym หรือเครื่องเล่นสำหรับนกนี่แหละ นกจะได้มีอะไรทำตอนคุณยุ่ง แต่หมายถึงคุณทำอะไรของคุณไปในห้องเดียวกันนะ ห้ามปล่อยนกเล่นเครื่องเล่นตัวเดียวในห้องเด็ดขาด
  • เล็มขนปีกไม่ให้นกบินหนีไปได้ แต่ต้องระวังเรื่อง blood feathers คือขนอ่อนที่เห็นเลือดอยู่ภายใน คุณเลี่ยงได้โดยเล็มแค่ 3 - 5 เส้นที่ปลายปีก แต่นกจะยังบินต่อได้อีกช่วงสั้นๆ เพราะงั้นนกจะยังบินขึ้นไปเกาะคอนในกรงได้อยู่ พอเริ่มคมให้ตัดเล็บของนกด้วย ส่วนจะงอยปากก็ลับได้ด้วยตะไบเล็บ เหล่านี้ให้ลองปรึกษาคุณหมอก่อนจะดีที่สุด
  • อย่าเปิดเพลงเสียงดังเกินไป หรือเคลื่อนไหวรวดเร็ว เดี๋ยวนกจะกลัว
  • ห้ามปล่อยนกหงส์หยกออกนอกบ้านเด็ดขาด
  • ถ้ามีนกหงส์หยกตัวใหม่ อย่าเพิ่งไปไหนไกลๆ แล้วทิ้งนกไว้ให้คนอื่นดูแลเด็ดขาด เพราะนกจะเหมาเอาเองว่าคนที่คอยดูแลนั่นแหละเจ้าของ
  • จะพานกหงส์หยกออกนอกบ้านต้องใส่ไว้ในกรงเสมอ
  • ห้ามเอาอะไรจิ้มหรือทิ่มนกหงส์หยกเด็ดขาด
โฆษณา

คำเตือน

  • ยางของต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบนั้นส่วนใหญ่เป็นพิษต่อนกในเขตร้อนหลายพันธุ์ เพราะงั้นถ้าคุณมีพวงมาลัยสดหรือต้นไม้ในบ้าน ก็ให้จัดวางกรงนกไว้ในห้องอื่นที่ไกลจากกลิ่นของต้นไม้พวกนี้ ช่วงคริสต์มาสใครประดับตกแต่งต้นไม้ในบ้านซะจนวิบวับก็ต้องระวังล่อตาล่อใจนกเหมือนกัน
  • เช็คดูให้ดีว่าต้นไม้ในบ้านของคุณไม่เข้าข่ายเป็นพิษต่อนกหงส์หยก รวมถึงพืชหรือกิ่งไม้ที่ใส่ไว้ในกรงด้วย บอกเลยว่ารายชื่อยาวเป็นหางว่าว!
  • นกส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการเจ็บป่วย เพราะไม่อยากดูอ่อนแอจนตกเป็นเหยื่อของนักล่า เพราะงั้นเจ้าของอย่างคุณต้องคอยสังเกตให้ดี ว่านกมีพฤติกรรมไหนแปลกไปหรือเปล่า เช่น เฉื่อยชาผิดปกติ เป็นต้น ถ้านกแสดงอาการป่วยชัดเจนละก็ แปลว่าป่วยหนักและอาจป่วยมาพักหนึ่งแล้ว ให้รีบพาไปหาหมอด่วน นกนั้นระบบการเผาผลาญเร็วกว่าคน เพราะฉะนั้นอาการจะทรุดลงได้อย่างรวดเร็วถ้าคุณไม่ดูแลอย่างเหมาะสม สำคัญที่สุดคือคุณต้องจับอาการและดูแลรักษาให้ทันท่วงที
  • ห้ามให้นกหงส์หยกกินช็อคโกแลต อะโวคาโด กาแฟ แอลกอฮอล์ หรือเกลือเด็ดขาด เพราะเป็นพิษต่อนกตระกูลนกแก้วทั้งนั้น
  • ถ้าคุณอาบน้ำให้นก หรือให้นกเล่นน้ำ เสร็จแล้วต้องคอยเช็ดตัวให้แห้ง อีกเรื่องที่น่าจะรู้ๆ กันอยู่ก็คืออย่าให้นกอาบน้ำหรือแช่น้ำหลัง 1 ทุ่มเป็นต้นไป เพราะนกจะได้ตัวแห้งสนิททันก่อนนอน
  • อย่าให้มีแมวหรือหมามาเพ่นพ่านใกล้ๆ นก ถึงจะเชื่องแค่ไหนก็ตาม เพราะส่วนใหญ่จะเผลองับหรือกินนกเข้าไปทั้งนั้น ช่วยไม่ได้ ก็เป็นสัญชาตญาณสัตว์นักล่านี่นา
  • ห้ามเผลอเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เด็ดขาดเวลาปล่อยนกออกมานอกกรง ไม่งั้นล่ะบินหายไปแน่
  • อย่ากังวลไปถ้านกตัวใดตัวหนึ่งของคุณหายเข้าไปในรังหรือบ้านนก (nesting house) แสดงว่านกจะวางไข่แล้วล่ะ ถ้าใช่หรือคิดว่าใช่ ระหว่างนั้นก็อย่าไปรบกวน เพราะเดี๋ยวไข่จะแตกหรือเป็นอันตรายกับลูกนกได้
  • นกเขตร้อนตามธรรมชาติจะใช้เวลาส่วนใหญ่หลบร้อนตามเงาไม้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมจัดมุมร่มๆ สงบๆ ในกรงไว้ให้นกหลบแดดด้วย ที่สำคัญคืออย่าไปวางกรงนกกลางแดด โดยเฉพาะในวันที่ร้อนจัด
  • กันไว้ก่อนเรื่องนกบินหนี เช่น เล็มขนปีก หรือเลี้ยงนกเป็นคู่หรือเป็นฝูง รวมถึงติดมู่ลี่ที่กระจกประตูหน้าต่าง และคอยเฝ้าระวังวางแผนรับมืออยู่ตลอดด้วย เพราะถ้านกหลุดหรือบินหนีออกไปจากบ้านจริงๆ รับรองว่าตายหยังเขียดทั้งจากความสับสนวุ่นวายและอันตรายต่างๆ
  • ปกติหลังเก็บเกี่ยว เมล็ดพืชจะถูกเก็บในไซโล จนบางทีก็มีหนูมาแอบกินแล้วขี้ใส่ ถึงจะล้างทำความสะอาดทีหลังก็อาจยังมีเชื้อแบคทีเรียหลงเหลืออยู่ได้ ซึ่งแช่แข็งหรือผ่านไมโครเวฟก็ฆ่าไม่ตาย
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำสะอาด
  • ของเล่น
  • อาหารนก
  • กระดูกวัวควาย
  • แร่ธาตุแบบก้อน (Mineral block)
  • กรงนก
  • ช่อข้าวฟ่าง หรือ Millet spray (สำคัญสำหรับการฝึกนกหงส์หยกให้บินหรือกระโดดขึ้นมาเกาะบนนิ้วของคุณ)

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://pets.thenest.com/mean-budgie-vent-dirty-10970.html
  2. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  3. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  4. http://www.parakeetcare.org/parakeet-cages.php# .VOkkHlPF8Yc
  5. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  6. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  7. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  8. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  9. http://www.parakeetcare.org/parakeet-cages.php#.VOkkHlPF8Yc
  1. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  2. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  3. Wolter, Annette. The Complete Book of Parakeet Care. N.p.: Barron's, 1994. Print.
  4. http://www.parakeetcare.org/parakeet-cages.php# .VOkkHlPF8Yc
  5. http://www.parakeetcare.org/parakeet-cages.php#.VOkkHlPF8Yc
  6. Coles, B. H. Essentials of Avian Medicine and Surgery. Oxford, UK: Blackwell Pub., 2007. Print.
  7. Coles, B. H. Essentials of Avian Medicine and Surgery. Oxford, UK: Blackwell Pub., 2007. Print.
  8. Coles, B. H. Essentials of Avian Medicine and Surgery. Oxford, UK: Blackwell Pub., 2007. Print.

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 180,112 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา