PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ทั้งซากแมลง ยางไม้ และยางมะตอยที่กระเด็นติดรถ สามารถกัดสีให้ลอกได้เลย จนทิ้งร่องรอยไม่น่าดูไว้ แถมถ้าติดกระจกก็ส่งผลต่อทัศนวิสัยด้วย โชคดีที่ทั้ง 3 อย่างนี้ขจัดออกไม่ยาก ไม่ต้องเปลืองแรงหรือลงทุนมาก ลองอ่านขั้นตอนที่ 1 ของบทความนี้ดู ว่าต้องขจัดคราบและเศษสิ่งสกปรกเหนียวติด ให้รถสะอาดเงาวับเหมือนใหม่ได้ยังไง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

กำจัดซากแมลง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. "น้ำ" จากซากแมลงพอแห้งแล้วจะเกาะติดสีรถ ถ้าทิ้งไว้นานเกินไป จะทำความสะอาดได้ยากมาก สุดท้ายสีอาจจะลอกติดซากแมลงมาด้วย
  2. ถ้าขับรถทางไกลมา หรือขับออกต่างจังหวัดจนซากแมลงเต็มรถไปหมด ให้ล้างรถภายใน 1 - 2 วันหลังกลับถึงบ้าน
  3. เป็นน้ำมันที่ช่วยละลายซากแมลงให้เช็ดออกง่ายยิ่งขึ้น ให้ลงน้ำมันที่ผ้าแล้วเอามาเช็ดคราบที่รถ หรือฉีดพ่นที่คราบโดยตรงให้ชุ่ม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที [1]
    • ห้ามใช้ WD-40 กับกระจกหน้าและหน้าต่างรอบคัน เพราะลักษณะจะเป็นน้ำมัน ติดกระจกแล้วเช็ดออกยากน่าดู
    • ถ้าไม่มี WD-40 ก็ใช้ผลิตภัณฑ์หรือน้ำยากำจัดซากแมลงและยางมะตอยที่รถโดยเฉพาะแทน หาซื้อได้มากมายหลายยี่ห้อตามร้านประดับยนต์
    • นอกจากซากแมลงแล้ว วิธีนี้ยังใช้กำจัดคราบยางมะตอยได้เห็นผลดีด้วย
  4. พอทิ้ง WD-40 ให้ชุ่มคราบไว้สักพักแล้ว ให้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดซากแมลงออก โดยขัดวน ถ้าติดแน่นหน่อยก็ให้ขัดถูจนออก แต่ระวังอย่าออกแรงขัดหนักไป ไม่งั้นสีรถจะลอกได้
    • ห้ามใช้ฟองน้ำด้านหยาบหรือฝอยขัดหม้อมาขัดซากแมลงที่รถเด็ดขาด เพราะขีดข่วนเป็นรอย ทำสีถลอกแน่นอน
    • ถ้าเจอซากแมลงก่อนจะทันแห้งกรัง แค่รอบเดียวก็น่าจะขจัดคราบหมดจดแล้ว แต่ถ้าซากแมลงแห้งกรังติดสีรถไปแล้ว อาจจะต้องล้างรถก่อน แล้วค่อยลง WD-40 ทิ้งไว้ให้ชุ่มสักพัก สุดท้ายล้างรถซ้ำอีกที
  5. ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างจากส่วนอื่นของรถ เวลากำจัดซากแมลงที่กระจกรถ ง่ายสุดคือผสมน้ำกับน้ำยาล้างจาน แต่ถ้าอยากได้น้ำยาแรงกว่านั้น ก็ให้ใช้แชมพูหรือน้ำยาสำหรับล้างกระจกรถโดยเฉพาะ มีขายตามร้านประดับยนต์ทั่วไป
    • ฉัดพ่นน้ำผสมน้ำยาที่กระจกหน้าและหน้าต่างรอบคัน จากนั้นทิ้งไว้ให้ชุ่ม 10 นาที
    • ขัดซากแมลงออก ถ้าจุดไหนออกยากเป็นพิเศษ ให้ใช้ฟองน้ำด้านหยาบ
  6. พอขจัดซากแมลงออกเรียบร้อยแล้ว ให้ล้างรถจนสะอาด ไม่เหลือเศษสิ่งสกปรกและคราบน้ำยาตกค้าง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กำจัดยางไม้

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยางไม้จะทับถมเป็นชั้นหนาแข็งถ้าไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ ถ้ารู้ตัวว่ารถชอบเปื้อนยางไม้ ให้ล้างรถทุกอาทิตย์เว้นอาทิตย์หรือบ่อยกว่านั้น โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน เพราะช่วงนั้นยางไม้เหนียวข้น เปื้อนง่ายเป็นพิเศษ แบบนี้จะได้ไม่ต้องมาขัดล้างทีเดียวจนเป็นงานหนัก
  2. เอาผ้าชุบแอลกอฮอล์ล้างแผล แล้วโปะที่ยางไม้ติดรถ. หรือลงน้ำยากำจัดยางไม้โดยเฉพาะ หาซื้อได้ตามร้านขายประดับยนต์ แต่จริงๆ แล้วใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลก็ได้เหมือนกัน ชุบน้ำยาแล้วเอาผ้าโปะที่ยางไม้ 10 นาทีขึ้นไป แอลกอฮอล์จะทำให้ยางไม้แข็งๆ ละลาย อ่อนตัวจนเช็ดออกง่าย
  3. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดยางไม้ที่นิ่มแล้วออก ถ้าไม่ได้ผล แสดงว่าต้องโปะน้ำยาเพิ่มอีก 10 - 20 นาที โปะน้ำยา/แอลกอฮอล์แล้วเช็ดยางไม้ออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกำจัดยางไม้จากตัวถังรถได้ในที่สุด
    • ถ้ายางไม้กำจัดออกยากมาก ให้ลง WD-40 โปะไว้ จะช่วยให้ละลาย หลุดง่ายขึ้น แต่ห้ามใช้ WD-40 ที่หน้าต่างรถเด็ดขาด
    • อย่าใช้ฟองน้ำด้านหยาบหรืออะไรที่ขัดหยาบมาขัดยางไม้ออกจากตัวถังรถ เพราะเสี่ยงสีลอกติดมากับยางไม้
  4. ขูดยางไม้ติดแน่นทนนานจากกระจกหน้าและหน้าต่างรอบคัน. ถ้ายางไม้แห้งกรังไม่ยอมหลุดจากกระจกรถง่ายๆ ให้ใช้คัตเตอร์ค่อยๆ ขูดออก ระวังอย่ากำจัดยางไม้ที่ติดรถส่วนอื่นด้วยวิธีนี้ [2]
  5. พอกำจัดยางไม้แล้ว ก็ควรล้างรถเอาเศษสิ่งสกปรกที่เหลือออกไป เพราะถ้ามีเศษยางไม้หลงเหลืออยู่แม้แต่นิดเดียว ก็อาจแห้งกรังติดรถส่วนอื่นได้ ทีนี้ก็เท่ากับวนลูป ต้องมานั่งกำจัดซ้ำด้วยขั้นตอนเดิมๆ [3]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

กำจัดยางมะตอย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในบรรดา 3 สิ่งเหนียวๆ ที่แห้งกรังติดรถคุณ (แมลง ยางไม้ และยางมะตอย) บอกเลยว่ายางมะตอยนี่แหละกำจัดง่ายสุดแล้ว แถมยังกำจัดได้ด้วยน้ำยาต่างๆ ที่ใช้ทั่วไปในบ้าน ให้ละเลงน้ำยาที่ยางมะตอย 1 นาที เดี๋ยวก็นิ่มลง เช็ดออกง่าย น้ำยาที่แนะนำก็เช่น [4]
    • WD-40 (อย่าใช้กับกระจกหน้าและหน้าต่างรอบคัน)
    • Goo gone
    • เนยถั่ว
    • น้ำยาขจัดคราบยางมะตอยโดยเฉพาะ
  2. ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดยางมะตอยที่อ่อนนุ่มลงออกจากรถ ถ้าติดทนนาน ให้เพิ่มน้ำยา แล้วรอประมาณ 2 - 3 นาทีค่อยลองใหม่อีกรอบ ละเลงน้ำยาที่ยางมะตอยแล้วเช็ดออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนยางมะตอยหลุดจากรถ
  3. พอเช็ดคราบยางมะตอยออกแล้ว ให้ล้างรถเพื่อกำจัดเศษยางมะตอยและน้ำยาออกให้สะอาดหมดจด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผ้าขนหนู (terry cloth) นุ่มๆ ก็ใช้ขจัดคราบได้ดี แต่ต้องกำจัดฝุ่นผ้าออกให้มากที่สุด โดยสะบัดผ้าแรงๆ หลายๆ ที
  • ค่อยๆ ขจัดคราบไป อย่าขัดแรงเกิน ที่สำคัญคือต้องใจเย็นๆ รับรองว่าวิธีในบทความนี้ได้ผล
  • WD40 ก็ใช้ขจัดคราบยางมะตอยได้ดี
  • ห้ามใช้แอลกอฮอล์แปลงสภาพ (denatured alcohol) เช็ดบริเวณที่สีลอก เห็นถึงรองพื้น (primer) หรือเหล็กเปล่าๆ เพราะจะทำให้สีลอกเพิ่มได้
  • ขจัดคราบและทำความสะอาดแล้วให้ลงแว็กซ์เคลือบเงารถด้วย
  • ถ้ายางไม้เกาะรถเป็น "ก้อน" ใหญ่ ถึงจะแห้งแล้วก็ยังขจัดคราบตามวิธีในบทความนี้ได้ดีกว่าใช้สารเคมีแรงๆ เป็นไหนๆ แค่ลงน้ำยาให้ชุ่มสักพัก จนยางไม้อ่อนตัว หนืดเหมือนลูกอมละลาย แล้วค่อยกำจัดออกตามขั้นตอน
  • อย่าปล่อยให้คราบเต็มรถแล้วค่อยคิดทำความสะอาด เพราะจะยากและเสียเวลากว่าเยอะเลย
  • เอทานอล หรือ pure-grain alcohol ใช้ได้แต่แค่นิดเดียว ห้ามใช้ isopropyl alcohol (ตามร้านขายยา)
  • Kerosene นี่แหละที่ขจัดคราบยางมะตอยติดรถได้ ให้เท kerosene ใส่ผ้าแล้วเอาไปโปะที่ยางมะตอย รับรองจะละลายออกมาในไม่กี่วินาที พอกำจัดยางมะตอยได้แล้วให้ล้างรถแล้วลงแว็กซ์เคลือบเงาตามปกติ
โฆษณา

คำเตือน

  • ให้ทดสอบแอลกอฮอล์แปลงสภาพแค่จุดเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่สังเกตก่อน จนแน่ใจว่าไม่ทำสีรถลอก ปกติใช้ได้ปลอดภัยดี เว้นแต่จะทิ้งแอลกอฮอล์ไว้นานๆ (5 นาทีขึ้นไป)
  • ห้ามใช้แอลกอฮอล์แปลงสภาพใกล้ไฟหรือตอนสูบบุหรี่
  • ใช้แอลกอฮอล์แปลงสภาพในบริเวณที่อากาศถ่ายเท เพราะกลิ่นค่อนข้างฉุน
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • WD-40
  • ผ้านุ่มๆ
  • น้ำผสมน้ำยาล้างจาน
  • แอลกอฮอล์ล้างแผล

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,041 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา