ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
น้ำมันเกียร์เป็นสารประกอบน้ำมันที่ใช้หล่อลื่นระบบเกียร์ในรถยนต์ ทั้งนี้คุณต้องการน้ำมันเกียร์ชนิดไหนก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของรถคันดังกล่าว กับระบบการขับขี่ว่าเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติหรือเป็นแบบเกียร์มือ ให้ตรวจสอบในคู่มือการใช้รถและทำตามคำแนะนำสำหรับการตรวจวัดระดับน้ำมันเกียร์และกระบวนการเติม ผู้ผลิตรถบางยี่ห้อนั้นไม่ได้มีก้านวัดน้ำมันสำหรับตรวจระดับและเติมมาให้ ขั้นตอนด้านล่างนี้เป็นกระบวนการตรวจวัดและเติมน้ำมันเกียร์แบบปกติทั่วไป
ขั้นตอน
-
สตาร์ทเครื่อง. เพื่อที่จะอ่านค่าระดับน้ำมันเกียร์ได้ชัดเจนที่สุด คุณจำต้องตรวจในระหว่างที่ระบบเกียร์ทำงานและน้ำมันเริ่มอุ่น ให้เดินเครื่องรถอยู่กับที่โดยดึงเบรคมือขึ้นในระหว่างที่คุณตรวจน้ำมันเกียร์ โปรดสังเกตว่ารถบางยี่ห้ออาจให้ตรวจในขณะที่เข้าเกียร์รถในตำแหน่งเกียร์ว่าง ให้อ้างอิงเอาจากคู่มือว่าต้องเข้าเกียร์รถในลักษณะไหน- ถ้าคุณเพิ่งจอดรถหลังขับมานาน 30 นาทีหรือกว่านั้น เป็นความคิดที่เข้าท่ากว่าถ้าจะรอให้เครื่องเย็นลงสักสองสามนาทีแล้วค่อยตรวจระดับน้ำมันเกียร์ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง มันจะช่วยทำให้อุณหภูมิของน้ำมันเกียร์อยู่ในสภาวะตอนทำงานปกติ
- โปรดสังเกตว่ารถบางยี่ห้ออาจมีการให้อ่านค่า “ตอนเครื่องเย็น” บนก้านวัดน้ำมัน ถึงแม้รถของคุณจะเข้าข่ายแบบนี้ คุณยังควรจะสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วปล่อยให้น้ำมันอุ่นขึ้นเพื่อจะได้อ่านค่าแม่นยำขึ้น
-
โดยไม่ต้องขับขี่รถออกไปจริงๆ ให้เหยียบเบรกและเข้าเกียร์ทุกตำแหน่ง รวมไปถึงเกียร์ถอยหลังและเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์. ถ้าคุณตรวจน้ำมันเกียร์ตอนมันยังเย็น เช่นไม่ได้ขับไปไหนหรือไม่ได้เข้าเกียร์ตลอดทุกตำแหน่ง การตรวจด้วยก้านวัดอาจจะไม่ได้ให้ค่าที่แม่นยำ มันจะได้ค่าดูเหมือนกับคุณมีน้ำมันเกียร์มากเกินไป ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการเข้าเกียร์ทุกตำแหน่งจะช่วยไหลเวียนน้ำมันเกียร์ได้สม่ำเสมอทั่วๆ กัน
-
ในระหว่างที่จอดรถไว้บนพื้นผิวที่ราบเรียบเสมอกัน ให้เปิดฝากระโปรงและมองหาก้านวัดน้ำมันเกียร์. พึงเตือนตัวเองให้ดึงเบรกมือขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณจอดรถโดยใส่เกียร์ว่าง ในรถบางยี่ห้อนั้น มันง่ายมากที่จะหลงก้านวัดน้ำมันเกียร์กับก้านวัดอ่างน้ำมันเครื่อง ฉะนั้นให้แน่ใจว่าคุณทราบตำแหน่งเกียร์ดีแล้ว
- มองดูด้านหลังของเครื่องยนต์ใกล้กับแผ่นโลหะแยกเครื่องยนต์กับห้องโดยสาร นี่เป็นตำแหน่งที่ระบบเกียร์จะถูกวางไว้ในรถส่วนใหญ่ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สำหรับรถยนต์ที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ก้านวัดน้ำมันเกียร์มักจะอยู่ตรงด้านหน้าของเครื่องยนต์ เชื่อมต่อกับชุดเพลาส่งกำลัง อย่างไรก็ตาม ใช่ว่ามันจะเป็นจริงเช่นนี้เสมอ คุณจึงควรดูในคู่มือรถยนต์และดูที่ก้านวัดด้วยว่าถูกต้องไหม [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดึงก้านวัดออกมาแล้วใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ด. มันจะช่วยให้คุณอ่านค่าได้ชัดเจนขึ้น
-
จุ่มก้านวัดลงไปในน้ำมันเกียร์แล้วยกขึ้นมาอ่านค่า. ตอนนี้คุณควรสามารถเห็นระดับของน้ำมันเกียร์ จำไว้ว่าต้องอ่านระดับที่ "ร้อน" บนก้านวัดโฆษณา
-
ปล่อยให้เครื่องยนต์เดินโดยเข้าเกียร์จอดรถและดึงเบรกมือขึ้น. เครื่องยนต์ของรถควรจะเดินเครื่องอยู่ตอนที่คุณเติมน้ำมันเกียร์ แต่คุณต้องอย่าลืมเข้าเกียร์จอดและดึงเบรกมือเพื่อความปลอดภัย
-
ตรวจดูวิธีเติมน้ำมันเกียร์ที่ถูกต้องสำหรับรถของคุณในคู่มือ. มันจะบอกคุณว่าต้องใช้น้ำมันเกียร์ประเภทไหน และต้องมีคำแนะนำพิเศษสำหรับการเติมหรือเปล่า
- ก้านวัดน้ำมันเองก็อาจบอกคุณได้ว่าต้องใช้น้ำมันเกียร์ประเภทไหน โปรดสังเกตว่ามันมีน้ำมันเกียร์หลายประเภท แต่ละประเภทก็มีข้อมูลจำเพาะที่เหมาะกับระบบขับเคลื่อนของเครื่องยนต์แต่ละอย่าง
- ดูในคำแนะนำด้วยว่าคุณต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยขนาดไหน ในขณะที่คุณสามารถเติมน้ำมันเกียร์เวลาที่มันเริ่มเหลือน้อย ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายแนะนำว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุกๆ 50,000 ถึง 150,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับชนิดรถของคุณ
-
วางกรวยลงในรูเสียบก้านวัดของระบบเกียร์. มันต้องใช้กรวยที่มีขนาดยาวมากเพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้เติมมากจนล้น
-
ค่อยๆ รินน้ำมันเกียร์ถูกประเภทลงในระบบเกียร์. เติมทีละน้อยในแต่ละครั้งเพื่อจะได้ไม่เติมจนล้น ส่วนที่ว่าคุณต้องใช้น้ำมันเกียร์มากแค่ไหนนะหรือ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังทำอะไร:
- คุณกำลังจะเติมน้ำมันเกียร์ให้เต็มหรือเปล่า หากคุณสังเกตเห็นว่าน้ำมันเกียร์มีติดอยู่แค่ปลายก้านวัด ให้เริ่มเติมน้ำมันเกียร์ประมาณสามส่วนสี่ควอร์ตไปจนถึงหนึ่งควอร์ต (ราวหนึ่งส่วนสี่แกลลอน) เช็คระดับน้ำมันเกียร์อีกครั้งแล้วเติมลงไปคราวละ 1/4 ควอร์ตจนกระทั่งระดับเพิ่มขึ้นมาถึงขีดสูงสุด
- คุณกำลังซ่อมระบบเกียร์อยู่โดยใช้ถาดรองและเปลี่ยนฟิลเตอร์หรือเปล่า การซ่อมแบบนี้มักจะใช้น้ำมันเกียร์ราว 4 ถึง 5 ควอร์ตเพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียลงไปในถาดรอง
- คุณกำลังเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งหมดเลยหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นจะต้องใช้น้ำมันเกียร์ราว 9 ถึง 13 ควอร์ตเพื่อเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ทั้งระบบ
-
โดยที่รถยังคงอยู่กับที่ ให้ปลดเบรกและเปลี่ยนเกียร์ไปทุกตำแหน่ง. มันจะช่วยไหลเวียนน้ำมันเกียร์ไปทั่วระบบและให้แน่ใจว่าคุณอ่านค่าได้ถูกต้อง
-
ตรวจระดับน้ำมันเกียร์อีกครั้ง. คุณอาจไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเกียร์เพิ่ม แต่ถ้าต้องทำ คุณจะต้องค่อยๆ รินมันลงไปแทนที่จะเทลงไปหมดในคราวเดียว และรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเกิน 1 ไพต์ (0.5 ลิตร)
-
เอาก้านวัดใส่กลับคืนในรูเกียร์และให้แน่ใจว่ามันแน่นอยู่กับที่. คุณจะต้องหมุนจนกระทั่งมันเข้าล็อคหรือไม่ก็ต้องกดสลักบนก้านวัดให้ล็อคเข้าตำแหน่งโฆษณา
เคล็ดลับ
- บอกให้ช่างซ่อมรถยนต์ช่วยตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์ทุกครั้งที่คุณนำรถเข้าอู่ ถ้าคุณไม่สะดวกที่จะเติมน้ำมันเกียร์เอง ก็บอกช่างทำให้ก็ได้
- ระบบเกียร์บางยี่ห้อไม่มีก้านวัดให้ตรวจวัดระดับหรือเติมน้ำมันเกียร์ ผู้ผลิตรถยนต์แบบนี้จะใช้คำว่าระบบป้องกันการงัดแงะ โดยพวกเขาต้องการให้ตรวจเช็คน้ำมันเกียร์และเติมตอนที่นำรถเข้าตรวจเช็คครั้งใหญ่กับบริษัทเท่านั้น รถบางยี่ห้อไม่ต้องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลยด้วยซ้ำ ให้ทำตามคำแนะนำในคู่มือสำหรับการตรวจเช็คและเติมน้ำมันเกียร์
โฆษณา
คำเตือน
- ลองนำรถไปให้ช่างที่อู่ตรวจดูระบบเกียร์หากคุณรู้สึกว่าต้องเติมมันบ่อยๆ ถ้าน้ำมันเกียร์พร่องได้ง่าย แสดงว่ามันอาจมีรูรั่ว
- ให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้รินน้ำมันเกียร์ผิดประเภทลงไปในระบบเกียร์ การทำเช่นนั้นจะทำให้รถเสียหาย แถมค่าซ่อมยังอาจจะไม่อยู่ในการประกันอีกด้วย
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ผ้าขี้ริ้ว
- น้ำมันเกียร์
- คู่มือรถยนต์
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://community.cartalk.com/discussion/2290423/how-hot-should-my-engine-be-to-check-the-transmission-fluid-on-my-2000-subaru-outback
- ↑ http://www.dummies.com/how-to/content/how-to-check-automatic-transmission-fluid.html
- ↑ http://www.dummies.com/how-to/content/how-to-check-automatic-transmission-fluid.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 38,116 ครั้ง
โฆษณา
