ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การคูณธรรมดาๆ นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากในบางครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องคูณจำนวนสองจำนวนที่มีค่าค่อนข้างมาก ถ้าหากทำการขั้นตอนทีละขั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปแล้วละก็ ไม่นานคุณก็จะคูณเป็นแน่นอน เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อทำโจทย์เลขต่างๆ โดยเริ่มจากทำตามขั้นตอนแรกกันก่อนเลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

คูณเลขโดยใช้วิธีมาตรฐาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนจำนวนที่มีค่ามากกว่าไว้บรรทัดด้านบนของจำนวนที่มีค่าน้อยกว่า. ตัวอย่างเช่น คุณกำลังจะคูณจำนวน 756 และ 32 ให้เขียน 756 ไว้บรรทัดด้านบนของ 32 และดูให้ดีว่าคุณเขียนแต่ละหลักตรงกันอย่างหลักสิบและหลักหน่วยของสองจำนวนต้องตรงกัน ดังนั้นเลข 6 ของ 756 จะอยู่ด้านบนของเลข 2 ของ 32 ส่วนเลข 5 ของ 756 จะอยู่ด้านบนของเลข 3 ของ 32 การวางตำแหน่งแบบนี้จะทำให้คุณมองเห็นขั้นตอนของการคูณได้ง่ายขึ้น
    • คุณจำเป็นที่จะต้องเริ่มคูณจากเลข 2 ซึ่งเป็นหลักหน่วยของ 32 กับเลขแต่ละหลักของ 756 จากนั้นจึงนำเลข 3 ซึ่งเป็นหลักสิบมาคูณกับจำนวนในแต่ละหลักของ 756 แต่อย่าเพิ่งรีบร้อนลงมือทำนะ
  2. คูณเลขหลักหน่วยของจำนวนที่อยู่ด้านล่างกับเลขหลักหน่วยของจำนวนที่อยู่ด้านบน. นำเลข 2 ของ 32 มาคูณด้วยเลข 6 ของ 756 ผลลัพธ์จากการคูณ 6 กับ 2 คือ 12 จากนั้นนำเลข 2 ที่ได้จากผลลัพธ์ไปเขียนไว้ในบรรทัดล่าง และนำเลข 1 ไปเขียนทดเล็กๆ ไว้ด้านบนของเลข 5 ตามหลักการพื้นฐานนั้น คุณสามารถเขียนเลขใดๆ ก็ตามจากการคูณที่เป็นหลักหน่วยได้เลย แต่ถ้าหากผลลัพธ์มีหลักสิบ คุณต้องนำเลขนั้นไปทดไว้ด้านบนของเลขที่ถัดไปด้านซ้ายของเลขที่คุณเพิ่งคูณเมื่อกี้ ตอนนี้คุณจะได้เลข 2 อยู่ด้านล่างของคอลัมน์ที่มีเลข 6 กับเลข 2 แล้ว
  3. ต่อมาให้เอาเลขในหลักหน่วยของจำนวนด้านล่างคูณกับเลขในหลักสิบของจำนวนข้างบน. ซึ่งก็คือ 2 คูณกับ 5 ได้เท่ากับ 10 แล้วจึงนำเลข 1 ที่ได้ทดไว้บนเลข 5 มาบวกกับ 10 จึงได้ผลลัพธ์สุดท้ายเป็น 11 จากนั้นนำ 1 ไปเขียนไว้ถัดจากเลข 2 ทางด้านซ้ายในบรรทัดล่างสุด คุณยังต้องนำเลข 1 จากผลลัพธ์เป็นหลักสิบไปทดไว้บนเลข 7 ด้วย
  4. คูณเลขในหลักหน่วยของจำนวนด้านล่างกับหลักร้อยของจำนวนด้านบน. ตอนนี้คุณจะได้ผลลัพธ์เป็น 14 จากการคูณ 2 และ 7 อย่าลืมบวกด้วย 1 ที่คุณได้ทดเอาไว้ด้วย ดังนั้นผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็น 15 ในครั้งนี้ไม่ต้องนำเลขหลักสิบของผลลัพธ์ไปทดแล้ว เพราะไม่มีจำนวนเหลือให้คูณแล้ว คุณสามารถเขียน 15 ลงไปที่บรรทัดได้เลย
  5. จากนั้นให้คุณคูณเลขในหลักสิบของ 32 ซึ่งก็คือ 3 กับเลขแต่ละจำนวนของ 756 คุณจึงต้องเขียน 0 ไว้ใต้เลข 2 ของ 1512 ก่อนเพื่อที่คุณจะได้เริ่มการคูณในหลักสิบ เพราะฉะนั้น ถ้าสมมุติว่าคุณต้องคูณเลขหลักร้อยต่อ คุณจะต้องเขียน 0 สองตัวหรือมากกว่านั้นตามหลักที่เพิ่มขึ้น
  6. คูณเลขในหลักสิบของจำนวนด้านล่างกับเลขในหลักหน่วยของจำนวนด้านบน. ตอนนี้ให้คูณ 3 กับ 6 ออกมาเท่ากับ 18 ทำเหมือนเดิมคือนำเลข 8 ไปวางไว้ที่บรรทัดล่างสุด และทดเลข 1 ไว้บนเลข 5
  7. คูณเลขในหลักสิบของจำนวนด้านล่างกับเลขในหลักสิบของจำนวนด้านบน. คูณ 3 กับ 5 ได้ 15 แต่อย่าลืมบวก 1 ที่ทดเอาไว้ด้วย ดังนั้นผลลัพธ์คือ 16 เขียนเลข 6 ข้างล่างและทด 1 ไปบนเลข 7
  8. คูณเลขในหลักสิบของจำนวนด้านล่างกับเลขในหลักร้อยของจำนวนด้านบน. คูณ 3 กับ 7 ได้เท่ากับ 21 และทดเพิ่มอีก 1 กลายเป็น 22 รอบนี้คุณไม่ต้องนำเลข 2 ใน 22 ไปทดนะ เพราะตอนนี้ไม่เหลือจำนวนให้คูณแล้ว ดังนั้นคุณสามารถนำ 22 ไปเขียนต่อจากเลข 6 ได้เลย
  9. ตอนนี้ให้คุณหาผลรวมของ 1512 กับ 22680 ขั้นแรกให้บวก 2 กับ 0 ได้ผลลัพธ์เป็น 2 จากนั้นจึงเขียนผลลัพธ์ที่ได้ลงในคอลัมน์ของหลักหน่วย
  10. รวม 1 และ 8 เข้าด้วยกันเป็น 9 เขียน 9 ไว้ทางด้านซ้ายของ 2
  11. ผลรวมของ 5 กับ 6 ก็คือ 11 นำ 1 ไปเขียนต่อจากผลลัพธ์ก่อนหน้าแล้วนำ 1 อีกตัวที่เป็นหลักสิบไปทดไว้บนเลข 1 ด้านบนซ้ายสุดของผลลัพธ์แรกสุด
  12. รวม 1 กับ 2 เป็น 3 และบวกที่ทดไว้อีก 1 จะได้ผลลัพธ์เป็น 4 เขียนลงด้านล่างเลย
  13. โดยจำนวนแรกนั้นไม่มีเลขในหลักหมื่น และจำนวนที่สองมีเลข 2 อยู่ ดังนั้นบวก 0 เข้ากับ 2 ได้ 2 แล้วเขียนลงไป คำตอบสุดท้ายที่ได้จะเป็น 24,192
  14. ถ้าคุณต้องการเช็คคำตอบอีกครั้ง ให้เอาโจทย์นี้ไปกดเครื่องคิดเลขแล้วดูว่าคุณคูณถูกต้องหรือไม่ คุณควรจะคูณ 756 กับ 32 แล้วได้ 24,192 คุณทำสำเร็จแล้ว!
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

มาดูทางลัดกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สมมติว่าคุณกำลังจะคูณ 325 กับ 12 เขียนโดยจำนวนหนึ่งควรจะอยู่ด้านขวาของอีกจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่อยู่ข้างใต้
  2. แบ่งจำนวนที่มีค่าน้อยออกเป็นหลักหน่วยและหลักสิบ. เก็บ 325 ไว้แล้วแบ่ง 12 ออกเป็น 10 และ 2 โดยที่ 1 เป็นหลักสิบจึงต้องเพิ่มเลข 0 ไว้ข้างหลังเลข 1 ส่วนเลข 2 เป็นหลักหน่วยก็เขียนแค่เลข 2 ลงไปได้เลย
  3. ให้คุณคูณ 325 กับ 10 ทั้งหมดที่คุณต้องทำเพียงแค่เพิ่ม 0 ไปที่ด้านหลัง ดังนั้นผลลัพธ์คือ 3250
  4. คือคูณ 325 กับ 2 คุณแค่มองๆ ก็จะได้คำตอบแล้วว่าเป็น 650 เพราะปกติแล้ว 300 คูณ 2 ได้ 600 และ 25 คูณ 2 ได้ 50 เราจึงสามารถนำ 600 และ 50 มาบวกกันได้ 650
  5. นำ 3250 มาบวกกับ 650 คุณสามารถทำได้โดยใช้วิธีบวกเลขแบบทั่วไป เขียน 3250 ไว้ด้านบน 650 แล้วก็ทำการบวก คุณจะได้ผลลัพธ์เป็น 3900 จริงๆ แล้ววิธีนี้ใกล้เคียงกับการทำคูณด้วยวิธีมาตรฐาน แต่การแบ่งจำนวนออกเป็นหลักหน่วยและหลักสิบจะทำให้คุณได้คิดเลขในใจอีกทั้งยังหลีกเลี่ยงการคูณกับทดเลขจำนวนมาก ทั้งสองวิธีต่างให้ผลลัพธ์เหมือนกัน จะใช้วิธีการไหนขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เริ่มฝึกจากตัวเลขง่ายๆ ก่อน
  • เช็คให้ดีว่าคุณเขียนตัวเลขในคอลัมน์ที่ถูกต้อง
  • อย่าลืมทดเลขด้วย ไม่อย่างนั้นจะผิดไปหมด
  • อย่าลืมนำเลข 0 ไปใส่ไว้ด้านท้ายหากคูณหลักสิบเสมอ และถ้าเป็นคูณหลักร้อยต้องใส่เลข 0 สองตัว และอย่าลืมเช็คกับเครื่องคิดเลขด้วยหลักจากคูณเสร็จ แต่ห้ามโกงนะ
  • สำหรับการคูณจำนวนที่มากกว่า 2 หลัก ให้ทำตามขึ้นตอนเหล่านี้ ขั้นแรกให้คูณจำนวนด้านบนด้วยหลักหน่วย จากนั้นเติม 0 ก่อนหนึ่งตัวและคูณต่อด้วยหลักสิบ ต่อมาเพิ่ม 0 สองตัวและคูณหลักร้อย จากนั้นเพิ่ม 0 สามตัวแล้วคูณหลักพันต่อ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายนำผลลัพธ์ทั้งหมดมารวมกัน
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 134,644 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา