ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ในประเทศถิ่นกำเนิดอย่างรัสเซีย วอดก้าถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ แอลกอฮอล์รสชาติเข้มข้นอย่างเป็นธรรมชาติ วอดก้านั้นสามารถเสิร์ฟด้วยรสดั้งเดิมของมันหรือจะใช้ผสมกับรสชาติอันโดดเด่นแบบอื่นก็ย่อมได้ และนี่คือวิธีดื่มวอดก้าบางวิธีที่เราเตรียมไว้ให้คุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ดื่มวอดก้าโดยตรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มวอดก้ามักจะเชื่อว่าการดื่มวอดก้าแบบเพียวๆ จะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการดื่มด่ำวอดก้า [1]
    • วอดก้ามักจะผลิตขึ้นโดยการหมักธัญพืชหรือพืชผักต่างๆ [2] วอดก้าที่หมักจากธัญพืชจะมีรสชาติที่ค่อนข้างนุ่ม ขณะที่วอดก้าที่หมักจากผลไม้จะมีรสที่รุนแรงหรืออาจคล้ายกับรสยา [3]
    • ผู้ที่ชื่นชอบวอดก้าได้กล่าวไว้ว่า วอดก้าที่ดีนั้นจะต้องมีรสชาติที่นุ่มเหมือนดื่มครีม จะต้องมีกลิ่นของธัญพืชปะปนและมีเนื้อที่หนานุ่มเมื่อผ่านการนำไปแช่แข็ง วอดก้าที่ไม่ดีจะมีรสโดดแรง รสขม และกลิ่นคล้ายยา ถ้าหากว่าดื่มวอดก้าไปแล้วมันทำให้เพดานปากของคุณรู้สึกแสบ นั่นแปลว่าวอดก้านั้นมีคุณภาพที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น [4]
    • ถ้าหากว่าคุณมีปัญหาในการเลือกวอดก้าแล้วล่ะก็ ให้ลองเลือกยี่ห้อดังๆ ดูสิ ส่วนใหญ่แล้วคนจะชอบรสชาติของวอดก้ายี่ห้อ Grey Goose, Absolut, Smirnoff, Ketel One หรือ Stolichnaya [5]
    • ถ้าวอดก้าเพียวๆ รสชาติแรงเกินไปสำหรับคุณ ให้ลองวอดก้ารสอื่นๆ อย่างแอปเปิลเขียวหรือกลิ่นวานิลลา ส่วนผสมของน้ำตาลที่เพิ่มเข้าไปอาจทำให้วอดก้ามีรสชาติดีขึ้น
  2. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    วอดก้าไม่ใช่ไวน์ คุณควรทำให้มัน เย็น ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ [6]
    • ไม่ต้องห่วงว่าวอดก้าจะโดนแช่แข็งไปด้วยแต่อย่างใด แอลกอฮอลล์นั้นมีจุดเยือกแข็งที่ต่ำกว่าน้ำอยู่มาก และแน่นอนว่ามันจะไม่แข็งในอุณหภูมิมาตรฐานของช่องแช่แข็งอย่างแน่นอน
  3. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    เทให้พอแค่จิบเล็กน้อยพอ จำไว้ว่ามันไม่ใช่ค็อกเทล วอดก้าเพียวจะทำให้คุณรู้สึกมึนเมาได้ไวกว่าอีก
    • จอกใบเล็กเป็นสิ่งที่คู่กับวอดก้า ให้รินวอดก้าลงแก้วในปริมาณที่เหลือพื้นที่ใต้ขอบแก้วไว้ประมาณ 3-5 มิลลิลิตร [7]
    • แก้วช็อตสามารถนำมาใช้แทนแก้วจอกได้
  4. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    ให้มุ่งไปที่การลิ้มลองรสชาติแทนที่จะเอาความเมาจะดีกว่านะ
    • รับกลิ่นขณะที่กำลังอุ่นวอดก้าในแก้ว ให้จิบน้อยๆ ก่อนจะทิ้งให้รสชาติได้พักตรงเพดานปากสักสองสามวินาที หายใจเข้าผ่านจมูกเพื่อดื่มด่ำกับกลิ่นธัญพืชให้เต็มที่ จากนั้นก็กลืนมันลงไป และดื่มด่ำต่อกับรสชาติหลังจากที่กลืนลงไปแล้ว [8]
    • แต่เดิมวอดก้านั้นผลิตขึ้นมาเพื่อดื่มคู่กับอาหาร นั่นหมายถึงใช้ดื่มแบบค่อยๆ จิบ เช่นเดียวกับการดื่มไวน์นั่นเอง [9]
  5. มันจะช่วยเข้าไปขัดรสชาติอันรุนแรงของวอดก้าและปรับสมดุลของวอดก้าแรงๆ เพียวๆ
    • นักดื่มชาวรัสเซียจะชอบกินคู่กับแกล้มที่เรียกว่า "zakuski" และถือเป็นกับแกล้มประจำชาติที่ต้องกินในการจิบแต่ละครั้งไปแล้ว [10]
    • Zakuski แบบดั้งเดิมจะประกอบไปด้วย คีช (อาหารฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง), ปลารมควัน, ไส้กรอกรสเผ็ด, มะกอก และแตงกวา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เลือกสูตรค็อกเทล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    ผสมวอดก้าเพียวประมาณ 28 กรัมกับน้ำส้ม 170 กรัมเพื่อเครื่องดื่มที่ดีที่สุด [11] จากนั้นใส่น้ำแข็งลงไปแล้วคนด้วยช้อน
    • เพื่อที่มันจะได้เป็นเครื่องดื่มที่ดูซับซ้อนยิ่งขึ้น ให้ลองชง Mimosa Screwdriver ดู โดยผสมวอดก้ารสส้ม 28 กรัมกับน้ำส้มคั้นสดประมาณ 113 กรัม หยดออเรนจ์บิตเตอร์ตามลงไป แล้วตามด้วยดรายแชมเปญ (แชมเปญชนิดไม่หวาน) อีกเล็กน้อย [12]
    • ค็อกเทล Screwdriver นั้นเหมาะกับการดื่มในตอนเช้าที่สุด และยังดื่มในช่วงมื้อที่คาบเกี่ยวระหว่างมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงได้เช่นกัน [13]
  2. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    สิ่งที่คุณต้องการก็มีแค่วอดก้าเพียว น้ำแครนเบอร์รี่ เหล้าครองโทร์ (เหล้ารสส้ม) และน้ำมะนาวก็เท่านั้น
    • เติมวอดก้า 56 กรัม กับส่วนผสมอย่างอื่นอย่างละ 28 กรัม จากนั้นใส่น้ำแข็งแตกๆ ลงไปแล้วเขย่าก่อนดื่ม [14]
    • โรยขอบแก้วไว้ด้วยน้ำตาลและเสียบเปลือกมะนาวลงไปเพื่อให้เครื่องดื่มแก้วนี้ดูสวยงามขึ้น
    • หรือจะเติมออเรนจ์บิตเตอร์เพื่อเพิ่มรสชาติด้วยก็ย่อมได้
  3. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    ค็อกเทลอันแสนเข้มและเต็มไปด้วยรสชาติกลมกล่อมนี้จะเน้นไปที่การให้ความมีชีวิตชีวาและรสของความเผ็ดร้อนกับต่อมรับรสของคุณเอง
    • ผสมวอดก้าเพียว 28 กรัมกับน้ำมะเขือเทศ 85 กรัม น้ำเลมอน 14 กรัม วูสเตอร์ซอสเหยาะเล็กน้อย เกลือกับพริกไทยอีกนิดหน่อย และซอสรสเผ็ดอีกนิดหน่อย ใส่น้ำแข็งลงไปแล้วคนเบาๆ จนเข้ากัน
    • หากอยากประดับแก้ว ให้ใส่ผักชีลงบนแก้วก้านหนึ่ง
  4. ลอง Sex on the Beach ดูสิ. มันเป็นแค่ชื่อค็อกเทลนะ! ค็อกเทลชนิดนี้ถือเป็นส่วนผสมของรสผลไม้หลายๆ อย่างที่จะช่วยกลบรสอันเข้มข้นของวอดก้าเพียวได้
    • ผสมวอดก้าเพียว 30 กรัมเข้ากับน้ำส้ม 56 กรัม น้ำแครนเบอร์รี่ 56 กรัม และเหล้ายินลูกพีชอีก 14 กรัม
    • เทส่วนผสมลงไปในแก้วพร้อมกับน้ำแข็ง คนให้เข้ากัน จากนั้นก็ตกแต่งขอบแก้วด้วยส้มฝานบาง
  5. รสชาติของมันก็สดชื่นสมชื่อ ค็อกเทล Sea Breeze นั้นทั้งชงง่ายและยังดื่มง่ายอีกด้วยล่ะ
    • ผสมวอดก้าเพียว 30 กรัมเข้ากับน้ำแครนเบอร์รี่อีก 30 กรัม และน้ำเกรปฟรุต 113 กรัม
    • ใส่น้ำแข็งลงไปให้มากที่สุดที่จะไม่ล้นแก้วออกมา คนส่วนผสม และตกแต่งแก้วด้วยมะนาวซีก
  6. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    มาร์ตินี่ (Martini) ถือเป็นตัวเลือกแรกๆ และกลายเป็นเครื่องดื่มประจำตัวจากภาพยนตร์เรื่องเจมส์บอนด์ 007 ไปเสียแล้ว โดยเครื่องดื่มนี้จะต้องผ่านการเขย่า ไม่เพียงแค่คนเท่านั้น
    • เพียงผสมวอดก้าเพียวๆ 56-85 กรัมเข้ากับเหล้าดรายเวอร์มุธ 28 กรัม เติมลงในกระบอกคอกเทลครึ่งกระบอก ตามด้วยน้ำแข็ง จากนั้นเขย่าให้เข้ากันและรินส่วนผสมลงไปในแก้วมาร์ตินี่ ตกแต่งแก้วด้วยไม้เสียบมะกอกสักสามลูก [15]
    • เพื่อเพิ่มรสชาติให้เครื่องดื่ม ให้เสียบเปลือกเลมอนเกลียวไว้ที่ขอบแก้ว
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ลองดื่มพร้อมขนม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดื่มวอดก้า
    เหมือนกับ Starburst vodka นั่นแหละ ค็อกเทลขนมหวานนี้จะทำให้นักดื่มหวนกลับไปนึกถึงรสชาติที่ชื่นชอบในวัยเด็กได้อีกครั้ง
    • แยกสกิตเทิลส์ตามรสชาติ ตรงนี้จะไม่เหมือนกับลูกอม Starburst แล้ว เพราะการผสมครั้งนี้จะดีที่สุดถ้าหากว่ารสชาติมันไม่กลืนกันไป คุณต้องใช้สกิตเทิลส์สักสีละ 60 เม็ดเพื่อทำวอดก้ารสสกิตเทิลส์
    • ใส่ลูกอมสกิตเทิลส์ลงไปในขวดน้ำว่างเปล่า ใช้ที่กรอกในการช่วยรินวอดก้า 170 กรัมลงไปในขวดน้ำ เขย่าจนกว่าวอดก้าจะเปลี่ยนสีตามสีของลูกอมสกิตเทิลส์
    • ปล่อยให้ส่วนผสมพักตัวสักสองสามชั่วโมงเพื่อให้ลูกอมแตกออกและละลายเข้ากับวอดก้า กรองส่วนผสมด้วยที่กรองกาแฟ จากนั้นรินส่วนผสมลงขวดแก้วที่สามารถปิดฝาได้ นำไปแช่แข็งอีกสองสามชั่วโมง ทีนี้วอดก้าสกิตเทิลส์ก็พร้อมดื่มแล้ว! [16]
  2. แม้จะไม่ใช่เครื่องดื่ม แต่ขนมรสผลไม้ผสมแอลกอฮอล์เหล่านี้ก็นำไปกินคู่กับเครื่องดื่มอื่นของคุณได้ดีเลยนะ
    • ใส่กัมมี่แบร์ลงไปในทัปเปอร์แวร์จำนวนเท่าไรก็ได้ที่คุณต้องการ รินวอดก้าตามลงไปในภาชนะจนมันท่วมเยลลี่หมด ปิดทัปเปอร์แวร์แล้วแช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อยสามวันก่อนนำมารับประทาน
    • ชิมรสกัมมี่แบร์หลังจากผ่านไปสองวันเพื่อวัดว่าแอลกอฮอล์เข้มข้นพอแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เพียงแค่รินวอดก้าเพิ่มหรือเทวอดก้าออกจากทัปเปอร์แวร์ตามใจคุณ
    • จะใช้กัมมี่เวิร์มแทนกัมมี่แบร์ก็ย่อมได้ แต่ขอให้เลี่ยงขนม Red Fish และ Swedish Fish เพราะขนมพวกนี้จะไม่ซับวอดก้าเข้าไปและอาจทำให้ออกมาเป็นขนมเละๆ แทนได้ [17]
  3. ค็อกเทลรสลูกกวาดนี้สามารถชงขึ้นมาได้จากรสชาติของลูกอมยี่ห้อ Starburst แต่ละรส.
    • แยกลูกอม Starburst ตามรสชาติหรือจะผสมรสตามที่คุณต้องการก็ย่อมได้ โดยใส่ลูกอมลงไปในขวดเปล่าประมาณ 10 ชิ้น
    • ใช้ที่กรอกน้ำช่วยในการรินวอดก้า 198 กรัมลงไปในขวดน้ำนั้น เขย่าให้เข้ากันจนวอดก้าเริ่มเปลี่ยนสีตามสีของลูกอม Starburst แล้วทิ้งส่วนผสมค้างคืนไว้เพื่อให้ลูกอมนี้ละลายรวมกับวอดก้า [18]
    • กรองเครื่องดื่มนี้ด้วยที่กรองกาแฟ มันจะช่วยแยกตะกอนของลูกอมออก และทำให้เครื่องดื่มนี้นุ่มขึ้นด้วย
    • รินส่วนผสมลงในภาชนะที่เข้าช่องแช่แข็งได้ โดยเฉพาะขวดแก้วที่มีฝาปิดถือว่าดีที่สุด แช่แข็งค็อกเทลนี้ไว้ประมาณสองสามชั่วโมง จากนั้นก็เทลงแก้วดื่มได้เลย!

เคล็ดลับ

  • เมื่อคุณดื่มวอดก้าหมดไปขวดหนึ่งแล้ว ให้วางไว้บนพื้นไม่ก็โยนทิ้งไปซะ ขวดวอดก้าเปล่าๆ ที่วางไว้บนโต๊ะอาจทำให้เกิดเรื่องโชคร้ายขึ้นได้
  • หากคุณไม่รู้จะร้องเชียร์ตอนชนแก้วว่าอะไร ให้ร้องคำว่า “Nazdarovye” แบบดั้งเดิม ที่เป็นการอวยพรให้เพื่อนๆ ของคุณมีสุขภาพที่ดีได้เช่นกัน
  • ถ้าหากมีคนชนแก้ว ตามวัฒนธรรมคุณก็ต้องดื่มนะ
  • ซึ่งการดื่มเองแบบไม่มีใครมาชนแก้ว ก็ถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเช่นกัน

คำเตือน

  • การดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดข้อบกพร่องในครรภ์ได้
  • การดื่มแอลกอฮอล์จะลดสมรรถภาพการขับขี่รถยนต์หรือควบคุมเครื่องจักร
  • แอลกอฮอล์นั้นไม่ควรดื่มคู่กับยาบางชนิด ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะกินยาตัวนั้นผสมกับแอลกอฮอล์
  • เลือกซื้อหรือดื่มวอดก้าที่ผลิตมาอย่างเป็นทางการและปิดมิดชิด เพื่อเลี่ยงที่จะเจอวอดก้าที่มีส่วนผสมที่คุณอาจแพ้หรือไม่ปลอดภัย รวมถึงผลเสียที่ตามมา
  • การดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายตามมา
  • โปรดปฏิบัติตามกฏและข้อบังคับในการดื่มแอลกอฮอล์

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 48,870 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม