วิธีการ ดูแลลูกวัวกำพร้า

ร่วมเขียน โดย Pippa Elliott, MRCVS

ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงวัวเนื้อหรือวัวนม มักจะมีช่วงเวลาที่คุณจะต้องเลี้ยงและดูแลลูกวัวกำพร้า คุณจะต้องทำหน้าที่เหมือนเป็นแม่วัวของลูกวัวเมื่อแม่แท้ๆ ของมันปฏิเสธลูกวัว หากการพยายามทำให้แม่วัวยอมรับลูกของมันไม่ได้ผล คุณก็ต้องดูแลลูกวัวกำพร้าตัวนั้นแทน

ขั้นตอน

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/9\/9a\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-1-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-1-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/9\/9a\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-1-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-1-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

1
ให้ลูกวัวอยู่ในบริเวณอุ่นๆ ปลอดภัย และมีรั้วรอบ. ให้หาสถานที่ใดก็ได้เป็นที่พักให้ลูกวัวโดยให้ลูกวัวอยู่พ้นจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจหรือพ้นจากสัตว์ตัวอื่น โรงนาที่มีกรงเล็กๆ ก็ใช้ได้ คอกวัวที่ซื้อมาหรือสร้างเองก็เหมาะให้ลูกวัวอยู่ที่นั่น ควรมีรั้วที่สูงพอเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกวัวหนี
- ขอให้แน่ใจว่าคุณปูฟางให้ลูกวัวนอนบนนั้น (ใช้ได้กับลูกวัวที่เกิดในฤดูหนาว) อย่าเพียงแค่ให้ลูกวัวอยู่ในโรงนาโดยที่ไม่มีที่นอนให้มัน ลูกวัวนั้นอ่อนแอต่อความเย็นมากกว่าวัวโตเต็มวัยปกติ ฟางหนาๆ ที่ปูเป็นเตียงก็จะทำให้ลูกวัวรู้สึกดีและอบอุ่น
- สำหรับลูกวัวที่เกิดในฤดูร้อน มันก็ควรมีพื้นที่ร่มที่สามารถหลบแสงอาทิตย์ได้ อย่างไรก็ตาม ลูกวัวก็ยังต้องการวิตามินดี ดังนั้นอย่าให้มันหลบแดดอย่างสิ้นเชิง ให้มีแสงอาทิตย์ตรงที่ลูกวัวนอนบ้าง
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/1\/1f\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-2-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-2-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/1\/1f\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-2-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-2-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

2
ซื้ออาหารและอุปกรณ์ทันที. น้ำนมเหลือง (Colostrum) นั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกและต้องหามาไว้ก่อนที่จะหาอุปกรณ์อื่นๆ น้ำนมเหลืองแบบผงสามารถซื้อได้ที่ร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไปหรือจากคลินิกสัตว์ใหญ่
- คุณ ต้อง ป้อนน้ำนมเหลืองให้ลูกวัวภายใน 24-72 ชั่วโมงแรก หากเป็นเวลาหลังจากนี้ลูกวัวจะอ่อนแอและมีอาการป่วยหรือเป็นโรคที่จะคร่าชีวิตลูกวัวไปได้
  - จะต้องป้อนน้ำนมเหลืองทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของลูกวัว คุณจะต้องป้อนนมลูกวัว 1-2 ลิตรต่อครั้ง ถ้าลูกวัวไม่กินนมจากขวดในทันที คุณจะต้องใช้หลอดอาหารเพื่อป้อนนมลูกวัวโดยเฉพาะถ้ามันดูอ่อนแอจากอากาศหนาวและจากการคลอดที่ยากลำบาก
    - ถ้าลูกวัวหิวมาก มันก็จะกินนมจากขวดทันที โดยเฉพาะถ้าคุณทำให้มันรับรู้รสชาติของนมโดยการป้ายน้ำนมที่จมูกและและภายในปากของมัน ลูกวัวที่ไม่เคยดูดนมแม่เลยจะเรียนรู้ได้เร็วที่สุด ลูกวัวที่มีอายุมากกว่านั้นอาจจะกินนมจากขวดได้ยากกว่าเพราะมันคุ้นเคยกับการดูดนมจากแม่วัวแล้ว
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/09\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-3-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-3-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/09\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-3-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-3-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

3
ให้ลูกวัวกินนมจากขวดนมหรือถังนมทุกๆ 2-3 ชั่วโมง จนกระทั่งมันอายุได้ 2-3 วัน. ระหว่างช่วงนี้ คุณสามารถค่อยๆ เปลี่ยนสูตรนมจากน้ำนมเหลืองไปเป็นนมสูตรลูกวัวธรรมดา หลังจากนั้น คุณสามารถเริ่มป้อนนมลูกวัวเป็นเวลา 3 ครั้งต่อวันซึ่งได้แก่ ตอนเช้า กลางวัน และกลางคืน ขอให้แน่ใจว่าคุณป้อนนมลูกวัวต่อวันเป็นปริมาณ 10% ของน้ำหนักตัวของลูกวัว
- เมื่อลูกวัวอายุมากขึ้น จำนวนครั้งที่ต้องป้อนนมลูกวัวก็จะลดลง ซึ่งก็จะลดลงเหลือแค่ 2 ครั้งต่อวันเมื่อลูกวัวอายุ 1 เดือน และเหลือครั้งเดียวต่อวันเมื่อลูกวัวอายุเกิน 2 เดือนไปแล้วเล็กน้อย ลูกวัวที่กินนมจากขวดจะหย่าจากนมเมื่อมันอายุ 3-4 เดือน
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/31\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-4-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-4-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/31\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-4-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-4-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

หาถังน้ำที่ลูกวัวจะไม่ตกลงไป ลูกวัวนั้นอยากรู้อยากเห็นและมันจะรู้เองว่าน้ำใสๆ ที่อยู่ในถังนั้นสามารถกินได้
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/8\/8a\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-5-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-5-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/8\/8a\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-5-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-5-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

5
ให้อาหารลูกวัวด้วยอาหารวัวคุณภาพดี. อาหารสูตรเริ่มแรกสำหรับลูกวัวสามารถซื้อได้ที่ร้านค้าขายอาหารสัตว์ อาหารเช่นนี้จะช่วยให้ลูกวัวเติบโตได้ดีมากเพราะมีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส พลังงานและสารอาหารอื่นๆ ที่สำคัญในปริมาณสูง ซึ่งลูกวัวจำเป็นต้องได้รับเพื่อเติบโต
- ให้ลูกวัวกินหญ้าแห้งคุณภาพดี ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ให้ลูกวัวลองกินหญ้าดูก่อนเพื่อให้แน่ใจว่ามันมีคุณภาพดีจริงๆ เพราะว่าบ่อยครั้งที่หญ้าแห้งมักดูเหมือนว่าจะดีแต่มันอาจจะมีหญ้าเสียๆ ยัดไส้มาแม้ว่าภายนอกจะดูเขียวก็ตาม ควรใช้หญ้าจากถั่วเมล็ดแห้ง 60% (หญ้าอัลฟาฟ่าหรือหญ้าโคลเวอร์) และหญ้าสด 40%
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/b\/bc\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-6-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-6-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/b\/bc\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-6-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-6-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

6
พูดคุยกับสัตวแพทย์เกี่ยวกับวัคซีนและการฉีดวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นกับลูกวัว. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพและอายุของลูกวัวรวมถึงพื้นที่ที่คุณอยู่ วัคซีนบางอย่างที่ลูกวัวแรกเกิดควรได้รับได้แก่วิตามินเอ ดี อี และวัคซีนซิลิเนียม ( เฉพาะลูกวัวในพื้นที่ที่ซิลิเนียมไม่เพียงพอ เท่านั้น !) เป็นต้น
- คุณอาจจะต้องฉีดวัคซีนให้ลูกวัวเพิ่มอีกหากคุณไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบางอย่างให้ลูกวัวในตอนแรก เช่น โรคท้องร่วง หรือถ้าคุณไม่ได้ให้ลูกวัวกินน้ำนมเหลืองจากแม่ของมัน วัคซีนบางอย่างต้องฉีดเมื่อลูกวัวอายุ 2-3 เดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อลูกวัว
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/b\/b0\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-7-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-7-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/b\/b0\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-7-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-7-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

เปลี่ยนฟางที่สกปรกเป็นฟางใหม่ทุกวัน และใช้คราดกับพลั่ว (หรือใช้คราดที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับใช้กวาดที่คอกม้า) เพื่อกวาดของเสียหรือฟางที่สกปรก ให้เช็คดูว่ามี "อุบัติเหตุ" ที่อาจเกิดขึ้นกับลูกวัวที่บริเวณนั้นหรือไม่และกำจัดอาหารที่สกปรกออกไป
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/1\/16\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-8-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-8-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/1\/16\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-8-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-8-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

8
เฝ้าระวังดูสัญญาณป่วยของลูกวัว. ถ้าลูกวัวของคุณเป็นโรคท้องร่วง ติดเชื้อ (เช่นมีอาการสะดือและข้ออักเสบ) มีปัญหาที่ระบบหายใจ หรืออาการอะไรก็ตามที่ผิดปกติ ให้โทรศัพท์หาสัตวแพทย์
- คุณอาจจะรู้สึกตื่นตระหนกมากเกินไปถ้าได้ยินลูกวัวไอด้วยเหตุผลบางอย่าง บางครั้งลูกวัวจะไอหรือจามเพราะอาหารติดอยู่ในคอหรือมันสูดเอาฝุ่นหรืออาหารเข้าไปอย่างบังเอิญ ถ้าอาการไอหรือจามนั้นไม่ต่อเนื่องก็ไม่มีอะไรที่น่ากังวล แต่ถ้ามันไอตลอดเวลาและเริ่มมีอาการอื่นๆ ก็ต้องโทรหาสัตวแพทย์
- การไม่ให้อาหารลูกวัวเป็นเวลาจะทำให้ลูกวัวปวดท้องและทำให้มันท้องร่วง ดังนั้น ควรให้อาหารลูกวัวให้เป็นเวลา
- ดูว่าลูกวัวมีเห็บเหาหรือตัวไรและแมลงอื่นๆ ที่สามารถขยายพันธุ์ได้หรือไม่ ฉีดสเปรย์เพื่อขจัดแมลงวันและยุงด้วย
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/1\/15\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-9-Version-2.jpg\/v4-460px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-9-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/1\/15\/Care-for-an-Orphan-Calf-Step-9-Version-2.jpg\/v4-728px-Care-for-an-Orphan-Calf-Step-9-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

ให้ป้อนนมและดูแลลูกวัวไปเรื่อยๆ และอีกไม่นานมันก็จะหย่านมและคุณก็เฝ้าดูมันเติบโตเป็นวัวสุขภาพแข็งแรง!

โฆษณา

เคล็ดลับ

บันทึกการให้อาหารและนมรวมถึงการดูแลเรื่องสุขภาพของลูกวัวไว้เป็นตารางเวลา นี่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณทำทุกอย่างเป็นกิจวัตรเพื่อไม่ให้ระบบการย่อยอาหารอันบอบบางของลูกวัวแปรปรวน
การเลี้ยงวัวข้างนอก (ฤดูร้อน) เป็นวิธีที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดเพราะมันจะมีเพื่อนตัวอื่นๆ (โดยเฉพาะแพะ) ที่ช่วยให้ลูกวัวรู้ตำแหน่งของดินโป่ง น้ำ แหล่งอาหาร และที่พัก
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามให้เตรียมน้ำนมเหลืองให้พร้อมเสมอ คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าเมื่อไหร่จะต้องใช้มันอีก
ถ้าเป็นไปได้ ให้ลูกวัวอยู่ตรงพื้นที่ที่มันสามารถเริ่มเล็มหญ้าได้ ลูกวัวจะเริ่มกินหญ้าเมื่อมันอายุ 2-3 วัน
ให้นมลูกวัวเป็นปริมาณ 10% ของน้ำหนักตัวทุกๆ วัน แบ่งเป็น 2-3 มื้อต่อวัน
การพันลวดเป็นรั้วก็เป็นวิธีที่ดีที่จะให้ลูกวัวอยู่ในพื้นที่ของมัน
ให้มันอยู่ในสถานที่ที่เปิดโล่งและปลอดภัย

โฆษณา

คำเตือน

ลูกวัวนมนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะตายจากอาการเจ็บป่วยมากกว่าลูกวัวเนื้อ ดังนั้นจึงต้องใส่ใจเพิ่มขึ้นเมื่อเลี้ยงลูกวัวนมโดยการให้นมจากขวด
อย่าเลี้ยงลูกวัวกระทิงเป็นสัตว์เลี้ยง วัวกระทิงนั้นอันตรายและไม่เชื่อฟังมนุษย์ เพื่อป้องกันเรื่องนี้ ไม่ต้องเลี้ยงหรือทำดีกับมันหรือทำหมันมันทันที
ลูกวัวเป็นสัตว์ที่แข็งแรง ดังนั้นขอให้แน่ใจว่าคุณสามารถควบคุมลูกวัวได้เพื่อลดโอกาสที่จะโดนลูกวัวโหม่งหรือถีบ

โฆษณา

เข้าสู่ระบบ

วิธีการ ดูแลลูกวัวกำพร้า

ขั้นตอน

เคล็ดลับ

คำเตือน

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาวทูที่ติดเทรนด์

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

Explore Categories