ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เต่าไดมอนด์แบ็ค (diamondback terrapin) เป็นสัตว์ที่ขายกันทั่วไปในร้านขายสัตว์เลี้ยง และเป็นหนึ่งในพันธุ์เต่าที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด ในการดูแลเต่าน้ำจืดอย่างถูกต้อง คุณจะต้องรักษาที่อยู่ของมันให้สะอาดน่าอยู่ พามันไปหาสัตวแพทย์เป็นประจำ และให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพของมัน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

จัดหาที่อยู่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เต่าน้ำจืดโตแล้วตัวค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้เต่าของคุณอาจจะตัวเล็ก มันสามารถโตถึงขนาด 9 นิ้วได้ง่ายๆ เลย เต่าน้ำจืดจึงต้องอยู่ในแทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
    • นอกจากจะตัวใหญ่แล้ว เต่าน้ำจืดยังเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะ จึงต้องการมีพื้นที่ให้ขยับไปขยับมาอีกด้วย คุณควรตั้งเป้าไว้ว่าจะหาแทงค์น้ำขนาด 100 แกลลอนสำหรับเต่าของคุณ และพยายามหาแทงค์ที่มีที่กั้นแบ่งเป็นส่วนๆ [1]
    • แทงค์ของคุณควรมีทั้งพื้นน้ำและพื้นบก เต่าน้ำจืดไม่ชอบอยู่ที่หนาวๆ ฉะนั้นอย่าลืมติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย อุณหภูมิน้ำควรอยู่ระหว่าง 24-26.5 องศาเซลเซียส นอกจากนั้น คุณควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำด้วย เพราะเต่าพวกนี้ไม่ค่อยรักสะอาดนักหรอก ระบบกรองน้ำที่ดีจะช่วยทำให้น้ำสะอาด ปราศจากแบคทีเรีย [2]
    • หาหินแบนๆ ที่จะโผล่พ้นเหนือน้ำเหมือนเป็นเกาะได้ เต่าน้ำจืดชอบนอนอาบแดด คุณจึงจะต้องหาที่ให้มันผึ่งแดดได้ [3]
  2. เต่าน้ำจืดไม่สามารถปรับอุณหภูมิร่างกายเองได้ในธรรมชาติ และต้องใช้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ฉะนั้น คุณต้องใช้ตะเกียงให้ความร้อนสำหรับเต่า
    • ซื้อตะเกียงให้ความร้อนที่สามารถใส่หลอดไฟ 40 วัตต์ที่มีทั้งคลื่น UVA และ UVB ได้ ควรตั้งตะเกียงไว้ห่างจากที่ที่จะให้เต่าผึ่งแสงประมาณ 10 นิ้ว [4]
    • ความร้อนภายในแทงค์น้ำควรอยู่ระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส แต่บริเวณที่อยู่ใกล้ๆ หลอดไฟอาจมีอุณหภูมิสูงกว่า ฉะนั้น คุณต้องจัดให้หลอดไฟส่องแสงลงมาที่จุดใดจุดหนึ่ง ไม่แพร่ความร้อนไปทั่วแทงค์ทั้งหมด [5]
  3. คุณต้องทำความสะอาดแทงค์เป็นประจำเพื่อให้เต่าของคุณสุขภาพดี
    • เปลี่ยนน้ำดื่มทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียขยายพันธุ์ [6]
    • ถ้ามีระบบกรองน้ำที่ดี คุณก็ไม่น่าต้องเปลี่ยนน้ำสำหรับให้เต่าว่ายทุกวัน อย่างไรก็ตาม ให้ใช้สวิงตักสิ่งสกปรกออกบ่อยๆ และเปลี่ยนน้ำว่ายทุก 2-3 สัปดาห์
    • ถ้าจะทำความสะอาดบริเวณที่เต่าใช้ผึ่งแดด ให้ซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกแบบมาสำหรับแทงค์น้ำเต่าโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่แล้วสามารถซื้อได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยง อย่าใช้น้ำและสบู่ในการทำความสะอาดเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายต่อเต่าของคุณได้
    • อุ้มเต่าไปอยู่ที่อื่นเสมอเวลาทำความสะอาดแทงค์น้ำ แล้วก็อย่าลืมล้างมือหลังจับเต่าด้วย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การดูแลเต่าในแต่ละวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เต่าน้ำจืดเป็นสัตว์ประเภท omnivore คือมันกินทั้งพืชและสัตว์
    • ร้านขายสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ขายอาหารเม็ดสำหรับเต่า ให้ถามพนักงานว่าแนะนำยี่ห้อไหนหากคุณเองไม่แน่ใจว่าควรซื้ออะไร
    • สำหรับเนื้อสัตว์ เต่าน้ำจืดกินหอยทากและไส้เดือน และอาจกินเนื้อไก่และเนื้อหมูด้วย พวกมันชอบปลาทูน่าและปลาที่มีไขมันสูงอื่นๆ เป็นพิเศษ คุณควรให้มันกินเนื้อสัตว์ดิบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ [7]
    • สำหรับพืช ให้เต่ากินเบอร์รีและผักใบ อย่างเช่นผักกาดและผักโขม [8]
    • ร้านบางร้านขายวิตามินและแร่ธาตุเสริมอาหารเพื่อช่วยให้เต่ามีกระดองและผิวหนังที่สุขภาพดี หากเต่าของคุณมีปัญหาสุขภาพ คุณก็น่าจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้มันกินอาหารเสริมดู [9]
  2. เต่าน้ำจืดมีชื่อเสียงว่าดุร้าย เป็นสัตว์เลี้ยงที่เอาไว้ดูมากกว่า อย่าไปจับบ่อยๆ
    • คุณจะต้องทำให้เต่าเชื่อใจก่อนที่มันจะยอมให้คุณสัมผัส อย่าจับเต่าถ้ามันดูกลัวหรืออายเด็ดขาด บางครั้งเต่าน้ำจืดก็กัด แถมยังกัดแรงซะจนบางทีต้องไปหาหมอซะด้วย ทางที่ดีในการสร้างมิตรภาพกับเต่าและทำให้มันคุ้นชินกับคุณก็คือการใช้มือให้อาหารมัน [10]
    • หากเต่าดูสงบเวลาที่คุณอยู่ด้วย และยอมให้คุณจับหรือลูบตัว คุณก็สามารถอุ้มมันขึ้นมาอย่างเบามือได้เป็นครั้งคราว แต่ก็ควรจำกัดการไปจับเต่านะ เต่าน้ำจืดชอบอยู่สันโดษ ถ้าไปจับมันมากไปอาจทำให้มันเครียดได้ [11]
  3. รักษาความสะอาดในแทงค์ ไม่ให้มีเศษอุจจาระและอาหาร. เต่าน้ำจืดไม่ใช่สัตว์สะอาด เมื่อมันกินอาหาร มันมักจะทำเศษอาหารกระจายไปทั่ว และมักจะไม่เข้าห้องน้ำในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของแทงค์ด้วย คุณจะต้องกำจัดอุจจาระและเศษอาหารทุกวัน โดยเฉพาะในกรณีที่สิ่งเหล่านี้ตกลงไปในน้ำ สามารถใช้ช้อนตักทรายแมวหรือสวิงก็ได้ จะได้ไม่ต้องอุ้มเต่าออกจากแทงค์ทุกวัน เพราะการทำแบบนั้นอาจสร้างความเครียดให้ทั้งคุณและเต่า [12]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

สังเกตสุขภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำความเข้าใจว่าเต่าที่สุขภาพดีหน้าตาเป็นอย่างไร. ถ้าจะดูให้ออกว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า คุณจะต้องรู้ก่อนว่าเต่าน้ำจืดที่แข็งแรงหน้าตาเป็นอย่างไร
    • ตาของเต่าควรใสเป็นประกาย กระดองมัน ไม่มีรอยแตกที่เห็นได้ชัด ปากควรปิดได้อย่างสมมาตร [13]
    • เต่าที่สุขภาพดีจะเคลื่อนไหวเยอะ เต่าของคุณควรสามารถขยับตัวไปมาได้โดยไม่ต้องออกแรงเยอะมาก [14]
  2. การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงทุกชนิด สัตวแพทย์จะสามารถตรวจดูได้ว่ามีอาการของโรคอะไรหรือไม่ และแนะนำทางเลือกในการรักษาได้หากจำเป็น
    • โทรไปหาสัตวแพทย์ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถตรวจสัตว์เลื้อยคลานได้ สัตวแพทย์จำนวนมากเน้นดูแลสุนัขและแมว จึงอาจไม่มีประสบการณ์กับเต่าน้ำจืดหรือเต่าน้ำเค็ม คุณอาจจะต้องโทรไปหาสัตวแพทย์หลายๆ รายก่อนจะเจอรายที่ดี
    • สัตวแพทย์จะวัดส่วนสูงและน้ำหนักของเต่า และตรวจร่างกายคร่าวๆ น่าจะฟังเสียงหัวใจและปอดของเต่า และอาจขอตรวจสอบอุจจาระเพื่อหาพยาธิ [15]
    • คุณควรแจ้งสัตวแพทย์หากสังเกตเห็นว่าพฤติกรรมของเต่าเปลี่ยนไป รวมถึงแจ้งเรื่องอาหาร ขนาดแทงค์ โคมไฟให้ความร้อน และวิธีทำความสะอาดแทงค์ด้วย สัตวแพทย์อาจมีคำแนะนำดีๆ ในการดูแลเต่าก็ได้ [16]
  3. ปัญหาที่มักพบในเต่าคือการติดเชื้อแบคทีเรีย ปัญหาทางเดินหายใจตอนบน และพยาธิ คุณต้องเรียนรู้ที่จะดูให้ออกว่าต้องพาเต่าไปหาหมอเมื่อไหร่
    • ปัญหาใดๆ ก็ตามที่กระดอง เช่น กระดองเป็นขุย มันเหมือนขี้ผึ้ง หรือผิดรูปร่าง อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเต่าขาดวิตามิน หรือมีพยาธิ หากเห็นว่ากระดองเต่าผิดปกติ ให้ติดต่อสัตวแพทย์ [17]
    • ปากเต่าไม่ควรมีแผลหรือตุ่ม หากคุณเห็นว่ามี ให้คุยกับสัตวแพทย์ [18]
    • การติดเชื้อทางเดินหายใจตอนบนมักเกิดขึ้นกับเต่า ฉะนั้นให้คอยสังเกตอาการหายใจดังฮืดๆ ไอ หรือมีสารอะไรไหลออกมาจากปาก [19]
    • ถ้าเต่าน้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติ ไม่อยากอาหาร และอุจจาระมีเลือด แสดงว่ามันน่าจะมีพยาธิ [20]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ล้างมือบ่อยๆ เวลาจับเต่าหรือทำความสะอาดแทงค์
  • ถ้าเต่ากัดคุณแรงจนทะลุผิวหนัง ให้ไปหาหมอ คุณอาจจะต้องเย็บแผลและมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • จับข้างตัวเต่าเพื่อป้องกันไม่ให้มันข่วนคุณ แถมยังสบายตัวสำหรับเต่ามากกว่าด้วย
  • ให้อาหารเต่าในแทงค์อีกแทงค์ที่ไม่ใช่ที่อยู่ของมัน จะได้ไม่ต้องทำความสะอาดแทงค์ที่อยู่บ่อยๆ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,275 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา