ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มันนานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือกระทั่งหลายปีมาแล้วสินะ ที่คุณได้เลิกรากับแฟนหนุ่มคนเก่าไป แต่คุณก็ยังเอาแต่คิดถึงเวลาที่เคยสนุกร่วมกัน หรือมัวแต่หวังว่ายังคงอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา ซึ่งมันสมควรแก่เวลาแล้วที่คุณต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อลืมเขาให้ได้จริงๆ และเริ่มต้นมีความสุขอีกครั้ง ทั้งนี้ หากคุณต้องการจะลืมเขา คุณต้องตัดเยื่อไม่ให้เหลือใยและเริ่มหาความสุขใส่ตัว รวมถึงเลิกเอาแฟนเก่ามาเปรียบเทียบกับผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาเสียที แต่หากคุณยังไม่รู้วิธีที่จะตัดเขาให้เด็ดขาด ก็แค่ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ปรับทัศนคติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะต้องหาเวลาอาลัยอาวรณ์บ้าง ไม่จำเป็นต้องรีบกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ไปสังสรรค์กับเพื่อน หรือทำเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เพิ่งเลิกกับแฟนมา หากคุณไม่ปล่อยให้ตัวเองได้ปล่อยโฮ หรือร้องไห้ซบออกเพื่อนอย่างเต็มที่ ก็ยากที่จะตัดเยื่อใยได้จริงๆ
    • เป็นเรื่องธรรมชาติหากจะเศร้าหรือหลั่งน้ำตา อย่าหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร
    • หากคุณต้องการเวลาส่วนตัวสักพัก พยายามบอกคนรอบข้าง เช่น เพื่อนฝูงและครอบครัวไปตรงๆ แค่อย่าขังตัวเองไว้นานเกินไป จนอาจจมปลักในความเศร้า
  2. คุณอาจจะคิดถึงมันได้ หลังจากที่คุณทิ้งทุกอย่างและผ่านจุดนี้ไปได้แล้ว เพราะมันจะกลายเป็นความทรงจำที่น่าทะนุถนอม แต่ตอนนี้ หากคุณคิดถึงมัน ก็จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดมากขึ้น พยายามอย่าเพ้อฝันหรือรำพันถึงคืนวันเก่าๆ ที่คุณกับเขาเคยมีร่วมกัน
    • ในอนาคต เมื่อคุณมีมุมมองใหม่เกิดขึ้น คุณอาจจะเห็นมันเป็นความทรงจำล้ำค่า แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้
  3. แทนที่จะคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ในตอนนี้ คุณควรคิดถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้น และเรื่องแย่ๆ ที่ทำให้คุณกับเขาต้องเลิกกัน พยายามนึกถึงตอนที่ทะเลาะกัน ความไม่ลงรอยกัน หรืออะไรก็ได้ที่อาจเป็นสาเหตุของการเลิกรา แม้ว่าคุณอาจจะคิดถึงเขาบ้าง แต่มันจะช่วยย้ำเตือนว่าทำไมจึงไม่คู่ควรกัน!
    • แม้ว่าคุณไม่ควรคิดเรื่องเลวร้ายที่เขาทำกับคุณมากเกินไป แต่อย่างน้อย คุณควรคิดถึงมันทุกครั้งที่โหยหาคืนวันอันแสนหวานร่วมกับเขา
  4. นับเป็นเรื่องธรรมดาที่จะหวนกลับคิดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ และหาคำตอบว่าอะไรทำให้เลิกกัน แต่อย่าเสียเวลาเอาแต่ตำหนิตัวเอง แม้ว่าคุณอาจจะทำอะไรผิดจริงอันเป็นสาเหตุให้แฟนคุณบอกเลิก แต่อย่าไปมัวแต่คิดว่าฉันน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ พยายามยอมรับว่ามันจบลงแล้ว และคุณไม่สามรถย้อนเวลากลับไปได้แน่นอน
    • การปล่อยวางความเสียดาย เป็นก้าวสำคัญในการลืมแฟนเก่า หากคุณเอาแต่หมกมุ่นว่า รู้งี้น่าจะทำอย่างนั้นหรืออย่างนี้ คุณจะติดกับดักอดีต จนไม่สามารถมองไปข้างหน้าได้อีกเลย
  5. เขียนออกมาว่าคุณชอบอะไรเกี่ยวกับตัวเองบ้าง เมื่อทำเสร็จแล้ว เขียนข้อเสียทั้งหมดของแฟนเก่าลงในกระดาษอีกใบ อ่านดูสองใบเปรียบเทียบกัน และตระหนักเสียว่าทำไมเขาจึงไม่คู่ควรกับคุณ และทำไมจึงเลิกกันน่ะดีแล้ว คุณจะมั่นใจทีเดียวว่าแฟนคุณนั่นแหละที่น่ารังเกียจ และคุณก็จะรู้สึกขอบคุณพระเจ้า หรืออาจคิดว่า ดีจังที่เลิกกับคนพรรค์นั้นมาได้
    • การจดบันทึกสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเอง ยังสามารถช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหลังการเลิกรากับคนรัก เก่า
  6. แม้ว่าสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากจะทำ คือ การคิดบวก แต่หากคุณโฟกัสไปที่ข้อดีจากการเลิกรากัน มันจะช่วยให้คุณ กลับมามีความสุขอีกครั้งได้เร็วขึ้น และช่วยให้คุณมีมุมมองใหม่ด้วย พยายามรู้ทันตัวเองเวลาคิดลบ หรือเวลาอยากจะวีน ตัดความคิดว่าตัวเองดวงซวยออกไปให้หมด แล้วแทนที่มันด้วยความคิดดีๆ เกี่ยวกับชีวิตในอนาคตอันสดใส รวมถึงสิ่งดีๆ อะไรบ้างที่อาจรอคุณอยู่ รวมถึงการได้สนุกกับเพื่อนๆ และครอบครัวด้วย
    • ทุกครั้งที่รู้ทันว่าตัวเองกำลังคิดลบ ให้ชดเชยด้วยการคิดบวกเป็นสองเรื่องหรือสองเท่า
    • ใช้เวลาร่วมกับคนที่คิดบวกจะช่วยให้คุณคิดบวกได้ง่ายขึ้น พยายามมองหาคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองและโลกใบนี้
    • จดบันทึกสิ่งต่างๆ ที่คุณรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณ จะช่วยให้โลกของคุณสดใสน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ตัดเขาออกไปจากชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กำจัดสิ่งของที่ทำให้คุณนึกถึงเขาออกไปให้หมด. กำจัดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเขาไปเสีย ก่อนอื่นเลย เอาของๆ เขาไปกองรวมไว้ในกล่องหรือกระเป๋าใบใหญ่ๆ และส่งคืนเขาไปทันที คุณอาจจะฝากเพื่อนบางคนมาช่วยเก็บและนำไปส่งให้เขาก็ได้ คุณจะได้ไม่ต้องได้กลิ่นกายเขาที่ติดอยู่ หรือสัมผัสของส่วนตัวเขาอีก รวมถึงจะได้ไม่ต้องไปเจอเขาเองด้วย จากนั้น รวบรวมสิ่งที่ใช้หรือเป็นความทรงจำร่วมกัน เช่น รูปถ่าย แผ่นซีดีที่เข้าให้คุณ หรือของที่ระลึกที่ๆ คุณเคยไปเที่ยวกัน เอาไปเก็บให้หมด
    • คุณอาจจะเศร้าเล็กน้อย หากคิดว่าของเหล่านั้นเป็นความทรงจำที่ยังพอเหลืออยู่สำหรับคิดถึงเขา แต่คุณต้องบอกตัวเองว่าทำถูกแล้ว คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และมันยังเป็นก้าวแรกในการเยียวยาหัวใจด้วย
    • หากคุณอยากจะถนอมความทรงจำเอาไว้ และอยากนำมันกลับไปคืนเขาด้วยตัวเองสักวัน ก็เก็บรวมๆ กันไว้ให้พ้นสายตาก่อน จะเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน หรือเอาไปฝากเพื่อนไว้ก่อนก็ได้ ขอแค่อย่าเผลอไปเปิดดูด้วยความคิดถึงอีก
  2. แม้คุณอาจจะคิดว่า หากได้คุยกับเขาบ้างก็คงดี เพราะคุณคิดถึงเขาเหลือเกิน แต่มันจะยิ่งทำให้คุณแย่ลงหลายพันเท่า ทุกครั้งที่คุณได้ยินเสียงเขา คุณจะรู้สึกเสียใจและเสียดาย ขมขื่น และอารมณ์ในทางลบต่างๆจะพรั่งพรูออกมาทำให้สภาพจิตใจคุณดิ่งเหวลึกลงไปอีก นอกจากกรณีที่คุยกับเขาเพื่อธุระบางอย่าง เช่น จะแบ่งทรัพย์สินที่มีชื่อร่วมกันกันอย่างไร คุณควรจะเลิกคุยกับเขาให้เด็ดขาดไปเลย [1]
    • อย่าคิดว่าการไปพบหน้ากัน กินกาแฟด้วยกัน และทำเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น จะทำให้คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เพราะมันรังแต่จะทำให้คุณเจ็บปวดมากขึ้น หากเขาต้องการให้คุณเป็นเพื่อนกับเขาต่อไป คุณควรปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่มีทาง คุณอาจจะทำได้ในอักหลายเดือนหรือหลายปีข้างหน้า แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่
    • เลิกโทรหรือส่งข้อความหาเขา แม้แต่จะคิดถึงก็ห้าม
    • แม้ว่าคุณจะอยากให้เขาคิดว่า คุณไม่แคร์หรอกถ้าเขาจะวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แต่จงพยายามหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ๆ คุณอาจเจอเขาได้
    • การพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอเขาเลย อาจทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะคุณอาจบังเอิญเจอกันเมื่อไรก็ได้ แต่ขอให้พยายามทำดู เพื่อตัวคุณเอง
  3. หากแฟนเก่าคุณมักเล่นเฟสบุ๊ค ทวีตเตอร์ หรืออินสตาแกรม คุณควรเลิกเล่นชั่วคราว เพราะอาจจะทำให้คุณบังเอิญรับรู้ความเป็นไปของเขา ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ การเห็นภาพหรือคำพูดที่เขาโพสท์อาจทำให้คุณสติแตกได้ เช่น คุณอาจเร้สึกเสียใจที่เห็นเขาเริ่มต้นใหม่ได้เร็ว หรือคุณอาจเอาแต่หึงว่าเขากำลังโพสท์หาผู้หญิงคนใหม่หรือเปล่า
    • คุณอาจจะเล่นต่อไปก็ได้ แต่ขอเพียงบล็อกเขาไว้ก็พอ นี่อาจดูเหมือนทำตัวเป็นเด็กๆ แต่ก็ยังดีกว่าต้องคอยจ้องหน้าเพจของเขาอย่างโหยหาอาวรณ์
  4. ต่อให้คุณและเขาอาจมีเพื่อนเก่าร่วมกันอยู่มากมาย คุณควรจะหลีกเลี่ยงในการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและเรื่องของเขา หรือที่แย่กว่านั้นคือ ถามถึงแฟนใหม่ของเขา เพราะมันจะทำให้คุณยิ่งอยากไปอยู่ใกล้ๆ เขา และหากคุณเอาแต่โหยหาเขาอยู่ล่ะก็ สักวันเขาต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ
    • หากคุณมีเพื่อนร่วมกันมากมาย คุณอาจบอกคนเหล่านั้นว่า กรุณาอย่าพูดถึงแฟนเก่าคุณให้ได้ยินในช่วงนี้ก่อน ซึ่งแม้ว่ามันอาจดูเหี้ยมเกรียมไปสักหน่อย แต่พวกเขาก็จะเข้าใจและเคารพในจุดนี้
  5. หากคุณต้องการลืมแฟนเก่าและเอาเขาออกไปจากชีวิตให้ได้เร็วๆ คุณควรหลีกเลี่ยงในการทำกิจกรรมที่เคยทำกับเขา ต่อให้คุณยังรู้สึกสนุกกับมันอยู่ก็ตาม หากคุณชอบไปปั่นจักรยานกับเขา ตอนนี้ขอให้พักการปั่นเอาไว้ก่อน หากคุณชอบฟังหรือร้องเพลงอะไรร่วมกับเขา พยายามเปลี่ยนไปฟังอย่างอื่นชั่วคราว
    • รวมถึงการไปกินอาหาร หรือนั่งดื่มที่ร้านโปรดตอนคบกับเขาด้วย พยายามหลีกเลี่ยงอะไรก็ตามที่อาจทำให้คุณคิดถึงเขา หรืออยากให้เขาอยู่ที่นั่นด้วย
    • สุดท้ายแล้ว คุณกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ เหล่านั้นได้เอง แต่ตอนนี้ คุณควรหากิจกรรมอื่นทดแทนไปก่อน
    • หากมีรายการทีวีใดที่คุณเคยดูกับเขาบ่อยๆ ปิดโทรทัศน์ซะ แล้วอ่านหนังสือแทน
    • แน่นอนว่า คุณไม่จำเป็นต้องยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดที่คุณชอบ คุณอาจจะประยุกต์หรือหากิจกรรมใหม่ที่พอจะทดแทน และไม่ทำให้คุณคิดถึงเขา
  6. หากคุณต้องการที่จะตัดขาดกับเขาออกไปจากชีวิตจริงๆ ลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมดู เพื่อจะได้ไม่มีใบหน้าของเขามาวนเวียนสิงสถิตอยู่ คุณอาจตกแต่งหรือจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนรูป เปลี่ยนต้นไม้ ในบริเวณที่พัก มันจะช่วยให้คุณไม่ต้องนึกถึงภาพเก่าๆ ตอนอยู่กับเขาอีก
    • หากคุณต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ จริงๆ อาจหาเวลาไปพักผ่อนต่างจังหวัด หรือต่างประเทศดูสักพัก การไปในที่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จะช่วยให้คุณตัดเขาได้เร็วขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

มีความสุขกับชีวิตอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่เหมือนแฟนเก่าคุณ คนในครอบครัวมักจะอยู่ข้างคุณและมอบความรักให้คุณเสมอ ในเมื่อตอนนี้คุณโสดแล้ว คุณก็สามารถใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและพัฒนาความสัมพันธ์ได้มากขึ้น พยายามร่วมทานอาหารกันพร้อมหน้าบ่อยๆ ช่วยงานบ้าน และพูดคุยกันอย่างจริงจังกับคนในครอบครัว มันจะช่วยให้คุณรู้สึกดีมากขึ้นและยังช่วยให้คุณรู้สึกว่ามีเรื่องดีๆ รออยู่ข้างหน้า
    • หากคุณอยู่ห่างไกลจากครอบครัว คุณก็สามารถใช้พยายามสักหน่อย ในการติดต่อกับพวกเขา เช่น โทรศัพท์ หรือใช้สไกป์หรือส่งการ์ดไปหาญาติๆ ในโอกาสพิเศษต่างๆ
  2. สิ่งนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกดี และฟื้นตัวจากความเศร้าได้เร็วขึ้น ไม่ว่าคุณจะเศร้าหมองมากแค่ไหน การใช้เวลาอันสนุกสนานร่วมกับเพื่อนๆ จะช่วยเป็นยารักษาบรรเทาความเจ็บปวดให้คุณได้ คุณอาจชวนกันไปช้อปปิ้ง ดูหนัง หรือสังสรรค์ดื่มกินกันที่ไหนสักแห่ง พยายามยกระดับสภาพจิตใจตัวเอง แม้เพียงแค่สักหนึ่งหรือสองชั่วโมงก็ตาม
    • บอกตัวเองว่า ต่อไปนี้คุณไม่ต้องมัวแต่กังวลเรื่องแฟนอีกแล้ว คุณจะได้มีเวลาโฟกัสและใช้เวลากับเพื่อนของคุณเองมากขึ้น
    • เปิดใจให้กว้าง พยายามพูดคุยกับเพื่อนคุณว่า คุณรู้สึกอย่างไร และให้พวกเขาได้ช่วยปลอบใจคุณบ้าง
    • อย่าลืมทำตัวให้สนุกสนาน หากคุณเอาแต่ระบายหรือร้องไห้โฮ เวลาไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ระวังพวกเธอจะเบื่อเอา
    • คุณสามารถใช้เวลาช่วงระยะทำใจนี้ ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรู้จัก หากคุณรู้สึกถูกชะตากับสาวพนักงานใหม่ คุณอาจจะชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันก็ได้
  3. แม้ว่าการทำตัวให้ยุ่ง อาจเป็นเรื่องที่คุณรู้สึกไม่อยากทำ แต่มันวิธีการที่ช่วยให้คุณลืมแฟนเก่าได้เร็วขึ้น หากคุณเอาแต่นั่งอยู่ในมุมมืดที่ห้องทั้งวัน คุณก็มีแนวโน้มจะคิดว่า แฟนคุณกำลังทำอะไร กับใครที่ไหนอย่างไร แต่หากคุณจัดตารางกิจกรรมของตัวเองให้เต็ม เช่น ไปพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง ไปออกกำลังกาย รวมถึงกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน คุณจะไม่มีเวลาไปสนใจกับรักที่เพิ่งจบลง [2]
    • พยายามใส่กิจกรรมลงในสมุดตารางประจำวันของคุณให้แน่น จะช่วยให้คุณมีความหวังและมองไปข้างหน้าเสมอ
    • การจัดตารางให้ยุ่ง ไม่ได้หมายความว่าต้องเอาเวลาไปสังสรรค์ตลอดเวลา จนไม่มีเวลาพักหายใจ คุณควรจัดแบ่งเวลาสำหรับอยู่คนเดียวเพื่อใคร่ครวญบ้าง แค่อย่าให้มากเกินไป
  4. แม้ว่ามันอาจฟังดูตลกที่จะไปออกกำลังกายเพื่อลืมแฟนเก่า แต่คุณจะรู้สึกดีอย่างมากหากจัดตารางออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายแค่ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยให้สุขภาพกายและจิตของคุณ ได้ประโยชน์อย่างมหาศาล หากคุณเอาจริงกับการลืมแฟนเก่า คุณก็ควรหาวิธีออกกำลังกายที่คุณชอบ และทำมันเป็นประจำ
    • อย่าลืมใส่ตารางออกกำลังกายดังกล่าว ลงไปในตารางประจำวันคุณด้วย จะช่วยให้คุณไม่มีเวลาว่างเลย
    • อย่าทำสิ่งที่คุณเกลียด หาสิ่งที่คุณรักทำ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง โยคะ เล่นกล้าม ว่ายน้ำก็ได้
  5. คุณควรหลีกเลี่ยงการขลุกอยู่แต่ในบ้าน และออกไปให้บ่อยที่สุด ต่อให้ออกไปคนเดียวหรือไม่มีอะไรทำก็ตาม แทนที่จะวิ่งอยู่แต่ในยิม ลองออกไปวิ่งกลางแจ้งดูบ้าง แทนที่จะทำงานหรือกินข้าวในบ้าน ลองไปหาร้านนั่งสักหน่อย จะได้ไม่เหงา คุณอาจทำกิจกรรมเดิมๆ แต่เปลี่ยนมาทำนอกบ้าน ซึ่งคุณอาจจะยังตัวคนเดียว แต่อย่างน้อยมีผู้อื่นรายล้อมด้วย
    • การรับแสงแดดและสูดอากาศสดชื่น สามารถช่วยให้สุขภาพจิตคุณดีขึ้นได้จริงๆ
    • หากคุณกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อน อย่านั่งคุยในความมืด ให้ออกไปเดินเล่นและคุยไปด้วย จะได้ออกกำลังกลางแจ้งและคุยไปในเวลาเดียวกัน
  6. อย่าให้การเลิกกับแฟนมาทำลายงานอดิเรกของคุณ แค่เพียงเพราะคุณเศร้า ไม่ได้หมายความว่าต้องเลิกทำกิจกรรมที่มีความสุข และมีความหมายต่อคุณ หากคุณชอบไปเรียนเต้นเย็นวันจันทร์ ก็ไปตามนั้นอย่าโดด หากคุณชอบถ่ายรูปเล่นในวันอาทิตย์ ก็ไปถ่ายให้เป็นปกติ หากคุณหยุดทำกิจกรรมเหล่านั้น คุณจะยิ่งประสาทเสีย
    • คุณอาจคิดว่าการทำเรื่องเหล่านั้นมันยาก หรือเป็นไปไม่ได้ ขอให้ฝืนใจทำไปก่อน เดี๋ยวก็ชินไปเอง ในเวลาไม่นานคุณจะเริ่มสนุกกับมันอีกครั้ง
    • หากคุณไม่ทำสิ่งที่คุณชอบ คุณอาจจะลืมอัตลักษณ์ขอตัวเองไป พยายามเตือนตัวเองให้รู้ว่าเคยเป็นคนที่สมบูรณ์ในตัวเองอย่างไร ก่อนจะคบกับแฟนเก่า พยายามเอาคุณคนเดิมนั้นกลับมาเติมเต็มใหม่อีกครั้ง
  7. แม้ว่าการจิบไวน์สักแก้วสองแก้วกับเพื่อนฝูง จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ มันไม่ดีแน่หากคุณดื่มมากไป เพราะหากคุณเมา คุณจะกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ร้องไห้ และทำลายค่ำคืนอันแสนสนุกของเพื่อนๆ รวมถึงของตัวเองด้วย แม้ว่าอาจจะหักดิบสักหน่อย แต่คุณควรหยุดดื่มหนักๆ จนกว่าจะกลับมามีอารมณ์มั่นคงเหมือนเดิมอีกครั้ง [3]
    • หลายคนหันหน้าเข้าพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เวลาที่เจอกับเรื่องแย่ๆ แต่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย หากคุณเคยดื่มกันอย่างเมามันส์กับเพื่อนๆ ช่วงนี้ควรหากิจกรรมห่างไกลสุรากันไว้ก่อน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

หาความสงบทางใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนที่คุณจะสามารถก้าวข้ามแฟนเก่าได้ คุณต้องหัดมีความสุขกับตัวเองให้ได้เสียก่อน แม้ว่าการใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ แต่สุดท้ายแล้วคุณควรเข้มแข็งพอที่จะใช้เวลาค่ำคืนคนเดียวอย่างมีความสุข เช่น อ่านหนังสือ หรือดูหนังฟังเพลงที่ตัวเองชื่นชอบ
    • วางเป้าหมายที่คุณอยากทำให้สำเร็จ เช่น การฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งวิ่งมาราธอน เขียนนิยายสักเรื่อง หรือหัดเล่นเปียโนด้วยตนเอง การทำกิจกรรมที่ท้าทายตัวเองสักนิด และทำให้มันบรรลุผล จะช่วยเสริมความมั่นใจให้คุณ และช่วยให้คุณชอบที่จะใช้เวลาส่วนตัวคนเดียวมากขึ้น
    • เขียนบันทึกส่วนตัว. มันจะช่วยให้คุณคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาและเห็นพัฒนาการของตัวเองทุกวัน
    • ทำสมาธิ ไม่จำเป็นต้องไปนั่งเป็นกลุ่ม กิจกรรมอันน่าอัศจรรย์ใจที่คุณสามารถทำคนเดียวได้เช่นนี้ นอกจากจะช่วยให้คุณผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้คุณดึงสติกลับมาที่กายและใจของตัวเองได้ดีขึ้นอีกด้วย
  2. นอกจากทำงานอดิเรกที่คุณชอบต่อไป และออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้วอีกสิ่งที่คุณควรทำ คือ การหากิจกรรมใหม่ถอดด้ามทำ เพื่อที่จะหาสิ่งที่มีความหายกับชีวิตคุณ มาช่วยให้คุณมีมุมมองใหม่กับชีวิตในอนาคตข้างหน้า คุณอาจลองศึกษาเรื่องการถ่ายรูป แต่งกลอน เขียนหนังสือ ตกปลา ฯลฯ หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ที่คุณเคยใฝ่ฝันแต่กลัว หรือไม่ได้มีโอกาสทำก่อนหน้านี้
    • คุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ที่มีความสนใจอย่างแรงกล้าในกิจกรรมบางอย่าง เผื่อคุณจะได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาบ้าง
  3. แม้ว่าคุณอาจไม่เชื่อว่า การเป็นโสดก็มีความสุขได้ เพราะตอนนี้ในหัวคุณมีแต่วนเวียนคิดถึงอดีตแฟน แต่คุณควรเริ่มมองหาความสุขให้กับตัวเอง โดยไม่ต้องคิดมากก่อนพูดหรือทำ และฉลองให้กับความอิสระ แต่งตัวให้เต็มเหนี่ยว ออกไปเต้นเฉี่ยวกับเพื่อนๆ หว่านเสน่ห์ให้สุดๆ หรือทำสิ่งที่แฟนเก่าคุณไม่ชอบทำ เช่น ปั่นจักรยาน อ่านหนังสือ หรือไปนั่งร้านเสริมสวยก็ได้
    • หาคำแนะนำจากเพื่อนผู้หญิงที่ยังโสด พวกเธออาจจะแนะนำเคล็ดลับการสุขแบบโสดๆ ให้คุณได้
    • เวลาจะออกไปเที่ยว แต่งตัวให้เต็มเหนี่ยวสุดๆ ไปเลย ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใครแล้วนี่นา ไม่ต้องกังวลเรื่องรูปลักษณ์มาก ใส่อะไรก็ได้ที่ออกแนวทันสมัย หรือไฉไลแบบที่คุณไม่เคยแต่งให้อดีตแฟนเห็น
  4. ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ ก็คือการออกเดทกับผู้ชายคนแรกที่เจอ ทันทีที่เลิกกับแฟนเก่า คุณอาจคิดว่าการคบคนใหม่ จะมาช่วยกลบแผลเก่าได้ แต่คุณกลับจะยิ่งเจ็บปวดแย่ลงกว่าเดิมต่างหาก เพราะในใจคุณจะคอยแต่เปรียบเทียบประสบการณ์กับตอนคบแฟนเก่า และก็มีแนวโน้มมากว่า คุณจะให้คะแนนแฟนเก่ามากกว่า ตามประสาผู้หญิงทั่วไป
    • ไม่เพียงแต่คุณจะหายเจ็บปวดใจช้าลง แต่คุณยังอาจจะทำร้ายจิตใจแฟนใหม่ ผู้ที่อุตส่าห์หลงรักคุณ โดยไม่รู้ตัว
    • คุณจะรู้ได้ว่า คุณพร้อมมีแฟนใหม่แล้ว ก็ต่อเมื่อคุณเจอผู้ชายบางคนที่คุณรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้จักจริงๆ โดยแทบไม่ได้คิดถึงแฟนเก่าอีกเลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากเขาโทรหรือส่งข้อความหาคุณ หลังจากบอกเลิกคุณไปแล้ว อย่ารับสายหรือส่งข้อความตอบ เพื่อจะได้เป็นการสื่อให้เขารู้ว่า เขาไม่มีค่าอีกต่อไปแล้ว
  • คุณอาจลบหรือบล๊อคเบอร์เขาไปเลยก็ได้ หากคิดว่าจะรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้น คุณควรติดต่อกับเพื่อนฝูง เพื่อไปสังสรรค์กับพวกเธอแทน
  • หากเขานอกใจหรือปฏิบัติต่อคุณแย่ๆ ระหว่างที่คบกัน และคุณอยากจะต่อว่าเขาล่ะก็ พยายามวางแผนล่วงหน้าก่อน การสั่งสอนใครสักคนอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องสั้นกระชับ ตรงประเด็น แต่ให้มีน้ำจิ้มเล็กน้อยพอที่จะให้เขาแสบๆ คันๆ หรือสำนึกเสียบ้างที่เคยทำไม่ดีกับคุณไว้
  • ตอนที่จะเอาของๆ เขาไปคืน คุณควรทวงของตัวเองคืนมาด้วยเลย เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า คุณต้องการตัดเยื่อไม่ให้เหลือใย และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปแล้ว
  • หากคุณและเขาจบกันด้วยดี และคุณพร้อมจะเป็นเพื่อนกันกับเขาต่อไป ก็อย่าไปก้าวร้าวใส่เขาในภายหลังล่ะ ไม่งั้นโอกาสเป็นเพื่อนกันก็มลายหายไปด้วย
  • อย่าไปในที่ที่ ทำให้คุณนึกถึงวันเวลาร่วมกับเขา
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ากับไปคบหากับคนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่กับตัวเองเด็ดขาด! ไม่ว่าเขาจะขอโทษ หรืออ้อนวอนให้คุณอภัยมากแค่ไหนก็ตาม พยายามนึกถึงตอนที่เขานอกใจคุณ หรือด่าว่าคุณอ้วน และพยายามเข้มแข็งหนักแน่นเข้าไว้
  • หากคุณไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าเขา ก็อย่าทำ คุณเสี่ยงที่จะยืนตัวแข็ง พูดจาตะกุกตะกัก และรู้สึกต่ำต้อยมาก ต่อให้คุณมั่นใจว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นก็เถอะ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
จบความสัมพันธ์
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 30,194 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา