ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนบ้างไหมเวลาใครคนนั้นเดินผ่าน คุณจะลองทำให้เขาสนใจคุณไหม อย่าได้กลัวไป มีหลายวิธีที่จะทำให้เขาหันมาเห็นคุณ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการจีบ การแต่งตัวให้เหมาะสม หรือการฟังว่าเขาพูดอะไร

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทำตัวเองให้เป็นจุดสังเกต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่างแรกที่คนทั่วไปจะมองคนอื่นก็คือรูปลักษณ์ภายนอก นี่ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าดีหรือไม่ดี และไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องแต่งตัวเต็มยศตลอดเวลา แต่หมายถึงการที่คุณมีโอกาสมากกว่าในการทำให้หนุ่มคนนั้นสังเกตเห็นคุณหากคุณทำให้ตัวเองดูสวย
    • น่าแปลกอยู่ที่การมีผมสุขภาพดีก็เป็นการดึงดูดอย่างหนึ่งที่สำคัญ ความหนา ความเงา และกลิ่นหอมๆ ล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดผู้ชายสักคน คุณต้องสระผมอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง (การสระผมทุกวันเป็นการลดน้ำมันซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น) และต้องใช้ครีมบำรุงผมด้วย
    • ใส่เสื้อผ้าที่ทำให้คุณดูดีขึ้น ฟังดูเหมือนจะเป็นการทำตัวสวยไร้สมอง แต่เชื่อเถอะว่าคนหลายคนพยายามใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะกับพวกเขาหรือพวกเขาใส่แล้วไม่มั่นใจ สำหรับการโชว์ร่องอกนิดๆ หน่อยๆ (หากคุณเป็นผู้หญิง) แน่นอนว่าเขาจะต้องสังเกตเห็นคุณเร็วขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องมั่นใจกับเสื้อผ้าที่คุณใส่ด้วย
    • การออกกำลังกายทำให้คุณมีสุขภาพดีและมีรูปร่างดี หากิจกรรมออกกำลังกายที่คุณชอบ เช่น การเต้นซุมบ้า โยคะ วิ่ง หรือเต้น ออกกำลังกายอย่างน้อย 15 นาทีทุกวันแล้วร่างกายของคุณจะรักคุณ
  2. สีแดงสามารถดึงดูดเพศชายได้มากกว่าสีอื่น อะไรบางอย่างในสีนี้เป็นสัญญาณของความปรารถนาและแรงดึงดูด ซึ่งจะทำให้คุณได้รับความสนใจมากกว่าสีใดๆ [1]
    • คุณอาจจะมั่นใจใส่เดรสสีแดงสดไปเลย หรืออาจจะแค่ทาลิปสติกสีแดง พันผ้าพันคอสีแดง หรือใส่รองเท้าสีแดงก็ได้
    • น่าสนใจที่สีแดงก็ทำให้ผู้ชายดูเซ็กซี่ขึ้นเช่นกัน คำแนะนำนี้จึงไม่จำกัดอยู่แค่ผู้หญิง แต่หนุ่มๆ เองก็ใช้วิธีนี้ดึงดูดหนุ่มๆ ได้เช่นเดียวกัน [2]
  3. การออกเดทก็เหมือนการหางานหรือการตลาด หมายถึงคุณจะต้องหาทางที่จะจับผู้ชายคนนั้นให้อยู่ด้วยการนำเสนอตัวเอง ไม่ได้ความว่าคุณควรจะแสร้งทำเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวคุณ แต่เป็นการที่คุณจะต้องแสดงสิ่งที่ดีในตัวคุณออกมาและทำให้เขาเห็นถึงตัวตนที่เรียบง่ายของคุณ [3]
  4. ลองคิดถึงข้อดีของตัวเอง ถ้าคุณคิดไม่ค่อยออก (หลายคนทำไม่ได้เพราะมีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง) ลองให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวที่คุณสนิทช่วยคิด สิ่งที่อาจจะเป็นไปได้มีหลายอย่าง เช่น เป็นคนเล่าเรื่องตลกเก่ง เต้นเก่ง เข้าสังคมได้ง่าย ชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นต้น
  5. เลือกข้อดีของตัวเองมาสักสามข้อ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องสูญเสียความเป็นตัวเองด้านอื่นไป แต่นี่เป็นทางลัดในการนำเสนอตัวตนของคุณให้หนุ่มคนนั้นในช่วงแรก หากเขาสนใจคุณ เขาก็จะค่อยๆ ทำความรู้จักด้านอื่นของคุณ จากตัวอย่างข้างต้น คุณอาจจะนำเสนอตัวตนของคุณว่าเป็น "นักเต้นที่ชอบเข้าสังคมและรักการเล่าเรื่อง"
    • นี่ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องซ่อนส่วนอื่นๆ ที่เป็นคุณเอาไว้ หากคุณชอบแต่งตัวย้อนยุคและชอบไปตลาดขายของเก่า นั่นก็เยี่ยมเลย ถ้าเขาชอบอะไรแบบนี้เหมือนกันคุณก็ควรจะดึงจุดนี้มาใช้ นอกเสียจากว่าคุณไม่มั่นใจว่าเขาจะตอบรับอย่างไร ก็ควรจะรอก่อนจนกว่าคุณจะรู้จักกันดีกว่านี้
  6. สาเหตุที่ความมั่นใจนั้นมีความดึงดูด ก็เพราะว่ามันทำให้เห็นว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับตัวเองและทำให้คนอื่นรู้ว่าเขาควรรู้สึกอย่างไรกับคุณ ยิ่งคุณรู้สึกแย่กับตัวเอง คนอื่นก็น่าจะไม่รู้สึกดีกับคุณไม่ว่าคุณจะดูดีขนาดไหน
    • หากคุณมีปัญหาเรื่องความมั่นใจ ลองแสร้งทำเป็นมั่นใจไปจนกว่ามันจะกลายเป็นธรรมชาติสำหรับคุณ คุณสามารถหลอกตัวเองได้ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อน (เช่น ใส่ส้นสูง ทาปากแดง) แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงการบอกหนุ่มคนนั้นว่าคุณรู้สึกอย่างไร
    • อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงด้วยกันเอง (หากคุณเป็นผู้หญิง) คุณจะพบว่าในชีวิตคุณจะต้องมีคนที่สวยกว่า มั่นใจกว่า และมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่าคุณ หากคุณจดจ่ออยู่กับสิ่งดีๆ ของตัวคุณเองและชีวิตคุณ คุณจะไม่สนใจเลยว่าจะมีใครที่ไหนดีกว่าคุณ
  7. คนเราชอบพูดเรื่องตัวเอง และจะชอบกว่าเดิมหากมีใครสนใจเรื่องของเรา เวลาคุณสองคนคุยกัน อย่าลืมทำให้บทสนทนานั้นเกี่ยวกับเขา แทนที่จะพูดอะไรที่คุณอยากพูดขึ้นมา คุณควรสนใจกับสิ่งที่เขาพูดด้วยการถามคำถามต่อไป
    • สิ่งที่ควรจำคือ ยิ่งคุณคุยกันสนิทกันมากเท่าไหร่ แรงดึงดูดนั้นก็จะมีมากขึ้น คุณควรจะเต็มใจเปิดเผยเรื่องของตัวเองบ้าง
    • อย่าให้เขาพูดอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเห็นว่าเขาอยากจะพูดแต่เรื่องตัวเองเท่านั้นก็รีบชิ่งเถอะ ผู้ชายแบบนั้นคงจะเป็นคู่รักที่ไม่ดี ความหลงตัวเองอาจเป็นสัญญาณของคนที่ชอบเหยียดหยามหรือชอบความรุนแรง จำไว้ว่าความคิดความรู้สึกและชีวิตของคุณก็สำคัญเช่นกัน
  8. เพื่อนของผู้ชายนั้นก็สำคัญเช่นเดียวกับเพื่อนของผู้หญิง เพื่อนๆ นี้มีส่วนสำคัญว่าสุดท้ายแล้วเขาจะรู้สึกกับคุณอย่างไร หากพวกเขาไม่ชอบคุณ เขาอาจจะหาทางขัดขวางคุณ แต่ถ้าพวกเขาชอบคุณ เขาก็จะอยู่ข้างคุณและหนุ่มที่คุณชอบ
    • ทำความรู้จักพวกเขา ถามคำถามเกี่ยวกับชีวิตพวกเขาและเรื่องที่สนใจ เวลาเจอกันก็อย่าลืมถามถึงเรื่องที่เคยพูดถึง ทำให้พวกเขาเห็นว่าคุณสนใจพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น หากกลุ่มเพื่อนเขาชอบเล่นเกมส์ ลองถามเพื่อนเขาว่าตอนนี้ทำลายคะแนนสูงสุดตามที่ตั้งใจไว้หรือยัง
    • ในกรณีเดียวกัน อย่าลืมว่าถ้าพวกเขาเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง หรือเมินคุณเวลาคุณออกความเห็น คุณควรจะคิดให้ดีเกี่ยวกับผู้ชายคนที่คุณชอบ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

จีบเขาเลย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นเรื่องน่าสนใจที่การทำสิ่งที่กระตุ้นอะดรีนาลีนนั้นจะช่วยให้เขาหลงคุณมากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเริ่มมีผูกพันกันบ้างแล้ว
    • ความตื่นเต้นกระตุ้นแรงดึงดูด ดังนั้นถ้าคุณทำให้เขาตื่นเต้นได้ (ไม่ใช่เรื่องทางเพศ) ก็เป็นไปได้ว่าจะช่วยทำให้เขาหลงคุณมากขึ้น
    • ไอเดียที่ช่วยเพิ่มอะดรีนาลีน เช่น การเล่นเกมส์หรือเล่นไพ่ การเล่นบอล ดูหนังสยองขวัญ ไปปีนเขา และอื่นๆ
  2. หากคุณจะทำตามวิธีเหล่านี้เพียงข้อใดข้อหนึ่ง คุณควรจะเลือกข้อนี้ การสบตา ยิ่งเป็นการสบตานานๆ จะช่วยเพิ่มแรงดึงดูดและเชื่อมความสัมพันธ์ได้ [4]
    • ถึงแม้ว่าการสบตานานๆ จะทำให้คุณอึดอัด อย่าหยุด เพราะความอึดอัดนั้นจะเปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์ที่ดี
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังคุยกำลังเขาก่อนเข้าเรียน ระหว่างคุยก็สบตาเขาไปด้วย นอกจากจะทำให้คุณไม่วอกแวกแล้ว ยังทำให้เกิดความน่าตื่นเต้นระหว่างคุณสองคนอีกด้วย
  3. คุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าร่างกายของคุณสื่อสารอะไรได้บ้าง ลองใช้เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อเพิ่มความสนใจจากเขาดูสิ ลองเพิ่มภาษากายเข้าไปเวลาจีบเขาหรือคุยกับเขา [5]
    • โน้มตัวไปข้างหน้า คนเราจะรู้สึกดึงดูดเพื่อโน้มตัวเข้าหากัน ลองพูดด้วยเสียงต่ำลง โน้มตัวอยู่เหนือโต๊ะ หรือโน้มตัวไปทางเขาเวลาเจอกันที่โถงทางเดิน
    • สังเกตการขยับตัวของเขา คนเรามักจะทำดีกับคนที่เหมือนเรา ลองดื่มน้ำพร้อมๆ เขา วางมือบนโต๊ะให้เหมือนกับเขา เขาจะไม่สังเกตสิ่งเล็กๆ เหล่านี้แต่มันจะช่วยเพิ่มการตอบสนองที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเขาที่มีต่อคุณ
    • ยิ้มเยอะๆ ไม่มีทางไหนเหมือนรอยยิ้มที่จะดึงความสนใจจากคนอื่น การยิ้มให้เขาจะไปได้ดีหากคุณสบตาเขาไปด้วย
  4. ไม่มีทางไหนจะดีไปกว่าการใช้อารมณ์ขันทำให้คนสองคนใกล้ชิดกัน การทำตัวสนุกสนานเวลาอยู่ด้วยกันเป็นการจีบกันที่ดี และการเล่าเรื่องตลกก็ทำให้เขาเห็นว่าคุณเป็นคนสนุกสนานและสบายๆ
    • แม้ว่าอารมณ์ขันของแต่ละคนจะต่างกัน การเล่าเรื่องตลกจากประสบการณ์จริงนั้นทำให้คนขำได้เสมอ ลองเล่าให้เขาฟังเรื่องที่คุณขึ้นรถเมล์ผิดสายแล้ววนไปอีกครึ่งเมือง หรือเรื่องที่พ่อคุณลืมชื่อของคุณตอนแนะนำคุณให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงาน แต่อย่าทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ระหว่างเล่าเรื่องเหล่านี้ (เช่น เรียกตัวเองว่า ยัยโง่ หรืออะไรแบบนี้)
    • การโต้เถียงกันสามารถช่วยสร้างแรงดึงดูดระหว่างคุณได้ หมายถึงการแกล้งกัน เช่น เวลาเล่นไพ่ คุณอาจจะแกล้งกัดเขาเรื่องไพ่ที่เขาเลือก หรือออกตัวว่าคุณนี่แหละเป็นเซียนไพ่แห่งวงการ เขาจะได้ขำคุณเวลาคุณแพ้
  5. ในเมื่อคุณใช้ร่างกายของคุณในการทำให้เขาสนใจ ร่างกายของเขาก็บอกคุณได้ว่าลึกๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไร ถึงแม้จะไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอน แต่ก็สามารถช่วยตีความอารมณ์ความรู้สึกของเขาได้ [6]
    • เวลาเขาโน้มตัวมาข้างหน้าเวลาฟังคุณหรือพูดกับคุณนั้นเป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเขาพูดเบาๆ มันอาจจะหมายความว่าเขาอยากให้คำพูดของเขาเป็นเรื่องใกล้ชิดระหว่างคุณสองคน และไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน
    • ผู้ชายที่โดนตัวคุณบ่อยๆ ก็มีท่าทีที่จะสนใจคุณ อาจจะเป็นการแตะไหล่ หรือยื่นมือมาให้คุณจับเวลาต้องปีนขึ้น เอามือวางบนหลังคุณเพื่อพาคุณเดินในที่ที่คนแออัด และอื่นๆ
    • หากเขาเช็คการตอบสนองของคุณต่อสิ่งที่เขาทำ นั่นก็เป็นสัญญาณว่าเขาสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเขาทำอะไรเจ๋งๆ เขาอยากจะเห็นว่าคุณรู้สึกอย่างไรต่อสิ่งที่เขาเพิ่งทำ
    • การเป็นผู้ฟังที่ดีก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่ง หากเขาฟังเวลาคุณพูด จำในสิ่งที่คุณพูด ก็เป็นไปได้อย่างมากว่าเขาอยากจะอยู่กับคุณ
  6. ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ บนอินเตอร์เน็ต หรือสไกป์ ล้วนแต่เป็นวิธีที่ดีในการคุยกับผู้ชายที่ชอบ อย่าลืมว่าการคุยกันออนไลน์เป็นเพียงเรื่องรองจากสิ่งที่คุณทำเวลาเจอเขาตัวต่อตัว แต่ก็นับว่าเป็นวิธีที่ดีในการช่วยให้เขาสนใจคุณและคิดถึงคุณ
    • ส่งข้อความไปหาเขาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเห็นแล้วนึกถึงเขา จะดีขึ้นไปอีกถ้าเป็นรูป (โดยเฉพาะรูปตลกๆ) เช่น ถ้าคุณเจอกระรอกตัวอ้วน คุณอาจจะถ่ายรูปส่งไปให้เขา เพื่อบอกว่ามันทำให้คุณนึกถึงเรื่องที่เขาเคยเล่าว่าโดนกระรอกขโมยอาหารไปกิน
    • สิ่งสำคัญคือ คุยกันสั้นๆ พอ อย่าส่งข้อความหรือทักแชทเฟสบุคไปหาเขาทั้งวัน ส่งไปสักสองสามข้อความเพื่อทำให้เห็นว่าคุณคิดถึงเขานะ แล้วคุณก็ใช้ชีวิตของคุณต่อไป มันจะทำให้คุณดูน่าค้นหามากกว่าในระยะยาว
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

พัฒนาระดับความสัมพันธ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณจีบกันและไปเที่ยวกันมาบ้างแล้ว และคุณรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่าง ทางที่ดีและเป็นผู้ใหญ่ที่สุดก็คือบอกเขาไป สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือการที่เขาไม่รู้สึกเหมือนคุณ แต่อย่างน้อยคุณก็จะได้รู้ คุณจะได้รู้อีกว่าคุณกล้าหาญมากแค่ไหน
    • บอกเขาต่อหน้าเวลาอยู่ด้วยกันสองคน คุณคงไม่อยากมีผู้ชมหรอก โดยเฉพาะถ้าเขาไม่คิดเหมือนคุณ แต่อย่ากดดันเขา
    • พูดประมาณว่า "ฉันชอบที่ได้ไปเที่ยวกับเธอช่วงหลายเดือนมานี้นะ ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างระหว่างเรา ฉันอยากจะลองจริงจังกว่านี้แล้วดูว่าจะไปได้แค่ไหน เธอว่ายังไงล่ะ"
  2. หากเขาตอบสนองกลับมาในทางที่ดี อย่าลืมใจเย็นเข้าไว้ การรีบร้อนในความสัมพันธ์อาจจะน่าตื่นเต้น แต่ก็อาจเร็วเกินไปและมากเกินไปจนน่าอึดอัด
    • อย่าลืมว่าคุณไม่ควรมีอะไรกันในเดทแรก เป็นความคิดที่ดีที่จะรอสักหน่อย เพราะการมีเพศสัมพันธ์นั้นทำให้มันซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหนุ่มคนนั้นเป็นเพื่อนของคุณ คุณควรจะมั่นใจในความสัมพันธ์ของคุณเสียก่อนที่จะเริ่มจริงจังกว่านี้
    • นี่เป็นอีกทางที่คุณจะได้ไตร่ตรองว่าอยากคบกับเขาจริงๆ หรือเปล่า ความสัมพันธ์มักไม่จบลงอย่างที่เราคาดไว้และคุณต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ คุณจะต้องคิดว่าคุณสนใจผู้ชายคนนี้เพราะคุณแค่อยากมีแฟน อาจจะเป็นใครก็ได้หรือเปล่า
  3. สิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดเขาและเก็บเขาไว้คือการทำในสิ่งที่คุณทำในชีวิตของคุณเอง ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ของคุณ หรือทำอะไรด้วยตัวเอง คุณจะทำให้เขาเห็นว่าคุณก็มีเวลาดีๆ ของคุณและคุณไม่ได้เป็นพวกเกาะติด
    • อย่าทิ้งทุกอย่างที่ต้องทำแล้วไปเที่ยวกับเขาทุกครั้งที่เขาชวน คุณควรมีเวลาว่างไปเที่ยวกับเขาแต่คุณก็ต้องมีชีวิตของคุณเอง ทำให้เขาเห็นว่าคุณชอบไปเที่ยวกับเขาแต่คุณก็มีอย่างอื่นในชีวิตที่คุณชอบทำ
    • จำไว้ว่าคุณต้องมีความสุขกับตัวเอง ทำในสิ่งที่คุณรัก ลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ คนที่มีความสุขจะดึงดูดคนอื่นได้เพราะคนอื่นจะอยากแบ่งปันความสุขกับเขา ไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะแสร้งทำเป็นมีความสุขทั้งๆ ที่คุณไม่มี แต่หมายความว่าคุณควรสนุกกับชีวิต
  4. การคาดหวังในตัวผู้ชายคนนี้และในความสัมพันธ์มากเกินไปจะทำให้ทุกอย่างพัง การเริ่มความสัมพันธ์ด้วยการวางแผนอนาคตทั้งหมดของคุณไว้กับคนนี้ จะทำให้เกิดความคาดหวังจากเขามากเกินไป เขาจะรู้สึกอึดอัดว่าเขาจะทำได้ไม่ดีพอในอนาคต
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเพิ่งจะเริ่มสร้างความสัมพันธ์ อย่าเพิ่งคิดเรื่องแต่งงาน เรื่องการอยู่ด้วยกัน หรือแม้กระทั่งพูดว่า"ฉันรักเธอ" รอสักพักก่อน จนกระทั่งหมดช่วงโปรโมชั่นหวานๆ (ส่วนใหญ่แล้วประมาณสามเดือน) ก่อนจะเริ่มจริงจังขึ้น
    • การฝันกลางวันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่การบังคับให้ความสัมพันธ์เป็นไปในรูปแบบนั้น โดยไม่ปล่อยให้ความสัมพันธ์เบ่งบานนั้นจะทำลายทุกอย่าง
  5. คนเราชอบที่จะมีคนสนใจและชอบเวลาคนอื่นทำให้เห็นว่าความพยายามของเราไม่สูญเปล่า เวลาคุณทำให้เขาเห็นว่าคุณชื่นชม จะทำให้เขาสนใจคุณมากกว่าเดิม [7]
    • ขอบคุณเขาเวลาเขาช่วยเหลือหรือทำอะไรดีๆ ให้ เช่น ถ้าเขาขับรถไปส่งคุณเสมอ ลองอบคุกกี้ไปให้เขาแล้วบอกว่าขอบคุณที่มาตรงเวลา (คุณอาจจะเล่นมุขไปว่าขอบคุณที่เป็นคนขับรถส่วนตัว ถ้าคุณคิดว่าเขาจะโอเคกับมุขนี้)
    • บอกเขาว่าเขามีความหมายสำหรับคุณอย่างไร คุณไม่จำเป็นต้องสารภาพรักออกมาทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าเขาคิดอย่างไร คุณอาจจะแค่บอกว่า "การที่คุณมาช่วยทำการบ้านเลขมันมีความหมายต่อฉันมากนะ"
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่ากลัวที่จะเป็นตัวเอง หากคุณแสร้งทำเป็นคนอื่น เขาก็จะไม่ชอบ ถึงแม้เขาจะเป็นเพื่อนสนิทคุณ เขาก็จะไม่ชอบอยู่ดี
  • หากวิธีบางอย่างไม่เหมาะกับคุณ อย่ากลัวที่จะลองอย่างอื่น
  • การใส่น้ำหอมเป็นการยั่วยวนที่ดี แตะน้ำหอมหลังใบหูของคุณเล็กน้อย จำไว้ว่า ยิ่งใครเข้ามาใกล้คุณและได้กลิ่นน้ำหอมคุณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเร้าใจมากเท่านั้น
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณเป็นแฟนกันแล้ว อย่าเพิ่งรีบบอกว่า "ฉันรักเธอ" เพราะอาจจะทำให้อีกฝ่ายกลัวได้
  • อย่าเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อจะทำให้เขาประทับใจ เขาควรจะชอบคุณในแบบที่คุณเป็น
  • อย่าไปเจ๊าะแจ๊ะเพื่อนเขา เพราะเขาจะคิดว่าคุณไม่สนใจเขา หรือแย่ไปกว่านั้น เขาอาจจะหึงหวงขึ้น (ถ้าคุณตั้งใจจะให้เขาหอง จำไว้เลยว่าเป็นการลองใจที่ต้องเสี่ยง)
  • ระวังการใช้เทคโนโลยี ถ้าเขาตอบข้อความของคุณช้า เขาอาจจะยุ่งอยู่หรืออาจจะไม่อยากคุยก็ได้ หรือเขาอาจจะอยากคุยกับคุณตัวต่อตัวมากกว่า อย่าหมกมุ่นกับการส่งข้อความ เพราะจะทำให้คุณดูสิ้นหวังหรือน่ารำคาญ
  • เขาอาจจะไม่ชอบคุณ ในกรณีนี้อย่าไปตื๊อเขาต่อ เขาอาจจะยิ่งรู้สึกรำคาญ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,746 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา