ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ดวงตาของคุณมักจะแดงและระคายเคืองหลังจากว่ายน้ำในสระว่ายน้ำหรือเปล่า? มันคือปฏิกิริยาที่มีต่อคลอรามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่อยู่ในน้ำของสระว่ายน้ำเมื่อไม่ได้ถูกบำรุงรักษาด้วยสารเคมีอย่างเหมาะสม การระคายเคืองดวงตามักจะหายไปเองแต่มีวิธีที่คุณสามารถบรรเทาดวงตาของคุณในขณะที่รอให้อาการหาย ถ้าหากคุณเพิ่งจะว่ายน้ำทะเลก็สามารถใช้วิธีเดียวกันเพื่อทำให้ดวงตารู้สึกสดชื่น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การล้างตา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลังจากว่ายน้ำสารตกค้างจากน้ำจะยังคงอยู่ในดวงตาและการล้างตาด้วยน้ำเย็นจะชะล้างคราบของคลอรามีนหรือสารอื่นๆ ที่ยังหลงเหลือซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ยื่นหน้าของคุณในอ่างล้างหน้าและค่อยๆ เทน้ำจากแก้วผ่านดวงตาข้างหนึ่งจากนั้นจึงทำอีกข้างหนึ่ง ซับตาด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ เมื่อคุณล้างตาเสร็จ
    • ถึงแม้ว่าการล้างตาอาจจะไม่ช่วยให้หายระคายเคืองตาในทันทีแต่มันเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญเพราะดวงตาจะยังคงระคายเคืองถ้ามีสิ่งตกค้างอยู่
    • น้ำเย็นสามารถช่วยลดการอักเสบและคุณสามารถใช้น้ำอุ่นเช่นกันถ้าหากคุณต้องการ
  2. น้ำเกลือสามารถช่วยบรรเทาได้ถ้าหากดวงตาของคุณรู้สึกแห้งและคันหลังการว่ายน้ำ น้ำเกลือคือน้ำตาเทียมและมันช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อทำให้ดวงตาของคุณรู้สึกดีขึ้นในทันที มองหาน้ำเกลือที่เป็นน้ำตาเทียมตามร้านขายยาและตรวจสอบวันหมดอายุเพื่อทำให้แน่ใจว่ายังใช้ได้ หลังจากที่คุณออกจากสระว่ายน้ำก็ควรหยดน้ำตาเทียมตามคำแนะนำ [1]
    • พกน้ำเกลือขวดเล็กในกระเป๋าไปทะเลเพื่อให้พร้อมใช้เมื่อคุณต้องการ
  3. วิธีการบรรเทาดวงตาระคายเคืองนี้ “ยังไม่เป็นที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์” แต่นักว่ายน้ำมักจะใช้วิธีนี้เพื่อบรรเทาดวงตาหลังจากว่ายน้ำเป็นเวลานานในสระว่ายน้ำ ใช้ที่หยดหรือช้อนเพื่อหยดนมลงในดวงตา กระพริบตา 2-3 ครั้งและเช็ดน้ำนมส่วนเกินออก นมมีผลในการทำให้สารเคมีในสระว่ายน้ำเป็นกลางซึ่งช่วยบรรเทาอาการเจ็บตาได้
    • คุณต้องยอมรับความเสี่ยงจากการใช้วิธีนี้เพราะ “ยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เสนอว่าวิธีนี้ได้ผลหรืออาจจะมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง”
    • ถ้าคุณรู้สึกระคายเคืองตามากขึ้นหลังจากใช้นมก็ควรล้างตาด้วยน้ำเปล่า
  4. วิธีนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สามารถช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตาได้แต่เช่นเดียวกับนมคือ “ยังไม่เป็นที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์” ถ้าหากคุณต้องการลองวิธีนี้ก็ลองผสมเบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชากับน้ำครึ่งถ้วย จุ่มสำลีก้อนลงในส่วนผสมและบีบให้น้ำหยดในตาเพื่อล้างตา กระพริบตา 2-3 ครั้งเพื่อให้ตาชุ่มชื้น ถ้าหากรู้สึกระคายเคืองตาเพิ่มขึ้นหรืออาการไม่หายไปใน 2-3 นาทีก็ควรล้างตาด้วยน้ำเปล่า [2]
    • อย่าขยี้ตาเพราะเบกกิ้งโซดาอาจจะหยาบ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การประคบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การประคบจะช่วยลดอาการบวมและระคายเคือง ทำผ้าขนหนูผืนเล็กให้เปียกด้วยน้ำเย็นและวางคลุมเปลือกตา 2-3 นาที อาการเจ็บจะเริ่มหายไปอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าหากผ้าขนหนูอุ่นก่อนที่ดวงตาจะรู้สึกดีขึ้นก็สามารถทำให้ผ้าขนหนูเปียกอีกครั้งด้วยน้ำเย็นและทำขั้นตอนซ้ำ
  2. ชามีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบซึ่งช่วยลดอาการบวมและระคายเคือง จุ่มถุงชาลงในน้ำเย็น นอนราบ ปิดตาและวางถุงชาเปียกบนเปลือกตา วางถุงชาทิ้งไว้จนกว่าจะมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง หากดวงตายังรู้สึกเจ็บก็สามารถจุ่มถุงชาลงในน้ำเย็นและทำขั้นตอนซ้ำ
  3. แช่แตงกวาในตู้เย็นและหั่นแตงกวาเป็น 2 แผ่นหนา นอนราบ ปิดตาและวางแตงกวาบนเปลือกตา แตงกวาเย็นจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวที่ระคายเคือง
  4. มันฝรั่งมีฤทธิ์เป็นยาซึ่งแปลว่ามันสามารถช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและลดการอักเสบได้ ฝานมันฝรั่งขาวให้เป็นแผ่นและวางบนเปลือกตา ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีจากนั้นจึงล้างตาด้วยน้ำเย็น
  5. ว่านหางจระเข้ใช้เพื่อรักษาอาการอักเสบและสามารถใช้ประคบเพื่อบรรเทาอาการที่ดวงตา ผสมเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนชากับน้ำเย็น 1 ช้อนชา จุ่มสำลีก้อน 2 ชิ้นลงในส่วนผสม นอนราบ ปิดตาจากนั้นจึงวางสำลีก้อนบนเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีจากนั้นจึงหยิบสำลีก้อนออกแล้วล้างตา
  6. 6
    ใช้หน้ากากเจลปิดตา. หน้ากากเจลปิดตาช่วยบรรเทาดวงตาและแก้อาการปวดหัวได้ คุณต้องแช่หน้ากากเจลปิดตาไว้ในตู้เย็นเพื่อให้แหล่งความเย็นช่วยบรรเทาเมื่อคุณต้องการ คุณยังสามารถซื้อหน้ากากเจลปิดตาได้ทางอินเตอร์เน็ตหรือร้านขายยา
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การป้องกันการระคายเคือง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้คือวิธีป้องกันที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อไม่ให้ดวงตารู้สึกระคายเคืองจากคลอรามีนหรือน้ำทะเล ถ้าหากน้ำไม่สามารถสัมผัสดวงตาของคุณได้คุณก็จะไม่มีอาการแดงและเจ็บทุกครั้งที่คุณว่ายน้ำ การสวมแว่นตาว่ายน้ำยังสามารถทำให้คุณว่ายน้ำได้ตามต้องการและลืมตาใต้น้ำได้โดยไม่ต้องเจ็บตาในภายหลัง
    • คุณต้องหาแว่นตาว่ายน้ำที่มีขนาดเหมาะสม แว่นตาต้องปิดรอบดวงตาเพื่อไม่ให้น้ำเข้าในขณะที่คุณว่ายน้ำ
    • ถ้าหากคุณไม่สามารถสวมแว่นตาว่ายน้ำได้ก็ควรหลับตาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ในขณะที่คุณอยู่ใต้น้ำ
    • ถ้าหากคุณมีลูกก็ควรให้พวกเขาสวมแว่นตาว่ายน้ำเพื่อรักษาดวงตาให้มีสุขภาพดี
  2. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระที่ไม่ดีต่อสุขภาพ. คุณเคยไปสระว่ายน้ำที่มีกลิ่นสารเคมีรุนแรงหรือไม่? หลายคนเข้าใจว่ามันคือกลิ่นของคลอรีนแต่คลอรีนไม่มีกลิ่น กลิ่นที่รุนแรงของแอมโมเนียคือกลิ่นของคลอรามีนซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อคลอรีนผสมกับเหงื่อ ครีมกันแดด ปัสสาวะ น้ำลายและสสารอื่นๆ ที่คนว่ายน้ำนำมาในน้ำ สระว่ายน้ำที่มีกลิ่นรุนแรงคือสระที่ไม่ได้ใช้คลอรีนและสารเคมีอื่นๆ เพื่อกำจัดคลอรามีนอย่างเหมาะสม มองหาสัญญาณเหล่านี้เพื่อดูว่าสระว่ายน้ำไม่ค่อยสะอาด:
    • สระว่ายน้ำมีกลิ่นสารเคมีรุนแรง (หรือกลิ่นประเภทอื่น)
    • น้ำขุ่นไม่ใส
    • คุณไม่ได้ยินเสียงอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น เครื่องปั้มหรือเครื่องกรองที่อยู่ในสระ
    • สระว่ายน้ำลื่นหรือเหนียวและไม่สะอาด
  3. ระมัดระวังการว่ายน้ำในทะเลสาบและแม่น้ำเช่นกัน. ทะเลสาบและแม่น้ำไม่ต้องใช้สารเคมีเพื่อทำให้น้ำสะอาดและปลอดภัยต่อการว่ายน้ำ แหล่งน้ำเหล่านี้มีวิธีตามธรรมชาติเพื่อกำจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามทะเลสาบและแม่น้ำบางที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ถูกรบกวนและอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้ดวงตาระคายเคืองได้
    • ว่ายน้ำเฉพาะในแหล่งน้ำที่แลดูปลอดภัยต่อการว่ายน้ำ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีป้ายประกาศว่า “ห้ามว่ายน้ำ”
    • งดเว้นการว่ายน้ำในทะเลสาบหรือแม่น้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยมลภาวะ
    • งดเว้นการว่ายน้ำในทะเลสาบหรือแอ่งน้ำนิ่ง อย่าว่ายน้ำในน้ำที่เต็มไปด้วยตะไคร่หรือมีสีเขียว
    • งดเว้นการว่ายน้ำในทะเลสาบที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำเพราะตะไคร่น้ำมีไซยาโนแบคทีเรียซึ่งเป็นอันตรายหรือสามารถทำให้ดวงตา ผิวหรือใบหูระคายเคืองได้ เมื่อคุณกลืนน้ำที่มีไซยาโนแบคทีเรียเข้าไปจะเกิดอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วงเป็นไข้และอื่นๆ
    • งดเว้นการว่ายน้ำในทะเลสาบใกล้แหล่งทำการเกษตรหรือเลี้ยงสัตว์เพราะน้ำอาจปนเปื้อนด้วยสารอีโคไล
  4. 4
    ทำตามขั้นตอนทั่วไปเพื่อรักษาสุขภาพเพื่อคุณว่ายน้ำ. งดเว้นการลืมตาหรืออาปากเมื่ออยู่ใต้น้ำเพื่อรักษาสุขภาพระหว่างและหลังว่ายน้ำ อาบน้ำหลังจากว่ายน้ำและถ้าหากคุณมีรอยขีดข่วนหรือได้รับบาดเจ็บในขณะที่ว่ายน้ำก็ควรทำแผลในทันที ถึงแม้ว่าโอกาสในการป่วยอย่างหนักจากการว่ายน้ำจะมีน้อยแต่คุณไม่ควรเสี่ยง
    • ปรึกษาแพทย์ถ้าหากคุณมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีตุ่มนิ่มๆ อาการแดง บวม แสบร้อนซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรีย
  5. 5
    ทดสอบน้ำที่คุณว่ายน้ำถ้าหากคุณไม่มั่นใจในความปลอดภัย. หน่วยงานเพื่อสิ่งแวดล้อมอาจทำการทดสอบความปลอดภัยของน้ำในบริเวณที่คุณอยู่อาศัยแต่คุณยังสามารถซื้อชุดทดลองเพื่อทำด้วยตัวเอง ลองหาชุดทดลองเหล่านี้ตามอินเตอร์เน็ตเพื่อทดสอบสาเหตุของอาการป่วยทางน้ำและมลภาวะโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้ออีโคไล จากนั้นทำตามขั้นตอนอย่างระมัดระวังเพื่อทดสอบ
    • เชื้ออีโคไลถูกใช้เป็นตัวชี้วัดน้ำที่สามารถทำให้คุณป่วยเพราะเชื้อโรคอื่นๆ ตรวจจับได้ยาก ถ้าหากคุณพบอีโคไลในปริมาณหนึ่งก็เป็นไปได้สูงว่ามีเชื้อโรคชนิดอื่นๆในน้ำมีด้วยเช่นกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เช็ดดวงตาด้วยผ้าขนหนูเปียกที่สะอาด
  • ถ้าหากคุณเป็นพ่อแม่ที่มีลูกตัวเล็กที่ไม่สามารถยื่นหน้าเข้าไปในอ่างล้างหน้าได้ก็ควรทำทิชชู่หรือผ้าขนหนูผืนเล็กให้เปียกด้วยน้ำอุ่นจากอ่างล้างหน้าและคลุมดวงตาของลูกเอาไว้ 2-3 นาทีจากนั้นจึงคลุมดวงตาอีกข้างหนึ่ง
  • ล้างตาด้วยน้ำเย็นและใช้ผ้าขนหนูเปียกหมาดปิดตา 10 นาที ดวงตาของคุณจะรู้สึกเย็นและสดชื่น
  • เมื่อตาบวมก็ควรใช้สำลีก้อนหรือสำลีแผ่นจุ่มน้ำอุ่นและนวดบริเวณดวงตา จากนั้นจึงล้างตาให้สะอาด
โฆษณา

คำเตือน

  • ถอดคอนแทคเลนส์และแว่นตาก่อนทำขั้นตอนเหล่านี้ คุณต้องถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อนว่ายน้ำเช่นกัน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,664 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา