ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
YouTube เป็นเหมือนคลังเก็บคลิปวีดีโอต่างๆ มากมายเท่าที่คุณจะจินตนาการ เลยมีบ้างที่บางคลิปไม่ค่อยเหมาะสมกับเด็กๆ สักเท่าไหร่ ถ้าคุณอยากควบคุมดูแลให้เด็กๆ ในบ้านใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมด้วยการบล็อก YouTube คุณก็สามารถบล็อกแค่บางคลิป หรือจะบล็อกทั้งเว็บก็ยังได้ ทั้งในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารทั้งหลายเลย
ขั้นตอน
-
เปิดเบราว์เซอร์แล้วเข้าไปที่ YouTube. คุณเปิด Safety Mode ใน YouTube ได้ ซึ่งจะทำให้เข้าดูได้เฉพาะคลิปที่เป็น all-ages หรือดูได้ทุกเพศทุกวัยเท่านั้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดถ้าคุณเองยังอยากเข้า YouTube ได้อยู่ แต่ก็เป็นห่วงลูก อยากให้ดูแต่คลิปที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ถ้าคุณอยากจะบล็อก YouTube ทั้งเว็บ ไม่ให้ใครเข้าได้อีก ก็ให้เลื่อนลงไปอ่านวิธีการถัดไป
- ตัวกรอง Restricted Mode นั้นจะอ้างอิงจาก community flagging หรือการที่ผู้ใช้ของ Youtube เองช่วยกันรายงานคลิปที่ไม่เหมาะสม ซึ่งก็ไม่ได้ปลอดภัย 100% อาจมีบางคลิปที่เล็ดลอดมาได้บ้าง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ให้คุณล็อกอินด้วยบัญชี Google ของคุณก่อน. จุดสำคัญคือต้องล็อกอินเข้า YouTube ด้วยบัญชี Google ที่แน่ใจว่าลูกๆ จะไม่แอบเข้าไปใช้ได้ เขาจะได้ไม่เข้าไปปิด Restricted Mode ตอนคุณเผลอ
-
เลื่อนลงไปที่ด้านล่างสุดของหน้า. คุณจะเจอเมนูที่เขียนว่า "Restricted Mode"
-
คลิกเมนู "Restricted Mode". คุณจะเห็นตัวเลือกที่ใต้เมนู
-
คลิก "On" จากนั้น "Lock Restricted Mode" . ตรงนี้คุณจะต้องใส่รหัสผ่านบัญชี Google ของคุณอีกรอบ
-
คลิก "Save" . เพื่อเปิดใช้และเซฟค่า Restricted Mode ไว้ในเบราว์เซอร์
-
ในเครื่องนั้นใช้เบราว์เซอร์ไหนอีกก็ต้องทำซ้ำจนครบ. Restricted Mode นั้นจะใช้ได้เฉพาะเบราว์เซอร์ที่คุณเปิดโหมดนี้ไว้เท่านั้น เพราะฉะนั้นใช้เบราว์เซอร์ไหนบ้างก็ต้องตามไปเปิดโหมดนี้ให้หมด ซึ่งวิธีก็เหมือนกันหมดสำหรับทุกเบราว์เซอร์ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปิด Incognito หรือ Private browsing ในทุกเบราว์เซอร์. เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเบราว์เซอร์ไหนก็ให้คุณเล่นเน็ตแบบ "incognito" หรือไม่เปิดเผยตัวตนได้ และจะไม่เก็บประวัติการใช้งานไว้ แต่ทีนี้ใครใช้โหมดนี้ก็ทะลุผ่าน Restricted Mode ของ YouTube ได้สบายๆ นี่สิ เพราะฉะนั้นคุณต้องปิดฟังก์ชั่น incognito หรือ private browsing ของทุกเบราว์เซอร์ซะ
- ถ้ายังงง ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมในเน็ตดูว่าจะปิด Private หรือ Incognito Browsing ได้ยังไง
-
เปิด Restricted mode ในแอพของ YouTube. ถ้าอุปกรณ์สื่อสารเครื่องไหนของคุณลงแอพ YouTube ไว้ ให้คุณเปิด Restricted Mode ในแอพด้วย
- เปิดแอพ YouTube ขึ้นมา
- แตะที่ปุ่ม Menu แล้วเลือก "Settings"
- เลือก "General" จากนั้นติ๊กที่ช่อง "Restricted mode" (Android) หรือแตะที่ "Restricted Mode Filtering" แล้วเลือก "Strict" (iOS)
-
เปิด Restricted mode ในเบราว์เซอร์บนมือถือ. เบราว์เซอร์ในสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตก็มี Restricted mode เหมือนกัน
- ให้คุณเปิดเบราว์เซอร์ในมือถือขึ้นมาแล้วเข้า YouTube
- แตะปุ่ม menu ตรงมุมขวาบน แล้วเลือก "Settings"
- แตะปุ่ม "Restricted Mode" ให้เลื่อนไปที่ on
โฆษณา
-
เปิดไฟล์ hosts. ถ้าคุณมีคอมเครื่องเดียว ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องอื่น ก็เข้าไปแก้ไฟล์ hosts เพื่อบล็อก YouTube (และเว็บอื่นๆ) ได้ แต่ย้ำอีกทีว่าวิธีนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อคุณใช้คอมเครื่องเดียวเดี่ยวๆ เพราะถ้าพ่วงกันหลายเครื่องก็ต้องทำแบบนี้ทีละเครื่อง ถ้าคุณใช้พร้อมกันหลายเครื่องหลายอุปกรณ์ก็ต้องเลื่อนลงไปอ่านวิธีถัดไป โดยใน Windows กับ OS X ไฟล์ hosts นั้นจะอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกันไป
- Windows - หาไฟล์ hosts ใน C:\Windows\System32\drivers\etc เจอแล้วคลิกขวา จากนั้นเลือก "Open With" แล้ว "Notepad"
- Mac - เปิด Terminal จากโฟลเดอร์ Utilities แล้วพิมพ์ sudo /bin/cp /etc/hosts /etc/hosts-original จากนั้นกด ⏎ Return แล้วพิมพ์ sudo nano /etc/hosts/ แล้วกด ⏎ Return เพื่อเปิดไฟล์ hosts ใน text editor
-
เติมบรรทัดใหม่ที่ท้ายสุดของไฟล์. คุณต้องเติมแต่ละเว็บที่คุณจะบล็อกเข้าไปที่ข้างท้ายของไฟล์ hosts ในกรณีให้ขึ้นบรรทัดใหม่เพื่อบล็อก YouTube
-
พิมพ์ 127.0.0.1 www.youtube.com เข้าไปในบรรทัดใหม่. แค่นี้ก็บล็อก YouTube ได้แล้ว
-
พิมพ์ 127.0.0.1 m.youtube.com ในอีกบรรทัดหนึ่ง. เพื่อบล็อกเว็บแบบมือถือกันไว้ก่อน
-
เซฟแล้วปิดไฟล์. พอใส่ YouTube เข้าไปในลิสต์แล้ว ก็เซฟแล้วปิดไฟล์ได้เลย ทีนี้แค่รีสตาร์ทเบราว์เซอร์ Youtube ก็ถูกบล็อกแล้ว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณใช้ Mac ให้กด Ctrl + O เพื่อเซฟไฟล์ จากนั้นกด Ctrl + X เพื่อปิด แล้วพิมพ์ sudo dscacheutil –flush cache เพื่อรีเซ็ต DNS cache
โฆษณา
-
สมัครใช้ OpenDNS. เราเตอร์ส่วนใหญ่นั้นบล็อกเว็บ HTTPS ไม่ได้ เลยทำให้คุณบล็อก YouTube โดยใช้แค่ตัวกรองเราเตอร์ไม่ได้ OpenDNS นี่แหละให้บริการกรองเว็บฟรี (เฉพาะผู้ใช้ตามบ้าน) ใช้บล็อก YouTube ไม่ให้คอมหรืออุปกรณ์ไหนที่เชื่อมต่อกันอยู่ในเครือข่ายของคุณเข้าได้ บล็อกกระทั่งแอพ YouTube คุณสมัคร OpenDNS Home ได้ที่ opendns.com/home-internet-security/
- แต่ถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนแบบ cellular data ก็เท่ากับต่อเน็ตแยกออกมาจากเครือข่ายของคุณ ทำให้บล็อกไม่ได้ผล ต้องบล็อกอุปกรณ์นั้นแยกถึงจะป้องกันไม่ให้เข้า YouTube ได้ด้วยเน็ตมือถือ
-
เปิดเบราว์เซอร์ในคอมที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย. ต้องไปตั้งค่าเราเตอร์เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ DNS ของ OpenDNS ถึงจะบล็อกเว็บที่กำหนดได้ คุณตั้งค่า DNS ของเราเตอร์ได้ โดยเปิดหน้า configuration ของเราเตอร์ในเบราว์เซอร์
-
เปิดหน้า configuration ของเราเตอร์. โดยพิมพ์ address ลงในแถบ address ของเบราว์เซอร์ ลองศึกษาในเน็ตดูถ้าคุณอยากรู้วิธีเข้าไปปรับแต่งเราเตอร์เพิ่มเติม address ทั่วไปที่ใช้เข้าหน้าปรับแต่งก็คือ
- Linksys - http://192.168.1.1
- D-Link/Netgear - http://192.168.0.1
- Belkin - http://192.168.2.1
- ASUS - http://192.168.50.1/
- AT&T U-verse - http://192.168.1.254
- Comcast - http://10.0.0.1
-
ล็อกอินด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบของเราเตอร์. ถ้าคุณเปลี่ยนข้อมูลที่ใช้ล็อกอินตรงนี้ไป ก็ให้ล็อกอินด้วย administrator account หรือบัญชีผู้ดูแลระบบ ไม่ก็ใช้ล็อกอินตั้งต้นของเราเตอร์ ปกติมักเป็น "admin" หรือเว้น username ไว้ไม่ต้องใส่ ส่วนรหัสผ่านก็เป็น "admin" หรือเว้นว่างไว้เหมือนกัน
-
เปิดส่วนของ "WAN" หรือ "Internet". เป็นส่วนที่มีค่า DNS ให้ปรับแต่ง
-
เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ DNS เป็นเซิร์ฟเวอร์ OpenDNS. เราเตอร์ของคุณจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ OpenDNS แทน ซึ่งจะไปบล็อกไม่ให้เข้าเว็บที่คุณกำหนดได้ ให้คุณใส่ค่าข้างล่างลงไปในช่องเซิร์ฟเวอร์ DNS ทั้ง 2 ช่อง [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- 208.67.222.222
- 208.67.220.220
-
ล็อกอินเข้าแผงควบคุม OpenDNS. พอเปลี่ยนค่าเราเตอร์แล้ว ให้ใช้เบราว์เซอร์เข้าหน้าบัญชี OpenDNS ของคุณ แล้วล็อกอินด้วยบัญชีที่สร้างไว้ก่อนหน้า หรือจะกดเข้าจากลิงค์ที่มาในอีเมลลงทะเบียนก็ได้
-
ใส่ home network ของคุณใน tab Settings. คุณต้องใส่ IP address ของเน็ตบ้านลงใน OpenDNS จะได้จัดทำตัวกรองเฉพาะขึ้นมาได้ โดย IP address ที่ว่าจะอยู่บนสุดของหน้า ก็ให้ใส่ไปในช่อง address ของ "Add a network"
- ต่อมาก็ต้องตั้งชื่อเครือข่ายแบบง่ายๆ แล้วใส่ลิงค์ไปที่ OpenDNS Updater โปรแกรมนี้จะอัพเดทค่าเครือข่าย OpenDNS ให้คุณอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ IP address ของคุณเปลี่ยนไป เราแนะนำว่าถ้าคุณใช้เน็ตบ้านให้ดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ไว้ด้วย
-
ยืนยันเครือข่ายในอีเมลที่ส่งมา. OpenDNS จะส่งอีเมลมาให้คุณยืนยันว่าได้ป้อนเครือข่ายถูกต้องแล้ว ให้คุณคลิกลิงค์เพื่อยืนยันว่า IP address ที่ใส่ไปถูกต้องแล้ว จะได้เข้าสู่การปรับแต่งตัวกรอง
-
เปิด "Web Content Filtering" ในแผงควบคุมของ OpenDNS. เพื่อตั้งค่าว่าจะบล็อกเว็บไหนบ้าง
-
ใส่ URL ต่างๆ ของ YouTube เข้าไปในลิสต์ "Manage individual domains". ให้คุณใส่ URL ต่อไปนี้ลงในรายชื่อเว็บที่คุณบล็อก เพื่อบล็อกไม่ให้คอมหรืออุปกรณ์ไหนที่เชื่อมต่อเครือข่ายของคุณเข้า YouTube ได้อีก รวมถึงแอพ YouTube ด้วย อย่าลืมตั้งทุกอันให้เป็น "Always block:" [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- youtube.com
- m.youtube.com
- ytimg.com
- ytimg.l.google.com
- youtube.l.google.com
- googlevideo.com
-
บล็อก YouTube ในอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ที่เชื่อมต่อเน็ตผ่าน cellular data. วิธีข้างบนจะบล็อกไม่ให้คอมและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เน็ตบ้านเข้า YouTube ได้ แต่มือถือที่ต่อเน็ตผ่าน cellular data จะยังคงเข้า YouTube ได้อยู่โฆษณา
-
เปิดแอพ Settings ในอุปกรณ์ที่ใช้ iOS ขึ้นมา. คุณใช้ฟีเจอร์ Restrictions บล็อกไม่ให้อุปกรณ์นั้นๆ เข้า YouTube ได้
-
เลือก "General" แล้ว "Restrictions" . เพื่อเปิดเมนู Restrictions
-
แตะที่ "Enable Restrictions" เพื่อสร้าง passcode. ระวังอย่าใช้ passcode เดียวกับที่คุณใช้ล็อคเครื่องล่ะ เพราะ passcode นี้ใช้ป้องกันไม่ให้ใครมาเปลี่ยนค่า Restrictions ที่คุณตั้งไว้ได้
-
แตะที่ "Websites" ในส่วนของ "Allowed Content". เพื่อกำหนดเว็บที่คุณจะบล็อก
-
แตะที่ "Limit Adult Content" . เพื่อเจาะจงเว็บที่คุณจะบล็อก
-
แตะที่ "Add a Website" ในส่วนของ "Never Allow". ตรงนี้ให้คุณใส่ URL
-
ใส่ URL ทั้งหมดของ YouTube ลงไป. หรือก็คือ URL ต่อไปนี้ เพื่อบล็อก YouTube
- youtube.com
- m.youtube.com
-
กลับไปที่เมนู Restrictions แล้วกดปุ่ม "Installing Apps" ให้เลื่อนไปที่ off. เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาติดตั้งแอพใหม่ รวมถึงแอพ YouTube
-
ลบแอพ YouTube ออกจากเครื่อง. ถ้าในเครื่องคุณลงแอพ YouTube ไว้ให้ลบออก เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาใช้ แถมพอเราไปปิดการติดตั้งแอพใหม่แล้ว ก็จะไม่มีใครมาลงแอพ Youtube ได้อีก
- กดไอค่อนของแอพ YouTube ค้างไว้จนไอค่อนสั่น
- แตะที่ "X" ตรงมุมแอพ YouTube เพื่อ uninstall แอพ
โฆษณา
-
ดาวน์โหลดแอพ file manager. คุณต้องมีแอพ file manager ถึงจะหาไฟล์ hosts เจอ ซึ่งจำเป็นต่อการบล็อกเว็บต่างๆ ตัวที่คนนิยมใช้กันแถมฟรีก็คือ ES File Explorer คุณดาวน์โหลดได้เลยที่ Google Play Store
-
เปิด file explorer ขึ้นมา. จะเห็นโฟลเดอร์ต่างๆ ในเครื่อง Android ของคุณ
-
แตะที่ปุ่ม "/" ใน file explorer. เพื่อไปยัง root folder
-
เปิดโฟลเดอร์ "system" แล้วตามด้วยโฟลเดอร์ "etc". ไฟล์ hosts จะอยู่ในนั้นแหละ
-
แตะที่ไฟล์ "hosts" แล้วเลือก "Text" . เพื่อบอก file manager ว่าคุณจะเปิดไฟล์เป็นไฟล์ text
-
เลือก text editor จากในลิสต์. file manager ส่วนใหญ่จะมี text editor มาให้ด้วย ซึ่งจะอยู่บนสุดของลิสต์
-
ขึ้นบรรทัดใหม่ในไฟล์ hosts. บรรทัดหนึ่งก็แทนเว็บหนึ่งที่คุณจะบล็อก
-
บล็อกเว็บหลักของ YouTube. ใส่ url ข้างล่างลงไปเพื่อบล็อกเว็บหลักของ YouTube
- 127.0.0.1 www.youtube.com
-
ขึ้นบรรทัดใหม่แล้วใส่เว็บมือถือ. ขึ้นบรรทัดใหม่แล้วใส่ url ข้างล่างลงไปเพื่อบล็อกเว็บมือถือของ YouTube
- 127.0.0.1 m.youtube.com
-
ดาวน์โหลด app locker. พอบล็อกเว็บต่างๆ ของ YouTube เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องบล็อกแอพ YouTube ด้วย เพราะเครื่อง Android ส่วนใหญ่ลบแอพไม่ค่อยได้ ต้องมีแอพ third-party ไปใช้บล็อก app blocker ที่คนนิยมใช้กันก็เช่น
- AppLock
- App Lock
- Smart AppLock
- Perfect AppLock
-
ตั้ง passcode ของ app lock. พอเปิด app locker ขึ้นมาแล้วก็ให้ตั้ง passcode ใหม่ เอาไว้ใช้เข้าแอพที่ล็อคไว้ หรือเปลี่ยนค่า app locker
-
ล็อคแอพต่างๆ ที่คุณอยากบล็อก. ให้คุณบล็อกแอพต่อไปนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาเข้า YouTube และไม่ให้แอบใช้ทางลัดเข้า YouTube ได้
- YouTube
- Play Store
- Settings
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ไม่มีวิธีไหนที่ใช้บล็อก Youtube แบบเห็นผล 100% หรอก โดยเฉพาะถ้าลูกคุณเก่งคอมหรือเป็นเซียนไอที (ข่าวร้ายก็คือเด็กสมัยนี้เป็นแบบนี้แทบทุกคน) วิธีที่แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนที่สุด ก็คือใช้เวลากับลูกมากๆ ค่อยๆ แนะนำกันไปว่าคลิปไหนดีคลิปไหนไม่เหมาะสม
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.guidingtech.com/5303/youtube-safety-block-adult-videos/
- ↑ https://support.google.com/youtube/answer/174084?hl=en
- ↑ https://screentimelabs.com/youtube-parental-controls/
- ↑ http://www.pcworld.com/article/249077/how_to_block_websites.html
- ↑ https://support.opendns.com/entries/53936430-Configuring-OpenDNS-on-your-Network
- ↑ http://www.unwrittens.com/how-to-block-youtube-in-the-home-network/
โฆษณา