ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การมีเบ้าตาเขียวช้ำนอกจากจะเจ็บปวดแล้วยังน่าอายอีกด้วย แต่โชคดีที่ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงอะไร และสามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็ยังโชคร้ายที่ไม่มีวิธีไหนที่ทำให้รอยเขียวช้ำหายไปในทันทีได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีวิธีดีๆ ที่ช่วยรักษาดวงตาของคุณและคุณยังสามารถใช้เครื่องสำอางลบรอยเขียวช้ำได้เมื่อออกไปนอกบ้าน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การรักษาอาการเขียวช้ำเบื้องต้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ความเย็นประคบ โดยใช้ผ้าห่อน้ำแข็ง หรือถุงเจลเย็นในบริเวณที่มีอาการเขียวช้ำประมาณ 10 นาที [1] ประคบเย็น 20 นาที ทุกๆ ชั่วโมงในช่วง 1-2 วันแรก
    • ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยวิธีนี้ทันทีและทำอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 วันแรก [2]
    • ประคบลงไปบริเวณรอบดวงตา ไม่ใช่บริเวณดวงตา
  2. [3] หากความเจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหว ให้ทานยาแก้ปวด ยาประเภท Acetaminophen ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หรือยาประเภท Ibuprofen ก็ได้ผลเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถหายาชนิดไหนได้ ยาทั้งสองชนิดสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
  3. [5] บ่อยครั้งที่เมื่อตาเขียวช้ำจะเกิดพร้อมกับอาการบวมรอบดวงตา ในกรณีนี้อาจทำให้คุณไม่สามารถเปิดตาได้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องพยายามเปิดตา ตราบเท่าที่คุณทำตามคำแนะนำก็ไม่มีอะไรน่ากังวล (จะไม่มีอาการแหรกซ้อนแน่นอน) คุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพยายามเปิดตาของคุณหากทำให้คุณเจ็บตัวมากขึ้น
  4. [6] ในขณะที่อาการเขียวช้ำค่อยๆ ดีขึ้น (โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์) คุณจะต้องมั่นใจว่าคุณใส่แว่นหรืออุปกรณ์ป้องกันตาอื่นๆ หากคุณต้องทำอะไรที่สามารถเป็นอันตรายต่อดวงตาของคุณ หรือหากอาการเขียวช้ำของคุณเกิดจากการเล่นกีฬา คุณควรหยุดเล่นกีฬาชนิดนั้นๆ จนกว่าจะหายสนิท
  5. การตาเขียวช้ำก็แย่พออยู่แล้ว แต่มักไม่เป็นอันตราย แต่หากมีอาการบาดเจ็บอื่นๆ ของดวงตาร่วมด้วย คุณควรรักษาอย่างถูกวิธี ไม่เช่นนั้นคุณอาจต้องทนทรมานกับอาการร้ายแรงกับดวงตาและหัวของคุณ
    • สังเกตทั้งส่วนตาดำและตาขาวให้ดี หากคุณเห็นจุดเลือด คุณอาจมีอาการบาดเจ็บร้ายแรงได้ ให้รีบพบจักษุแพทย์ในทันที [7]
    • หากคุณพบว่ามีอาการผิดปกติทางการมองเห็น เช่น ภาพเบลอ ภาพซ้อนกัน หรือแพ้แสงจ้า ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที
    • อาการอื่นๆ ที่อาจมีความรุนแรง เช่น อาการเจ็บอย่างรุนแรงเมื่อขยับดวงตา อาการชาที่หน้า อาการบวมของตาหรือเบ้าตา เลือดกำเดาไหล หรืออาการวิงเวียน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การรักษาอย่างต่อเนื่อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผิวบริเวณนั้นจะบอบบางมากจนกว่าอาการจะหายสนิท การสัมผัสอาจทำให้เจ็บมากขึ้น และยังทำให้ระคายเคืองซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลงและหายช้าขึ้น
    • ก่อนที่อาการบวมจะลดลงคุณควรหลีกเลี่ยงการใช้สายตาเป็นเวลานาน
    • คุณควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงข้างที่ตาเขียวช้ำ การกระทำเช่นนี้อาจทำให้อาการบวมช้ำหายช้าลง
  2. หลังจากครบ 1-2 วันแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นประคบร้อนแทน. [8] หลังจาก 1-2 วันที่ใช้วิธีการประคบด้วยน้ำแข็ง คุณควรเปลี่ยนมาเป็นประคบร้อนแทน
    • ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่บวก ห้ามใจถุงร้อนเนื่องจากไม่มีความชื้น อาจทำให้ร้อนจนเกินไปและอาจทำให้ระคายเคืองกับผิวที่บอบบางของคุณ
    • ประคบร้อนประมาณ 10 นาทีต่อครั้ง และควรหยุดพักอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 นาทีต่อครั้งเช่นกัน
    • ห้ามประคบบริเวณดวงตาโดยตรง แต่ให้ประคบบริเวณผิวรอบดวงตาแทน
    • ความอุ่นจากการประคบสามารถช่วยให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังที่ได้รับความเสียหายซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้หายเร็วขึ้น
  3. ไปพบจักษุแพทย์ทันทีหากอาการแย่ลงหรือว่าไม่หายไป. อาการบวมช้ำจะค่อยๆ จางหายไปหลังจาก หนึ่งสัปดาห์ครึ่งหรือมากกว่านั้น หากอาการยังไม่หายไปภายในเวลานั้น คุณควรไปพบแพทย์ทันที
    • คุณควรไปพบแพทย์ทันทีหากอาการตาเขียวช้ำมีสีเข้มขึ้นหรือว่ามีอาการแย่ลงหลังจาก 2-4 วันแรก
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การปกปิดรอยเขียวช้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [9] หลังจากมีอาการบาดเจ็บ สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรกคือเริ่มต้นรักษา การใช้เครื่องสำอางบริเวณที่มีอาการทันทีหลังจากบาดเจ็บนั้นอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อเส้นเลือดได้
    • เครื่องสำอางที่คุณใช้ปกปิดนั้นจะหลุดออกเมื่อคุณประคบเย็นเพื่อรักษาอาการ ดังนั้นการใช้เครื่องสำอางปกปิดก่อนหน้าที่อาการบวกจะหายถือเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์
    • รอจนกว่าคุณจะถึงช่วงเวลาที่ประคบร้อนถึงจะเริ่มใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดรอยเขียวช้ำ และพยายามใช้เครื่องสำอางปกปิดเมื่อเวลาที่คุณจำเป็นต้องออกนอกบ้านหรือมีแขกมาหาที่บ้านเท่านั้น
  2. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรใช้คอนซีลเลอร์สีโทนเหลืองหรือเขียวที่เป็นน้ำ [10] การใช้คอลซีลเลอร์แบบน้ำจะง่ายต่อการเกลี่ยกว่าแบบครีมและไม่เสี่ยงต่อแรงกดที่จะเกิดขึ้นต่อผิวที่บอบบาง
    • คุณต้องใช้คอเรคทีฟคอนซีลเลอร์ก่อนเท่านั้น ก่อนที่จะใช้คอนซีลเลอร์แบบธรรมดา เนื่องจากคอนซีลเลอร์แบบธรรมดานั้นมีส่วนช่วยแค่ปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้เท่ากัน แต่คอเรคทีฟคอนซีลเลอร์สามารถปกปิดรอยคล้ำหรือสีผิวที่แตกต่างอย่างชัดเจนได้
    • คอนซีลเลอร์สีเหลืองจะใช้งานดีที่สุดสำหรับรอยช้ำเขียวในช่วงแรกๆ เมื่อรอยช้ำเป็นสีม่วง เมื่ออาการค่อยๆ ดีขึ้น รอบดวงตาจะมีสีออกแดงหรือน้ำตาลเหลือง คุณจะต้องเปลี่ยนเป็นคอนซีลเลอร์โทนสีเขียว
    • เทคอเรคทีฟคอนซีลเลอร์ลงบนนิ้วมือ ใช้นิ้วมือในการแต้มคอนซีลเลอร์ลงไปบริเวณที่มีรอยเขียวช้ำ ใช้แรงให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะเกลี่ยคอลซีลเลอร์ให้เรียบเนียนเพื่อปกปิดรอยเขียวช้ำ
  3. [11] เมื่อคุณได้ทาคอเรคทีฟคอนซีลเลอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้คอนซีลเลอร์ที่มีสีเดียวกับสีผิวของคุณเพื่อปกปิดสีที่อาจเกินมาจากคอเรคทีฟคอนซีลเลอร์
  4. คอนซีลเลอร์ทั้งสองตัวก็เพียงพอต่อการปกปิดรอยเขียวช้ำได้แล้ว แต่หากคุณต้องการแต่งหน้าเพิ่มเติมก็สามารถทำได้
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 220,814 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา