ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทุกๆ คนคุ้นเคยกับความรู้สึกไม่พอใจ ไม่ว่าจะเกิดจากความพยายามที่ไปไม่ถึงเป้าหมายของคุณ หรือความพยายามของคนอื่นไม่มากพอตามความต้องการของคุณ การรับมือกับความไม่พอใจเป็นเรื่องของการระลึกถึงสาเหตุที่กระตุ้นความรู้สึก และการใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการเลือกการตอบสนองทางอารมณ์ที่แตกต่างกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รับมือกับกรณีที่รุนแรงของความไม่พอใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัวกระตุ้นเป็นองค์ประกอบในสิ่งแวดล้อมของคุณที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์ในทันทีทันใดของคุณที่แสดงออกมาเพื่อตอบโต้ตัวกระตุ้นนั้นๆ ทั้งนี้ตัวกระตุ้นมีอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ทุกคนมีสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ [1]
    • คุณไม่พอใจเมื่อคุณถูกบังคับให้ต้องคอย และทำอะไรไม่ได้ใช่ไหม? ยกตัวอย่างเช่น รถติด หรือการยืนเข้าคิวในแถวชำระค่าสินค้า หรือบริการ
    • คุณไม่พอใจเมื่อคนไม่เป็นไปตามความคาดหวังส่วนตัวของคุณ หรือทำให้งานของคุณยุ่งเหยิงใช่ไหม? ยกตัวอย่างเช่น ใครบางคนส่งข้อความ หรืออีเมล์ที่ทำให้วันดีๆ ของคุณต้องจบลง
    • คุณไม่พอใจกับปัญหาที่แก้ไขได้ยากใช่ไหม? ยกตัวอย่างเช่น การบ้านที่ยากมีแนวโน้มที่จะยั่วยุให้เกิดการปะทุทางอารมณ์ใช่ไหม?
  2. หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นของคุณเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นไปได้. การรู้ว่าอะไรมีแนวโน้มที่จะยั่วยุให้เกิดอารมณ์จะช่วยให้คุณระลึกได้ว่าเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกเหล่านี้จะเกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นบ่อยครั้งเท่าที่เป็นไปได้ [2] ตัวกระตุ้นบ่อยครั้งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองโดยอัตโนมัติ ดังนั้นการรู้จักตัวกระตุ้นของคุณสามารถช่วยควบคุมตัวเองเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับตัวกระตุ้นต่างๆ เหล่านั้น
    • ยกตัวอย่างเช่น ปิดเสียงโทรศัพท์ เมื่อคุณต้องการทำงานโดยปราศจากการรบกวน หรือลุกขึ้น และพักเบรกจากงานที่ยุ่งยาก หรือการบ้านจากโรงเรียน หากคุณรู้สึกได้ว่ามันกำลังก่อให้เกิดความไม่พอใจ
    • หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นได้โดยง่าย พยายามให้ดีที่สุดที่จะตระหนักว่าตัวกระตุ้นเป็นรูปแบบความคิดของตัวมันเอง ที่คุณสามารถเลือกที่จะยอม หรือไม่ยอม ไม่วามันจะยากแค่ไหนในการที่จะเปลี่ยนแปลงพวกมันก็ตาม [3] ทันทีที่คุณถูกกระตุ้น ให้ใช้เวลาในการคิด มากกว่าที่จะตอบโต้อย่างหุนหันพลันแล่น
  3. ทำร่างกายให้ผ่อนคลาย การควบคุมการหายใจช่วยเปลี่ยนแปลงสารเคมีของสมอง ดังนั้นกิจกรรมจะถูกครอบงำโดยสมองชั้นนอกที่ใช้ในการไตร่ตรอง โดยไม่เข้าสู่กระบวนการวิ่งหนี หรือวิ่งสู้ที่สั่งการโดยสมองในส่วนอมิกดาลา (Amygdala) [4] นี่แสดงให้เห็นว่าการหายใจอย่างมีสติ และแน่วแน่สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการกระทำอย่างหุนหันพลันแล่น หรือการพูดโต้เถียงโดยปราศจากการไตร่ตรอง สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนที่คุณจะแสดงอารมณ์โกรธ หรือไม่พอใจออกมา ให้คุณหยุด และหายใจเข้าลึกๆ นับ 1 ถึง 4 อย่างช้าๆ ในขณะที่คุณหายใจเข้า จากนั้นให้นับ 1 ถึง 4 อีกครั้งตอนหายใจออก ทำซ้ำๆ จนคุณรู้สึกสงบสติอารมณ์ได้ [5]
  4. ทุกคนสามารถรู้สึกไม่พอใจได้เป็นอย่างมาก เพราะว่ามนุษย์สามารถเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ใจ และน่าอภิรมย์ ในขณะที่คนทุกคนสามารถไม่มีเหตุผล ยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ยุติธรรม และไม่มีความสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถทำให้คนอื่นๆ เกิดบันดาลโทสะได้ทุกเมื่อ พึงระลึกไว้ว่า คุณอาจสามารถควบคุมปฏิกิริยาตอบสนองของตัวเองได้เสมอ แต่ไม่ใช่กับพฤติกรรมของคนอื่น [6]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณมีเพื่อนที่ไม่ชอบรักษาเวลาในทุกๆ เรื่อง แต่กระนั้นเขา หรือเธอก็เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ ให้คุณจัดการกับความคาดหวังของคุณ โดยการระลึกว่า คุณไม่สามารถทำให้เพื่อนของคุณมาตรงเวลาได้ง่ายๆ แต่คุณสามารถควบคุมสิ่งที่คุณจะเชื้อเชิญเขา หรือเธอให้มีส่วนร่วม หากคุณรู้ว่าการตรงต่อเวลาเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นของคุณ ให้คุณหลีกเลี่ยงที่จะดึงเขา หรือเธอให้มีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่ความรวดเร็ว และตรงต่อเวลาเป็นประเด็นที่สำคัญ
  5. ความไม่พอใจเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความเครียด ที่ก่อให้เกิดการหลั่งสารอะดรีนาลิน และสารเคมีอื่นๆ ในสมอง ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันในการทำให้คุณแสดงออกอย่างหุนหันพลันแล่น รวมไปถึงความก้าวร้าว [7] ก่อนที่คุณจะตะเบ็งเสียง แสดงกิริยาท่าทางที่หยาบคาย หรือดูถูกเหยียดยามใครบางคน ให้คุณหยุด และย้อนนึกกลับไปยังเหตุการณ์ที่สัมพันธ์กัน ตรวจสอบว่าการตอบสนองของคุณไม่ได้มากเกินกว่าที่จะยอมรับได้ หรือไม่เพียงพอใช่หรือไหม เป้าหมายคือ ไม่ยอมให้คนอื่นข้ามหัวคุณ ในขณะที่ไม่ทำตัวเองให้มีอำนาจเหนือ หรือเหยียบย่ำคนอื่นด้วยเช่นกัน ให้ถามตัวคุณเองด้วยคำถามดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยค้นหาวิธีในการตอบสนองสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่:
    • สิ่งต่างๆ เป็นจริงตามที่ฉันรับรู้ใช่ไหม? มีอะไรที่ฉันมองข้ามไปหรือไม่?
    • สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะมีผลแค่วันนี้? ในอีกสัปดาห์? หรือในอีกหนึ่งปีใช่ไหม?
    • ฉันสามารถแสดงความวิตกกังวลโดยปราศจากการมุ่งร้ายได้ใช่ไหม?
    • มีข้อมูลอะไรไหมที่ฉันกำลังพยายามจะแบ่งปัน?
    • ฉันรู้สึกสนใจที่จะเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากฉันอยู่ในปฏิกิริยาตอบสนองของตัวฉันเอง หรือฉันเป็นฝ่ายถูกใช่หรือไม่?
    • ฉันรู้สึกสนใจในความต้องการของผู้อื่นใช่ไหม? พวกเราสามารถร่วมมือกันได้ใช่ไหม?
  6. มองความไม่พอใจให้เป็น “ความสำเร็จที่มาถึงช้า” มากกว่าที่จะเป็น “ความล้มเหลว”. วิธีตีกรอบสถานการณ์ของคุณจะเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาตอบสนอง และอารมณ์ความรู้สึกของคุณ หากคุณเห็นสถานการณ์ของคุณเป็นอุปสรรค์ที่คุณจะผ่านไปได้ คุณมีแนวโน้มที่จะรู้ได้โดยทันทีว่าคุณสามารถเอาชนะความไม่พอใจได้
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังเก็บเงินเพื่อซื้อรถใหม่ แต่จำเป็นต้องใช้เงินที่เก็บมาซ่อมรถคันที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน แทนที่จะติดใจอยู่กับการไม่สามารถซื้อรถใหม่ได้ตามที่ต้องการ ให้เตือนตัวเองว่ามันแค่ทำให้คุณได้รถใหม่ช้าไปอีก 1 หรือ 2 เดือนเท่านั้น และนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถเอาชนะอุปสรรคได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รับมือกับความไม่พอใจในระยะยาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันของคุณ หรือการพัฒนางานอดิเรกใหม่ๆ สามารถช่วยแก้ไขความไม่พอใจในระยะยาวได้ [8] หากคุณกำลังมีปัญหาในการทำให้ตัวเองหมกมุ่นกับงานอดิเรกได้ไม่เท่ากับงานอยู่ตลอดเวลา ให้เลือกบางสิ่งบางอย่างที่ต้องมีการปฏิบัติ เช่น การเรียนรู้วิธีทำขนมปัง สบู่ เสื้อผ้า หรืออื่นๆ ด้วยตัวเอง คุณอาจค้นพบตัวตนข้างใน รวมไปถึงผลประโยชน์ภายนอกในการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญในการทำสิ่งหนึ่ง หรือมากกว่าได้ [9]
  2. การรับมือกับความไม่พอใจเป็นเรื่องของการรับมือกับความรู้สึกของการหมดสิ้นหนทาง ในการแก้ไขความไม่พอใจ ให้ฝึกฝนรูปแบบของการกระทำส่วนบุคคล “การกระทำ” เป็นความสามารถในการทำบางสิ่งบางอย่างได้อย่างแท้จริง ในขณะที่การหมดสิ้นหนทางเป็นความรู้สึกที่คุณไม่สามารถทำอะไรได้ในการปรับปรุงสถานการณ์ของคุณ ให้เลือกบางสิ่งบางอย่างที่คุณทำได้ในตอนนี้ – อย่างไรก็ตามเรื่องเล็กๆ อาจเป็นสิ่งที่ใช่ – และจงลงมือทำ เช่น การล้างมือ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าของคุณอาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หากเปรียบเทียบกับปัญหาของคุณ แต่มันไม่ใช่ไม่มีประโยชน์ซะทีเดียว และเนื่องจากวิธีที่สมองของพวกเราทำงาน นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญ
  3. หาเพื่อนที่คุณสามารถพูดคุยถึงความไม่พอใจของคุณได้ คนที่พร้อมจะฟัง และไม่ตัดสินคุณ หากคุณไม่มีเพื่อนสนิทที่คุณรู้สึกสบายใจที่จะพูดเรื่องนี้ ลองหาใครบางคนที่สามารถเป็นเพื่อนคู่คิดที่ดีในระหว่างการปฏิบัติภารกิจพิชิตความไม่พอใจนี้ เช่น การค้นหางาน หรือการใช้เวปไซต์จัดหาคู่ เวลาในการเข้าสังคมเป็นประโยชน์ต่อข้อกำหนดทางอารมณ์ แม้ว่าปัญหาอาจดูเด่นชัด การอธิบายถึงมันอาจช่วยคุณให้ค้นพบประเด็นที่ซ่อนอยู่ เช่น มีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ หรือความวิตกกังวลในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง [10] ผู้ให้คำแนะนำสนับสนุนสามารถช่วยให้คุณพูดเรื่องเหล่านี้ออกมา
  4. ความไม่พอใจสามารถสร้างความตึงเครียด และวิตกกังวล ซึ่งสามารถมีผลกระทบที่เป็นภัยต่ออารมณ์ วงรอบในการนอน และเคมีในร่างกายทั่วๆ ไปของพวกเรา โดยการปรับปรุงการเอาใจใส่ตัวเอง – โดยเฉพาะการเอาใจใส่ร่างกายของคุณ – คุณสามารถผ่อนคลาย และปลดปล่อยความรู้สึก ที่ถูกปลุกปั่นโดยความไม่พอใจ พิจารณานอนแช่อ่างอย่าจริงจัง ออกไปเดินเล่น อบขนมปัง หรืออ่านหนังสือ กิจกรรมที่เนิบนาบ และผ่อนคลายเหล่านี้สามารถช่วยเปลี่ยนเคมีในร่างกายของคุณจากพลุ่งพล่าน และไม่มีความสมดุล ให้กลายเป็นสงบ และมีสมาธิมากขึ้น
  5. ความไม่พอใจบ่อยครั้งมาพร้อมกับความรู้สึกที่คุณขาดจุดประสงค์ หรือความหมาย แต่คนที่รู้สึกไม่พอใจจะมีมุมมองที่เป็นจริงของพวกเขาเองค่อนข้างน้อย ต่อสู้กับเรื่องนี้โดยการจดบันทึกสิ่งที่คุณบรรลุผลสำเร็จทั้งหมด รวมไปถึงงานประจำวันที่คุณประสบกับความยากลำบากในการทำให้สำเร็จ [11] หากคุณมีความลำบากในการระลึกถึงการบรรลุผลสำเร็จของคุณ คุณอาจต้องทนทุกข์ทรมานกับประเด็นความภาคภูมิใจในตนเอง หาเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวให้ช่วยคิดช่วงเวลา หรือการบรรลุผลสำเร็จซึ่งคุณรู้สึกภาคภูมิใจ
  6. กิจกรรมทางร่างกายสามารถบรรเทาความตึงเครียด ที่เป็นผลมาจากความไม่พอใจ โดยเฉพาะหากคุณออกกำลังกายในสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง [12] เดิน วิ่งเหยาะๆ หรือออกไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติหากเป็นไปได้ [13] หากคุณไม่คุ้นเคยกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ทำอย่างช้าๆ เพื่อที่คุณจะรู้สึกสดชื่น ไม่ใช่เหนื่อยล้า
    • หากคุณไม่สามารถพักออกกำลังกายในขณะที่กำลังดำเนินภารกิจพิชิตความไม่พอใจ ให้พักเบรกสั้นๆ เพื่อฝึกการหายใจเข้าออกลึกๆ หรือการทำสมาธิแทน
  7. ความไม่พอใจสามารถก่อให้เกิดความเฉยชา หรือการขาดแรงจูงใจอย่างรุนแรง นี่สามารถส่งผลให้คุณใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับกิจกรรมที่ไม่เป็นผล หรือน่าเพลิดเพลินใจแต่อย่างใด หรือล้มเหลวที่จะบรรลุเป้าหมาย เนื่องจากการผัดวันประกันพรุ่ง หากรายละเอียดนี้สมเหตุสมผล ให้คุณทำลายวงจรด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ หากมันสามารถนำไปปรับใช้กับสถานการณ์ของคุณ: [14]
    • กำจัดสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็น ไม่ว่าคุณจะถูกรบกวนได้โดยง่าย หรือมีแนวโน้มที่จะรบกวนตัวเองเพื่อปัดการทำงานให้สำเร็จลุล่วง จงควบคุมความสนใจของคุณ ปิดโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออินเตอร์เน็ต ถ้ามันไม่จำเป็นสำหรับงานที่คุณกำลังทำอยู่ จงสะสางสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากพื้นที่ทำงานของคุณ
    • ขีดเส้นตาย และให้รางวัลตัวเอง งานที่ไม่พึงปรารถนา หรือมีความยากสามารถทำให้แรงจูงใจของคุณอ่อนแอลง เพิ่มแรงกดดันเพิ่มเติมด้วยการกระตุ้นเชิงบวก โดยการให้รางวัลตัวเองด้วยของว่าง ความบันเทิง หรือรางวัลอื่นๆ บนเงื่อนไขที่คุณทำสิ่งที่คาดหวังไว้ได้ทันเส้นตายเล็กๆ ภายในชั่วโมง หรือในตอนท้ายของวัน
  8. หากงานส่วนตัว หรืองานที่ซ้ำซากจำเจทำให้คุณไม่พอใจ ให้หางาน หรืองานอดิเรกอื่นๆ เพื่อทำสักระยะหนึ่ง หากคุณรู้สึกไม่พอใจกับที่ทำงาน คิดหาทางในการทำให้งานของคุณดำเนินไปอย่างไม่ติดขัดมากขึ้น หรือร้องขอการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหน้าที่ หรือตารางงานของคุณ
    • เพ่งความสนใจไปที่งานเดียวในแต่ละครั้ง หยุดการทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน การทำงานหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันมักทำให้งานแต่ละอย่างมีความยากมากขึ้น และเป็นการง่ายมากขึ้นที่จะหลีกเลี่ยงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าคุณอาจคิดว่าคุณเก่งในการรับมือกับเรื่องเหล่านี้ก็ตาม [15] แทนที่จะทำงานสองอย่างไปพร้อมๆ กัน ให้สลับทำงานแต่ละอย่างให้เสร็จเป็นอย่างๆ ไป หากพวกมันทำให้คุณไม่พอใจ
    • พิจารณาสลับการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความไม่พอใจ และคงประสิทธิผลของงาน ให้ใช้เวลา 30 – 60 นาทีในแต่ละงาน และพักเบรก 5 นาทีระหว่างการสลับมาทำอีกงาน
    • หากงานของคุณกำลังก่อให้เกิดความเครียด และความไม่พอใจอย่างรุนแรง พิจารณาการลาพักร้อน หรือแม้แต่การเปลี่ยนงาน
  9. หากคุณคาดหวังว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่มีสิ่งใดสามารถ หรือเกิดข้อผิดพลาดได้ และคุณจะบรรลุทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายอะไรเลย หากไม่เป็นเช่นนั้น คุณก็จะรู้สึกไม่พอใจ และผิดหวัง สิ่งสำคัญในชีวิต – งาน โรงเรียน ความสัมพันธ์ การมีความเชี่ยวชาญในทักษะใดๆ – ไม่ใช้เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ และรวดเร็ว หากพวกมันเริ่มต้นได้ง่ายๆ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะรักษามันไว้ด้วยเช่นกัน
  10. ความไม่พอใจบ่อยครั้งนำไปสู่ความคิด และพฤติกรรมที่ทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงเพียงเท่านั้น พยายามจับผิดตัวเองเมื่อเหตุการณ์เชิงลบเหล่านี้เกิดขึ้น และพักเบรกโดยการใช้คำแนะนำด้านบนในทันที พฤติกรรมเชิงลบเกิดจากความไม่พอใจ ได้แก่:
    • การคิดถึงสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ หรือสิ่งที่คุณปรารถนาให้ชีวิตของคุณเป็นแบบนั้น [16]
    • การใช้เวลาหลายชั่วโมงกับงานที่ไม่เกิดผล หรือไม่เพลิดเพลินใจแต่อย่างใด เช่น การดูรายการทีวีที่คุณไม่ชอบ
    • การนั่ง และไม่ทำอะไรเลย
  11. ฝึก การฝึกช่วยสร้างสถาพจิตใจเช่นเดียวกับสิ่งที่เรียกว่า "ความจำกล้ามเนื้อ" มือจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างโดยอัตโนมัติ "จิตใต้สำนึกที่ผ่านการฝึกควบคุมมา"/และปฏิกิริยาฉับพลัน "ที่เรียนรู้จากประสบการณ์" ว่าต้องทำอะไรเมื่อไหร่ คุณจึงสามารถเล่นดนตรีได้แม่นตามความทรงจำ ให้พัฒนาเป้าหมายที่ต้องผ่านการฝึกฝนทักษะ คึวามสามารถและความจำ (มันเป็นการสร้างประสบการณ์ในขอบเขตความถนัดของคุณ)
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

จัดการกับความไม่พอใจในความสัมพันธ์ หรือมิตรภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแสดงออกของความรู้สึกที่แข็ง และเชิงลบไม่ค่อยให้ผลลัพธ์ที่ดีในเรื่องความสัมพันธ์ หากคุณรู้สึกไม่พอใจ หรือโมโหคนคนหนึ่งอยู่เสมอ การอธิบายด้วยอารมณ์ที่สงบมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ออกห่างจากคนคนนั้นจนกระทั่งคุณมีอารมณ์เย็นลง
  2. เริ่มต้นการอธิบายของคุณโดยการพูดถึงประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เช่น การกระทำที่เฉพาะเจาะจง หรือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ที่ทำให้คุณไม่พอใจ [17] พยายามให้ความสนใจไปที่หัวข้อนั้นจนกระทั่งคุณได้อธิบายมันอย่างจริงจัง การพูดถึงสาเหตุสำคัญ หรือการกระทำที่เกี่ยวข้องที่เป็นไปได้สามารถเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่พยายามหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงการอธิบายให้เป็นรายการของสิ่งต่างๆ ที่ทำให้คุณระคายเคือง
    • พยายามเห็นด้วยกับอีกคนในตอนแรก ที่คุณทั้งคู่ให้ความสนใจไปที่ประเด็นที่กำลังพูดถึง
  3. ยอมให้อีกคนมีโอกาสได้พูดอย่างไม่มีการขัดจังหวะ และเพื่อให้เขารู้สึกว่าเขาได้รับการรับฟัง พยายามฟังอีกคนอย่างตั้งใจ จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะตอบสนองอย่างไร มากกว่าที่จะโต้ตอบไปอย่างหุนหันพลันแล่น หากคุณพบว่านี่เป็นเรื่องยาก พยายามย้ำคำพูดของอีกคนกับตัวเองอย่างเงียบๆ เพื่อทำให้คุณมีสมาธิ และหันหน้า และร่างกายของคุณเข้าหาอีกคน [18]
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังมีความสัมพันธ์ที่มีการทะเลาะเบาะแว้ง พึงแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ขัดจังหวะอีกคน ปล่อยให้เขา หรือเธอจบประเด็น ก่อนที่คุณจะตอบสนอง และพิจารณาการตอบสนองของคุณมากกว่าที่จะตอบโต้ไปตามสัญชาติญาณของคุณ
  4. นี่จะแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจสิ่งที่อีกคนได้พูด เปิดโอกาสให้อีกคนในการพิจารณาสิ่งที่เขา หรือเธอได้พูด และขจัดความกำกวมในการอธิบาย นี่สามารถเป็นขั้นตอนที่ยากมากๆ เพราะว่าการฟังอีกคนอย่างตั้งใจ – แทนที่การคิดถึงสิ่งที่คุณจะพูดเป็นลำดับต่อไป – สามารถเป็นเรื่องยากที่จะทำ
    • ยกตัวอย่างเช่น หากเพื่อนพูดว่า คุณไม่เคยให้เวลาสำหรับเธอ ย้ำกับตัวเอง และถามกลับว่า “คุณคิดว่าผมไมเคยให้เวลากับคุณจริงๆ หรือ?” นี่สามารถเปิดโอกาสให้เพื่อนของคุณได้ยินการตำหนิติเตียนที่คุณได้ทำ
  5. มีการอธิบายที่ซื่อสัตย์ว่าคุณรู้สึกอย่างไร และสิ่งที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง และขอให้อีกคนแสดงความคิดเห็นที่ซื่อสัตย์ด้วยเช่นกัน [19] ละเว้นจากการดูถูก หรือการวิจารณ์ที่เจ็บปวด ใช้ประโยคที่เริ่มต้นด้วย “ฉัน” เพื่อพูดว่าคุณรู้สึกอย่างไร และหลีกเลี่ยงประโยคที่มี “คุณ” ซึ่งบ่อยครั้งสามารถฟังดูเหมือนเป็นการกล่าวหา [20]
    • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมก้าวร้าวที่ไม่แสดงกิริยาใดๆ เช่น ปิดบังอารมณ์ความรู้สึกจริงๆ ของคุณ หรือการพูดดูถูกใครบางคนลับหลัง
    • หลีกเลี่ยงการเหน็บแนม หรือดูถูกระหว่างการอธิบายนี้ แม้ว่ามันอาจจะเป็นมุขตลกก็ตาม
  6. คำเหล่านี้ ได้แก่ ‘เสมอ’ และ ‘ไม่เคย’ คำเหล่านี้เชื้อเชิญให้อีกคนต้องออกมาปกป้องตัวเอง โดยการหักล้างความพยายามของอีกคน แม้ว่าความพยายามเหล่านั้นไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ก็ตาม
    • ยกตัวอย่างเช่น ห้ามพูดว่า “คุณไม่เคยเอาขยะไปทิ้ง!” แต่ให้พูดว่า “คุณเอาขยะไปทิ้งน้อยกว่าที่เราได้ตกลงกันไว้”
  7. พยายามเข้าถึงการประนีประนอมที่คุณทั้งคู่พึงพอใจ การเขียนรายการความคิดร่วมกันบางครั้งสามารถช่วยได้ คุณไม่จำเป็นต้องได้คำตอบที่สมบูรณ์แบบในการอธิบายครั้งแรก หากจำเป็น ระบุให้ชัดเจนว่าแนวทางการแก้ไขที่คุณตัดสินใจเป็นเรื่องชั่วคราว และกำหนดเวลาในการอธิบายในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อดูว่าแนวทางแก้ไขนั้นใช้ได้ผลหรือไม่
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณรู้สึกไม่พอใจที่เพื่อนไม่ใช้หนี้คุณ ลองดูหากคุณสามารถประนีประนอมด้วยแผนการชำระหนี้มากกว่าที่จะรู้สึกไม่พอใจที่คุณไม่สามารถเอาเงินคืนได้ทั้งหมดในครั้งเดียว
  8. ขอบคุณอีกคน ที่ได้พยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขา หรือเธอ แม้แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ – เล็กเกินกว่าที่คุณจะพอใจ – อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มากกว่า หากคุณได้กระตุ้นอีกคนให้ทำ
    • จากตัวอย่างก่อนหน้านี้ที่เพื่อนติดเงินคุณ บอกเพื่อนว่ามันมีความหมายมากแค่ไหนที่เขายอมรับแผนชำระหนี้ หรือแม้แต่ตกลงที่จะนั่ง และพูดถึงมันอีกครั้ง เมื่อเขาอาจสามารถทำข้อตกลงชำระหนี้ทั้งหมดได้ โดยการทำให้ความพยายามของเพื่อนดูมีคุณค่า คุณมีแนวโน้มที่จะเห็นความร่วมมือที่ดีได้ในอนาคต
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณไม่แน่ใจว่าอะไรที่เป็นสาเหตุของความไม่พอใจ หาคำแนะนำจากเพื่อนที่ไว้ใจได้ ผู้ให้คำปรึกษา หรือนักบำบัด
โฆษณา

คำเตือน

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาอื่นๆ ไม่ใช่ทางออกที่ดี หรือกลไกในการรับมือกับความไม่พอใจที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวแม้แต่น้อย


โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Dodes, Lance (2002) The Heart of Addiction: A New Approach to Understanding and Managing Alcoholism and Other Addictive Behaviors (NY: William Morrow).
  2. Dodes, Lance (2002) The Heart of Addiction: A New Approach to Understanding and Managing Alcoholism and Other Addictive Behaviors (NY: William Morrow).
  3. http://www.helpguide.org/articles/emotional-health/anger-management.htm
  4. Pally, Regina. (2000). The Mind Brain Relationship. (International Journal of Psychoanalysis Key Paper Series). NY: Other Press.
  5. http://www.stress.org/take-a-deep-breath/
  6. https://www.psychologytoday.com/blog/your-wise-brain/201410/accept-them-they-are
  7. https://www.psychologytoday.com/blog/the-athletes-way/201301/cortisol-why-the-stress-hormone-is-public-enemy-no-1
  8. http://www.stress.org/management-tips/
  9. Fields, Rick. (1984). Chop Wood, Carry Water: A Guide to Finding Spiritual Fulfillment in Everyday Life

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,411 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา