ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การหลอกลวงบนเว็บไซต์หาคู่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไป ใครๆ ก็ตกเป็นเหยื่อได้ คุณไม่จำเป็นต้องรวย และ ไม่จำเป็นต้องโง่ด้วย คุณก็แค่ตามหาความรัก ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ทำให้จิตใจคุณหวั่นไหวมากกว่าปกติ และความรักนี้เองที่เป็นเครื่องมือของพวกนักต้มตุ๋นที่จะหลอกให้คุณเปิดเผยบัญชีธนาคาร และทำให้คุณเสียทรัพย์ แต่คุณป้องกันตัวเองได้โดยเรียนรู้วิธีสังเกตนักต้มตุ๋นเหล่านี้
ขั้นตอน
-
สังเกตช่วงวัยที่ต่างกันในกรณีที่คุณอายุมากกว่าอีกฝ่าย. พวกนักต้มตุ๋นตามเว็บไซต์หาคู่มักเลือกคนที่อายุมากกว่าเป็นเหยื่อ กรณีที่นักต้มตุ๋นเป็นผู้ชาย พวกเขามักจะจับผู้หญิงวัยกลางคนอายุระหว่าง 50 ถึง 60 ปี คนพวกนี้เชื่อว่าหญิงวัยดังกล่าวเป็นเป้าหมายชั้นดี เนื่องจากคนเหล่านี้มักจะรวยกว่า และหวั่นไหวง่ายกว่า
-
มองหาคำบรรยายเหล่านี้ในหน้าประวัติส่วนตัว:
- เป็นนายตัวเอง ประกอบอาชีพ (เช่น วิศวกร) ในต่างแดน
- ม่ายลูกติด (หรือแค่เป็นม่าย)
- อ้างว่าอาศัยอยู่ใกล้คุณ อาจอยู่ประเทศเดียวกัน หรือตอนนี้อยู่ที่อื่น แต่จะกลับมาเร็วๆ นี้
-
ตรวจสอบรูปภาพ. เซฟรูปโปรไฟล์ของอีกฝ่ายเก็บไว้ แล้วค้นหาภาพผ่านกูเกิล ดูผลลัพธ์ว่าคนเหล่านี้ถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นนักต้มตุ๋นแล้วหรือไม่ หรือว่าผลลัพธ์ที่ปรากฏมีความไม่ชอบมาพากลทางกฎหมายรึเปล่า และรายงานไปยังเว็บไซต์หาคู่เพื่อมอบหลักฐาน พร้อมลิ้งค์เว็บไซต์ที่ใช้เป็นหลักฐาน
-
ตรวจสอบรูปภาพอื่นๆ ที่คุณได้รับมา. คอยสังเกตสิ่งที่ดูไม่ค่อยเข้ากันกับภาพของเขาที่คุณคิดว่าน่าจะเป็น เช่น ตรวจสอบประวัติ ที่อยู่ และแม้แต่นาฬิกา หรือ ปฎิทิน คุณเห็นอะไรแปลกๆ ที่ไม่เข้ากันกับรูปภาพที่คนๆ นี้ได้สร้างตัวตนของเขาขึ้นมาหรือไม่
-
จับไต๋ที่ใช้เปิดโปงคนพวกนี้. เช่น:
- บอกว่าตัวเองไม่อยู่ แต่หน้าโปรไฟล์กลับแสดงสถานะว่ากำลังออนไลน์ (เป็นไปได้สูงว่ากำลังคุยกับเหยื่ออีกรายอยู่).
- หน้าโปรไฟล์โชว์ความมั่วทางภูมิศาสตร์ คนพวกนี้ มักจะบอกว่าตัวเองอยู่ในที่ๆ จริงๆ แล้วไม่ได้ใกล้กับที่ๆ ตนอาศัยอยู่
โฆษณา
-
อ่านอีเมลที่อีกฝ่ายส่งมาให้ดี. นักต้มตุ๋นพวกนี้จะส่งอีเมลที่เต็มไปด้วยความไม่คงเส้นคงวา พิมพ์ชื่อตัวเองหรือชื่อคุณผิดบ่อย เป็นอีเมลแย่ๆ ที่เขียนวกวนไปมา ให้คุณคอยสังเกตสิ่งเหล่านี้:
- การใช้ภาษาของคนพวกนี้จัดว่าพัง พวกเขาอาจเขียนอีเมลไม่เป็นภาษา ไร้ไวยากรณ์ และใช้เครื่องหมายวรรคตอนไม่เป็น
- ทำพลาดตรงที่ “เรื่อง” โน้นเรื่องนี้ของเขาเริ่มที่จะขัดแย้งกันเอง
- ใช้คำสรรพนามผสมปนเป (เขา/เธอ).
- พูดสิ่งที่ดูไม่ได้มีความเกี่ยวข้ออะไรใดๆ เลยกับประวัติส่วนตัวที่พวกเขาสร้างขึ้น หรืออีกประเภท คือ เปิดเผยข้อมูลเยอะเกิน และฟังดูเกินจริง
-
คุย. หลายครั้งที่การคุยโทรศัพท์ช่วยให้เราจับไต๋คนที่จะมาหลอกเราได้ เวลาที่เราคุยกับคนพวกนี้ทางโทรศัพท์ สังเกตดูว่าพวกเขามีสำเนียงแปลกๆ มั้ย ใช้คำที่ประหลาดๆ หรือไม่ หากรู้สึกว่าสำเนียงไม่ตรงกับบ้านเกิดก็ให้สงสัยไว้ก่อน ถามคำถามที่จะช่วยล้วงข้อมูลจากคนเหล่านี้ และให้มั่นใจในสัญชาตญาณตัวเองว่าสิ่งที่เขาตอบมาเชื่อถือได้หรือไม่
- หากคุยโทรศัพท์ ให้ระวังเบอร์มือถือที่ไม่ตรงกับเบอร์เขตพื้นที่ที่เขาอ้างว่าอาศัยอยู่ นี่มักหมายความว่าเขาคนนั้นอยู่คนละประเทศกับคุณ คุณควรเช็กดูว่าเบอร์โทรอีกฝ่ายตรงกับรหัสพื้นที่ของรัฐหรือเมืองที่อ้างว่าอาศัยอยู่หรือไม่
- หากสังเกตเห็นว่าผิดปกติของเบอร์โทรศัพท์ ให้เตรียมรับมือข้ออ้างต่างๆ นานา เขาอาจอ้างว่าเพิ่งย้ายออกไป หรือขี้เกียจจะเปลี่ยนเบอร์เพราะการใช้เบอร์ใหม่อาจทำให้ติดต่อเพื่อนลำบากขึ้น.
โฆษณา
-
ตั้งข้อสงสัยหากคนพวกนี้เริ่มรบเร้าหนัก. หากเขาเสนอให้เปลี่ยนวิธีติดต่อกันเป็นการคุยทางโทรศัพท์และการส่งข้อความอย่างด่วน คุณควรตื่นตระหนกแล้วล่ะ จากนั้น ถ้ามีสายเข้าและมีข้อความแสดงความรัก ความหลงใหลเข้ามารัวๆ และภายใน 5 ถึง 6 สัปดาห์ เขาบอกว่าเขาตกหลุมรักคุณเข้าแล้ว คุณยิ่งควรจะตื่นตระหนกตกใจอย่างจริงๆ จังๆ ได้แล้ว
- การแสดงความรู้สึกที่เยอะเกินปกติแม้คุณจะยังไม่เคยเจอกันเป็นสัญญาณเตือนสิ่งไม่ชอบมาพากล
-
ระวังอย่าให้ตัวเองติดกับ. เมื่อคนพวกนี้คิดว่าคุณติดกับเขาแล้ว นั่นเป็นเวลาที่พวกเขาจะพยายามควบคุมชีวิตคุณ เขาจะบอกคุณว่าตอนนี้เขากำลังจะกลับบ้านเพื่อจะมาอยู่กับคุณและเริ่มต้นชีวิตด้วยกัน แต่อยู่ๆ ก็บอกว่าตัวเองมีปัญหาการเงินเร่งด่วน แล้วก็จะขอให้คุณส่งเงินให้เขาทันทีเพื่อจัดการปัญหานั้น หากคุณไม่ทำตามหรือขอหลักประกันใดๆ ก่อนจะส่งเงินไป เขาก็จะงัดไพ่เด็ดออกมาใช้โดยการอ้างความเชื่อใจ โดยบอกคุณว่า: ถ้าไม่มีความเชื่อใจกัน ความสัมพันธ์ก็คงไปต่อไม่ได้ ให้คุณใช้โอกาสนี้ยุติความสัมพันธ์กับคนพวกนี้ไปเลย
- คิดดูว่าทำไมคนพวกนี้ถึงว่างส่งข้อความหรืออีเมลหาคุณเหลือเกิน แต่กลับไม่มีเวลาที่จะมาพบคุณตัวต่อตัว นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณเจอนักต้มตุ๋นเข้าเสียแล้ว
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าใส่รูปตัวเองหรือครอบครัวมากไป เพราะพวกโจรอาจเอารูปไปใช้หลอกคนอื่นก็เป็นได้
- อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด เพราะมันอาจนำไปสู่การโจรกรรมข้อมูลก็เป็นได้
- ชวนให้ออกมาเจอกัน หากการเจอกันกับว่าที่คนรักไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แสดงว่าพวกเขาเหล่านั้นอาจไม่มีตัวตนอยู่จริง
- อย่าให้ข้อมูลเฉพาะ เช่น ที่อยู่ หรือเบอร์โทรศัพท์บ้าน เป็นอันขาด
- หากคุณรู้จักกันทางอีเมล กูเกิลมีตัวช่วยที่จะแสดงให้คุณเห็นว่ามีใครบ้างที่อยู่ในวงสังคมของเขา คุณอาจเห็นผู้ใช้คนอื่นๆ แต่ก็เป็นคนกลุ่มเดียวกัน
- อย่าให้อีกฝ่ายรู้วันสำคัญหรือข้อมูลรายละเอียดทางการเงินใดๆ
- หากคุณสงสัยว่ากำลังโดนหลอก ให้หยุดติดต่อกับคนๆ นั้น และแจ้งให้ทางการทราบ ในออสเตรเลีย มีเว็บไซต์ชื่อ www.scamwatch.gov.au. ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็มีเว็บไซต์ลักษณะนี้เช่นกัน
- ในการคุยกันครั้งแรก พวกนักต้มตุ๋นมักจะอยากรู้ว่าคุณทำงานอะไร เพราะเป็นข้อมูลที่ทำให้คนเหล่านี้รู้ว่าคุณมีฐานะทางการเงินดีหรือไม่
- ระวังพวกโปรไฟล์ประเภทไปคัดลอกแล้วมาวางแปะ ให้คุณใช้กูเกิลค้นหาข้อมูลต่างๆ บนโปรไฟล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสิ่งที่ปรากฏดูเป็นข้อมูลเป็นการ “ตัดแปะ” ไปหมด
- คลิกดูรายละเอียดรูปภาพ และดูว่ามีข้อมูล 'วันที่โพสต์' ภาพบน กูเกิลพลัส หรือซอฟต์แวร์อื่นๆ หรือไม่ รูปที่เก่ากว่า 5 ปี อาจเป็นสัญญาณของความไม่ซื่อก็ได้
- คนเหล่านี้มักจะแนะนำให้ใช้ MoneyGram เป็นตัวกลางในการส่งเงิน เพราะจะไม่มีใครสามารถติดตามเส้นทางของเงินได้
- หากอ้างว่าเป็นทหาร ทำงานหน่วยข่าวกรองอยู่ต่างประเทศ จึงไม่สามารถพูดอะไรมากได้ ให้คุณสืบสาวราวเรื่องดู หาภาพถ่ายของเขาในชุดเครื่องแบบ และตรวจสอบดูว่าชุดกับยศของเขาตรงกันกับที่เขาบอกคุณหรือไม่
- ตรวจสอบภาพถ่ายบนอินเทอร์เน็ตดู เพื่อให้ทราบแน่ว่าเขาคือคนที่เขาอ้างว่าเป็นหรือไม่
โฆษณา
คำเตือน
- จำไว้: หากอะไรๆ ฟังดูดีเกินจริง มันอาจจริงว่าคุณกำลังโดนหลอก!
- หากได้รับการติดต่อจากเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วยรหัสโทรศัพท์ประหลาดๆ เช่น +4470 +4475 หรือ +6010 หรือ +6013 อาจเป็นได้ว่าคนพวกนี้เป็นนักต้มตุ๋น เบอร์เหล่านี้ถูกใช้งานโดยนักต้มตุ๋นในสหราชอาณาจักรและมาเลเซียในขณะนี้ และคนเหล่านี้ทำงานกันเป็นทีม
โฆษณา
โฆษณา
