ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ซอสหมักนี้จะมีส่วนผสมของสมุนไพร น้ำมัน และน้ำส้มสายชู ซึ่งใช้เพิ่มรสชาติให้กับผักหรือเนื้อ แม้ว่าส่วนผสมในน้ำหมักจะไม่ได้ลงลึกเข้าไปมาก แต่มันก็จะติดอยู่กับผิวของอาหารนั่นเอง ในโลกนี้มีสูตรซอสหมักมากมายสำหรับเนื้อซี่โครงก็จริง แต่ถึงอย่างนั้น แบบที่มีรสเผ็ดปนหวานก็ดูจะเหมาะกับซี่โครงเล็กๆ อย่างแนว St. Louis (ส่วนใกล้กับส่วนท้อง) และส่วน spare
ส่วนประกอบ
ซอสหมักที่ใช้ตามร้านสเต๊ก
- น้ำมันพืช 1 ถ้วย (0.2 ลิตร)
- น้ำส้มสายชูไซเดอร์ 1/2 ถ้วย (120 มิลลิตร)
- น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ (35 กรัม)
- ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- ซอสวูสเชสเตอร์ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- ผงกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ (10 กรัม)
- ผงหัวหอม 1/2 ช้อนชา (1.2 กรัม)
- เกลือโคเชอร์ 1/2 ช้อนชา (3 กรัม)
- น้ำผึ้ง 1 ถ้วย (0.2 ลิตร)
- ซอสถั่วเหลือง 1/3 ถ้วย (80 มิลลิลิตร)
- ไวน์เชอร์รี่ 3 ช้อนโต๊ะ (45 มิลลิลิตร)
- ผงกระเทียม 2 ช้อนชา (6.2 กรัม)
- พริกแดงป่น 1/2 ช้อนชา (0.9 กรัม)
- กาแฟดำ 1 ถ้วย (0.2 ลิตร)
- หอมแดงใหญ่ 1 ถ้วย
- กากน้ำตาล 1/2 ถ้วย (120 มิลลิลิตร)
- น้ำส้มสายชูไวน์แดง 1/2 ถ้วย (120 มิลลิลิตร)
- มัสตาร์ดดีจอน 1/4 ถ้วย (60 มิลลิลิตร)
- ซอสวูสเชสเตอร์ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- ซอสถั่วเหลือง 1/4 ถ้วย (60 มิลลิลิตร)
- ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
- หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอน
-
ละลายน้ำแข็งจากซี่โครงให้เสร็จก่อน. นำลงมาไว้ช่องแช่เย็นธรรมดาสองถึงสี่วันก่อนจะถึงวันที่จะนำมาทำอาหาร โดยเวลาที่เหมาะสมในการใช้ละลายน้ำแข็งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของซี่โครงนั่นเอง
-
หงายเนื้อซี่โครง. แล่พังผืดด้านหลังแล้วดึงออกไป เพื่อให้เนื้อนุ่มขึ้น และน้ำหมักจะได้ซึมลึกเข้าไปได้มากขึ้นอีกนิด
-
ผสมส่วนผสมน้ำหมักก่อนสักวันหนึ่ง. พวกเนื้อสัตว์ที่มีคุณค่า อย่างซี่โครง คุณควรใช้เวลาหมักหนึ่งวันหรือ 12 ชั่วโมง การที่เกลือจะซึมเข้าไปในเนื้อได้ 1 นิ้ว (2.5 ซม.) ก็ต้องใช้เวลา 24 ชม. เลยล่ะ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ส่วนผสมที่เหลือจากการหมัก ก็มักจะใช้เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับผิวภายนอกของอาหารนั่นเอง
- ถ้าคุณมีซี่โครงน้ำหนักมากกว่า 5 ปอนด์ (2.3 กก.) ให้เพิ่มส่วนผสมในสูตรน้ำหมักเป็นสองเท่า
- เก็บน้ำหมักที่เหลือเอาไว้ใช้ทาอีกครั้งด้วยนะ
-
ตีน้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายแดง ซอสถั่วเหลือง ซอสวูสเชสเตอร์ ผงกระเทียม หัวหอม และเกลือให้เข้ากันในภาชนะขนาดใหญ่. ถ้าคุณไม่มีอะไรก็ตามที่ใหญ่พอที่จะใส่เนื้อซี่โครงลงไปทั้งชิ้นได้ ก็ให้เทน้ำหมักลงในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ หรือหั่นแบ่งชิ้นซี่โครงเป็นครึ่งๆ แล้วหมักในภาชนะคนละอย่างกันเอาก็ได้
-
ใส่เนื้อซี่โครงลงไปหมัก. กลับด้านสักสองสามครั้ง แล้วค่อยนำภาชนะแช่เข้าไปในช่องแช่เย็น
-
ใช้แปรงทาอาหารทาเนื้อทุกๆ สามชั่วโมง. โดยใช้ซอสหมักที่นอนก้นถุงหรือภาชนะนั่นเอง แต่ถ้าเนื้อซี่โครงไม่ซึมซับน้ำเข้าไป ก็ให้กลับด้านมันแทน
-
นำเนื้อซี่โครงออกมาจากตู้เย็นหนึ่งชั่วโมงก่อนจะนำไปอบหรือย่างบาร์บีคิว. หลังจากนั้นก็ให้ทิ้งน้ำหมักที่เหลือไปได้เลย
-
อบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยห่อไว้ด้วยฟอยล์อลูมิเนียม. จากนั้นก็อบต่อในอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียสต่ออีก 45 นาทีโดยแกะเอาห่อฟอยล์ออก [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ละลายน้ำแข็งจากเนื้อซี่โครง. ดึงเอาพังผืดด้านหลังออกจากเนื้อซี่โครงเพื่อการหมักทีดีขึ้น
-
ผสมน้ำผึ้ง ซอสถั่วเหลือง ไวน์เชอร์รี่ ผงกระเทียม และพริกป่นเข้ากันก่อนจะปรุงซี่โครง 12 ชั่วโมง. อุ่นด้วยเตาแก๊สไฟกลางเพื่อผสมให้มันเข้ากัน
-
นำน้ำหมักออกจากเตา. ทิ้งไว้ให้เย็นสนิท
-
ใส่เนื้อซี่โครงไว้ในภาชนะหนึ่งใบหรือสองใบ ขึ้นอยู่กับขนาดของซี่โครง. โดยสูตรหมักนี้ใช้สำหรับซี่โครงหนักสี่ปอนด์ (1.8 กก.)
-
เทน้ำหมักที่เย็นแล้วให้ทั่วซี่โครง. กลับด้านและดูให้มั่นใจว่าน้ำหมักโดนเนื้ออย่างเท่าเทียมกัน ถ้าน้ำหมักไม่เคลือบซี่โครงทั้งอัน คุณก็อาจต้องมาคอยกลับด้านทุกๆ ชั่วโมงเอาก็เป็นได้
-
นำเนื้อซี่โครงออกจากตู้เย็นหนึ่งชั่วโมงก่อนจะนำไปปรุง. เทเอาน้ำหมักที่เหลือออก แล้วยกซี่โครงขึ้นจากภาชนะ เพื่อให้น้ำหมักไหลหยดออกมา
- ถ้าจะให้ดี ให้ปล่อยให้ซี่โครงแห้งเล็กน้อย ถ้าคุณจะย่างมันโดยไม่ได้เอาอะไรมาห่อมาคลุม เพราะน้ำหมักเปียกๆ จะทำให้เปลวไฟเกิดลุกโชนขึ้นได้
-
โฆษณา
-
ละลายน้ำแข็งจากซี่โครง. ดึงเอาพังผืดออกจากด้านหลังซี่โครง เพื่อเผยส่วนเนื้อออกมา
-
หั่นหัวหอมและหอมแดงเพื่อใช้หมัก. จากนั้นก็ชงกาแฟ
-
ตีกาแฟ หัวหอม กากน้ำตาล น้ำส้มสายชูไวน์แดง มัสตาร์ด ซอสวูสเชสเตอร์ ซอสถั่วเหลือง ทาบาสโก้ และหอมแดงให้เข้ากัน. สูตรนี้ใช้สำหรับซี่โครง 5 ปอนด์ เก็บน้ำหมักเอาไว้สัก 1 ถ้วยต่อเนื้อหนึ่งชุด
-
ใส่เนื้อไว้ในภาชนะ 12 ชั่วโมงก่อนจะทำการปรุง. ด้วยซอสหมักแล้วเก็บเอาไว้ในช่องแช่เย็น
- ทาน้ำหมักบนเนื้อหรือกลับด้านเนื้อทุกๆ สองสามชั่วโมง
-
นำเนื้อออกจากตู้เย็นสักหนึ่งชั่วโมงก่อนจะนำไปปรุง. และทิ้งให้น้ำหมักที่เหลือหยดออกจากเนื้อซี่โครงด้วยล่ะ
-
ย่าง ย่างบาร์บีคิว หรืออบเนื้อในเตาอบได้เลย. โดยให้เอาน้ำหมักที่เก็บไว้คอยราดเนื้อทุกๆ 20 นาที [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- ในสูตรเอเชีย คุณสามารถเปลี่ยนจากน้ำผึ้งเป็นซอสฮอยซินแทนก็ได้
- เวลาที่ปรุงเนื้อ แนะนำให้ห่อเนื้อซี่โครงไว้ด้วยฟอยล์อลูมิเนียมเป็นเวลาส่วนใหญ่ ก่อนจะแกะออกแล้วผิงให้โดนไฟตรงๆ สัก 10 ถึง 20 นาทีสุดท้ายเพื่อความกรอบที่มากขึ้น
- เนื้อซี่โครงมักจะหมักแห้งกันมากกว่าหมักเปียกๆ
- ถ้าใส่น้ำสับปะรดลงไปในน้ำหมัก ก็จะทำให้เนื้อนุ่มขึ้นด้วยนะ เพราะมันมีเอนไซม์ที่จะย่อยให้เนื้อนุ่มขึ้นได้นั่นเอง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ไม้ตีส่วนผสม
- ชาม
- ฝาปิด
- ถุงพลาสติกหรือภาชนะพลาสติกขนาดใหญ่
- แปรงทาอาหาร
- ตู้เย็น
- หม้อเคี่ยวซอส
- มีด
- เตาบาร์บีคิว/เตาอบ/เตาย่าง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://amazingribs.com/recipes/rubs_pastes_marinades_and_brines/zen_of_marinades.html
- ↑ http://www.thekitchn.com/recipe-ovenbaked-barbecue-ribs-140406
- ↑ http://www.myrecipes.com/recipe/honey-soy-appetizer-ribs-10000001831939/
- ↑ http://www.splendidtable.org/recipes/spareribs-coffee-molasses-marinade
โฆษณา