ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ฟุตบอลเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก มีผู้เข้าร่วมเล่นฟุตบอลมากกว่า 200 ล้านคน เรียกได้ว่าฟุตบอลเป็นกีฬาสากลที่แท้จริง กติกาของฟุตบอลถือว่าสามารถเข้าใจได้ง่าย จึงใช้เวลาไม่นานที่จะเรียนรู้และเริ่มเล่นฟุตบอล อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้ความหมายของสัญญาณต่าง ๆ ของผู้ตัดสินเพื่อที่คุณจะได้ตามเกมทันในระหว่างที่ดูการแข่งขันหรือลงแข่ง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ทำความเข้าใจผู้ตัดสินที่อยู่ในสนาม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รู้ว่าผู้ตัดสินให้เป็นลูกได้เปรียบโดยการยื่นมือไปด้านหน้าหลังจากที่มีการทำฟาวล์. ผู้ตัดสินจะยกมือทั้งสองข้างแบบขนานกันไปด้านหน้า โดยจะยกมือไปทางประตูของทีมที่ได้เปรียบ สิ่งสำคัญที่ต้องจำคือผู้ตัดสินจะไม่เป่านกหวีดในการให้สัญญาณครั้งนี้ [1]
    • ผู้ตัดสินจะให้เป็นลูกได้เปรียบเมื่อทีมหนึ่งทำฟาวล์แบบไม่รุนแรง แต่อีกทีมถูกมองว่าสมควรได้เป็นลูกได้เปรียบ ดังนั้น แทนที่จะให้ฟาวล์ ผู้ตัดสินจะปล่อยให้การแข่งขันดำเนินต่อไปและให้สัญญาณว่าเป็นลูกได้เปรียบ
    • ตัวอย่างเช่น ถ้ากองหลังทำฟาวล์ผู้เล่นตัวรุก แต่ผู้เล่นตัวรุกยังมีโอกาสที่จะทำประตูอยู่ ผู้ตัดสินจะให้สัญญาณว่าเป็นลูกได้เปรียบ
    • ถ้าเป็นการทำฟาวล์ที่รุนแรง ผู้ตัดสินจะหยุดการแข่งขันทันทีและให้ทีมที่ถูกทำฟาวล์ได้ลูกตั้งเตะ
  2. สังเกตสัญญาณนกหวีดและผู้ตัดสินยื่นมือไปด้านหน้าเพื่อให้เป็นลูกตั้งเตะจังหวะเดียว. ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีด แล้วใช้มือข้างที่ไม่ได้จับนกหวีดชี้ไป (ไม่มีมุมที่เจาะจง) ยังทางที่ทีมที่ได้ลูกตั้งเตะต้องบุกใส่ ห้ามลืมว่าจะหยุดเล่นก็ต่อเมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดเท่านั้น [2]
    • ตัวอย่างเช่น ผู้ตัดสินอาจให้เป็นลูกตั้งเตะจังหวะเดียวกับทีมหนึ่ง ถ้าผู้เล่นของทีมฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูใช้มือสัมผัสลูกบอล
    • นี่คือการให้สัญญาณที่คุณจะเห็นได้บ่อยที่สุดระหว่างการแข่งขัน ผู้ตัดสินจะให้เป็นลูกตั้งเตะเมื่อมีการทำฟาวล์แบบไม่รุนแรงหรือรุนแรงปานกลาง ซึ่งผู้ตัดสินเห็นแล้วว่าทีมที่ถูกทำฟาวล์ไม่ได้เปรียบ
  3. สังเกตผู้ตัดสินชูมือขึ้นเพื่อให้เป็นลูกตั้งเตะสองจังหวะ. สำหรับสัญญาณนี้ ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดและใช้มือข้างที่ว่างชูขึ้นไปด้านบน จากนั้นผู้ตัดสินจะอธิบายว่าทีมไหนที่ได้ลูกตั้งเตะและเพราะอะไร ผู้ตัดสินจะจะยกมือค้างไว้ครู่หนึ่งระหว่างที่อธิบายว่าทีมไหนได้ลูกตั้งเตะ [3]
    • ลูกตั้งเตะสองจังหวะต่างจากลูกตั้งเตะจังหวะเดียวตรงที่ผู้เล่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำประตู ถ้าคุณทำประตูจากลูกตั้งเตะสองจังหวะโดยที่ไม่มีผู้เล่นคนอื่นในสนามสัมผัสบอลก่อนเลย ประตูนั้นจะไม่ถูกนับเป็นประตู
    • ลูกตั้งเตะสองจังหวะจะพบได้น้อยกว่าลูกตั้งเตะจังหวะเดียวเยอะมาก แต่ตัวอย่างหนึ่งของการได้ลูกตั้งเตะสองจังหวะคือเมื่อผู้เล่นทีมหนึ่งส่งบอลกลับให้ผู้รักษาประตู แล้วผู้รักษาประตูใช้มือสัมผัสบอล
  4. จำไว้ว่าผู้ตัดสินจะชี้ไปที่จุดโทษเพื่อให้เป็นลูกโทษ. ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดและชี้ตรงไปยังจุดโทษของทีมที่ได้รับลูกโทษเพื่อเป็นการให้ลูกโทษ ให้ฟังเสียงนกหวีดที่ดังเป็นเวลานาน ไม่ใช่เสียงแหลมสั้น [4]
    • ลูกโทษพบได้ค่อนข้างยากในกีฬาฟุตบอล ผู้ตัดสินจะให้ลูกโทษกับทีมที่กำลังบุกอยู่หากทีมนั้นถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ
    • สำหรับการยิงลูกโทษ ทีมที่กำลังบุกอยู่จะได้โอกาสทำประตูหนึ่งต่อหนึ่งกับผู้รักษาประตูในตำแหน่งจุดโทษ
    • ตัวอย่างการให้เป็นลูกโทษในกีฬาฟุตบอลคือเมื่อผู้เล่นใช้มือสัมผัสลูกบอลในเขตประตู
  5. ควรรู้ว่าการทำผิดกติกาในระดับความรุนแรงปานกลางจะได้รับใบเหลือง. ถ้าผู้เล่นได้รับใบเหลือง จะนับว่าเป็นการเตือน และถ้าผู้เล่นได้รับใบเหลืองสองใบ จะเท่ากับได้รับใบแดงหนึ่งใบ ผู้เล่นคนนั้นจะถูกไล่ออกจากสนาม [5]
    • ผู้ตัดสินจะหยิบใบแดงหรือใบเหลืองจากกระเป๋าเสื้อ ใช้มันชี้ไปที่ผู้เล่นแล้วชูมือที่ถือใบแดงหรือใบเหลืองขึ้น หลังจากนั้น ผู้ตัดสินจะเขียนรายละเอียดการทำผิดกติกาลงในสมุด
    • ตัวอย่างการให้ใบเหลืองคือการเข้าปะทะที่ค่อนข้างรุนแรงโดยที่ผู้เล่นที่เข้าปะทะไม่ได้สัมผัสบอลเลย
  6. ผู้ตัดสินจะให้ใบแดงหากเข้าปะทะอย่างรุนแรงมากหรือได้รับใบเหลืองสองใบ ถ้าผู้ตัดสินให้ใบแดงกับผู้เล่นที่ได้รับใบเหลืองสองใบ ผู้ตัดสินจะใช้ใบเหลืองชี้ไปทางผู้เล่นก่อนแล้วค่อยใช้ใบแดงชี้ [6]
    • ผู้ตัดสินจะใช้ใบแดงชี้ไปยังผู้เล่นแล้วค่อยชูขึ้นข้างบน ทำเหมือนกับตอนให้ใบเหลือง
    • ตัวอย่างการให้ใบแดงอาจเป็นการชกต่อยกันของผู้เล่น ผู้เล่นที่ได้รับใบแดงจะถูกไล่ออกจากสนามและจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการแข่งขันนัดนั้นอีกต่อไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ทำความเข้าใจผู้ตัดสินข้างสนาม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตผู้ตัดสินข้างสนามชี้ไปที่มุมธงเพื่อให้เป็นลูกเตะมุม. ผู้ตัดสินข้างสนามจะวิ่งไปยังมุมธงของฝั่งสนามที่ตัวเองยืนอยู่ แล้วใช้ธงในมือชี้ลงไปยังตำแหน่งมุมธง ผู้ตัดสินข้างสนามจะไม่เป่านกหวีดระหว่างที่ให้สัญญาณนี้ [7]
    • ตัวอย่างที่จะได้เห็นการให้สัญญาณนี้คือเมื่อผู้เล่นตัวรุกยิงประตูแล้วถูกกองหลังสกัดลูกบอลออกไปยังด้านหลังประตู
    • ผู้ตัดสินข้างสนามจะถือธงขนาดพกพาไปด้วยเวลาอยู่ข้างสนาม ผู้ตัดสินข้างสนามจะใช้ธงให้สัญญาณได้หลากหลาย รวมถึงลูกเตะมุม
    • ผู้ตัดสินข้างสนามจะวิ่งไปมาข้างสนาม แต่ละครึ่งสนามจะมีผู้ตัดสินข้างสนามหนึ่งคน เมื่อบอลข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ผู้ตัดสินข้างสนามจะยืนอยู่ที่เส้นแบ่งแดนจนกว่าบอลจะกลับมายังฝั่งของตัวเอง
  2. คอยดูผู้ตัดสินข้างสนามชี้ไปที่ทางใดทางหนึ่งเพื่อให้สัญญาณเป็นลูกทุ่ม. เมื่อบอลข้ามเส้นขอบสนามออกไป ผู้ตัดสินข้างสนามจะวิ่งไปยังจุดที่ลูกบอลออกนอกสนามไป เมื่อวิ่งมาถึง ผู้ตัดสินข้างสนามจะใช้ธงชี้ไปยังทิศทางที่ให้ทุ่มลูก ซึ่งก็คือทิศที่ทีมที่ได้ลูกทุ่มต้องทำประตู [8]
    • ถ้าฝั่งที่ลูกบอลออกนอกสนามเป็นคนละครึ่งฝั่งสนามกับที่ผู้ตัดสินข้างสนามอยู่ ผู้ตัดสินข้างสนามจะเพียงแค่แสดงให้รู้ว่าต้องทุ่มบอลไปทางไหนถ้าสามารถตัดสินได้อย่างแน่ชัด แต่ถ้าไม่สามารถตัดสินได้อย่างแน่ชัด ผู้ตัดสินในสนามจะต้องเป็นคนตัดสินว่าจะให้ทุ่มบอลไปทางใด
    • ลูกบอลจะ ‘ออก’ ก็ต่อเมื่อลูกบอลข้ามเส้นสนามออกไปทั้งลูก ถ้าลูกบอลข้ามเส้นไปแค่ครึ่งลูก ให้เล่นต่อได้
  3. จำไว้ว่าผู้ตัดสินจะหยุดแล้วใช้ธงชี้เมื่อให้สัญญาณว่าเป็นลูกล้ำหน้า. การให้เป็นลูกล้ำหน้าสังเกตได้จากการที่ผู้ตัดสินข้างสนามจะยืนนิ่ง ๆ ในแนวเดียวกับผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแล้วใช้ธงชี้ตรงออกไปทางสนาม แขนของผู้ตัดสินจะตั้งฉากกับลำตัว เมื่อมีการล้ำหน้า ผู้ตัดสินข้างสนามจะไม่เป่านกหวีด [9]
    • กติกาการล้ำหน้าอาจจะเข้าใจได้ยากไปสักหน่อย ผู้ตัดสินจะให้เป็นลูกล้ำหน้าเมื่อทีมที่กำลังบุกอยู่ส่งบอลไปให้ผู้เล่นในทีมเดียวกันที่อยู่ด้านหน้า ถ้าผู้เล่นที่รับลูกบอลมาอยู่หน้ากองหลังตัวสุดท้ายของทีมที่กำลังตั้งรับในจังหวะที่กำลังส่งลูกบอล จะถูกนับว่าเป็นลูกล้ำหน้า
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นตัวรุกส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม ซึ่งในจังหวะที่ผู้เล่นที่ส่งบอลสัมผัสบอลเป็นจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมคนนั้นอยู่ใกล้กับประตูมากกว่ากองหลังทั้งหมดของอีกทีมหนึ่ง ผู้ตัดสินข้างสนามก็จะยกธงขึ้น
    • กติกานี้ตั้งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นจะไม่สามารถไปยืนดักรอตรงฝั่งสนามของฝ่ายตรงข้ามแล้วรอรับบอลยาวจากเพื่อนร่วมทีมได้
  4. สังเกตผู้ตัดสินข้างสนามส่งสัญญาณสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อให้เปลี่ยนตัว. สำหรับสัญญาณนี้ ผู้ตัดสินข้างสนามจะวิ่งตามแนวเส้นขอบสนามไปยังกึ่งกลางสนามแล้วทำสัญญาณสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหนือศีรษะโดยใช้แขนและธง ผู้ตัดสินจะทำสัญญาณนี้ราว 5-10 วินาที เพื่อที่จะได้มีคนเห็น [10]
    • อีกทั้ง บ่อยครั้งจะมีคนถือกระดานแสดงหมายเลขของผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวออก ซึ่งตัวเลขจะเป็นสีแดง และแสดงหมายเลขของผู้เล่นที่จะลงมาเล่น ซึ่งตัวเลขจะเป็นสีเขียว
    • ปกติแล้วผู้ตัดสินข้างสนามทั้งสองคนจะทำสัญญาณนี้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้เคารพการตัดสินใจของผู้ตัดสินเสมอและห้ามข่มขู่หรือเถียงอย่างก้าวราวกับผู้ตัดสินเด็ดขาด ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของผู้ตัดสิน ให้เล่นต่อไปหรือให้กัปตันทีมมาขอคำอธิบายจากผู้ตัดสินอย่างสุภาพ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 104,323 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา