ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คงยากจะโดดเด้งถ้าคุณขี้อายซะเหลือเกิน คุณอาจถามว่ามีวิธีไหนไหมที่เด่นได้โดยไม่ต้องรับหน้าคนเยอะๆ บอกเลยว่ายาก แต่ถ้าคุณอยากให้คนอื่นเขายอมรับสนใจคุณจริงๆ ก็ต้องหาวิธีสร้างจุดเด่นให้โดดเด้งไม่เหมือนใคร พยายามเข้าสังคมให้มากหน่อย รวมถึงมองความเขินอายของตัวเองกับการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในมุมที่แตกต่างออกไป
ขั้นตอน
-
เป็นตัวของตัวเอง. ไม่ต้องจำแลงแปลงกายเป็นคนอื่นหรอก เป็นตัวเองก็เด่นได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถึงจะเป็นคนขี้อายหรือเข้าขั้น introvert (อยู่คนเดียวสบายใจกว่า) ก็ไม่เป็นไร เพราะทุกคนในโลกล้วนแตกต่างกัน ใช่ว่าทุกคนต้องเปิดเผย เฮฮาปาร์ตี้สุดๆ ซะเมื่อไหร่ ขอให้ยอมรับและรักตัวตนในแบบที่คุณเป็น และขี้อายได้ไม่ผิดเพราะก็เป็นเอกลักษณ์ของคุณ ลองถามดูสิ หลายคนไปที่คิดว่าคนขี้อายน่ะน่ารักมีเสน่ห์ บางคนเขาก็ไม่ชอบคนเฮฮาปาร์ตี้เสมอไปนะ
- รู้ไว้ใช่ว่า การยอมรับว่าตัวเองขี้อายกลับจะทำให้คนอื่นเขาเอ็นดูคุณนะ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ยิ่งถ้าคุณถ่อมตัวแบบจริงใจว่ากำลังพัฒนาตัวเองให้มั่นใจขึ้นอยู่ คนเขาก็ยิ่งชื่นชมแถมสนใจคุณมากเข้าไปอีก
-
แต่งตัวสวยเด่นในสไตล์ของตัวเอง. แต่งตัวให้สอดคล้องกับบุคลิกของตัวเอง และดึงเอาความสวยเด่นของคุณออกมา [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง บางทีเราก็แต่งตัวเดิมๆ จนชิน ให้คุณใช้เวลาค้นหาสไตล์ของตัวเองดู แล้วถ่ายทอดออกมาผ่านเสื้อผ้าและเครื่องประดับ
- ถ้าคุณชอบสีสว่างๆ ก็ลองใส่สีเหลือง ส้ม หรือชมพูดู แทนที่จะใส่แต่สีดำ น้ำตาล น้ำเงิน เทา แล้วก็ขาวเรียบๆ
- แต่ก็อย่าให้เลอะเทอะ (ประมาณว่าโบ๊ะหน้ามากเกินหรือประโคมแต่งตัวซะฉูดฉาดพิลึก) คนอื่นควรหันมาสนใจคุณเพราะความเป็นคุณ ไม่ใช่เพราะคุณแต่งตัวประหลาดจนคนมองเหลียวหลัง
- จะตัดผม ทำสี หรือจัดทรงแปลกๆ ใหม่ๆ ด้วยก็ได้ ถ้าทำให้คุณรู้สึกมั่นใจเป็นตัวของตัวเองยิ่งขึ้น
-
ออกไปข้างนอกบ้าง. หลายคนที่ขี้อายติดนิสัยชอบสิงอยู่ตามกำแพงหรือซุกอยู่หลังห้อง แต่บอกเลยว่าหยุด เลิกซ่อนแล้วออกมาแซ่บตรงกลางบ้าง แบบนั้นน่ะใครๆ ต้องสนใจแน่นอน!
- แต่ถ้าคุณรักสันโดษหรือรู้สึกแปลกๆ ให้ลองมองหาแล้วไปยืนข้างเพื่อนหรือคนรู้จักสักคน จะได้พอมีคนให้คุย
-
หน้าตาท่าทางแจ่มใส. ภาษากายนี่แหละที่สำคัญพอๆ กับคำพูดคำจาของคุณ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพราะฉะนั้นคุณต้องระวังกิริยาท่าทาง เลือกแสดงออกแต่ทางบวกให้คนเขาประทับใจ
- ยิ้มและแสดงสีหน้าท่าทางเป็นมิตรหรือใส่ใจคู่สนทนา เขาเล่าอะไรสีหน้าท่าทางต้องมีอารมณ์ร่วม เพื่อบอกให้รู้ว่าคุณเข้าใจสิ่งที่เขากำลังสื่อสาร
- อย่าไขว่ห้างหรือกอดอก เพราะเหมือนบอกเป็นนัยว่าคุณปิดตัวเอง ดีไม่ดีบางคนอาจเข้าใจไปเองว่าคุณโกรธหรือไม่พอใจ
- อย่าทำตัวลีบหรือหลังคดหลังงอ ให้นั่งหรือยืนอกผายไหล่ผึ่ง ท่าทางเปิดเผยหน่อย นั่นล่ะสัญลักษณ์แทนอำนาจและความมั่นใจ
- Haptics หรือการแตะต้องสัมผัสตัวกันก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณโดดเด่น โดยเฉพาะในสายตาของคนที่ (อยากให้) รู้ใจกัน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จะเป็นการกอด แปะมือ หรือแตะไหล่อะไรก็ว่าไป ขอแค่ไม่เกินงามและอย่าลืมอ่านท่าทีของอีกฝ่ายก่อนล่ะว่าเขาสมัครใจ
โฆษณา
-
สมาคมกับเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก. ถ้าอยากมั่นใจขึ้นเพื่อให้ดูโดดเด่นเป็นที่สนใจ ก็ต้องเริ่มจากความเชื่อใจ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แทนที่จะข้ามขั้นไปร่วมวงกับคนแปลกหน้าเลย ก็ค่อยๆ บริหารเสน่ห์ในหมู่คนรู้จักมักคุ้นที่ทำให้คุณสบายใจก่อน [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองปรึกษาเพื่อนเรื่องคุณขี้อายเหลือเกิน รวมถึงกลุ้มที่ไม่มีใครมาสนใจสักที
- เปิดอกกับเพื่อนหรือครอบครัวเรื่องคุณอยากมั่นใจมีเสน่ห์กว่านี้ เพื่อขอคำแนะนำว่าควรทำยังไงดี
-
เตรียมตัวให้พร้อม. ทำอะไรถ้าวางแผนให้พร้อมไว้ก่อน ก็จะไม่กังวลจนกลายเป็นเขินอาย และติดต่อพูดคุยกับใครๆ ได้อย่างมั่นใจ ลองจินตนาการดูก่อนก็ได้ ว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นนี้ คุณจะตอบรับยังไงได้บ้าง คิดเตรียมไว้คร่าวๆ ก็ดีว่าอยากจะพูดอะไรหรือรับมือยังไง
- ชวนคุยละลายพฤติกรรมให้หายเขิน (ice-breaker) นี่แหละสุดยอดวิธีแก้เก้อเวลาเจอคนใหม่ๆ หรือต้องพูดคุยกับคนที่ยังไม่รู้จักดี [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เช่น อาจจะชวนคุยเรื่องข่าวสารบ้านเมืองว่า "เห็นข่าวเมื่อคืนไหมคะ?" ไม่ก็ชวนคุยเรื่องหนังเข้าใหม่ หรือละครหลังข่าวที่กำลังดัง อะไรก็ได้ที่คุณสนใจและอาจต้องแปลกใจที่รู้ว่าอีกฝ่ายก็สนใจเหมือนกัน
- พร้อมรับทุกสถานการณ์ เวลาครูหรือใครเรียก/ถามคุณ อย่ากลัวและลังเล ตีเนียนเข้ากลีบเมฆ บอกเลยว่าจะดูเป็นธรรมชาติในสายตาชาวบ้านชาวช่องเขามากกว่า ถ้าคุณตอบออกไปแบบฉะฉาน แม้จะตอบผิดก็ตาม
-
พบเจอคนใหม่ๆ. ไม่มีใครรู้จักหรือสนใจคุณหรอก ถ้าคุณเอาแต่หลบหน้าไม่กล้าพูดคุย การเปิดบทสนทนากับคนแปลกหน้าบ้าง นี่แหละวิธีสร้างความน่าสนใจให้ตัวเองได้ดีที่สุด แถมถ้าคุณดูเป็นมิตรในสายตาคนอื่น คุณจะยิ่งเป็นที่สนใจและเอาชนะความเขินอายของตัวเองได้ในที่สุด [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สบตากันแล้วทักทายสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มว่า “สวัสดีค่ะ” [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แสดงออกให้เขารู้ว่าคุณชอบหรือสนใจเขา [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ระหว่างคุยกันให้พยักหน้าเป็นระยะหรือแสดงสีหน้าท่าทางอื่นให้รู้ว่าคุณสนใจในตัวเขาและเรื่องของเขา
- ฟังแล้วถามบ้าง อย่าลืมเรียกเขาด้วยชื่อ ใครๆ ก็ชอบให้คนเรียกชื่อตัวเองด้วยกันทั้งนั้น [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชวนคุยเรื่องที่เขาหรือคุณชอบ บทสนทนาจะได้ลื่นไหล
-
หัดใช้ social media. ลองแชทกับใครในเน็ตก่อน อาจช่วยให้คุณหายเขินและน่าสนใจยิ่งขึ้น [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- Facebook นี่แหละเพื่อนใหม่เยอะแยะไปหมด แต่อย่าติด Facebook เกินไปล่ะ แบบนั้นอาจจะไม่ได้ออกไปเจอใครต่อใครนอกบ้านจนอึดอัดเขินอายกว่าเดิม สมาคมกับคนจริงๆ บ้างไม่ใช่คุยแต่ใน social media อย่างเดียว
-
ทำเป็นเปิดเผยมั่นใจ. คนขี้อายหลายคนพบว่าถ้าคุณลอง "ทำเป็น" extrovert (เฮฮาร่าเริงชอบสังสรรค์) จะช่วยให้เขินน้อยลง [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่ก็ใช่ว่าทำปุ๊บคุณจะเปลี่ยนปั๊บนะ
- วิธีเสริมสร้างความมั่นใจที่ดี คือ "ทำเป็น" มั่นใจซะเลย บอกเลยว่าเห็นผล แถมนานๆ ไปจะซึมลึกจนกลายเป็นมั่นใจขึ้นมาจริงๆ ซะงั้น
-
อย่าพึ่งเหล้ายา. บางคนอาจหันหาแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดอื่นๆ เป็นที่พึ่ง จะได้รู้สึกมั่นใจขึ้น [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แน่ล่ะว่าถ้าแค่ชั่วครั้งชั่วคราวก็ได้ผลอยู่ แต่สุดท้ายความขี้อายไม่มั่นใจของคุณจะยังคงอยู่ และก็ไม่ได้ทำให้ใครมาสนใจอะไรคุณมากไปกว่าเดิม ถ้าคุณยึดเหล้ายาเป็นที่พึ่งให้ได้มั่นใจและเข้าสังคมเก่งขึ้น ก็เหมือนคุณตำข้าวสารกรอกหม้อไปวันๆ ปัญหาเดิมยังอยู่แถมดีไม่ดีจะมีอีกปัญหาอย่างการติดยาเพิ่มเข้ามาด้วย
-
ร่วมกลุ่มกิจกรรมที่สนใจ. ทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นนี่แหละสุดยอดวิธีบริหารเสน่ห์และความมั่นใจ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จะรวมกลุ่มกับคนที่โรงเรียน ที่ทำงาน ลงเรียนอะไรใหม่ๆ หรือเข้าร่วมโครงการจิตอาสาอื่นๆ ก็ดี
- ใครชอบออกแรงก็เปลี่ยนจากออกกำลังคนเดียวไปเข้าคลาสฟิตเนสร่วมกับคนอื่น อย่างพวกคลายโยคะ ปั่นจักรยาน เต้น หรือปีนผาจำลอง
-
ถ้าจำเป็นก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ. ถ้าคุณเขินอายไม่มั่นใจเกินพอดี หรือเข้าขั้นกลัวการเข้าสังคม รวมถึงกลัวคนจะมองคุณในด้านลบ บางทีการเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก็ดีเหมือนกัน [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองศึกษารายละเอียดดูว่าประกันสุขภาพของคุณครอบคลุมจิตบำบัดหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ครอบคลุมและคุณมีงบจำกัด ให้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจิตบำบัดในราคาย่อมเยาหรือไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มจากกรมสุขภาพจิตก็ได้ โดยติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือไปที่เว็บไซต์ http://www.dmh.go.th/
- ส่วนคนที่งบไม่ใช่เรื่องใหญ่ ให้เริ่มจากสอบถามคุณหมอประจำตัวของคุณเพื่อโอนเคสหรือแนะนำจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดเก่งๆ ต่อไป ไม่ก็ลองสอบถามกรมสุขภาพจิตได้เช่นกัน
โฆษณา
-
เปลี่ยนความคิดรบกวนจิตใจ. บางคนขี้อายจนกลัวการเข้าสังคม ทำให้คบหาสมาคมกับใครได้ยาก พาลคิดไปว่า “อยู่กับคนเยอะๆ แล้วอึดอัดจัง” “เราไม่มีอะไรน่าสนใจจะไปคุยกับใครเขา” หรือ “เวลาคุยกับคนอื่นแล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย” [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จับให้ได้ไล่ให้ทันทุกครั้งที่คุณรู้สึกแย่กับการเข้าสังคม หารูปแบบซ้ำๆ ให้เจอว่าอะไรที่คิดแล้วทำให้คุณกลัวหรือกังวลขึ้นมา
- เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น ทุกครั้งที่จับได้ไล่ทันว่าตัวเองกำลังคิดลบ
-
ให้กำลังใจตัวเอง. ให้กำลังใจหรือเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเวลาต้องเข้าสังคม แบบนี้จะได้ลดอาการเขินอายและต้องตาต้องใจใครๆ เขา [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเกิดเขินหรือกังวลขึ้นมา ให้คิดหรือบอกตัวเองว่า "กลัวจัง แต่ไม่เป็นไรเราทำได้ เดี๋ยวก็ดีเอง"
- ถ้าคุณอยากเป็นที่สนใจแต่นอยด์เหลือเกิน ก็ให้บอกตัวเองว่า "เขินมาก แต่เบื่อให้ใครมองข้ามแล้ว เดี๋ยวจะเดินไปกลางห้องเลย ถึงกลัวก็ทนเอา พอใครมาคุยด้วยเดี๋ยวก็หาย"
- ตอนไหนที่ขาดความมั่นใจให้คิดว่า "ถึงขี้อายก็มีเพื่อนมีแฟนได้ เราชอบอะไรเคยทำอะไรมาตั้งหลายอย่าง เดี๋ยวเขาก็รู้ว่าเราก็มีดีเหมือนกัน"
-
ฝึกทักษะการเข้าสังคม. ช่วงหดหู่ไม่กล้าคุยกับใคร ให้หันไปพัฒนาทักษะการเข้าสังคมแทน [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ฝึกยิ้มสวยๆ ถามคำถามน่าสนใจ แล้วก็ฟังแบบมีส่วนร่วม [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าสนใจและมีเวลา ก็ลองไปเข้าคลาสพัฒนาสกิลด้านนี้โดยตรงเลย หรือเข้ากลุ่มบำบัดโรคกลัวการเข้าสังคมก็ได้
- เดี๋ยวนี้ทั้งตามมหาวิทยาลัยหรือในเว็บต่างๆ ก็มีสอนทักษะการพูดในที่ประชุมชน ลองศึกษาหาอ่านเพิ่มเติมดู หรือจะไปสอบถามโดยตรงก็ได้ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://webprod1.uvu.edu/prelaw/docs/How%20to%20Network%20for%20Shy%20People.pdf
- ↑ https://suscholar.southwestern.edu/bitstream/handle/11214/12/Giuliano-2010.pdf?sequence=1&isAllowed=y
- ↑ http://psychcentral.com/lib/you-are-what-you-wear-what-your-clothes-reveal-about-you/
- ↑ http://psychology.about.com/od/nonverbalcommunication/a/nonverbaltypes.htm
- ↑ http://psychology.about.com/od/nonverbalcommunication/a/nonverbaltypes.htm
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ https://webprod1.uvu.edu/prelaw/docs/How%20to%20Network%20for%20Shy%20People.pdf
- ↑ https://webprod1.uvu.edu/prelaw/docs/How%20to%20Network%20for%20Shy%20People.pdf
- ↑ http://taos.publishpath.com/Websites/taos/images/ResourcesManuscripts/Stelter_2007_Coaching_-_Pers_and_soc_meaning-making.pdf# page=43
- ↑ http://speechscience.ipower.com/wp-content/uploads/2010/04/Canadian-Business..Say-goodbye-to-shy.pdf
- ↑ https://suscholar.southwestern.edu/bitstream/handle/11214/12/Giuliano-2010.pdf?sequence=1&isAllowed=y
- ↑ https://webprod1.uvu.edu/prelaw/docs/How%20to%20Network%20for%20Shy%20People.pdf
- ↑ http://www.researchgate.net/profile/Valerie_Barker/publication/24144687_Older_adolescents'_motivations_for_social_network_site_use_the_influence_of_gender_group_identity_and_collective_self-esteem/links/53e959650cf2fb1b9b670ae1.pdf
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ https://webprod1.uvu.edu/prelaw/docs/How%20to%20Network%20for%20Shy%20People.pdf
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ http://www.researchgate.net/profile/Madalyn_Marcus/publication/6355286_Beyond_shy_when_to_suspect_social_anxiety_disorder/links/09e4150c5de81ba7be000000.pdf
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ http://psychiatry.doctorsonly.co.il/wp-content/uploads/2011/12/2009_1_6.pdf
- ↑ https://webprod1.uvu.edu/prelaw/docs/How%20to%20Network%20for%20Shy%20People.pdf
- ↑ https://www.toastmasters.org/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,614 ครั้ง
โฆษณา
