ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมื่อใครบางคนเป็นตัวตนที่แท้จริงก็แปลว่าเขาวางตัวในแบบที่แสดงออกว่าเขารู้สึกอย่างไรจริงๆ เขาทำสิ่งนี้แทนที่จะตีหน้าเสแสร้งเมื่ออยู่กับผู้อื่นหรือเปลี่ยนบุคลิกตามบริบท ความเป็นคนจริงแบบส่วนตัวคือการแสดงออกถึงความเชื่อหลักและลักษณะนิสัย [1] คุณต้องยอมรับตัวเองในแบบที่คุณเป็นและปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพเพื่อเป็นตัวตนที่แท้จริง คนจริงมักจะแสดงคุณค่าและไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเมื่ออยู่กับผู้อื่น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การเป็นตัวตนที่แท้จริง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การยอมรับตัวเองต้องอาศัยการปรับทัศนคติ พยายามไม่วิจารณ์ตัวเองหรือมองตัวเองว่าด้อยกว่าผู้อื่น จดจ่อกับการยอมรับและชื่นชมตัวตนที่คุณเป็นในฐานะของปัจเจกบุคคล วิธีนี้จะนำไปสู่พฤติกรรมที่แท้จริงซึ่งเกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของคุณ [2]
    • สิ่งนี้รวมไปถึงการยอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง การรู้สึกสบายใจกับตัวเองต้องอาศัยการยอมรับว่าคุณไม่สมบูรณ์แบบและแปลว่าคุณต้องยอมรับข้อบกพร่องและแยกแยะแต่ละด้านของลักษณะนิสัย
    • เช่น คุณสามารถมีงานอดิเรกหรือความสนใจที่แตกต่างจากเพื่อน ค้นหาสิ่งที่คุณสนใจและเมื่อเวลาผ่านไปคุณจะพบผู้คนที่มีความสนใจเดียวกัน
  2. พัฒนาความภูมิใจในตนเอง . ทุกคนมีความคิดและความอ่านที่แตกต่างกันและมีพรสวรรค์และความฉลาดในแบบที่ไม่เหมือนใคร คุณจะไม่สามารถเป็นตัวตนที่แท้จริงได้ถ้าหากคุณสงสัยหรือขาดความมั่นใจในตัวเอง [3] คนที่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองมักจะทำตัวเหมือนคนอื่นเพื่อให้มั่นใจในตัวเองหรือแต่งตัวและทำตัวมั่นใจจนเกินไป สิ่งนี้คือสัญญาณของการไม่เป็นตัวตนที่แท้จริง
    • เช่น คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำอาจจะแต่งตัวแบบเดียวกับผู้คนที่มีชื่อเสียงหรือฟังเพลงแบบเดียวกับคนที่เขาคิดว่ามีชื่อเสียง แทนที่จะทำเช่นนี้คุณต้องทำตามความสนใจของตัวเองไม่ว่าผู้อื่นจะคิดแบบเดียวกันหรือไม่ก็ตาม
    • ถ้าหากคุณมีภาระทางอารมณ์ก็ควรให้เวลาตัวเองเพื่อคิดและเดินหน้าต่อไปถ้าหากเป็นไปได้ ลองปรึกษากับนักบำบัดหรือผู้ให้คำปรึกษาหากจำเป็น
  3. คนที่เป็นตัวตนที่แท้จริงจะหยั่งถึงความเข้าใจทางศีลธรรมและความเชื่อส่วนตัวของตัวเอง สิ่งนี้รวมไปถึงความเชื่อทางศาสนา ศีลธรรมและความเชื่ออื่นๆ ความเชื่อเหล่านี้ควรปรากฏอยู่ในพฤติกรรมในแต่ละวัน คนส่วนใหญ่มักจะปรับใช้ความเชื่อของคนรัก พ่อแม่หรือเพื่อนแบบไม่รู้ตัวโดยไม่ดูว่ามันเหมาะสมกับพวกเขาหรือไม่ [4]
    • เช่น ถ้าหากคุณพูดว่าทุกคนควรถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันแต่คุณยังแสดงออกถึงความไม่พึงพอใจที่มีต่อกลุ่มคนบางประเภท คุณจะไม่ถูกมองว่าเป็นคนจริง
    • หรือถ้าหากเพื่อนของคุณดื่มแอลกอฮอล์หรือทานอาหารที่คุณเชื่อว่าไม่ควรทานก็ควรขอให้พวกเขาหยุดหรือขออนุญาตเดินออกมาจากตรงนั้น
    • หาคุณค่าของตัวเองโดยการระบุว่าอะไรที่ทำให้คุณมีความสุขและคุณรู้สึกภูมิใจที่สุดเมื่อไหร่ ลองดูว่าคุณรู้สึกพึงพอใจเมื่อใด
  4. มีความเป็นตัวตนที่แท้จริงมากมายในการสร้างวุฒิภาวะของตัวเองและทำสิ่งที่คุณสนใจซึ่งเติมเต็มคุณ สิ่งนี้สามารถทำโดยการเข้าเรียน อาสาสมัครหรือ หางานอดิเรก [5]
    • ในทางกลับกัน คนที่ไม่จริงมักจะละเลยสิ่งที่พวกเขาสนใจเพื่อไปทำอะไรก็ตามที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นที่นิยมหรือเป็นที่ต้องการทางสังคม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การประพฤติตัวในแบบที่แท้จริง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การมีตัวตนอยู่กับอะไรก็ตามที่คุณพบเจอเกี่ยวกับตัวเอง. การมีตัวตนอยู่จะนำคุณไปสู่ความเป็นตัวเองที่แท้จริงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเพราะคุณจะสามารถจดจ่อกับประสบการณ์ บทสนทนาและปฏิสัมพันธ์ที่คุณมีในช่วงเวลาปัจจุบัน คนที่คุณอยู่ด้วยจะสามารถบอกได้ว่าคุณมีส่วนร่วมและใส่ใจหรือไม่และจะสามารถมองว่าเป็นสัญญาณของความเป็นตัวตนที่แท้จริง [6]
    • ในทางกลับกัน คนที่ไม่จริงมักจะปล่อยจิตใจให้ล่องลอยระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกมองว่าไม่จริงใจหรือหยาบคายในมุมมองของการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
  2. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเองเมื่อเป็นเรื่องของพฤติกรรมและความสัมพันธ์. สัญชาตญาณคือเสียงจากภายในหรือปฏิกิริยาโต้ตอบซึ่งช่วยให้คุณตัดสินใจและบ่งบอกถึงการกระทำ สัญชาตญาณส่วนตัวสามารถสร้างความเข้าใจในศีลธรรมเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจสิ่งที่เป็นส่วนตัวเมื่อเป็นเรื่องของการตัดสินใจทางจริยธรรม [7]
    • การทำตามสัญชาตญาณจะช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างแน่วแน่และประพฤติตัวในแบบที่มั่นคงแทนที่จะตัดสินใจโดยอิงจากสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นความคิดเห็นที่เป็นที่นิยมหรือความคาดหวังทางสังคม
  3. พูดถึงความคิดเห็นที่สำคัญกับคุณ คนที่เป็นตัวตนที่แท้จริงจะรู้สึกสบายใจกับการแสดงความคิดและสื่อสารเมื่อพวกเขามีปัญหาหรือรู้สึกชื่นชมอะไรบางอย่าง [8] คุณน่าจะไม่เป็นตัวตนที่แท้จริงถ้าหากคุณรู้สึกว่าไม่สามารถแสดงความคิดหรือตระหนักว่าคุณมักจะพูดสิ่งที่คุณคิดเมื่ออยู่กับคนที่คุณคาดหวังว่าจะรับฟังเท่านั้น
    • เช่น แสดงความขอบคุณคนที่อยู่รอบตัว ลองพูดว่า “แม่และพ่อ หนูอยากจะขอบคุณที่ช่วยผ่อนค่ารถเมื่อเดือนก่อน หนูรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่ค่อยมีเงินแต่เงินเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างความแตกต่างเป็นอย่างมากให้กับหนู”
  4. คนจริงจะยอมรับว่าพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบและขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น ความเป็นตัวตนที่แท้จริงไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ การขอความช่วยเหลือจากคนรอบตัวคือสัญญาณของความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเป็นตัวตนที่แท้จริงและแสดงว่าคุณเคารพทักษะและพรสวรรค์ของผู้คนในชีวิต
    • เช่น ถ้าหากคุณมีปัญหากับสภาพทางจิตใจและเพื่อนของคุณเป็นนักให้คำปรึกษามืออาชีพก็ควรขอให้เพื่อนแนะนำคนที่คุณสามารถติดต่อเพื่อขอรับคำปรึกษาหรือรับการบำบัด
    • หรือถ้าหากคุณมีปัญหาเรื่องรถเป็นประจำก็ควรถามเพื่อนร่วมงานที่สามารถแนะนำช่างซ่อมรถให้กับคุณได้
  5. แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยข้อบกพร่องเมื่อคุณเริ่มไว้ใจผู้อื่น เปิดเผยทุกอย่างถ้าไม่จำเป็น ถ้าหากคุณเก็บงำทุกอย่างไว้กับตัวเองคุณอาจจะไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ [9]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเป็นตัวตนที่แท้จริง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าใส่หน้ากากหรือเปลี่ยนนิสัยเพื่อเข้าสังคม. เป็นตัวของตัวเองเมื่อเข้าสังคมและสื่อสารกับคนอื่นเพื่อเป็นตัวตนที่แท้จริง คุณอาจจะต้องการวางตัวในแบบที่คนอื่นต้องการให้คุณทำหรือวางท่าทางและประพฤติตัวเหมือนว่าคุณมีทิฐิเพื่อทำให้คนที่คุณพึ่งพบเจอประทับใจ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมเหล่านี้ไม่แท้จริงและคนอื่นจะสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็ว [10]
    • แน่นอนว่ามันเป็นธรรมชาติที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและคำพูดเล็กน้อยเมื่ออยู่กับใครบางคน คุณย่อมพูดคุยกับเจ้านายแตกต่างจากเมื่อคุณพูดกับคนรัก
  2. ความจริงใจคือองค์ประกอบสำคัญของการเป็นตัวตนที่แท้จริง ถ้าหากการโกหกเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมของคุณ ไม่นานเพื่อนและคนอื่นในชีวิตคุณจะจับได้ พวกเขาจะคิดว่าการโกหกของคุณไม่เป็นเรื่องจริง [11]
    • คุณยังสามารถเป็นตัวตนที่แท้จริงโดยโกหกเพียงครั้งหรือสองครั้งโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ได้ เช่น ถ้าหากคุณเข้าร่วมงานปาร์ตี้มื้อเย็นและคิดว่าอาหารไม่อร่อย คุณสามารถพูดว่า “ฉันไม่ค่อยหิว ฉันคงจะกินแค่สลัด”
  3. สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและเคารพผู้อื่น สิ่งสำคัญของการเป็นตัวตนที่แท้จริงคือการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ยืดยาวเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ในเรื่องของความรักและอาชีพ คุณไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวในชั่วข้ามคืนได้แต่มันจะคุ้มค่าและยืนหยัดในตัวเอง [12]
    • คนที่ไม่จริงมักจะไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวได้ พฤติกรรมที่ไม่แท้จริงเช่น การวางท่า โกหกหรือไม่มีคุณค่าในตัวเองเป็นประจำสามารถขัดขวางการสร้างความสัมพันธ์ที่ยืดยาวได้
    • เรียนรู้ที่จะยอมรับการถูกปฏิเสธ ถ้าหากคุณไม่กลัวการถูกปฏิเสธ คุณก็จะรักษาความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การ สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ คือองค์ประกอบสำคัญของการเป็นตัวตนที่แท้จริง ถ้าหากคุณไม่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ควรจดจ่อกับการพัฒนาทักษะนี้ พูดคุยกับผู้อื่น เข้าเรียนหรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่กระตุ้นการสื่อสารอย่างเปิดเผย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,099 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา