ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถุงเก็บเสื้อผ้าเป็นถุงยาวๆ ที่มาพร้อมไม้แขวนและซิป ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถนำเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นแจ๊กเก็ต สูท หรือชุดเดรส ติดตัวไปเที่ยวด้วยได้ และเนื่องจากถุงเก็บเสื้อผ้าพับครึ่งหรือพับสามทบได้คุณจึงพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ถุงเก็บเสื้อผ้าสามารถใช้เก็บเสื้อผ้าได้หลายชิ้นและหากใช้เก็บเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีเสื้อผ้าของคุณจะได้รับการปกป้องและถึงที่หมายโดยไม่มีรอยยับมากเกินไป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรใช้ถุงเก็บเสื้อผ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถุงเก็บเสื้อผ้าโดยทั่วๆ ไปมักใช้เก็บเสื้อผ้าที่เป็นทางการหรือเสื้อผ้าทำงานไม่ให้เกิดรอยยับ ทำลิสต์งานที่คุณต้องเข้าร่วมเพื่อให้คุณมั่นใจว่าคุณมีเสื้อผ้าที่ต้องการใช้ครบถ้วน
    • เรามักไม่ใช้ถุงเก็บเสื้อผ้ากับชุดลำลองแต่มักจะพับเก็บเสื้อผ้าประเภทนี้ในกระเป๋าเดินทางแทน
  2. เก็บเสื้อผ้าในถุงเก็บเสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุดเท่าที่ทำได้. ถุงเก็บเสื้อผ้าอาจตุงและอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักที่จะใช้เก็บเสื้อผ้า หากคุณสามารถเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องหรือกระเป๋าเดินทางใบอื่นได้ ให้เก็บไว้ในกระเป๋าแทน
    • เสื้อเชิ้ต เนคไท และเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องนำมาแขวนในถุงเก็บเสื้อผ้า
    • กางเกงสแล็คลำลอง เช่น กางเกงสแล็คสีกากี สามารถพับและเก็บในกระเป่าเดินทางได้
    • ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บเสื้อผ้าที่ไม่ต้องการให้ยับในถุงเก็บเสื้อผ้า
  3. ใช้ถุงเก็บเสื้อผ้าสำหรับทริปที่ต้องไปทำงาน. เวลาที่เหมาะที่สุดที่จะใช้ถุงเก็บเสื้อผ้า คือ ทริปสั้นๆ ที่เสื้อผ้าเกือบทุกชุดที่ต้องใช้เป็นเสื้อผ้าทำงาน
    • ความจุที่จำกัดของถุงเก็บเสื้อผ้าเหมาะเจาะอย่างยิ่งสำหรับทริปที่กินเวลาสองสามวันและทริปที่ไม่ต้องใช้เสื้อผ้าที่หลากหลายมากนัก
    • สำหรับทริปเดินทางที่กินเวลานานกว่าและไปการเดินทางทั้งเพื่อทำงานและพักผ่อน ให้คุณใช้ถุงเก็บเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทางร่วมกันเพื่อเก็บเสื้อผ้าทั้งหมด
  4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากต้องนำชุดสำหรับแต่งงานไปด้วย. หากคุณต้องเดินทางเพื่อร่วมงานทางการ อย่างงานแต่งงานหรืองานประกาศรางวัล ชุดของคุณอาจเป็นชุดพองหนาหรือมีชิ้นส่วนประดับตกแต่งมากเกินที่จะใช้ถุงเก็บเสื้อผ้าทั่วๆ ไปได้ ให้นำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องไปด้วยและนำของคุณไปจัดเก็บอย่างมืออาชีพ
    • การใช้กระเป๋าถือขึ้นเครื่องจะช่วยรับประกันว่าคุณจะไม่คลาดสายตาไปจากเสื้อผ้าชุดพิเศษของคุณ
    • บางสายการบินมีตู้เสื้อผ้าสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งคุณอาจใช้แขวนเสื้อผ้าของคุณได้ แต่ก็อย่าหวังพึ่งสิ่งนี้มากนัก กระเป๋าของคุณต่างหากที่ไว้ใจได้มากกว่า
    • เมื่อถึงจุดหมาย คุณอาจต้องรีดชุดเดรสของคุณด้วยไอน้ำสักหน่อย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เก็บเสื้อผ้าลงถุงเก็บเสื้อผ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซักและรีดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจัดเก็บในถุงเก็บเสื้อผ้า. เสื้อผ้าที่ต้องนำไปซักแห้งควรจัดการส่งซักล่วงหน้า คุณจะได้มั่นใจว่าจะได้เสื้อผ้ากลับมาก่อนออกเดินทาง
    • ใช้เสื้อผ้าที่ซักและรีดเรียบร้อยแล้วจะช่วยลดภาระที่คุณต้องจัดการกับเสื้อผ้าของคุณเมื่อถึงที่หมาย
    • ลองรูดซิปและเช็กดูว่ามีกระดุมเม็ดไหนหลุดไปบ้างก่อนที่จะเก็บเสื้อผ้าคุณจะได้ไม่ต้องแก้ปัญหาเหล่านั้นในระหว่างเดินทาง
  2. ยัดกระดาษทิชชู่สีขาวเล็กน้อยที่ส่วนแขนและขาของเสื้อผ้าเพื่อให้เสื้อผ้าของคุณคงรูปและป้องกันรอยยับ.
    • ควรเลือกใช้กระดาษทิชชู่สีขาวเพราะหากกระเป๋าเกิดเปียกขึ้นมา กระดาษทิชชู่สีมีส่วนผสมจากสีย้อมซึ่งอาจตกใส่เสื้อผ้าของคุณได้
  3. ใช้ตารางการเดินทางของคุณช่วยลำดับการเก็บเสื้อผ้า. ใช้กำหนดการเดินทางของคุณเป็นตัวอ้างอิงและนำเสื้อผ้าที่จะใช้ในวันท้ายๆ ไว้ด้านในสุดของถุงเก็บเสื้อผ้า และเสื้อผ้าที่ต้องใช้ก่อนไว้ด้านหน้า
    • ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องรื้อหาเสื้อผ้าที่ต้องการจะใส่ซึ่งจะทำให้เสื้อผ้ายับได้
  4. ถุงเก็บเสื้อผ้าบางประเภทมีไม้แขวนเสื้อติดมาด้วยเลย ขณะที่แบบอื่นๆ ต้องใช้ไม้แขวนแยกเอา หากคุณใช้ไม้แขวนเสื้อของตัวเอง ไม้แขวนเสื้อแบบที่ดี่ที่สุดคือไม้แขวนลวด เนื่องจากน้ำหนักเบาและไม่เปลืองพื้นที่เท่าแบบไม้หรือพลาสติก
    • ประหยัดพื้นที่โดยแขวนเสื้อหลายตัวต่อไม้แขวนหนึ่งอัน เช่น แขวนเสื้อเชิ้ตแล้วทับด้วยแจ็กเก็ตหรือเสื้อเบลเซอร์ โดยให้แขนเสื้อเชิ้ตอยู่ข้างในแขนเสื้อของแจ็กเก็ต พร้อมพาดเข็มขัดหรือผ้าพันคอทับไม้แขวนเสื้อ
    • ใช้ไม้แขวนกางเกงเพื่อเก็บการเกงหรือกระโปรง ยิ่งกางเกงหรือกระโปรงขยับน้อยเท่าไหร่ รอยยับก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น [1]
  5. ใช้ริบบิ้นด้านในที่มากับเสื้อผ้าทางการแขวนชุดเข้ากับไม้แขวนเสื้อ. การทำเช่นนี้จะป้องกันไม่ให้ส่วนไหล่ของชุดผ้ายืดตามน้ำหนักผ้าที่ทิ้งลง ซึ่งจุดนี้สำคัญมากสำหรับชุดราตรียาวลากพื้นปักด้วยลูกปัด หรือชุดอื่นๆ ที่น้ำหนักมาก
  6. เพื่อให้เสื้อผ้าของคุณอยู่ดีและปราศจากรอยยับ รูดซิบ ติดและกลัดกระดุมให้หมด
  7. นำไม้แขวนเสื้อแต่ละอันใส่ถุงพลาสติกสำหรับซักแห้ง. พลาสติกจะช่วยปกป้องเสื้อผ้าจากรอยยับเวลาเสื้อผ้าเสียดสีกัน [2]
  8. เก็บชุดชั้นใน เครื่องสำอางค์ ผ้าเช็ดหน้า และของกระจุกกระจิกอื่นๆ ในกระเป๋าด้านในของถุงเก็บเสื้อผ้า
    • หากคุณใช้กระเป๋าถือขึ้นเครื่องหรือกระเป๋าเสื้อผ้าอื่นอีก ให้ใส่ของชิ้นเล็กๆ ลงในนั้น
    • ขั้นตอนนี้ช่วยป้องกันของกระจุกกระจิกของคุณให้ไม่ทำรอยยับบนเสื้อผ้าที่คุณแขวนอยู่
  9. เก็บรองเท้าในถุงรองเท้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือถุงพลาสติกจากร้านของชำ. ประหยัดพื้นที่ด้วยการยัดถุงเท้าไว้ในรองเท้า เก็บรองเท้าไว้ใต้สุดของถุงเก็บเสื้อผ้า
    • การเก็บรองเท้าไว้ในถุงพลาสติกเป็นอะไรที่สำคัญในการปกป้องเสื้อผ้าจากสิ่งสกปรกหรือจากน้ำยาขัดเงารองเท้า
  10. ถุงเก็บเสื้อผ้าส่วนมากได้รับการออกแบบมาเสมือนหนึ่งว่าเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง พับถุงเก็บเสื้อผ้าให้ดี จะพับครึ่งหรือพับสองทบก็แล้วแต่ถุงนั้นๆ รูดซิปที่มีมาให้หรือกระดุมแป๊กปิดถุงเก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ถุงจะหน้าตาคล้ายกระเป๋าเอกสาร
    • สังเกตตอนคุณเปิดถุงครั้งแรกให้ดี เพื่อจะได้ทราบว่าต้องพับเก็บอย่างไรเวลาใส่เสื้อผ้าจนเต็ม.
    • ลองฝึกพับถุงก่อนที่จะใช้เก็บเสื้อผ้า หากคุณพับหรือปิดถุงไม่ถูกวิธี เสื้อผ้าจะยับกว่าเดิมได้
  11. หากคุณมีถุงที่ใช้ปกป้องเสื้อผ้าของคุณแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าและมันไม่ได้ใช้เพื่อเก็บเสื้อผ้าและหิ้วขึ้นเครื่อง คุณก็ยังพกมันไปด้วยเวลาเดินทางได้ รูดซิปถุงให้เรียบร้อย และพับให้เป็นสามทบอย่างดีจะได้เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย
    • เลี่ยงกระเป๋าผ้าทรงหมอน กระเป๋าเดินทางที่ทำจากวัสดุแข็งแรงรอบด้านจะช่วยปกป้องและรับน้ำหนักของในกระเป๋า
    • บรรจุของลงกระเป๋าอย่างพอเพียงเพื่อป้องกันถุงเก็บเสื้อผ้าไม่ให้เคลื่อนไปเคลื่อนมาและอัดกัน แต่ให้เลี่ยงการยัดเสื้อผ้าเต็มเกินจนทำให้เสื้อผ้าถูกอัดยับ
    • เก็บถุงเก็บเสื้อผ้าเป็นสิ่งสุดท้าย น้ำหนักของเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ จะได้ไม่สร้างรอยยับให้กับสูทหรือชุดเดรสของคุณ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เอาเสื้อผ้าออกจากถุงเก็บเสื้อผ้าเมื่อถึงที่หมาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทันทีที่ถึงที่หมายให้เอาเสื้อผ้าแขวนในตู้ ให้รอยยับคลายตัว
  2. โรงแรมจำนวนมากมีโต๊ะรีดผ้าและเตารีดบริการฟรี หากเสื้อผ้าชิ้นใดที่จำเป็นต้องรีด ให้ถือโอกาสนี้นำออกมารีดให้หมดทีเดียว คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดทีหลังยามที่คุณกำลังรีบ
    • อ่านป้ายต่างๆ ที่มากับเสื้ออย่างระมัดระวังและปรับอุณหภูมิเตารีดตามที่แนะนำ
    • เริ่มรีดส่วนที่ไม่เป็นที่สะดุดตา เช่น ปลายเสื้อเชิ้ต เผื่อว่าคุณบังเอิญทำชุดพังขึ้นมา
    • เลี่ยงการรีดชุดที่สำคัญๆ เช่น ชุดงานกลางคืน เสื้อผ้าประเภทนี้มักรีดยากหรือทำจากผ้าที่มีความละเอียดอ่อน
  3. วิธีหนึ่งที่จะกำจัดรอยยับคือใช้ไอน้ำ แขวนเสื้อไว้ในห้องน้ำแล้วอาบน้ำอุ่นเพื่อให้รอยยับย่นบนเสื้อผ้าคลายตัวลง หรืออีกวิธี คือ คุณอาจทำให้เสื้อผ้าชิ้นนั้นชื้นโดยใช้ผ้าเช็ดมือ แล้วใช้ไดร์เป่าผมไฟฟ้าช่วยเพื่อให้เกิดไอน้ำขึ้น
    • ผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติจะดูดซับความชื้น ดังนั้นการขั้นตอนนี้จึงใช้ได้กับผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าฝ้าย และผ้าใยธรรมชาติชนิดอื่น
    • ผ้าใยสังเคราะห์ เช่น เรยอน หรือ โพลีเอสเตอร์ ไม่ดูดซับความชื้น ดังนั้น การใช้ไอน้ำจะไม่ทำให้รอยยับหายไป [3]
  4. ใช้แปรงหรือลูกกลิ้งกำจัดขุยเสื้อผ้าเล็กๆ เพื่อขจัดฝุ่น ขุย หรือขนออกจากเสื้อผ้า
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถุงเก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่อาจมีล้อที่ช่วยให้ลากไปไหนมาไหนได้ง่าย อย่างไรก็ดี ถุงเก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่และหนักอาจจะใหญ่เกินขนาดกระเป๋าที่คุณจะนำติดตัวขึ้นเครื่อง และจะต้องผ่านการตรวจค้นด้วย ด้วยเหตุนี้ ถุงเก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ดังกล่าวมักทำด้วยวัสดุที่แข็งแรงกว่าถุงเก็บเสื้อผ้าน้ำหนักเบา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,004 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา